Advertisement
Porsche Cayenne (ปอร์เช่ คาเยนน์) 3.0 Diesel เจ้ากบยักษ์สุดหรูกับขุมพลังน้ำมันดีเซล V6 จัดเป็นรถยนต์หรูอเนกประสงค์คันนึงที่ซึ่งพูดได้ว่าครบถ้วนบริบูรณ์เลย โดยตัวถังของรถได้รับการเปลี่ยนแปลงให้มีความสบายสบายเยอะขึ้น โดยไม่สูญเสียความคล่องตัวไป รวมทั้งทำให้รถมีทั้งความสามารถ ความสบายสบายควบคู่ไปกับความสปอร์ตมากกว่าเมื่อก่อน รวมทั้งทำให้คาเยนน์ (cayenne) เปลี่ยนมาเป็นรถที่เหมาะสมที่สุดในตลาดรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) อย่างยิ่งจริงๆ
รูปลักษณ์ที่คมคายมากเพิ่มขึ้น มากับลักษณะเด่นจำนวนมาก ซึ่งเป็นมาตรฐานของรถและเพิ่มสมรรถนะของพลังเครื่องยนต์กลไกให้มากยิ่งขึ้น สิ่งกลุ่มนี้เป็นคุณลักษณะหลัก ของปอร์เช่ คาเยนน์ (Cayenne)
1.ใหม่ปัจจุบัน รถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUVs) มาพร้อมกับ 5 ที่นั่ง และก็มีความเด่นพร้อมคุณสมบัติเด่นของรถยนต์ในคลาสรถยนต์หรู มากับพื้นที่ว่างในห้องโดยสารที่กว้างขวางมากเพิ่มขึ้น พร้อมให้ความสุนทรีย์สำหรับเพื่อการขับขี่ สมรรถนะของรถยนต์สูงมากขึ้นแล้วก็เปี่ยมไปด้วยรูปลักษณ์ที่มีความเป็นปอร์เช่ทุกประการ
2. มาพร้อมกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์กลไกแบบ plug-in hybrid นับว่าเป็นหนแรกในตลาดรถสปอร์ตสารพัดประโยชน์ (SUV) ในคลาสรถหรู จากที่เคยใช้ในรุ่นพานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) แล้วก็รุ่น 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) มาแล้ว ทำให้ปอร์เช่กลายมาเป็นโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์รายแรกของโลก ที่ใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบ plug-in hybrid กับรถอีกทั้ง 3 รุ่นนี้ เครื่องยนต์ของคาเยนน์ (Cayenne) ใหม่ปัจจุบัน บอกให้เห็นถึงการพัฒนาประสิทธิภาพรวมทั้งความสามารถของรถที่ดียิ่งขึ้น และอัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีกว่ารุ่นก่อน
คาเยนน์ (Cayenne) คือปอร์เช่รุ่นที่ประสบผลสำเร็จมากมายก่ายกอง ปอร์เช่ได้ชี้แนะคาเยนน์ (Cayenne) เจเนอเรชั่นแรกให้เป็นที่รู้จักในปี 2002 ถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวความคิดในกรุ๊ปตลาดรถสปอร์ต สารพัดประโยชน์ (SUV) อย่างแท้จริง ซึ่งมียอดจำหน่ายที่เหนือความหวัง โดยเจเนอเรชั่นแรกมียอดผลิตที่สูงถึง 276,000 คัน ภายหลังเข้าสู่ตลาด (ตั้งแต่ปี 2002 ถึง 2010) รวมทั้ง 303,000 คัน สำหรับเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่เผยโฉมในปี 2010 รวมทั้งยังคงผลิตอย่างสม่ำเสมอ ด้วยเหตุดังกล่าวคาเยนน์ (Cayenne) ไม่เพียงแค่เป็นรถยนต์ที่ออกมาสร้างยอดจำหน่ายรวมทั้งกำไรให้กับปอร์เช่เท่านั้น หากยังเป็นรถสปอร์ตที่อนาคตด้วยเหมือนกัน
ข้างๆที่การออกแบบในรุ่นนี้ถือว่ามีความเพรียวลมลงกว่ารุ่นแรกอยู่มากมายๆนะครับ เพราะเหตุว่าสามารถลดความอ้วนตัวรถไปได้มากถึง 180KG อีกทั้งยังใหญ่ขึ้นทุกมิติด้วยนะครับ เหตุผลเนื่องมาจากว่ามีการใช้องค์ประกอบ Aluminium มากเพิ่มขึ้นครับผม ไม่ว่าจะกระโปรงหน้า ฝาด้านหลังหลัง ด้านข้างประตู ฯลฯ
