Advertisement
ทีมสถาปนิกมากฝีมือประสบการณ์สูงทั้งทั้งประเทศไทยและเทศ ออกแบบบ้าน สวน ห้องครัว ซ่อมซ่อมต่อเติม รับเหมาต่อเติมบ้าน คุยต่อรองได้
ที่ตั้งของครัวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวเปิดแบบอยู่ข้างในตัวบ้านที่สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างต่อเนื่องหรือเลือกห้องครัวแบบปิด บางทีอาจตั้งอยู่นอกบ้าน เเต่ไม่ว่าจะห้องครัวแบบไหนก็ควรหันไปในทิศที่รับแสงสว่างและลมให้ผ่านเข้ามาในครัวตามช่องประตู หน้าต่าง รวมทั้งช่องแสงสว่าง รับเหมาต่อเติมบ้าน รีโนเวทให้บริการับต่อเติมบ้าน[/u][/url] ทิศของเเสงกับห้องครัว
เเนวคิดหลักก็คือห้องครัวควรจะอยู่ในทิศที่มีเเสงสว่างส่องเข้าถึงได้ เพื่อให้เเสงแดดได้ฆ่าเชื้อโรคต่างๆรวมทั้งไล่ความชุ่มชื้นข้างในครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบๆอ่างล้างจานควรจะอยู่ใกล้กับช่องหน้าต่าง จะได้ช่วยทำให้อากาศถ่ายเทและก็ระบายกลิ่นต่างๆเวลาทำครัว นอกเหนือจากนี้ยังเป็นเหตุให้ห้องครัวเย็นสบาย
...มาดูผลจากการตั้งครัวในเเต่ละด้านกันดีกว่า…
- เเสงทางทิศเหนือให้ความสว่างกับห้องครัวได้ตลอดทั้งวัน เเต่ไม่กำเนิดความร้อน เนื่องจากว่าไม่ใช่แนวทางโคจรของดวงอาทิตย์
- เเสงทางทิศใต้มักจะส่องห้องครัวในฤดูหนาว เเละจะให้เเสงพอดีในฤดูร้อน การที่ทำช่องเเสงบนหลังคาทางด้านทิศใต้จะช่วยให้ห้องครัวได้รับเเสงในช่วงฤดูหนาวได้เต็มที่ เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวดวงตะวันจะอ้อมไปทิศใต้
- เเสงทางทิศตะวันออก ห้องครัวที่หันไปทางด้านนี้จะได้รับเเสงแดดรุ่งเช้า ทำให้ห้องได้รับเเสงสว่างรวมทั้งความร้อนเพราะเป็นด้านที่ตะวันขึ้น
- เเสงทางทิศตะวันตก ห้องครัวจะได้รับแดดบ่ายจนถึงเย็นก็จะไม่ค่อยสะดวกหากเข้าครัวในระยะนี้ ถ้าเกิดมีหน้าต่างใช้มูลี่ปรับเเสงหรือม่านบัง หรือจะปลูกต้นไม้เพื่อลดแสงสว่างกับความร้อนก็ได้
ตำแหน่งที่เหมาะสมของห้องครัวในบ้าน
โดยธรรมดาคนตะวันออกเชื่อว่าตำแหน่งที่สมควรสำหรับห้องครัวที่สุดในบ้านเป็นทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่รับแสงสว่างและก็ลมได้อย่างพอเหมาะพอควร ส่วนหากเป็นความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ย จะถูกใจให้ครัวอยู่ทางทิศตะวันออกและทิศใต้ เนื่องจากว่าทางทิศตะวันออกห้องครัวจะได้รับเเสงแดดตั้งเเต่เช้าถึงเที่ยง เเละตอนเย็นจะเย็นสบายเวลาทำกับข้าว ส่วนทิศใต้นั้นมีลมพัดผ่าน ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี
สำหรับคนไหนกันแน่ที่กำลังสร้างบ้าน ในขณะนี้คงจะตกลงใจเลือกได้เเล้วใช่มั้ยขาว่าจะสร้างห้องครัวไว้ทางด้านไหนดี ชอบแบบไหนก็เลือกแบบงั้นได้เลย สิ่งสำคัญเลยก็คือแสงเเละลมควรต้องส่องผ่านเข้าไปในห้องครัว เพื่อที่จะช่วยระบายอากาศ ไม่ให้กลิ่นตกค้างในห้องครัวนะคะ
