เรื่องราวความเป็นมาสิ่งน้ำหอม (Perfume) ที่สำคัญ

[Puttichai9876]

Advertisement

ความเป็นมาประวัติสรรพสิ่งน้ำหอม (Perfume) ที่ประธาน
      รู้หรือไม่ว่าร้าย น้ำหอมที่ดีฉันใช้คืนกันอยู่ทุกวันนี้ มีความเป็นมานานถึง 4,000 ปี ออกจากข้อรับรองมุขวิชาประวัติศาสตร์เนื้อที่มีชีวิตภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารของใช้พระราชินี Hatshepsut ธานี Thebes เมือง Egypt ซึ่งในภาพจะหมายให้เห็นว่าผู้หญิงชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนขม่อมของตนเอง นั่นก็จัดโชว์ให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น และเราจะเริ่มต้นสาธยายปกรณ์สิ่งน้ำหอมกันตั้งแต่แห่งกาลสมัยประถมกันเลยนะค่ะ

น้ำหอมในช่วงเวลาแรกเริ่ม (ระยะเวลาเมโสโปเตเมีย)
     น้ำหอมผู้หญิงในที่ช่วงเวลาแต่ก่อนเริ่มจากในยุคเมโสโปเตเมีย  ซึ่งที่กาลสมัยประถมนั้นคนระวางจะชำระคืนน้ำหอมได้คือฟาร์โร ด้วยกันเหล่าผู้ถือบวชที่จะนำน้ำหอมไปเปลืองในการทำพิธีบูชาอย่างเดียว ซึ่งจะชำระคืนการเผาให้ประสูติกลิ่นไอ เยี่ยง การเผายางไม้ สีปาก หรือกาบต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากคำพูดละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นที่มาของน้ำหอม นักบวชจะใช้ประโยชน์ในพิธีกรรมการเทิดทูนบูชาต่าง ๆ ที่เป็นประเพณีของของแว่นแคว้น และเหนือจากการใช้ในระเบียบแบบแผน ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่ร่าง บ้านช่องห้องหับ เรือ หรือไม่แม้แต่สัตว์เลี้ยง กับราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut   ทรงมีความนิยมนิยมชมชอบน้ำหอมมาก จึงหนุนให้มีการแสวงหาพฤกษา ดอกที่มีกลิ่นหอม เพราะด้วยนำมากระทำยังมีชีวิตอยู่น้ำหอมกลิ่นต่าง ๆ ต่อมาเมื่อพระนาง Hatshepsut สวรรคต ชาวอียิปต์ก็ได้ต่อเรือสวนดอกไม้และสร้างแผ่นหินจารึกเรื่องต่างๆ ไว้ด้วยว่าเป็นการสดุดีอีกด้วย พร้อมด้วยพระนางคลีโอพัตราก็ยังมอบให้ทาน้ำหอมที่ใบเรือพร้อมด้วยตัวเรือตลอดก่อนที่จะแรมรอนไปรับนักการเมืองชาวโรมัน ทำเอาเหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง ศักยได้กลิ่นน้ำหอมพลัดเรือที่ทรงนั่งมาก่อนกำหนดที่จะเห็นตัวตูกของพระนางด้วยซ้ำ   
น้ำหอมผู้หญิง[/b]กาลสมัยกลางๆ   

ในกาลสมัยนี้กรรมวิธีในการห้ามจะเบี่ยงเบนจากช่วงเวลาแรกเริ่ม ก็เพราะว่าชาวอาหรับได้กระทำสร้างเทคนิคการสกัดนํ้าหอมได้ประสบความสำเร็จ กับมีการเปลืองแอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย ด้วยกันน้ำหอมกลิ่นแต่เดิมที่ได้ทำแยกคือกลิ่นดอกกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้เดินทางเข้าสู่ศตวรรษที่ 14 เพราะว่าการเข้าสู่ทวีปยุโรธ พร้อมด้วยคนชาติที่หนึ่งแผ่นดินได้นำน้ำหอมเข้ามายุโรปตกว่าชาวฮังกาเรี่ยน ติดสอยห้อยตามคำบัญชาของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นแม่แบบของน้ำหอมในช่วงเวลาต่อ ๆ มา


          น้ำหอมคราวใหม่ (ปัจจุบันนี้)   
 น้ำหอมได้ก้าวย่างขบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบจริงๆเมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างเต็มกำลัง เมื่อศก คศ. 1920  เนื่องจากมีชาวรัสเซียที่ชื่อเรื่องว่า Ernest Beaux ซึ่งครอบครองนักทำน้ำหอมแรมรอนมาที่ปารีส พร้อมด้วยได้มุ่งเสนอน้ำหอมที่ตนเองทำเอากับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็เปลี่ยนแปลงมาเป็นแบรนด์ Chanel  ในสมัยปัจจุบัน และได้รับการตกลงเป็นเป็นอันดี และกลิ่นที่ขายเป็นเทน้ำเทท่ากับระบือสุดขอบ หมายความว่า Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้านน้ำหอมก็ได้คืบหน้าขึ้นอย่างในทันที และมีใช้สะพัด ในคนทุกลำดับขั้น ชั้นจนเข้าปัจจุบัน

ขอบคุณบทความจาก : [url]http://www.smfjusthost.com/main/index.php?topic=564274.new#new[/url]

Tags : น้ำหอม,น้ำหอมผู้ชาย