รูปลักษณ์ภายนอกที่ชัดแจ๋วมากขึ้นเรื่อยๆ
ในรุ่นล่าสุดนี้ ดีไซน์เนอร์จากปอร์เช่ได้ออกแบบให้คาเยนน์ (Cayenne) มีความเข้ม ดุดัน มีเส้นสายที่แจ่มชัดเพิ่มมากขึ้น การจัดวางตำแหน่งของไฟใหม่ทั้งสิ้นเพื่อให้มองโฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม ข้างหน้าของตัวรถยนต์ได้รับการออกแบบใหม่หมดทั้งปีกหน้าและฝากระโปรง อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสะดุดตาเป็น กระจังหน้าช่องดักลม หรือ Aidblades ที่จัดตั้งอยู่ทั้งทางขวาและซ้ายของหน้ารถ ทั้งยังยังช่วยในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดักอากาศที่จะเข้ามาระบายความร้อนของเครื่องจักรได้มากขึ้น
คาเยนน์ (Cayenne) ใหม่ล่าสุด มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของปอร์เช่ตั้งแต่ทีแรกเห็น โดยมีไฟหน้าแบบไบซีนอล (bi-xenon) ที่ติดตั้งมาเป็นเครื่องไม้เครื่องมือมาตรฐานให้กับรุ่นมาตรฐาน และก็รุ่นเอส มากับไฟหน้า LED Daytime แบบ 4 จุดอย่าง “hovering” ส่วนรุ่นสูงสุดอย่างคาเยนน์ เทอร์โบ (Cayenne Turbo) มากับไฟหน้า LED แล้วก็ระบบไฟแบบอัจฉริยะ Porsche Dynamic Light System (PDLS)
ท่อคู่แท้ๆครับผม โดยถ้าหากเป็นตัว Turbo จะเป็นออกคู่ต่อข้างพร้อม SportExhaust System ครับผม โดยเวลารีบมากมายๆไม่ปล่อยควันดำออกมาซักตอนเลยนะครับไม่ว่าจะเร่งจัดขนาดไหน ระบบเผาไหม้แล้วก็ระบบกรองอากาศของเค้าทำมาดีมากมายครับ
ด้านท้ายของคาเยนน์ (Cayenne) ได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ให้มีมิติเยอะขึ้น โดยมีไฟเบรก 3 ส่วน รวมทั้งไฟ แอลอีดี Daytime ทางด้านหน้าที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้มี 4 ส่วนประกอบ ตำแหน่งติดกรอบป้ายทะเบียนได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ให้ดูเหมาะอย่างยิ่งเพิ่มขึ้น ด้ามจับฝากระโปรงและก็ไฟส่องสว่างได้รับการผสมผสานติดตั้งเข้าด้วยกัน เพื่อความเด่น นักออกแบบยังได้ทำวางแบบเส้นสายของรถยนต์ให้มีมิติมากขึ้นเรื่อยๆ ปลายท่อได้รับการออกแบบใหม่และก็ถูกจัดตั้งเข้าไว้กับส่วนล่างของรถยนต์ มีจุดเด่นคือการเปิดปิด ฝากระโปรงแบบอัตโนมัติอีกด้วย
ในส่วนของรูปลักษณ์ด้านใน
ดีไซน์เนอร์ได้เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายในห้องโดยสารให้มีพื้นที่กว้างใหญ่สำหรับผู้ขับขี่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พวงดอกไม้จะออกมาในรูปแบบพวงดอกไม้สปอร์ตสารพัดประโยชน์ที่มาพร้อมด้วยก้านเกียร์ ซึ่งเป็นพวงมาลัยที่ใช้ในรุ่น 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) ที่สุดของนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตอีกด้วย เบาะนั่งแบบพ่นลมเป็นอุปกรณ์เสริมที่สามรถเลือกจัดตั้งให้กับเบาะหลังได้ สีภายในที่ใช้คือ Luxor Beige ขอรับ สีโทนสว่างที่ช่วยให้รถยนต์มองหรูหรามากยิ่งขึ้นและโปร่งสบายเพิ่มมากขึ้นครับผม แต่ก็จำต้องดูแลหนักหน่อยครับผม