นอกจากฮวงจุ้ยที่เหมาะกับสร้างบ้านแล้ว เจ้าของบ้านควรรู้เหตุว่า ฮวงจุ้ยลักษณะไหน ที่ไม่ควรไปสร้างบ้านในบริเวณนั้น 1. มีกระแสลมแรงพัดผ่านตลอดระยะเวลา พลังของลมจะพัดพาทรัพย์สินเงินไม่ให้เหลือเก็บ แม้กระนั้นถ้าไม่มีลมพัดเลย พลังงานที่ดีก็จะไม่หมุนเวียน ฮวงจุ้ยที่ดีคือมีลมพัดผ่าน อากาศถ่ายเทดี แต่ไม่ใช่พัดแรงตลอดระยะเวลา
2. มืดและเย็น มีความหมายว่ามีพลังหยินมากจนเกินความจำเป็น กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย รวมทั้งเป็นที่อยู่ของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานที่ไม่ดี ไม่ควรอยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์
3. ทางชันพุ่งเข้าพบประตู เหมือนสร้างบ้านบนปลายอาวุธ มีแต่อันตราย ไม่ใช่เรื่องดี
4. ถนนหนทางพุ่งเข้าบ้าน เป็นลักษณะของทางสามแพร่งหรือทางผีผ่าน ยิ่งถนนยาว มีรถยนต์มากมาย ยิ่งอันตราย
5. ใกล้ทางโค้ง เหมือนรูปเคียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งสะพาน หรือวงเวียน มองเห็นรถยนต์หรือสิ่งที่จะเข้ามาในบ้านได้ยาก อาจอันตรายอีกทั้งจากมิจฉาชีพลักขโมยและก็เป็นจุดดักพลังงานที่ไม่ดี
6. ประกบด้วยตึกสูง ทั้งยังซ้ายขวาหรือ หน้าหลัง ในลักษณะเหมือนหนีบบ้านที่อยู่กึ่งกลาง ไม่ดี เนื่องจากเป็นลักษณะของโลงศพ บ้านที่อยู่ตรงกลางเป็นศพ ตาย ไม่มีวันฟื้นพอๆกับหาเลี้ยงชีพไม่ขึ้น
7. มุมแหลมของบ้านด้านข้างพุ่งเข้าพบตัวบ้าน ลักษณะนี้เป็นลักษณะของศรพิฆาต พลังของความประสงค์ร้ายต่างๆจะพุ่งเข้ามาที่บ้าน
8. ข้างหน้าบ้าน เป็นโรงพัก ศาลเจ้า คุกสถานดับไฟ สถานที่เหล่านี้คือแหล่งรวมของเรื่องทุกข์ยากตรากตรำแล้วก็ความกลุ้มใจ ซึ่งจะมีผลมาถึงคนภายในบ้านด้วย
9. ที่ดินทางเข้าน้ำ นับว่าไม่เป็นมงคล เนื่องจากว่าน้ำไหลตลอดเวลา เก็บทรัพย์สินไม่ได้ ทั้งมีความเสี่ยงต่อการเช็ดกกัดเซาะและอุทกภัยอีกด้วย
10. มีต้นไม้ยืนต้น เสาไฟ หรือเสาหลัก ขวางตรงประตูหน้าบ้าน สิ่งของเหล่านี้นับว่าเป็นสิ่งอัปมงคล ไม่ควรให้ตั้งอยู่หน้าบ้าน
11. มีลำคลอง ร่องน้ำ ไหลผ่านตัวบ้าน ทำให้เงินทองเสียหาย
12. มีแอ่งตรงกลางบ้าน หรือกลางตัวบ้านเป็นหลุมบ่อ กลางบ้านเป็นหัวใจของพลังงานในบ้าน ถ้าเกิดยุบหรือเป็นหลุมลงไปย่อมไม่เป็นมงคล
ไม้แต่ละประเภทมีคุณสมบัติแตกต่าง จำเป็นต้องรู้จักลักษณะเฉาพะตัวของไม้ที่นิยมใช้กันในบ้านเรา เพื่อจะได้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยเรียงลำดับความแข็งแรงของเนื้อไม้จากมากมายไปน้อยไม้แดง เนื้อไม้มีสีแดงอ่อนๆถึงสีน้ำตาลอมแดง เนื้อละเอียดพอประมาณ เนื้อเหนียวแข็งแรงแล้วก็คงทน แม้กระนั้นยืดหดตัวค่อนข้างมาก จึงจำต้องผ่านการอบมาอย่างยอดเยี่ยม นิยมใช้ก่อสรา้งในส่วนที่ไม่ใช่องค์ประกอบ เช่นพื้น วงกบประตูหน้าต่าง เครื่องประดับบ้าน หากปูพื้นต้องเว้นขอบพื้นให้ห่างจากผนักมากยิ่งกว่าไม้จำพวกอื่น
