Advertisement
หยุดอาการแสบร้อนยอดอก หยุดกรดไหลย้อน คุณทำได้ด้วยตัวเองตามคำแนะนำนี้
โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal reflux disease) มีต้นสายปลายเหตุสำคัญจากการที่มีกรดออกมาเยอะเกินไปในขณะย่อยอาหาร หรืออาจเกิดขึ้นจากการที่หูรูดหลอดอาหารข้างล่างคลายตัวแตกต่างจากปกติ ทำให้กรดส่วนหนึ่งไหลย้อนกลับมาขึ้นมาในหลอดอาหารได้
อาการของโรคกรดไหลย้อน
โรคกรดไหลย้อนจะทำให้กำเนิดอาการแสบร้อนยอดอก (Heartburn) แสบคอ ไอ เรอเปรี้ยว หากมีอาการมากๆบางทีอาจรบกวนการนอนหลับรวมทั้งรบกวนการทำงานให้มีคุณภาพลดน้อยลงอีกด้วย อาการที่เกิดขึ้นนี้ถึงแม้ไม่ใช่อาการร้ายแรงที่มีผลถึงกับชีวิตในทันทีทันใด แต่ว่าก็สร้างความทรมาทรกรรมและก็กระทบกับการใช้ชีวิตไม่น้อย
ในรายที่มีอาการร้ายแรง จะมีลักษณะอาการแสบร้อนเกิดขึ้นกึ่งกลางทรวงอกค่อนไปข้างล่าง ทำให้มีความรู้สึกว่าบริเวณหัวใจมีลักษณะอาการแสบร้อนราวกับถูกไฟเผา ก็เลยทำให้เข้าใจผิดมีความรู้สึกว่าเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ แม้กระนั้นจริงๆแล้วไม่ได้เกี่ยวกับหัวใจแต่อย่างใด
ต้นสายปลายเหตุที่ก่อให้เกิดโรคกรดไหลย้อน
ผู้คนส่วนใหญ่ที่มีอาการป่วยด้วยโรคกรดไหลย้อนมักมีสาเหตุมาจากความประพฤติปฏิบัติการรับประทาน การใช้ชีวิต ดังเช่น นอนในทันทีหลังรับประทานอาหารเสร็จ รับประทานอาหารเยอะเกินไป หรือเร็วเกินความจำเป็น ซึ่งนั่นทำให้การปรับเปลี่ยนความประพฤติปฏิบัติสามารถป้องกัน รวมทั้งรักษาโรคกรดไหลย้อนได้
10 วิธีหยุดทรมาทรกรรมจากกรดไหลย้อนด้วยตัวเอง
1. อย่ารับประทานมากเกินไป
ควรแบ่งการกินอาหารเป็นมื้อเล็กๆ5-6 มื้อต่อวัน หรือกินเป็นของกินหลัก 3 มื้อเล็กๆแล้วก็อาหารเสริมอีก 3 มื้อก็ได้ การกินแบบแบ่งย่อยเป็นมื้อเล็กๆจะช่วยคุ้มครองไม่ให้กระเพาะสร้างกรดเยอะเกินไป ทำให้ลดอาการแสบร้อนยอดอกได้เป็นอย่างดี
2. อย่ารับประทานเร็วเหลือเกิน
การรับประทานเร็วเกินไป เคี้ยวน้อยลง จะก่อให้ระบบทางเดินอาหารจะต้องทำงานหนักเยอะขึ้นแถมประสิทธิภาพก็ลดลง จึงทำให้ของกินไม่ย่อย เกิดท้องขึ้น รวมทั้งกรดไหลย้อนตามมาได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ควรจะรับประทานอาหารให้ช้าลง รวมทั้งเคี้ยวของกินอย่างรอบคอบก่อนกลืน
คำเสนอแนะ: ให้บดอาหาร 20 ครั้ง หรือนับให้ถึง 20 ครั้งที่แล้วที่จะกินคำต่อไป
3. ไม่รับประทานอาหารที่ทำให้มีการเกิดกรดไหลย้อน
ของกินหลากหลายประเภทสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้ ของกินพวกนั้นแบ่งเป็น 2 จำพวก อย่างเช่น
