ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอนไม่ได้นอน,ชุดนอนแ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอนไม่ได้นอน,ชุดนอนแ  (อ่าน 4 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Petchchacha
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25869


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: ตุลาคม 25, 2019, 08:39:51 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอน,ชุดนอนแบบอื่นๆ อาทิ จีสตริง Polyester ราคาถูก ส่งไปรษณีย์ไทย
การสั่งซื้อสินค้า มี 3 ช่องทาง

3 สั่งซื้อทางหน้าเวปไซต์ โดย ติดต่อทางเวปบอร์ด

==> กดสั่งซื้อที่ตระกร้าสินค้า พร้อมกรอกชื่อที่อยู่

 
 
การซัก ตาก รีด และรักษาเสื้อผ้าจำพวกต่างๆมีวิธีการ

๑. วิธีสำหรับซักเสื้อผ้าไหม โดยมากนิยมส่งร้านซักอบรีด เพราะเหตุว่ามีกรรมวิธีซักที่ยุ่งยาก รวมทั้งจำเป็นต้องประณีตบรรจงเป็นพิเศษ แต่ว่าถ้าหากจะซักเองควรซักด้วยมือ ห้ามใช้เครื่องซักผ้า เนื่องจากว่าแรงเสียดสีของ เครื่องซักผ้าจะมีผลให้เส้นใยพัง โดยวิธีซักเสื้อผ้าไหมด้วยมือมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
๑) ใส่นํ้าใส่ลงในกะละมังพอท่วมผ้าที่จะซัก นำนํ้ายาซักแห้งเทใส่นํ้าในกะละมัง ใช้มือ แกว่งไกวนํ้ากระทั่งนํ้ายาซักแห้งแตกฟอง
๒) นำผ้าไหมลงแช่ในนํ้าชั่วประเดี๋ยว ใช้มือกดผ้าให้แฉะแล้วก็จมนํ้า ใช้มือขยี้เบาๆตรงที่สกปรก ดังเช่นว่า ปกเสื้อ ปลายแขนเสื้อ และส่วนอื่นๆขยี้จนถึงคราบเหงื่อไคล ฝุ่น และก็สิ่งสกปรกออกจนหมด ห้ามใช้แปรงถูผ้าไหมเด็ดขาดแล้วก็ผ้าไหมบางประเภทห้ามซักด้วยสารซักฟอก เนื่องจากจะทำลายความมันของเส้นไหม จำนวนการใช้นํ้ายาซักแห้งให้มองตามคำแนะนำบนฉลากสินค้า
๓) นำผ้าไหมที่ซักสะอาดแล้วขึ้นจากนํ้า ใช้มือบีบเบาๆให้นํ้าแล้วก็นํ้ายาซักแห้งออกจนถึงหมด
๔) นำผ้าที่เอาขึ้นจากนํ้าแล้ว ไปล้างในนํ้าสะอาด ๒ ครั้ง หลังจากนั้นแช่ในอ่างนํ้าที่ผสม
นํ้ายาปรับผ้านุ่มไว้สักครู่ จำนวนการใช้นํ้ายาปรับผ้านุ่มให้มองตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์
๒. การตากผ้าไหม ทำเป็นดังต่อไปนี้
๑) ชูผ้าไหมขึ้นจากนํ้ายาปรับผ้านุ่ม แล้วบีบเบาๆไล่นํ้าออก ห้ามบิดผ้าเนื่องจากจะก่อให้ผ้าเป็นรอยยับ ผิดลักษณะ
๒) สลัดผ้าเบาๆคลี่ออกใส่ไม้แขวน
๓) นำเสื้อผ้าใส่ไม้ห้อย ไปแขวนกับราวแขวนผ้าในที่ร่ม ที่มีลมพัดผ่าน
๓. การรีดเสื้อผ้าไหม มีขั้นตอนดังนี้
๑) นำผ้าไหมที่ซักตากแห้งเพียงพอหมาดๆมาประพรมนํ้าหรือฉีดพ่นนํ้ายารีดผ้าเรียบให้ทั่ว ม้วนพับเก็บเอาไว้ในช่องที่มีไว้สำหรับแช่แข็งของตู้แช่เย็น นานโดยประมาณ ๑-๒ ชั่วโมง เพื่อนํ้าหรือนํ้ายาที่ฉีดไว้ กระจายขาดทุนผ้าจนถึงทั่วดี ไม่ควรนำไปรีดหลังประพรมนํ้าทันทีจะมีผลให้ผ้าด่างและไม่เรียบ
๒) นำผ้าไหมที่ม้วนเก็บไว้ในตู้แช่เย็นมารีด โดยใช้ผ้าฝ้ายขนาดผ้าที่เอาไว้เช็ดหน้าวางทับบน ผ้าไหม แล้วจึงใช้เตารีด รีดบนผ้าฝ้าย ถ้าไม่วางผ้าฝ้ายทับบนผ้าไหมก่อน ความร้อนจากเตารีด จะมีผลให้ผ้าไหมสีไม่สดใส เป็นรอยเหลืองและก็เก่าเร็ว นอกจากนี้หากไม่รีดบนผ้าฝ้ายให้รีดด้วย อุณหภูมิตํ่า หรือใช้เตารีดไอนํ้า และไม่ควรจะรีดผ้าไหมในขณะที่ผ้าแห้ง ด้วยเหตุว่าจะทำให้ผ้ากระด้างวาวลื่น
๔. การเก็บรักษาผ้าไหม ทำเป็นดังต่อไปนี้
๑) ภายหลังจากรีดผ้าไหมเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ควรจะห้อยไว้กับไม้แขวนเสื้อ แล้วค่อยนำไปแขวน เก็บเอาไว้ภายในตู้เก็บเสื้อผ้า
๒) ถ้าเป็นเสื้อผ้าไหมที่ใช้แล้ว รวมทั้งยังไม่เปรอะเปื้อน ควรห้อยกับไม้ห้อยและนำไปผึ่งไว้ ในที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทดีหากเสื้อผ้าไหมเลอะเทอะเล็กน้อย ควรทำความสะอาดเฉพาะจุดนั้นโดยทันที ใส่ไม้แขวนนำไปผึ่งไว้จนกว่าจะแห้ง รีดให้เรียบก่อนนำไปเก็บ