ไม้ประดู เนื้อไม้สีแดงอมเหลืองถึงสีแดงก้อนอิฐเข้มมีความแข็งใกล้เคียงไม้แดง มีลวดลายสวยสดงดงามเนื้อละเอียดปานกลาง แต่งผิวและชักเงาได้ดี แต่คนไม่ค่อยชอบเพราะเหตุว่าบางครั้งบางคราวสีเป็นจ้ำ
ไม้เต็ง แรกๆแก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อน แล้วจะเบาๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแก่ปนแดง เนื้อหยาบคายแต่เป็นประจำ นิยมใช้ทำส่วนประกอบอย่างคาน ตง และก็พื้น ในตลาดมีอีกทั้งไม้เต็งไทยและก็ไม้เต็งมาเลย์ แต่ไม้เต็งไทยจะแข็งแรงกว่า
ไม้มะค่า เนื้อไม้สีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลแก่และก็จะเข้มขึ้นเมื่อทิ้งไว้นาน มีเส้นเสี้ยน เนื้อออกจะหยาบ แต่ว่าสม่ำเสมอ เป็นเงาเลื่อมเห็นลายไม้แจ่มกระจ่าง ทนมอดปลวกได้ดี มีการยืดหดออกจะน้อย
ไม้สัก (บางตำราเรียนจัดเป็นไม้เนื้ออ่อน) แก่นไม้มีสีเหลืองทองรวมทั้งเบาๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและก็น้ำตาลแก่ มีกลิ่นเสมือนหนังถูเก่าๆมีข้อดีที่ลายไม้สวยสดงดงามแต่หากใช้งานหนักๆจะเป็นรอยง่ายจำเป็นที่จะต้องเคลือบด้วยวาร์นิชที่ช่วยทำให้ไม้ทนการขัดถูเยอะขึ้นเรื่อยๆ
พื้นไฟเบอร์ปูนซีเมนต์
เป็นการผสมเส้นใยไม้รวมทั้งปูปูนซีเมนต์จึงมีความแข็งแรง ทนแดด ทนฝน แล้วก็ปลวกไม่กิน เนื้อเหนียวเหมือนไม้สามารถทำสีได้ตามปรารถนา เหมือนกับไม้ อายุการใช้งาน 10 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละ 1,000-1,300 บาท
ไม้ผสมพอลิพรอพิลีน(PE)
คือสิ่งของที่สร้างมาจากเยื่อไม้ผสมกับวัสดุสังเคราะห์จำพวกพลาสติกหรือพอลิพรอพิลีน (PE) ทำให้มีผิวสัมผัส ความยืดหยุ่น รวมทั้งคุณลักษณะเหมือนไม้ แต่ทนอย่างพลาสติกผู้สร้างสำเร็จจากโรงงาน แล้วก็มีระบบระเบียบการตำหนิดตั้งที่สะดวก ผู้ผลิตบางรายดีไซน์ให้มีทั้งตัวล๊อค ตงรวมทั้งไม้ปิดข้างๆสำเร็จรูป อายุุการใช้งาน 15 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละราว2,000 บาท
ไม้สน
เป็นไม้นำเข้า ซึ่งมีให้เลือกอีกทั้งไม้สนโตเร็ว (วงปีห่าง) ที่นิยมปลูกในประเทศนิวซีแลนด์ แล้วก็ไม้สนโตช้า (วงปีถี่กว่า) ที่นิยมปลุกในประเทศแถบยุยงโปรตอนเหนือ แม้จะเป็นไม้เนื้ออ่อนแต่ว่าก็ผ่านการอบ อาบน้ำยาปกป้องแมลง และเพิ่มเติมสารเคมีให้มีคงทนถาวร จึงสามารถใช้ภายได้ มีคุณลักษณะเด่นที่มีสีอ่อน รวมทั้งสีสันจะเปลี่ยนเป็นสีอมเทามองงามไปอีกแบบ อายุการใช้งาน10 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละ 1,200-1,500 บาท
แผ่นไม้พื้นระเบียบสำเร็จรูป
เป็นการนำไม้เนื้อแข็งมาติดบนแผ่นที่กรองพลาสติกพอลิพรอพิลีน มีระบบระเบียบล็อกระหว่างแผ่น ส่วนมากมีขนาดมาตราฐาน 30 x 30 แล้วก็ 45 x 45 เซนติเมตร สามารถวางบนพื้นปูนหรือกระเบื้องเดิมได้ทันที ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและดีไซด์ ราคาแผ่นละ 150-300 บาท
