โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) อาการ, สาเหตุ, การรักษา, วิธีป้องกัน-เเละ สมุน

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) อาการ, สาเหตุ, การรักษา, วิธีป้องกัน-เเละ สมุน  (อ่าน 40 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
teareborn
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 743


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 19, 2018, 04:26:10 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


โรความดันโลหิตสูง (Hypertension)[/size][/b]

  • โรคความคันโลหิตสูง คืออะไร ความดันโลหิตสูง ความดันเลือดหมายถึงแรงกดดันเลือด ที่เกิดจากหัวใจ สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย การวัดความดันโลหิตสามารถทำโดยใช้เครื่องไม้เครื่องมือหลากหลายประเภท แต่ว่าจำพวกที่นิยมใช้กันอยู่ทั่วไป ได้แก่ เครื่องวัดความดันเลือดมาตรฐานชนิดปรอท เครื่องวัดความดันเลือดดิจิตอลประเภทอัตโนมัติ ค่าของความดันเลือดมีหน่วยเป็น มม.ปรอท จะมี ๒ ค่า ๑ ความดันตัวบน (ซีสโตลิก) เป็นแรงดันเลือด ขณะหัวใจห้องข้างล่างซ้ายบีบตัว  ๒ ความดันตัวด้านล่าง (ไดแอสโตลิก) เป็นแรงกดดันเลือดขณะหัวใจห้องล่างซ้ายคลายตัว  ระดับความดันโลหิตที่จัดว่าสูงนั้น จะมีค่าความดันโลหิตตั้งแต่ 140/90 มม.ปรอท

    โดยเหตุนั้นโรคความดันโลหิตสูง จึงหมายถึงโรคหรือสภาวะที่แรงดันเลือดในหลอดเลือดแดงมีค่าสูงขึ้นยิ่งกว่าค่ามาตรฐานขึ้นอยู่กับกรรมวิธีวัด โดยหากวัดที่สถานพยาบาล ค่าความดันเลือดตัวบนสูงยิ่งกว่าหรือพอๆกับ 140 มิลลิเมตร ปรอท(มม.ปรอท, MMhg) และก็/หรือความดันโลหิตตัวล่างสูงยิ่งกว่าหรือเท่ากับ 90 มม.ปรอท อย่างต่ำ 2 ครั้ง แม้กระนั้นหากเป็นการวัดความดันเองที่บ้านค่าความดันโลหิตตัวบนสูงขึ้นยิ่งกว่าหรือพอๆกับ 135 มม.ปรอทรวมทั้ง/หรือความดันเลือดตัวข้างล่างสูงยิ่งกว่าหรือพอๆกับ 85 มิลลิเมตรปรอทฯลฯ ดังตารางที่ 1




     


    SBP


    DBP




    Office or clinic
    24-hour
    Day
    Night
    Home


    140
    125-130
    130-135
    120
    130-135


    90
    80
    85
    70
    85




    หมายเหตุ SBP=systolic blood pressure, DBP=diastolic blood pressure
    ปี 2556คนไทยป่วยเป็นโรคความดันเลือดแทบ 11 ล้านคน เสียชีวิต 5,165 คน แล้วก็พบเจ็บไข้ราย ใหม่เพิ่มเกือบจะ 1 แสนคน ร้อยละ 50 ไม่รู้ตัวเนื่องจากว่าไม่เคยตรวจสุขภาพ ในกลุ่มที่ป่วยไข้แล้วพบว่ามีเพียงแต่ 1 ใน 4 ที่ควบคุมความดันได้ ที่เหลือยังมีพฤติกรรมน่าห่วงองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า โรคความดันโลหิตสูงเป็น 1 ในปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ราษฎรอายุสั้น ทั่วโลกมีบุคคลที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงถึง 1,000 ล้านคน เสียชีวิตปี ละแทบ 8 ล้านคน เฉลี่ยราวนาทีละ 15 คน โดย 1 ใน 3 เจอในวัย ผู้ใหญ่รวมทั้งคาดว่า ในปีพ.ศ.2568 ประชากรวัยผู้ใหญ่ทั่วทั้งโลกจะป่วยเป็นโรคนี้เพิ่ม 1,560 ล้านคน