ในส่วนของตำแหน่งถุงลมนิรภัยก็จะมีด้วยกัน 6 จุด คู่หน้า+คู่ไร้ยางอายข้าง+ม่านนิรภัยตลอดแนวนะครับ
พวงดอกไม้ Multifunction พร้อม Paddle Shift ขอรับการตอบสนองถือว่าเร็วใกล้เคียงกับ Dual Clutch เลยครับผม สามารถกด-+ได้ทั้ง2ฝั่งนะครับ ข้างหลังมีก้านปรับระบบ Cruise Control
รูกุญแจ, การปรับระบบไฟหน้าครับ แล้วก็เบรคมือแบบไฟฟ้าครับผมแค่กดกับดึงออกนะครับ
จอ PCM Version 3.0 มาพร้อมระบบ FM/AM, DVD , Navigator , MAP แล้วก็ Universial Media Interface พร้อมลำโพง BOSE ให้ความรู้ความเข้าใจสึกในย่านเบสที่หนักแน่น
ข้างหลังมีระบบระเบียบ Rear Seat Entertainment โดยจะมีหน้าจอขนาด 7"คุณภาพหน้าจอพอๆกลับ iPad อะครับ อยู่ที่หลังพนักพิงทั้งยัง2นะครับ มี Drive แยกดูกันได้นะครับ หรือจะกระทำการ CrossLink ก็ได้ครับ (1 แผ่นออก 2 หน้าจอครับ) และจากนั้นก็จะมีรู USB แล้วก็ AV-in ที่ทางด้านใตนเพิ่มนะครับสำหรับต่อกับ iPhone แล้วดูหนังจากในนั้นก็ได้ขอรับ โดยจะมากับ หูฟังของ Porsche เองปริมาณ 2 คู่ครับ
ปุ่มปรับกระจกมองดูข้าง + พับกระจก + หน้าต่างทุกบานแบบ one-touch + ปุ่มกันการกดกระจกเล่นจากเด็ก ใช้สำหรับกระจกคู่ข้างหลังนะครับ โดย Speed ของการขึ้นลงกระจกนั้นจัดว่าเร็วมากขอรับ พร้อมระบบ Jam Protection นะครับ
คันเกียร์ ซึ่งมากับเกียร์อัตโนมัติ 8 Speed Tiptronic ครับ โดยไม่ใช่ Dual Clutch / PDK เหมือน Porsche รุ่นอื่นๆนะครับ
เนื่องจากทาง Porsche เองได้ศึกษาค้นคว้าแล้วว่าทอร์ทคอนเวนเตอร์นั้นเหมาะสำหรับการขับขี่แบบ OffRoad มากยิ่งกว่า PDK ครับ
แถวซ้ายสุด จะเป็นปุ่มที่ใช้ควบคุมการขับขี่แบบ OnRoad-OffRoad โดยจะมีการกักคุม Center Differential และ Rear Differential ซึ่งอันนี้ผมขอไม่ชี้แจงนะครับผม เนื่องจากว่ายังไมเคยลองใช้เหมือนกัน โดยปุ่มนี้จะไม่มีให้มองเห็นใน Porsche Cayenne S Hybrid นะครับผม
แถวกลาง จะเป็นปุ่มปรับความหนืดของโช๊คครับโดยจะดำเนินงานแบบกระแสไฟฟ้า แล้วยังมีผลต่อถึงความเร็วสำหรับการเปลี่ยนเกียร์ การโต้ตอบของคันเร่ง ด้วยนะครับ โดยจะมี Comfort-Normal-Sport ให้เลือกใช้ขอรับ
แถวขวา เป็นระบบปรับความสูงต่ำของถุงลมขอรับ มีความสูงต่างๆให้เลือกใช้ขอรับ
มาต่อในส่วนของด้านล่าง
ปุ่ม SPORT เป็น ปุ่มที่ใช้กดเพื่อรีบการตอบสนองของเครื่องยนต์กลไก และต่างๆให้หนักแน่นเยอะขึ้น ไม่ใช้ปุ่มที่กดไว้ให้ใจ sport ราวที่พี่จิมมี่กล่าวเอาไว้ภายในคลิป W212 ครับผม +
Auto Start-Stop กดให้ไฟขึ้นเพื่อยกเลิกการทำงาน
โดยระบบAuto Start-Stop นี้จะไม่ทำงานก็เมื่อ รถยนต์อยู่ในโหมด Off-Road, เครื่องปรับอากาศรีบสุด , ความร้อนของรถยนต์มิได้ , อยู่บนเนิ่นที่ชั่นเกิน
ระบบควบคุมเสถียรภาพต่าง Off จริงๆก็ควรเปิดไว้ตลอดอยู่แล้วครับ
Hill Control สามารถเลือกความเร็วที่อยากถึงเวลาลงเนินที่ชันมากมายๆครับผม โดยทำการกำหนดค่าโดยการ เบาๆเพิ่มแป้นคันเร่งครับ แล้วระบบจะกระทำการ Lock ความเร็วให้พวกเราเองครับ
ในสองส่วนนี้ใช้ปรับเครื่องปรับอากาศแยก 2 ส่วน ปรับการเป่าของเครื่องปรับอากาศ รวมทั้งระบบงานด้านเกี่ยวข้องกับการระบายอากาศใต้เบาะ