พื้นไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต(laminated Flooring)
เป็นหลักไม้สำเร็จรูปที่นำเศษไม้มาอัดเป็นแผ่น ปิดผิวหน้าด้วยเมลามีนเรสิน เพื่อคุ้มครองปกป้องการขีดข่วน รวมทั้งการยืดหดตัวของแผ่นไม้มีอีกทั้งชนิดผิวหน้าเรียบและก็ชนิดมีผิวพิ้นสัมผัส
พื้นไม้ปิดผิวด้วยแผ่นวีเนียร์(Wood Veneer Flooring)
เป็นไม้ปูพื้นที่มีลักษณะคล้ายกับไม้ลามิเนตแต่ว่ามีความแข็งแรงน้อยกว่า มีผิวหน้าเป็นแผ่นวิเนียร์ไม้จริง รองด้วยแผ่นไม้อัดหรือไม้ HDF (High Desity Fiber Board) เคลือบผิวหน้าด้วย น้ำยาเคลือบแข็งหรือสารปกป้องรีงสีแสงอัลตราไวโอเลตเพื่อความคงทน
พิื้นไม้จริงเคล็ดลับเอนจิเนียร์(Prenished Engineered Floor)
วัตถุดิบ ด้วยการใช้ผิวหน้าไม้จริงและก็ประกบข้างล่างด้วยแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นสูง (HDF) หรือใช้ไม้จริงที่มีคุณภาพรองลงมาวางซ้อนกันหลายๆชั้นแล้วอัดประสานด้วยการพร้อมอัดน้ำยากันปลวกรวมทั้งฉาบข้างหลังไม้เพื่อป้องกันความชื้้น
พื้นไม้จริงสำเร็จรูป (Prenished Solid Floor)
เป็นไม้จริงทั้งแผ่นที่ได้พัฒนาการผลิตให้ได้มาตรฐาน โดยผ่านขั้นตอนการอบแห้ง อัดน้ำยากันปลวกทำสีแล้วก็ฉาบผิวหน้ามาจากโรงงานพร้อมวางแบบระบบการคุ้มครองความชุ่มชื้นรวมทั้งการต่อไม้เข้าลิ้นให้จัดตั้งสะดวกขึ้นก็เลยติดตั้งได้รวดเร็วทันใจ ลดปัญหาไม้หดหรือปิดตัว อีกทั้งมีลวดลายรวมทั้งสีสันให้เลือกล้นหลามเนื่องจากมีทั้งยังไม้จากยุโรป สหรัฐอเมริกาและเอเซีย ราคาพื้นไม้สำเร็จรูป ตารางเมตรละ 700-2000 บาท
แผ่นไผ่อัด
สร้างขึ้นจากไม้ไผ่ในประเทศ โดยนำมาผ่านขั้นตอนการดูดอากาศ อัพน้ำยา และอบแห้ง เพื่อให้แก่นไม้แน่นและอยู่ตัว ก็เลยมีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น ปราศจากแมลงกันกิน นำมาผ่าซีกและก็ไสตามขนาดที่ปรารถนา อัดผสานด้วยกาวในระดับความร้อนสูงให้เป็นแผ่น รวมทั้งนำไปแปรรูปใช้งาน ได้มากมาย ทั้งกรุฝาผนัง ทำพื้นไม้ ฝ้าเพดานเฟอร์นิเจอร์ และหลังคา ราคาตารางเมตรละ1,000-3,000 บาท
อุปกรณ์ทดแทนไม้พร้อมโครงคร่าวสำเร็จรูป
ทำมาจากไม้ผสอมพอลิพรอพิลีน(PE) ออกแบบให้มีหลายขนาดพร้อมโครงคร่าวๆ สามารถนำมาประกอบตามต้นแบบที่ต้องการได้ เหมาะกับทำฝาผนังและฝ้าเพดานทั้งยังภายในและก็ภายนนอกราคาตารางเมตรละ 1,500 -2,000 บาท
แผ่นผนังไม้สำเร็จรูป
เป็นไม้จริงและโครงพร้อมติดตั้ง ขนาด 60×60 เซนติเมตร มีอีกทั้งจำพวกผนังโปร่งและผนังทึบ สามารถจะนำมาเพื่อใช้สำหรับการทำผนังบังตา ผนังตกแต่งอีกทั้งภายในรวมทั้งข้างนอก ราคาตารางเมตรละ 3,500-4,300 บาท
ติดต่อใช้บริการได้ที่: บริษัท คอมพลีทโฮม COMPLETE HOME จำกัด
รับ: ตกแต่งบ้าน
โทรศัพท์: 0959502635
Email:
completehomecontact@gmail.comขอบคุณบทความจาก :
[url]http://www.completehome.co.th/[/url]
Tags : renovate บ้าน , ซ่อมบ้าน , ต่อเติมห้องครัว