  • สาเหตุของโรคความดันเลือดสูง ความดันโลหิตสูงแบ่งตามต้นเหตุการเกิด แบ่งได้เป็น 2 จำพวก เป็น
  • ความดันโลหิตสูงชนิดไม่เคยรู้สาเหตุ (primary or essential hypertension) เจอได้ราวร้อยละ95 ของจำนวนผู้ใหญ่โรคความดันเลือดสูงทั้งปวงโดยมากพบในคนที่แก่ 60 ปีขึ้นไปแล้วก็พบในผู้หญิงมากกว่าเพศชาย ปัจจุบันนี้ยังไม่ทราบมูลเหตุที่แจ่มชัดแต่ว่ายังไง ตามคณะกรรมการร่วมแห่งชาติด้านการคาดคะเนรวมทั้งรักษาโรคความดันเลือดสูง ของสหรัฐอเมริกา พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่เกี่ยวเนื่องและก็ช่วยเหลือให้กำเนิดโรคความดันเลือดสูง ดังเช่นว่า พันธุกรรมความอ้วน การมีไขมันในเลือดสูงการกินอาหารที่มีรสเค็มจัดการไม่บริหารร่างกาย การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์การสูบยาสูบความเคร่งเครียดอายุและมีประวัติครอบครัวเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคหัวใจแล้วก็หลอดเลือดซึ่งความดันโลหิตสูงประเภทไม่ทราบต้นเหตุนี้เป็นปัญหาสำคัญที่ต้องให้การวินิจฉัยรักษาและควบคุมโรคให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ความดันเลือดสูงประเภททราบต้นเหตุ(secondary hypertension) ได้น้อยประมาณร้อยละ5-10 โดยมากมีมูลเหตุมีเหตุที่เกิดจากการมีพยาธิสภาพของอวัยวะต่างๆในร่างกายโดยจะมีผลทำให้เกิดแรงกดดันเลือดสูงส่วนใหญ่ อาจกำเนิดพยาธิสภาพที่ไตต่อมหมวกไตโรคหรือความไม่ดีเหมือนปกติของระบบประสาทความแปลกของฮอร์โมนโรคของต่อมไร้ท่อร่วมโรคครรภ์เป็นพิษการเจ็บของศีรษะยา และสารเคมีเป็นต้น ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อได้รับการรักษาที่สาเหตุระดับความดันโลหิตจะน้อยลงปกติรวมทั้งสามารถรักษาให้หายได้

ด้วยเหตุดังกล่าวก็เลยสรุปได้ว่า โรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่จะไม่มีต้นเหตุ การควบคุมระดับความดันโลหิตก้าวหน้า จะสามารถช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และการเสียชีวิตจากโรคระบบหัวใจ รวมทั้งเส้นเลือดลงได้

  • อาการของโรคความดันโลหิตสูง ความสำคัญของโรคความดันโลหิตสูงเป็น เป็นโรคที่มักไม่มีอาการ รวมทั้งที่เป็นโรคเรื้อรังที่รุนแรง (ถ้าเกิดไม่สามารถที่จะควบคุมโรคได้) แต่มักไม่มีอาการ หมอบางคนก็เลยเรียกโรคความดันเลือดสูงว่า “เพชฌฆาตเงียบ (Silent killer)” ดังนี้ส่วนใหญ่ของอาการจากโรคความดันโลหิตสูง เป็นอาการจากผลกระทบ ยกตัวอย่างเช่น จากโรคหัวใจ และก็จากโรคเส้นเลือดในสมอง หรือ เป็นอาการจากโรคที่เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง เช่น อาการจากเบาหวาน หรือ จากโรคอ้วน หรือเป็นอาการจากโรคที่เป็นต้นเหตุ ยกตัวอย่างเช่น โรคเนื้องอกต่อมใต้สมอง

อาการรวมทั้งอาการแสดงที่มักพบ คนเจ็บที่มีความดันเลือดสูงน้อยหรือปานกลางไม่พบอาการแสดงเจาะจงที่ชี้ว่ามีภาวการณ์ความดันเลือดสูงจำนวนมาก การวิเคราะห์พบได้ทั่วไปได้จากการที่คนเจ็บมาตรวจตามนัดหมายหรือพบบ่อยร่วมกับสาเหตุของอาการอื่นซึ่งไม่ใช่ความดันเลือดสูง สำหรับคนไข้ที่มีระดับความดันเลือดสูงมากหรือสูงในระดับรุนแรงและก็เป็นมานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่ยังไม่เคยได้รับการดูแลและรักษาหรือรักษาแม้กระนั้นไม่สม่ำเสมอหรือเปล่าได้รับการดูแลและรักษาที่ถูกสมควรพบได้ทั่วไปมีลักษณะ ดังต่อไปนี้