เสื้อผ้าฝ้าย

๑. วิธีสำหรับซักเสื้อผ้าฝ้ายเสื้อผ้าฝ้ายซักได้ด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า แม้กระนั้นแนวทางซักด้วยมือจะถนอมเนื้อผ้ามากกว่า นอกจากนี้แนวทางซักผ้าอย่างถูกทางจะช่วยปกป้องราขึ้นเสื้อผ้าได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
๑) แช่ผ้าฝ้ายในนํ้าเกลือ หรือนํ้าส้มสายชู ๑ คืน แล้วนำขึ้นบีบนํ้าออก
๒) ใส่สารซักฟอก ๑ ช้อน ต่อนํ้า ๑ กะละมัง ใช้มือแกว่งจนถึงเกิดฟอง นำผ้าลงซักขยี้เบาๆยกขึ้นบีบนํ้าออกเบาๆนำไปล้างนํ้าสะอาด ๒ ครั้ง
๓) แช่ผ้าฝ้ายในอ่างนํ้าที่ผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มไว้สักครู่ยกขึ้นบีบนํ้าออก หากเป็นผ้าฝ้ายสีขาวให้ซักในนํ้าสบู่หรือนํ้ายาฟอก แม้กระนั้นจะต้องเป็นนํ้ายาฟอกขาวชนิดอ่อน ล้างด้วยนํ้าสะอาด จะปั่นให้แห้งด้วยเครื่องซักผ้าก็ได้
๒. การตากเสื้อผ้าฝ้าย ทำเป็นโดยนำเสื้อผ้าฝ้ายที่ซักเสร็จแล้ว ผึ่งแล้วก็สะบัดให้คลี่ออก ใส่ไม้แขวนผึ่งแดดจัดได้แต่ไม่ควรนานเกินความจำเป็น เพราะว่าจะทำให้เส้นใยเสื่อมสภาพและผ้าสีซีดหากเป็นผ้าสีนําไปห้อยในที่ร่ม มีลมพัดผ่าน ใช้มือดึงผ้าให้ตึง อย่าให้มีรอยยับ จะช่วยทำให้รีดง่าย
๓. การรีดผ้าฝ้าย ทำได้โดยนำผ้าที่ตากไว้พอหมาดๆนำไปรีด ไม่ต้องพรมนํ้า หรือจะใช้นํ้ายารีดผ้าเรียบก็ได้ และก็รีดด้วยอุณหภูมิสูง ผ้าก็เลยจะเรียบ
๔. การรักษาผ้าฝ้าย ผ้าฝ้ายจะขึ้นราได้ง่ายเมื่ออยู่ในที่อับชื้น การดูแลรักษาเสื้อผ้าฝ้าย ภายหลังซักแล้ว ควรใส่ไม้แขวนแขวนเอาไว้ในตู้ที่มีไว้ใส่เสื้อผ้า ซึ่งวางเอาไว้ภายในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี แห้งแล้วก็เย็นไม่ควรห้อยเสื้อผ้าในตู้ที่มีไว้ใส่เสื้อผ้าให้แน่นมากเท่าไรนัก น่าจะห้อยหลวมๆทั้งยังก่อนเก็บเอาไว้ภายในตู้ควรจะให้เสื้อผ้าแห้งให้สนิทก่อน