1. ของกินที่ทำให้หูรูดหลอดอาหารด้านล่างคลายตัวในตอนที่ไม่ควร
ของกินทอด อาหารมันๆ
เนื้อติดมันมากมาย
ซอสครีม
สินค้าที่ทำจากมันเนย
ช็อกโกแลต
เปปเปอร์มินต์
เครื่องดื่มมีคาเฟอีน ตัวอย่างเช่น น้ำอัดลม กาแฟ ชา แล้วก็โกโก้
2. อาหารที่ทำให้กระเพาะอาหารสร้างกรดเยอะเกินไป
เครื่องดื่มมีคาเฟอีน
น้ำอัดลม
แอลกอฮอล์
อาหารรสจัด ตัวอย่างเช่น เผ็ดจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด เป็นต้น
ผักบางจำพวก เป็นต้นว่า หัวหอม กระเทียม มะเขือเทศ ฯลฯ
4. เตรียมให้พร้อม เมื่อจำต้องออกไปทานอาหารนอกบ้าน
ไม่ว่าจะรับประทานอาหารที่ไหนๆจะนอกบ้าน หรือในบ้าน ก็ควรปฏิบัติตัวไม่ให้กำเนิดกรดไหลย้อนยกตัวอย่างเช่นเดิม โดยเลือกกินอาหารที่ไม่กระตุ้นให้กรดไหลย้อน ในส่วนเครื่องดื่มต่างๆก็ต้องตั้งใจเช่นเดียวกัน ที่สำคัญอย่ากินมากเกินไป แล้วก็ควรจะบดอาหารอย่างละเอียดก่อนกลืน
5. อย่านอนในทันทีหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆ
การล้มตัวลงนอนในขณะกระเพาะยังเต็มแน่นไปด้วยอาหาร เป็นการทำให้หูรูดหลอดของกินด้านล่างถูกดันให้คลายตัว นำมาซึ่งการทำให้ของกิน รวมทั้งกรดจากกระเพาะไหลย้อนขึ้นไป ต่อไปก็จะกำเนิดลักษณะของกรดไหลย้อนตามมา
ทางที่ดีหลังรับประทานอาหารเสร็จควรจะคอยอย่างต่ำ 3-4 ชั่วโมง แล้วจึงนอน พยายามหลบหลีกขนมมื้อดึก ถ้าวันไหนจำต้องทานอาหารมื้อใหญ่ควรเลือกให้เป็นมื้อกลางวันมากกว่ามื้อเย็น เพราะเหตุว่ากระเพาะได้โอกาสย่อยได้ยาวนานกว่า
6. อย่านอนหงายราบเวลาเข้านอน
เมื่อรู้สึกมีลักษณะอาการของกรดไหลย้อน ไม่สมควรนอนหงายราบไปกับเตียงด้วยเหตุว่าของกินในกระเพาะจะกดหูรูดหลอดอาหารด้านล่างทำให้กรดไหลย้อนกลับมากขึ้นมาอีก กรณีนี้เสนอแนะให้หนุนที่นอนตั้งแต่ตอนอก ไหล่ แล้วก็ศีรษะให้สูงขึ้นจะช่วยลดแรงกดดังที่กล่าวถึงมาแล้วได้
วิธีเสริมที่พักผ่อนให้สูงมากขึ้น
วางก้อนอิฐ หิน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่แข็งแรงมั่นคงรองขาเตียงฝั่งหัวนอน
ใช้หมอนรูปลิ่มหนุนบริเวณศีรษะและก็ไหล่
หมายเหตุ: อย่ายกหัวให้สูงมากขึ้นโดยการเอาหมอนรองเท่านั้นด้วยเหตุว่าจะยิ่งทำให้ความดันในท้องมากขึ้น และไม่ช่วยลดลักษณะของกรดไหลย้อนด้วย
7. ไม่สูบบุหรี่
การสูบบุหรี่สร้างปัญหาสุขภาพมาก และก็กรดไหลย้อนก็เป็นเลิศในปัญหาที่เกิดจากการสูบยาสูบ เนื่องจากว่าสารเคมีบางประเภทในยาสูบเพิ่มจังหวะในการเป็นกรดไหลย้อนได้ ด้วยกลไกดังต่อไปนี้