  • ปวดศีรษะมักพบในคนป่วยที่มีระดับความดันโลหิตสูงรุนแรง โดยลักษณะของการเกิดอาการปวดหัวมักปวด ที่บริเวณท้ายทอยโดยเฉพาะตอนที่ตื่นนอนในตอนเวลาเช้าถัดมาอาการจะค่อยๆดียิ่งขึ้นจนหายไปเองภายในช่วงระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงและก็อาจเจอมีลักษณะอาการอาเจียนอาเจียนตาฝ้ามัวด้วยโดยพบว่าอาการปวดหัวเกิด จากมีการเพิ่มแรงดันในกะโหลกศีรษะมากในช่วงช่วงเวลาหลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้วด้วยเหตุว่าในช่วงเวลากลางคืนขณะกำลังหลับศูนย์ควบคุมการหายใจในสมองจะลดการกระตุ้น ก็เลยทำให้มีการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์มีผลทำให้เส้นโลหิตทั่ว ร่างกายโดยเฉพาะในสมองขยายขนาดมากขึ้นเรื่อยๆจึงเพิ่มแรงดันในกะโหลกศีรษะ
  • เวียนศีรษะ (dizziness) พบกำเนิดร่วมกับอาการปวดศีรษะ
  • เลือดกา เดาไหล(epistaxis)
  • เหนื่อยหอบขณะทา งานหรืออาการเหนื่อยหอบนอนราบไม่ได้แสดงถึงการมีสภาวะหัวใจห้องด้านล่างซ้ายล้มเหลว
  • อาการอื่นๆที่อาจพบร่วมตัวอย่างเช่นลักษณะของการเจ็บทรวงอกสโมสรกับสภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จากการมีเส้นเลือดหัวใจตีบหรือจากการมีกล้ามเนื้อหัวใจหนามากจากภาวการณ์ความดันเลือดสูงที่เป็นมานานๆ

เพราะฉะนั้นหากมีสภาวะความดันเลือดสูงอยู่เป็นระยะเวลาที่ยาวนานๆก็เลยอาจมีผลต่ออวัยวะที่สำคัญต่างๆของร่างกายกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดความเสื่อมภาวะถูกทำลายแล้วก็บางทีอาจเกิดภาวะเข้าแทรกตามมาได้
ภาวะแทรกซ้อนของโรคความดันโลหิตสูง ในคนป่วยโรคความดันเลือดสูงบางรายอาจไม่เจอมีอาการหรืออาการแสดงใดๆและบางรายอาจ พบอาการแสดงจากภาวะแทรกซ้อนของโรคความดันเลือดสูงต่ออวัยวะต่างๆได้ดังนี้

  • สมองความดัน โลหิตสูงจะทา ให้ผนังเส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมองมีลักษณะครึ้มตัวรวมทั้งแข็งด้านในหลอดเลือดตีบแคบรูของหลอดเลือดแดงแคบลงทา ให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลงรวมทั้งขาดเลือดไปเลี้ยง ส่งผลให้เกิดภาวะสมองขาดเลือดไปเลี้ยงชั่วคราวผู้ป่วยที่มีสภาวะความดันโลหิตสูงจึงมีโอกาสกำเนิดโรคเส้นเลือดสมอง (stroke) ได้มากกว่า บุคคลธรรมดา

ยิ่งไปกว่านี้ยังทำให้มีการเปลี่ยนที่ฝาผนังเซลล์สมองทา ให้เซลล์สมองบวมคนป่วยจะมีลักษณะผิดปกติของระบบประสาทการรับทราบความทรงจำต่ำลงและก็บางทีอาจรุนแรงเสียชีวิตได้ ซึ่งเป็นต้นเหตุการถึงแก่กรรมถึงจำนวนร้อยละ50 รวมทั้งส่งผลทำให้คนที่รอดชีวิตเกิดความพิการตามมา

  • หัวใจ ระดับความดันโลหิตสูงเรื้อรังจะส่งผลทา ให้ผนังเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจหนาตัวขึ้นจำนวนเลือดเลี้ยงหัวใจน้อยลงหัวใจห้องล่างซ้ายทำงานหนักมาขึ้น จำเป็นต้องบีบตัวมากขึ้นเพื่อต้านทานแรงกดดันเลือดในหลอดเลือดแดงที่เพิ่มขึ้นดังนั้น ในระยะแรกกล้ามเนื้อหัวใจจะปรับนิสัยจากสภาวะความดันโลหิตสูงโดยหัวใจบีบตัวมากขึ้น เพื่อให้สามารถต้านกับแรงต้านทานที่มากขึ้นเรื่อยๆและมีการขยายตัวทำให้เพิ่มความหนาของผนังหัวใจห้องล่างซ้ายก่อให้เกิดภาวการณ์หัวใจห้องด้านล่างซ้ายโต (left ventricular hypertrophy) ถ้ายังมิได้รับการดูแลและรักษาและเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจไม่สามารถที่จะขยายตัวได้อีก จะมีผลให้การทำงานของหัวใจไม่มี
สมรรถนะเกิดภาวะหัวใจวายกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวแล้วก็เสียชีวิตได้