เสื้อผ้าลินิน


๑. การซักเสื้อผ้าลินิน ซักด้วยมือ ด้วยเหตุว่าไม่ทำให้ผ้ายับ รีดง่าย และก็การซักผ้าลินินสีขาว ควรจะซักในนํ้าอุ่น ผ้าลินินสีให้ซักในนํ้าเย็น และใช้สารซักฟอกที่มีส่วนผสมของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีเพื่อช่วยกำจัดคราบเปรอะเปื้อน
วิธีสำหรับซักผ้าลินินด้วยมือมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
๑) นำผ้าลินินแช่นํ้าชั่วประเดี๋ยวยกขึ้นบีบเบาๆนำผ้าไปแช่ลงในนํ้าสารซักฟอกที่จัดแจงไว้แช่ไว้ชั่วประเดี๋ยวเพื่อสารซักฟอกขจัดสิ่งสกปรก จากนั้นใช้มือขยี้ให้สิ่งสกปรกออกให้หมด แล้วเอาขึ้น จากนํ้าสารซักฟอก บีบนํ้าออกเบาๆไม่สมควรบิดผ้าแรงๆเนื่องจากว่าจะทำให้เกิดรอยยับ นอกจากนี้ยังใช้สารฟอกขาวคลอรีนได้
๒) นำผ้าไปล้างในนํ้าสะอาด ๒-๓ ครั้งจนหมดสารซักฟอก นำไปแช่ลงในอ่างนํ้าผสม นํ้ายาปรับผ้านุ่มชั่วประเดี๋ยวเอาขึ้นไล่นํ้าออก
๒. การตากเสื้อผ้าลินิน ทำเป็นโดยนำผ้าลินินที่ซักเสร็จแล้วใส่ไม้แขวน ผึ่งแดดจัด แต่ว่าไม่นานเกินไป แล้วตากลมไว้พอเพียงหมาดจึงนำไปรีด
๓. การรีดเสื้อผ้าลินิน ทำได้โดยนำเสื้อผ้าลินินที่ห่อไว้ หรือตากลมพอหมาดๆไปรีด โดยใช้ความร้อนสูง รวมทั้งให้รีดภายใน เพื่อให้ภายนอกวาว
๔. การเก็บรักษาเสื้อผ้าลินิน ภายหลังรีดเสร็จแล้วให้แขวนกับไม้แขวน แล้วก็ค่อยนำไปเก็บไว้ภายในตู้สำหรับเก็บเสื้อผ้า

เสื้อผ้าขนสัตว์


เสื้อผ้าขนสัตว์ รักษายาก ด้วยเหตุว่าเมื่อถูกความร้อนรวมทั้งเปียกชื้น ผ้าทำจากขนสัตว์จะเชื่อมชิดกันเป็นแผ่น แล้วก็หดตัวทุกครั้งเมื่อเปียก จึงควรส่งร้านซักรีดที่มีความชำนิชำนาญสำหรับเพื่อการซักรีดจะดีมากยิ่งกว่า
สำหรับวิธีการดูแลและรักษาเสื้อผ้าขนสัตว์อย่างง่ายซึ่งสามารถทำได้ด้วยตนเอง มีดังนี้
๑. ใช้แปรงนุ่มๆแปรงฝุ่นละอองออกทุกครั้งข้างหลังการใช้ ถ้าหากถูกนํ้าให้สะบัดออก อย่าแปรงขณะผ้าแฉะ
๒. ห้อยเสื้อผ้าขนสัตว์ในที่อากาศโปร่ง แห้ง และก็เย็น หรือใส่เข้าไปภายในถุงพลาสติกแล้วแขวนในตู้ที่มีไว้เก็บเสื้อผ้า
๓. ห้ามใช้เสื้อผ้าชุดเดียวติดต่อกันนานยาวนานหลายวัน เนื่องจากว่าเมื่อขนสัตว์มีการเสียดสีหรือถูไปๆมาๆนานๆจะแข็งเป็นมัน บางประเภทขนจะหลุด