ในส่วนของเบาะรุ่นนี้ ที่ดีเป็นพวงดอกไม้ปรับไฟฟ้ารวมทั้ง Memory ครับผม เพราะเหตุว่าจะเหมาะหากมีคนขับรถด้วยแล้วเราต้องขับด้วย เวลาขึ้นรถก็แค่กดปุ่มตัวเลขนะครับ เวลาจะเมมก็กด Set ก่อนและก็หลังจากนั้นจึงค่อยกดจำนวนเพื่อ Save ทับนะครับ โดยจะจำค่าทุกสิ่งของเก้าอี้ + ตำแหน่งพวงดอกไม้ + ตำแหน่งกระจกข้างรถ + Channal โปรดชนิดเพลงและวิทยุรวมถึงความดังของเสียงด้วยครับผม
ส่วนเบาะหลังมากับตรา Porsche แบบนูน 3D เบาะจะสามารถปรับองศาเอียงไปข้างหลังได้ราว + - 5 Degrees นั่งระยะไกลได้สบาย แล้วก็นุ่มนวลนะครับ
ไฟในรถขอรับ แล้วก็การควบคุม Panoramic Roof กับ ม่านไฟฟ้าข้างบนนะครับ
Panoramic Roof ครับผม ประกอบไปด้วยกระจกแก้วทั้งยัง2บานขอรับ บานหน้าจะสามารถเปิดออกราวกับ Sunroof ได้ หรือจะเปิดข้างหลังเพื่อกระทำไล่อากาศก็ได้ครับผม บานหลังจะเป็นบาน Fix นะครับไม่อาจจะเปิดออกได้ครับ ซึ่งจะมาพร้อมกับที่บังแดดข้างบนแบบกระแสไฟฟ้า ที่สามารถบังแสงสว่างได้ออกจะดีในระดับนึงขอรับ
มัธยัสถ์เยอะขึ้น ด้วยเครื่องจักรกลดีเซล
รุ่นดีเซลของคาเยนน์ (Cayenne) จะผสมผสานในเรื่องของความสามารถความเป็นสปอร์ตเข้าไว้กับการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่มากขึ้น โดยเครื่องยนต์ขนาด 3 ลิตร V6 ของคาเยนน์ น้ำมันดีเซล (Cayenne Diesel) สามารถผลิตกำลังวังชาเครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 262 แรงม้า (193 กิโลวัตต์) ที่รอบเครื่องจักร 4,000 รอบ/นาที และมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ระหว่าง 14.7 – 15.15 กิโล/ลิตร (6.6 และก็ 6.8 ลิตร/100 กิโล) (อัตราการปลดปล่อยก๊าซ CO2 อยู่ที่ 173 – 179 กรัม/กิโล) เหตุเพราะระบบ SCR ที่ทำให้รถยนต์พร้อมและรองรับมาตรฐานน้ำมันแบบ EU6 ได้ แรงบิดอยู่ที่ 580 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์กลไก 1,750 – 2,500 รอบ/นาที รถมีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 7.3 วินาที (ถ้าหากติดตั้งเครื่องไม้เครื่องมือเสริมแพ็คเกจ Sport Chrono package จะอยู่ที่ 7.2 วินาที) ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 221 กิโลเมตร/ชั่วโมง
แต่หากคุณนักอ่านสนใจอยากเป็นเจ้าของแล้วละก็ทาง Apple Luxury Car ขอนำเสนอกับ Porsche Cayenne 3.0 (ปี 2012) Diesel Wagon AT ซึ่งราคาตกมาจากมือหนึ่งออกศูนย์เป็นอย่างยิ่ง ด้วยราคาเพียง 3,990,000 บาท เท่านั้น ท่านคนอ่านก็จะได้รถยนต์คันนี้ไปใช้งาน หรือสะสมเป็นคอลเลคชั่นส่วนตัวกันได้เลย
เข้าชม
Porsche Cayenne 3.0 (ปี 2012) Diesel มือสอง คลิกเลย!!!
หรือเข้าชม>>>
Porsche Cayenne มือสอง <<< คันอื่นๆคลิก
สามารถติดต่อได้ที่
Apple Luxury Car โชว์รูมรถมือสองTel : 080-24-11111
Line : darunee4043
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
รถ Porsche Cayenne (ปอร์เช่ คาเยนน์) มือสองที่มา :
[url]http://regservice.buu.ac.th/forum/index.php?topic=644964.new[/url]
Tags : รถ Porsche Cayenne (ปอร์เช่ คาเยนน์) มือสอง,พอร์ช คาเยน มือสอง