  • ไต ระดับความดันเลือดเรื้อรังมีผลก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไตหนาตัวและก็แข็งตัวขึ้น เส้นเลือดตีบแคบลงนำมาซึ่งการทำให้เส้นโลหิตแดงเสื่อมจากการไหลเวียนของปริมาณเลือดไปเลี้ยงไตลดลงคุณภาพการกรองของเสียน้อยลงและทา ให้มีการคั่งของเสียไตเสื่อมสภาพ แล้วก็ขายหน้าขายตาที่เกิดภาวการณ์ไตวายรวมทั้งได้โอกาสเสียชีวิตได้ มีการเรียนพบว่าคนไข้โรคความดันโลหิตสูงโดยประมาณปริมาณร้อยละ10 มักเสียชีวิตด้วยภาวการณ์ไตวาย
  • ตา ผู้เจ็บป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูงร้ายแรงและเรื้อรังจะก่อให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของฝาผนังหลอดเลือดที่ตาดกตัวขึ้นมีแรงดัน ในเส้นเลือดสูงมากขึ้นมีการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงตาตีบลงหลอดเลือดฝอยตีบแคบอย่างเร็วมีการหดเกร็งเฉพาะที่อาจมีเลือดออกที่จอตาทำให้มีการบวมของจอภาพนัตย์ตา หรือจอประสาทตาบวม (papilledema) ทำให้การมองเห็นต่ำลงมีจุดบอดบางจุดที่ลานสายตา (scotomata) ตามัวและก็มีโอกาสตาบอดได้
  • เส้นเลือดในร่างกาย ความดันโลหิตสูงจากแรงต่อต้านหลอดเลือดส่วนปลายมากขึ้นฝาผนังเส้นโลหิตดกตัวจากเซลล์กล้ามเรียบถูกกระตุ้น ให้เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นหรืออาจเกิดจากมีไขมัน ไปเกาะผนังเส้นโลหิตทำให้เส้นโลหิตแดงแข็ง (artherosclerosis) มีการเปลี่ยนของผนังเส้นเลือดดกรวมทั้งตีบแคบการไหลเวียนเลือดไป เลี้ยงสมองหัวใจไตและก็ตาลดลงทา ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของอวัยวะดังที่กล่าวผ่านมาแล้วตามมาไดแก้โรคหัวใจและก็
เส้นเลือดโรคเส้นเลือดสมองรวมทั้งไตวายฯลฯ

  • ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้มีการเกิดโรคความดันเลือด สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงสำคัญที่ทำให้มีการเกิดโรคความดันเลือดสูง ดังเช่น พันธุกรรม ช่องทางมีความดันเลือดสูง จะสูงมากขึ้นเมื่อมีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ เบาหวาน เพราะเหตุว่าส่งผลให้เกิดการอักเสบ ตีบแคบของเส้นโลหิตต่างๆแล้วก็เส้นเลือดไต โรคอ้วน แล้วก็น้ำหนักตัวเกิน ด้วยเหตุว่าเป็นต้นเหตุสำคัญของเบาหวาน และก็โรคเส้นโลหิตต่างๆตีบจากภาวะไขมันเกาะฝาผนังเส้นเลือด โรคไตเรื้อรัง เพราะจะส่งผลถึงการสร้างเอ็นไซม์แล้วก็ฮอร์โมนที่ควบคุมความดันโลหิตดังที่กล่าวถึงมาแล้วแล้ว