เสื้อผ้าใยสังเคราะห์


๑. วิธีซักเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ สามารถซักได้ด้วยมือแล้วก็เครื่องซักผ้า แม้กระนั้นซักมือจะถนอมเนื้อผ้ามากยิ่งกว่า โดยแนวทางซักเสื้อผ้าใย สังเคราะห์มีวิธีการ ดังต่อไปนี้
๑) ควรจะแยกผ้าสี และก็ผ้าขาวออกมาจากกัน ไม่สมควรซักรวมกัน เพื่อคุ้มครองป้องกันสีตก
๒) ซักในนํ้าปกติหรือน้ำอุ่น ด้วยสารซักฟอกหรือสารซักฟอกประเภทอ่อนอย่างเบามือ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ๒-๓ ครั้งแล้วบีบให้น้ำแห้ง
๓) ถ้าเกิดมีความสำคัญจำต้องฟอกขาว ควรจะใช้สารฟอกขาวอย่างอ่อน
๒. การตากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ผึ่งแดดได้แต่จำเป็นต้องกลับเอาภายในออก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สีซีดจาง และไม่ควรจะตากนาน พอเพียงหมาดเก็บ เข้าที่ร่ม
๓. การรีดเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยสังเคราะห์เนื้อผ้าไม่ยับ ก็เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีดแต่ถ้าจะรีด ควรใช้อุณหภูมิตํ่า
๔. การเก็บเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ควรห้อยด้วยไม้ห้อยแล้วเก็บเอาไว้ในตู้เก็บเสื้อผ้าเสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์

เสื้อผ้าใยครึ่งสังเคราะห์


๑. แนวทางซักเสื้อผ้าใยครึ่งหนึ่งสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์เมื่อถูกนํ้าจะลดความเหนียวและความทนทานไม่ทนกรด หากเปรอะยางผลไม้หรือนํ้าผลไม้ต้องซักโดยทันที ควรซักแห้งหรือบางทีอาจซักนํ้าได้แต่ผ้าจะยับมาก เสียเวลาซักนาน อย่าแช่นํ้าหรือทิ้งไว้ในนํ้านาน และควรใช้สารซักฟอกประเภทอ่อน ขณะซักไม่สมควรขยี้หรือบิดมาก ต่อจากนั้นล้างนํ้าสะอาด ๒-๓ ครั้ง แล้วบีบนํ้าให้หมาด
๒. การตากเสื้อผ้าใยครึ่งหนึ่งสังเคราะห์ ควรจะแขวนตากในที่ร่ม
๓. การรีดเสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์ ควรรีดด้วยอุณหภูมิต่ำเพราะไม่ทนความร้อน ถ้าความร้อนสูงจะละลาย
๔. การเก็บเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ควรห้อยด้วยไม้ห้อยแล้วเก็บในตู้ที่มีไว้ใส่เสื้อผ้า นอกจากเสื้อผ้าใยธรรมชาติ ใยสังเคราะห์ และใยครึ่งสังเคราะห์แล้ว ยังมีเสื้อผ้าไหมพรม และก็เสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วยเลื่อมและก็ลูกปัด ซึ่งต้องมีวิธีการดูแลอย่างประณีต ดังต่อไปนี้