โรคนอนแล้วหยุดหายใจ (Sleep apnea) สูบบุหรี่ เพราะพิษในควันที่เกิดจากบุหรี่นำไปสู่การอักเสบ ตีบของเส้นโลหิตต่าง และหลอดเลือดไต รวมทั้งหลอดเลือดหัวใจ การติดเหล้า ซึ่งยังไม่ทราบเด่นชัดถึงกลไกว่าเพราะเหตุใดดื่มสุราแล้วจึงเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดความดันโลหิตสูง แม้กระนั้นการเล่าเรียนต่างๆให้ผลตรงกันว่า ผู้ที่ติดสุรา จะทำให้หัวใจเต้นแรงกว่าปกติ แล้วก็มีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูง ถึงโดยประมาณ 50%ของผู้ติดสุราทั้งหมด ทานอาหารเค็มเป็นประจำ ตลอด ดังเหตุผลดังได้กล่าวแล้ว ขาดการออกกำลังกาย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคอ้วนแล้วก็เบาหวาน ผลกระทบจากยาบางประเภท อย่างเช่น ยาในกรุ๊ปสเตียรอยด์
  • กระบวนการรักษาโรคความดันโลหิตสูง การวินิจฉัยโรคความดันเลือดสูง โรคความดันเลือดสูงวินิจฉัยจากการที่มีความดันเลือดสูงตลอดเวลา ซึ่งตรวจเจอต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งควรจะห่างกัน 1 เดือน แต่ถ้าเกิดตรวจพบว่าความดันเลือดสูงมาก (ความดันตัวบนสูงยิ่งกว่า 180 mmHg หรือ ความดันตัวข้างล่างสูงขึ้นมากยิ่งกว่า 110 mmHg) หรือมีความผิดธรรมดาของการทำงานของอวัยวะจากผลของ   ความดันโลหิตสูงร่วมด้วย ก็จัดว่าวินิจฉัยเป็นโรคความดันเลือดสูง และจำต้องรีบได้รับการดูแลรักษา หมอวินิจฉัยโรค   ความดันโลหิตสูงได้จาก ประวัติอาการ ประวัติเจ็บป่วยอีกทั้งในอดีตกาลแล้วก็เดี๋ยวนี้ ประวัติการรับประทาน/ใช้ยา การวัดความดันโลหิต (ควรวัดที่บ้านร่วมด้วยถ้ามีเครื่องไม้เครื่องมือ ด้วยเหตุว่าบางเวลาค่าที่วัดได้ที่โรงหมอสูงขึ้นยิ่งกว่าค่าที่วัดได้ที่บ้าน) เมื่อวินิจฉัยว่าเป็นความดันเลือดสูง ควรจะตรวจร่างกาย แล้วก็ส่งไปเพื่อทำการตรวจอื่นๆเพิ่มอีกเพื่อหาปัจจัย หรือปัจจัยเสี่ยง ยิ่งกว่านั้น ต้องตรวจค้นผลกระทบของความดันโลหิตสูงต่ออวัยวะต่างๆดังเช่นว่า หัวใจ ตา แล้วก็ไต ดังเช่นว่า ตรวจเลือดดูค่าน้ำตาลแล้วก็ไขมันในเลือด ดูแนวทางการทำงานของไต และก็ค่าเกลือแร่ภายในร่างกาย ตรวจคลื่นกระแสไฟฟ้าหัวใจดูการทำงานของหัวใจ และก็เอกซเรย์ปอด ดังนี้การตรวจเพิ่มอีกต่างๆจะขึ้นอยู่กับอาการคนเจ็บ แล้วก็ดุลยพินิจของแพทย์แค่นั้น
ชมรมความดันเลือดสูงที่ประเทศไทย ได้แบ่งระดับความร้ายแรงของความดันเลือดสูง ดังต่อไปนี้




ระดับความรุนแรง


ความดันโลหิตตัวบน


ความดันโลหิตตัวล่าง




ความดันโลหิตปกติ
ระยะก่อนความดันโลหิต
ความดันโลหิตสูงระยะที่ 1
ความดันโลหิตสูงระยะที่ 2


น้อยกว่า 120 และ
120 – 139/หรือ
140 – 159/หรือ
มากกว่า 160/หรือ


น้อยกว่า 80
80 – 89
90 – 99
มากกว่า 100




หมายเหตุ : หน่วยวัดความดันโลหิตเป็น มิลลิเมตรปรอท
คนที่มีความดันเลือดสูงควรควบคุมระดับความดันเลือดให้ต่ำกว่า 140/90 มม.ปรอทรวมทั้งใน ผู้ที่มีภาวการณ์เสี่ยงควรควบคุมระดับความดันโลหิตให้ต่ำลงยิ่งกว่า 130/80 มม.ปรอท และลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการกำเนิดโรคหัวใจรวมทั้งหลอดเลือดคุ้มครองปกป้องความพิการและก็ลดการเกิดสภาวะแทรกฝึกต่ออวัยวะเป้าหมายที่สำคัญของร่างกายดังเช่นว่าสมองหัวใจไตและตารวมทั้งอวัยวะสำคัญอื่นๆซึ่งในการรักษาและควบคุมระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ธรรมดาประกอบด้วย 2 วิธีคือการรักษาใช้ยาแล้วก็การดูแลและรักษาโดยไม่ใช้ยาหรือกรรมวิธีการเปลี่ยนแปลงแบบแผนการดำนงชีพ
การดูแลและรักษาโดยวิธีการใช้ยา  (pharmacologic treatment) จุดมุ่งหมายในการลดระดับความดันโลหิตโดยการใช้ยาคือการควบคุมระดับความดันเลือดให้ลดต่ำยิ่งกว่า 140/90 มม.ปรอท โดยลดแรงต่อต้านของหลอดเลือดส่วนปลายแล้วก็เพิ่มปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจการเลือกใช้ยา ในคนไข้โรคความดันเลือดสูงจึงขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของผู้เจ็บป่วยแต่ละรายรวมทั้งควรพินิจต้นเหตุต่างๆดังเช่นความร้ายแรงของระดับความดันโลหิตสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่ออวัยวะสำคัญ โรคที่มีอยู่เดิมสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงอื่นๆซึ่งยาที่ใช้สำหรับในการรักษาสภาวะความดันเลือดสูงสามารถแบ่งออกเป็น 7 กรุ๊ปดังต่อไปนี้
ยาขับเยี่ยว  (diuretics) เป็นกรุ๊ปยาที่นิยมใช้ในคนเจ็บที่มีการทำงานของไตและก็หัวใจเปลี่ยนไปจากปกติ ยากลุ่มนี้เช่น ฟูโรซีมายด์ (furosemide) สไปโรโนแลคโตน(spironolactone) มันข้นลาโซน (metolazone)
ยาต่อต้านเบต้า (beta adrenergic receptor blockers) ยากลุ่มนี้จะออกฤทธิ์โดยรวมกับเบต้าอดรีเนอร์จิกรีเซฟเตอร์  (beta adrenergic receptors) อยู่ที่ศีรษะดวงใจแล้วก็เส้นเลือดแดงเพื่อยับยั้งการโต้ตอบต่อประสาทซิมพาธิติเตียนกลดอัตราการเต้นของหัวใจทำให้หัวใจเต้นช้าลงและก็ความดันเลือดลดน้อยลง ยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ โพรพาโนลอล (propanolol)หรืออะหนโนลอล (atenolol)
ยาที่ออกฤทธิ์ขัดขวางตัวรับแองจิโอเทนซินทู (angiotensin II receptorblockersARBs) ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์ขยายเส้นโลหิตโดยไม่ทำให้ระดับของเบรดดีไคนินเพิ่มขึ้นยากลุ่มนี้ เช่น แคนเดซาแทน  (candesartan), โลซาแทน (losartan) ฯลฯ
ยาต้านทานแคลเซียม (calcium antagonists) ยากลุ่มนี้ยั้งการเขยื้อนเข้าของประจุแคลเซียมในเซลล์ทำให้กล้ามเนื้อผนังเส้นโลหิตคลายตัวอาจจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง ตัวอย่างเช่น ยาเวอราปาไม่วล์   (verapamil) หรือเนฟเฟดิตะกาย (nifedipine)
ยาต้านทานอัลฟาวันอดรีเนอร์จิก (alpha I-adrenergic blockers) ยามีฤทธิ์ต่อต้านโพสไซแนปติกอัลฟาวันรีเซฟเตอร์ (postsynaptic alpha 1-receptors) และออกฤทธิ์ขยายเส้นเลือดส่วนปลายทำให้เส้นโลหิตขยายตัว ยาในกลุ่มนี้ยกตัวอย่างเช่น พราโซซีน prazosin) หรือดอกซาโซซีน (doxazosin)
ยาที่ยั้งไม่ให้มีการสร้างแองจิโอเทนสินทู (angiotensin II convertingenzyme ACE inhibitors)ยากลุ่มนี้จะออกฤทธิ์โดยการยังยั้งแองจิโอเทนสินในการเปลี่ยนแปลงแองจิโอเทนสินวันเป็นแองจิโอเทนสินทูซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว ยาในกลุ่มนี้อย่างเช่นอีที่นาลาพริล (enalapril)
ยาขยายหลอดเลือด (vasodilators) ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์โดยตรงต่อกล้ามเนื้อเรียบที่อยู่รอบๆเส้นเลือดแดงทำให้กล้ามคลายตัวและก็ยาต้านทางในผนังหลอดเลือดส่วนปลาย ยาในกลุ่มนี้ดังเช่นไฮดราลาซีน (hydralazine), ไฮโดรคลอไรด์ (hydrochloride), ลาเบลทาลอล (labetalol)
การดูแลรักษาโดยไม่ใช้ยาหรือการปรับเปลี่ยนแบบแผนการดำนงชีพ (lifestylemodification)  เป็นพฤติกรรมสุขภาพที่จำเป็นต้องปฏิบัติบ่อยๆเป็นประจำเพื่อลดระดับความดันโลหิต แล้วก็คุ้มครองปกป้องภาวะแทรกซ้อนกับอวัยวะสำคัญคนป่วยโรคความดันเลือดสูงทุกราย ควรได้รับข้อเสนอเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแบบแผนการดำรงชีวิตพร้อมกันไปกับการดูแลรักษาด้วยยา ผู้ป่วยควรมีความประพฤติปฏิบัติช่วยเหลือสุขภาพที่แข็งแรง ดังต่อไปนี้ การควบคุมอาหารแล้วก็ควบคุมน้ำหนักตัว  การจำกัดอาหารที่มีเกลือโซเดียม  การออกกำลังกาย การงดดูดบุหรี่ การลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  การจัดการกับความตึงเครียด