เสื้อผ้าไหมพรม


เสื้อผ้าไหมพรม เป็นผ้าที่ถักทอจากเส้นไหมพรม มีลักษณะนุ่ม ไม่ยับ ยืดหยุ่นเจริญ ใส่อบอุ่น คุ้มครองปกป้องความหนาวก้าวหน้า
๑. การซักเสื้อผ้าไหมพรมทำได้โดยซักมือหรือซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ทั้งสองแนวทางควรที่จะใช้นํ้ายาซักแห้งซัก ขยำเบาๆเมื่อสะอาด หมดสิ่งสกปรก นำไปล้างนํ้าให้สะอาด ๒-๓ นํ้า นำไปแช่นํ้ายาปรับผ้านุ่มสักครู่ ไม่สมควรนำเสื้อผ้าไหมพรมต่างสีซักรวมกันสีจะตกได้เสื้อผ้าไหมพรมที่เปรอะนํ้ามัน มีแนวทางในการซักโดยใช้นํ้าอุ่นๆผสมนํ้าสบู่หรือผงซักผ้า ตีจนขึ้นฟอง นำเสื้อผ้าไหมพรมที่มีรอยเปื้อนแช่ลงไปโดยประมาณ ๓๐ นาทีแล้วขยำเบาๆจนกระทั่งสิ่งสกปรก นํ้ามันหลุดออกหมด เอาไปล้างในนํ้าอุ่น ๒-๓ ครั้ง จนกระทั่งสะอาด นำไปตาก ภายหลังซักเสื้อผ้าไหมพรม ปูเสื้อไหมพรมลงบนพื้นโต๊ะ นำผ้าขนหนูแห้งๆปูทาบกับตัวเสื้อ แล้วม้วนไปพร้อมๆกัน ผ้าขนหนูจะซึมซับนํ้าในเสื้อไหมพรมให้แห้งโดยไม่ต้องบิดเพราะว่าถ้าหากบิดจะทำให้เส้นไหมพรมยับและยืด
๒. การตากเสื้อผ้าไหมพรม ทำได้โดยนำเสื้อผ้าไหมพรมที่ซับนํ้าจนถึงแห้งแล้ว วางราบบนแผ่นบอร์ดยาว ผึ่งไว้จนกว่าจะแห้งในที่ร่ม ไม่ควรนำเสื้อไหมพรมตากบนราวแขวนผ้า เนื่องจากผ้าไหมพรมเป็นผ้าที่มีนํ้าหนักแล้วก็ทิ้งตัว จะมีผลให้ยืดย้วย เสียรูป
๓. การรักษาเสื้อผ้าไหมพรม ทำได้โดยพับเก็บเอาไว้ภายในตู้สำหรับใส่เสื้อผ้า ไม่ควรแขวนเพราะว่าจะก่อให้ยืดย้วย ผิดรูปร่าง

เสื้อผ้าที่ปักเลื่อมและก็ลูกปัด


เสื้อผ้าที่ปักเลื่อมรวมทั้งลูกปัด ส่วนมากจะตัดเย็บโดยใช้ผ้าไหม ผ้าป่านหรือผ้าลินิน ซึ่งซักรีดได้ยาก รวมทั้งต้องระมัดระวังไม่ให้เลื่อมหรือลูกปัดหลุดอีกด้วย จึงต้องดูแลอย่างถูกวิธีดังต่อไปนี้
๑. แนวทางในการซักเสื้อผ้าที่ปักเลื่อมและลูกปัด ทำได้โดยก่อนซักให้ตรวจหาจุดเลอะเทอะก่อน จึงนำไปแช่ชั่วประเดี๋ยว เอาขึ้นบีบนํ้าออกโดยไม่บิด แล้วต่อจากนั้นนำไปลงซักในกะละมังที่มีนํ้าผงซักฟอกที่ตีกระทั่งขึ้นฟอง ขยี้ส่วนเลอะเทอะออกให้หมด หากถูกจุดเลอะเทอะเป็นที่ปักเลื่อมหรือลูกปัด ให้ขยี้เบาๆแล้ว ยกขึ้น นำเสื้อผ้าลงแช่ลงในอ่างนํ้าที่ผสมนํ้ายาซักแห้งสักประเดี๋ยว และก็ขยี้ตรงที่ไม่มีลูกปัดล้างนํ้า ๑-๒ ครั้ง ยกขึ้นไล่นํ้าออก ห้ามบิด แล้วนำเสื้อผ้าลงแช่ลงในอ่างนํ้าผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มชั่วประเดี๋ยว ยกขึ้นไล่นํ้าออกโดยไม่บิด
๒. การตากเสื้อผ้าปักเลื่อมแล้วก็ลูกปัด ทำเป็นโดยนำไปใส่ไม้ห้อย ผึ่งในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทดี อย่านำไปผึ่งแดด เพราะจะมีผลให้ลูกปัดบิดแล้วก็แตกหักง่าย
๓. การรีดเสื้อผ้าปักเลื่อมและก็ลูกปัด ทำได้ดังต่อไปนี้
๑) ฉีดพ่นนํ้าให้ทั่วพอหมาดๆม้วนพักไว้ชั่วประเดี๋ยว นำไปฉีดนํ้ายาเพื่อให้ผ้าเรียบ ม้วนให้นํ้ายารีดผ้าเรียบซับจนถึงทั่วจึงนำไปรีด
๒) การรีดผ้าปักเลื่อมรวมทั้งลูกปัด ให้กลับหัวในออกนอก วางลงบนโต๊ะรีด ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินขนาดเท่าผ้าที่มีไว้สำหรับเช็ดหน้าชุบนํ้าจนถึงทั่วพอหมาด วางทาบตรงปักเลื่อมและก็ลูกปัดรีดเบาๆจนเสื้อผ้าปักเลื่อมลูกปัดแห้ง ถัดจากนั้นให้กลับด้านใช้ปลายเตารีดเบาๆรีดผ้าที่อยู่ใกล้กับเลื่อมและลูกปัดเพื่อให้เรียบยิ่งขึ้น ส่วนตรงอื่นๆก็ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินชุบนํ้าพอเพียงหมาดวางทับแล้วก็รีดจนกระทั่งทั่วทั้งตัว โดยรีดตรงปกแล้วก็ตัวเสื้อ สำหรับแขนเสื้อรีดเป็นส่วนสุดท้าย
 
 
-------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีดูแลเสื้อยืดสกรีนรวมทั้ง เสื้อโปโล


เสื้อโปโล จะได้รับผลกระทบในแบบที่แตกต่างขึ้นอยู่กับคุณภาพเนื้อผ้าของเสื้อผ้าของคุณไม่ว่าจะคือเรื่องของช่วงเวลาของลายปริ๊นบนเสื้อรวมทั้งระยะเวลาของเสื้อกับการโต้ตอบต่อน้ำและสบู่ ถ้าคุณภาพของวัสดุยิ่งดี ระยะเวลาสำหรับในการใช้ก็จะยิ่งทนทาน แล้วก็ยาวนานมากขึ้นค่ะ

1. กลับหัวเสื้อของคุณก่อนจะโยนมันเข้าไปในเครื่องซักผ้าแม้กระนั้นทริคนี้ไม่ได้ใช้ได้เพียงแค่กับเสื้อยืดสกรีน, เสื้อโปโล หรือยีนส์

สามารถใช้ได้กับทุกผ้าเลยค่ะ ประโยช์จากการกลับด้านเส้อผ้าของคุณก่อนเอามาซักจะคุ้มครองให้สีจากเสื้อของคุณจางไว

2. แยกผ้าที่ราวกับๆกันออกมาซักครั้งละก้อนคุณอาจจะกำลังคิดอยู่สินะว่าคุณรู้อยู่แล้วล่ะหัวข้อนั้น เป็นแบบคุณอาจจะคิดใช่ไหมว่าคนเรานี่ต้องเป็นคนชนิดไหนกันที่จะเอาผ้าทุกๆสีทุกๆแบบมาซักรวมกันนะ? ใช่ไหมล่ะ? แล้วก็พวกเราก็อยากจะบอกกับคุณอีกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องสีหรอกนะ มันคือเรื่องของเนื้อผ้า คุณควรที่จะแยกผ้าที่มีเนื้อผ้าคล้ายๆกันแล้วซักมันด้วยกัน ผ้าเดนิมแล้วก็อื่นๆที่มีซิปกระดุมควรที่จะจับแยกกับผ้าอื่นๆอยางเช่น เสื้อยืด หรือ เสื้อโปโล ออกมาจากกันเลยจ้ะ เนื่องจากว่าถ้าผ้าที่แข็งกว่ามันเสียดสีกับผ้าที่มีเนื้อบางกว่า นุ่มกว่า มันจะสามารถทำให้มีการเกิดการฉีกขาดได้เลย