  • การติดต่อของโรคความดันโลหิตสูง โรคความดันเลือดสูงเป็นโรคที่เกิดขึ้นจาก สภาวะแรงกดดันเลือดในหลอดเลือดสูงยิ่งกว่าค่ามาตรฐาน โดยเหตุนั้นโรคความดันโลหิตสูงก็เลยเป็นโรคที่ไม่มีการติดต่อจากคนสู่คนหรือจากสัตว์สู่คน
  • การปฏิบัติตนเมื่อเป็นโรคความดันเลือดสูง เปลี่ยนพฤติกรรมด้านการบริโภค
  • การลดน้ำหนักในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน องค์การอนามัยโลกชี้แนะว่าในขั้นแรกควรจะลดความอ้วน ขั้นต่ำ 5 กก. ในผู้เจ็บป่วยความดันเลือดสูง ที่มีน้ำหนักเกิน
  • การลดจำนวนโซเดียม (เกลือ) ในของกิน ลดโซเดียมในอาหาร เหลือวันละ 0.5 – 2.3 กรัม หรือ เกลือโซเดียมคลอไรด์ 1.2 – 5.8 กรัม
  • ลดปริมาณแอลกอฮอล์ หรือจำกัดจำนวนแอลกอฮอล์ไม่กำเนิด 20 – 30 กรัมต่อวันในเพศชาย หรือ 10 – 20 กรัม ในเพศหญิง

จากการเล่าเรียนอาหารสำหรับผู้เป็นโรคความดันเลือดสูงเรามักจะได้ยินชื่อ DASH (Dietary Approaches to stop Hypertension) เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยผัก ผลไม้ รวมทั้งผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ร่วมกับการลดปริมาณไขมัน แล้วก็ไขมันอิ่มตัวในของกิน
ตารางแสดงตัวอย่างของกิน DASH diet/ต่อวัน ได้พลังงาน 2100 กิโลแคลอรี่




หมวดอาหาร


ตัวอย่างอาหารในแต่ละส่วน




ผัก


ผักดิบประมาณ 1 ถ้วยตวง
ผักสุกประมาณ ½ ถ้วยตวง




ผลไม้


มะม่วง ½ ผล ส้ม 1 ลูก เงาะ 6 ผล กล้วยน้ำว้า 1 ผล แตงโม 10 ชิ้น
ฝรั่ง 1 ผลเล็ก มังคุด 1 ผลเล็ก




นม

  • นมพร่องมันเนย
  • นมครบส่วน



 
1 กล่อง (240 ซีซี)
1 กล่อง (240 ซีซี)




ไขมัน
ปลาและสัตว์ปีก


น้ำมัน 5 ซีซี เนย/มาการีน 5 กรัม
ปริมาณ 30 กรัม (ปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะ)




แป้ง,ข้าว,ธัญพืช


ขนมปัง 1 แผ่น ข้าวสวย 1 ทัพพี




 
 
บริหารร่างกาย การบริหารร่างกายสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูง ควรจะออกกำลังกายแบบแอโรบิค (แบบใช้ออกซิเจน)เป็นการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอในช่วงระยะเวลาหนึ่งของกล้ามเนื้อผูกใหญ่ๆซึ่งเป็นการใช้ออกซิเจนสำหรับเพื่อการให้พลังงาน จะได้ประโยชน์ต่อระบบหัวใจแบะเส้นเลือด อย่างเช่น เดิน วิ่ง ว่าย ปั่นจักรยาน ฯลฯ ซึ่งการออกกกำลังกายควรปฏิบัติแต่ละวัน อย่างต่ำวันละ 30 นาที ถ้าเกิดว่าไม่มีข้อบังคับ
                บริหารความเครียดลดลง การจัดการคลายเครียดในชีวิตประจำวัน ตามหลักเหตุผลและก็หลักจิตวิทยามีอยู่ 2 วิธี
-              มานะหลบหลีกเหตุหรือสภาพที่จะทำให้มีการเกิดความเครียดมาก
-              ควบคุมปฏิกิริยาของตนเอง ต่อสิ่งที่รู้สึกทำให้พวกเราเครียด
รับประทานยาและก็รับการรักษาต่อเนื่อง กินยาตามแพทย์สั่งสม่ำเสมอไม่ขาดยา รวมทั้งพบแพทย์ตามนัดทุกคราว ไม่ควรหยุดยาหรือเปลี่ยนแปลงยาด้วยตัวเอง สำหรับคนไข้ที่ทานยาขับฉี่ ควรกินส้มหรือกล้วยเสมอๆ เพื่อชดเชยโปแตสเซียมที่สูญเสียไปในปัสสาวะรีบพบแพทย์ด้านใน 24 ชั่วโมง หรือ เร่งด่วน มีลักษณะดังนี้  ปวดศีรษะมากมาย เหนื่อยมากกว่าธรรมดามาก เท้าบวม (ลักษณะของโรคหัวใจล้มเหลว) เจ็บแน่นหน้าอก ใจสั่น เหงื่อออกมาก จะเป็นลม (อาการจากโรคหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งจำต้องพบหมอเร่งด่วน) แขน โคนขาแรง กล่าวไม่ชัดเจน ปากเบี้ยว อาเจียน คลื่นไส้ (อาการจากโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งจำต้องพบหมอรีบด่วน)