3. ซักผ้ากับน้ำเย็นหากพูดถึงหัวข้อการซักผ้า น้ำเย็นมักจะเป็นตัวเลือกที่ดีเสมอส่วนน้ำอุ่นน่ะไม่ควรเป็นตัวเลือกแต่ก่อนเลยล่ะ ลองทศเอาไว้ในหัวใจนะคะเพราะว่าเราจะกลับมาบอกประเด็นนี้กันอีกต่อจากนี้ นอกเสียจากว่าเสื้อยืด หรือ เสื้อโปโลของคุณไปโดนดินโดนโคลนจนกระทั่งเปรอะเปื้อนมามันก็ไม่มีความสำคัญเลยที่คุณต้องใช้น้ำร้อนซักเสื้อผ้าของคุณ เพราะน้ำเย็นก็ปฏิบัติหน้าที่ก้าวหน้าพอที่จะชำระล้างเสื้อของคุณ ไม่ใช่แค่มันคุ้มครองป้องกันกลั่นหมึกออกมาจากเสื้อของคุณนะ แต่ว่าเป็นการลดการใช้ไฟฟ้าด้วยอีกต่างหาก

4. อุตสาหะอย่าย้อมเสื้อไม่ใช่แค่การย้อมสี หรือการกัดสีนะ แต่การใช้ผงซักผ้าแรงๆอย่างน้ำยาปรับผ้านุ่มเองก็สามารถทำให้ความแน่น ความคงทนถาวรของ เสื้อหมดสภาพลง กลับกัน ลองพยายามเลือกใช้สบู่ที่อ่อนลงที่จะสามารถดูแลเสื้อผ้าชองคุณได้เสียดียิ่งกว่าค่ะ

5. เลี่ยงการอบผ้า สำคัญสุดๆเลย! เครื่องอบผ้าก็แจ๋วดีอ่ะเพราะว่าย่นเวลาของพวกเรา แม้กระนั้นมันถูกวางแบบมาให้ทำลายผ้าพวกเราสุดๆเลยรู้ไหม คิดออกไหมคะที่พวกเราบอกคุณก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาในเรื่องของความร้อนกับผ้า? แนวคิดนี้ถูกใช้ในข้อนี้เช่นกันเลยนะ ความร้อนจะมีผลให้ผ้าหด แล้วก็ทำให้รอยปริ๊น หรือรอบสรีนเป็นรอยแตก เก็บเครื่องอบผ้าไว้ใช้กับผ้าที่มีไว้สำหรับเช็ดตัว หรือผ้าที่มีไว้ปูที่นอนดียิ่งกว่าค่ะ แล้วตากผ้าในแบบที่เราทำกันมาแสนจะนานมากดังเดิม และอย่าลืมมานะหลีกเลี่ยงการปั่นแห้ง แนวคิดคล้ายกันเลยจ้ะ

6. ปล่อยผ้าให้แห้งในที่ร่ม ห้อยผ้าในที่ร่มที่แดดไม่อาจจะเข้าถึงได้โดยตรงสิคะ (โดยยิ่งไปกว่านั้นแสงที่มาจากพระอาทิตย์) จะมีอันตรายต่อเสื้อผ้าแล้วก็สีของเสื้อผ้าคุณแน่ๆ แต่คุณอาจจะสงสัยสินะ เนื่องจากว่าคุณก็ใส่เสื้อยืดสกรีนหรือ เสื้อโปโล ของคุณออกไปไหนมาไหนข้างนอกตลอด ซึ่งก็มองไม่เห็นจะมีอะไรไม่ดีเหมือนปกติเลยนี่? ประเด็นนั้นก็จริงค่ะ แม้กระนั้นหากว่าคุณจะออกไปภายนอก คุณก็ไม่ได้ใช้เวลาภายใต้แสงตะวันติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงอยู่ดี

7. หลีกเลี่ยงการรีดผ้า ความร้อนเป็นของต้องห้าม! แต่ถ้าว่าคุณต้องจริงๆที่จะต้องรีดเสื้อยืดสกรีน หรือ เสื้อโปโล ของคุณ เราก็อยากจะชี้แนะให้คุณใช้ความร้อนในระดับที่ต่ำที่สุดของเตารีด รีดเสื้อผ้าของคุณในแบบกลับด้าน

เครดิต : [url]http://www.igetsee2.com/[/url]

Tags : ชุดนอนไม่นอน,ชุดนอนซีทรู,ชุดหนัง



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