  • การปกป้องคุ้มครองตัวเองจากโรคความดันโลหิตสูง สิ่งสำคัญที่สุดที่จะคุ้มครองป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง เป็นการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตทั้งยังเรื่องการรับประทาน การบริหารร่างกายโดย

-              ควรควบคุมน้ำหนัก
-              รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบทั้ง 5 หมู่ ในปริมาณที่สมควร เพิ่มผักผลไม้ในมื้ออาหารจำพวกไม่หวานมากให้มากมายๆ
-              ออกกำลังกาย โดยออกเป็นเวลายาวนานกว่า 30 นาที รวมทั้งออกดูเหมือนจะทุกวัน
-              ลดจำนวนเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
-              พักให้เพียงพอ
-              รักษาสุขภาพจิต รวมทั้งอารมณ์
-              ตรวจสุขภาพรายปี ซึ่งรวมถึงตรวจวัดความดันเลือด เริ่มได้ตั้งแต่อายุ 18-20 ปี ต่อจากนั้นตรวจสุขภาพหลายครั้งตามหมอ แล้วก็พยาบาลชี้แนะ
-              ลดของกินเค็ม หรือเกลือทะเล น้อยกว่า 6 กรัม ต่อวัน) รับประทานอาหารประเภทผัก และก็ผลไม้มากขึ้น
ข้อแนะนำสำหรับในการลดการบริโภคเกลือและก็โซเดียม :-
เลือกซื้อผัก ผลไม้แล้วก็เนื้อสัตว์ที่สดใหม่แทนวิธีสำหรับการเลือกซื้ออาหารกระป๋อง ผักดองรวมทั้งอาหารสำเร็จรูป
หากจำเป็นต้องเลือกซื้ออาหารบรรจุกระป๋องหรืออาหารสำเร็จรูปควรจะอ่านฉลากของกินทุกคราว แล้วก็เลือกสินค้าที่มีปริมาณโซเดียมต่ำหรือน้อย (สำหรับพสกนิกรทั่วไปควรจะบริโภคเกลือไม่เกินวันละ 1 ช้อนชา หรือน้อยกว่า 6 กรัมต่อวัน) ล้างผักและก็เนื้อสัตว์ที่ใช้ประกอบอาหารให้สะอาด เพื่อล้างเกลือออก ลดการใช้เกลือและเครื่องปรุงรส หันมาใช้เครื่องเทศและสมุนไพรที่มีจำนวนโซเดียมต่ำ ดังเช่น หัวหอม กระเทียม ขิง พริกไทย มะนาว ผงกระหรี่ แทนไม่วางภาชนะหรือขวดใส่เกลือรวมทั้งเครื่องปรุงรสต่างๆยกตัวอย่างเช่น ซอส  ซีอิ๊วขาวและน้ำปลาไว้บนโต๊ะอาหารทุกมื้อชิมอาหารก่อนรับประทาน ฝึกหัดการกินอาหารที่มีรสชาติพอดี ไม่เค็มจัดหรือหวานจัด ทำอาหารทานอาหารเองแทนการกินอาหารนอกบ้าน    หรือการซื้ออาหารสำเร็จรูป
อาห



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Related Topics
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) อาการ, สาเหตุ, การรักษา, วิธีป้องกัน-เเละ สมุน
สินค้าอื่นๆ
watamon 0 26 กระทู้ล่าสุด มีนาคม 20, 2018, 08:54:56 am
โดย watamon
โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) อาการ, สาเหตุ, การรักษา, วิธีป้องกัน-เเละ สมุน
สินค้าอื่นๆ
watamon 0 37 กระทู้ล่าสุด มีนาคม 20, 2018, 12:13:59 pm
โดย watamon
โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) อาการ, สาเหตุ, การรักษา, วิธีป้องกัน-เเละ สมุน
สินค้าอื่นๆ
ณเดช2499 0 49 กระทู้ล่าสุด มีนาคม 23, 2018, 04:07:47 pm
โดย ณเดช2499
โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) อาการ, สาเหตุ, การรักษา, วิธีป้องกัน-เเละ สมุน
สินค้าอื่นๆ
ittipan1989 0 47 กระทู้ล่าสุด มีนาคม 26, 2018, 03:59:54 pm
โดย ittipan1989
โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) อาการ, สาเหตุ, การรักษา, วิธีป้องกัน-เเละ สมุน
สินค้าอื่นๆ
watamon 0 74 กระทู้ล่าสุด เมษายน 21, 2018, 10:57:59 am
โดย watamon
ภาวะแทรกซ้อนของโรคความดันสูง ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
พูดคุยทั่วไป
siritidaphon 0 28 กระทู้ล่าสุด ธันวาคม 11, 2023, 02:13:50 pm
โดย siritidaphon
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