ลดการผลิตน้ำลาย: น้ำลายมีฤทธิ์เป็นด่างรวมทั้งช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะได้ เมื่อเรากลืนน้ำลายลงคอ น้ำลายจะชะล้างกรดในกระเพาะที่ไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดของกินให้กลับเข้าไปยังกระเพาะดังเดิม แต่การสูบบุหรี่จะลดการผลิตน้ำลายลง ทำให้เพิ่มจังหวะการเป็นกรดไหลย้อน
เพิ่มกรดในกระเพาะ: การสูบบุหรี่เพิ่มการสร้างกรดในกระเพาะอาหารได้ นอกเหนือจากนั้นยังบางทีอาจกระตุ้นให้เกลือน้ำดี (Bile salt) จากลำไส้มายัโลภระเพาะของกิน ทำให้กรดในกระเพาะอาหารก่ออันตรายได้มากขึ้น
ทำให้การทำงานของหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างห่วยลง: การสูบบุหรี่ทำให้หูรูดหลอดของกินส่วนล่างอ่อนแอรวมทั้งคลายตัวไม่ปกติ ธรรมดาหูรูดจะเป็นทางกั้นรอยต่อระหว่างหลอดอาหารและก็กระเพาะอาหาร แม้หูรูดหลอดของกินส่วนล่างปฏิบัติงานได้ไม่ดี หรือคลายตัวตอนที่ไม่เหมาะสม อาหารในกระเพาะอาหารจะล้นกลับไปในหลอดอาหารได้
การสูบยาสูบจะทำร้ายต่อหลอดอาหารโดยตรงมากกว่ากรดไหลย้อน
8. อย่าดื่มหนักเหลือเกิน
แอลกอฮอล์เพิ่มปริมาณการผลิตกรดในกระเพาะ แล้วก็ทำให้หูรูดหลอดของกินด้านล่างคลายตัว ถ้าปรารถนาดื่มแอลกอฮอล์บ้างสามารถเลือกแนวทางต่อไปนี้ได้
เลือกเบียร์ หรือไวน์จำพวกไม่มีแอลกอฮอล์
จำกัดการดื่มไว้ที่สุราผสมไม่เกินหนึ่งถึงสองแก้ว ไวน์ไม่เกินสิบหกออนซ์ และก็เบียร์ไม่เกินสามแก้ว
กินไวน์ขาวแทนไวน์แดง
เจือจางเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยน้ำ หรือน้ำโซดา
สังเกตว่า เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จำพวกใดที่ทำให้มีอาการกรดไหลย้อนและก็เลี่ยงให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำเป็น
หมายเหตุ: เมื่อทราบดีแล้วว่า แอลกอฮอล์มีโทษต่อโรคกรดไหลย้อนมากกว่าประโยชน์ ถ้าหากสามารถหลบหลีกได้ แนะนำให้เลี่ยง หรือดื่มให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้จะดีกว่า
9. อย่าสวมเสื้อผ้าที่แน่นเกินความจำเป็น
การแต่งกายด้วยเสื้อผ้า หรือเครื่องประดับที่รัดแน่นบริเวณท้อง เช่น เข็มขัด หรือสายรัดเอว บางทีอาจบีบกระเพาะให้ดันอาหารและกรดผ่านหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหารได้
10. อย่าเครียดเหลือเกิน
ความตึงเครียดทำให้กระเพาะอาหาร ลำไส้ รวมทั้งหลอดของกินทำงานลดน้อยลง แต่มีการหลั่งกรดเยอะขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ถ้าหากคุณมีพฤติกรรมที่สนับสนุนให้เป็นกรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น ดังเช่นว่า รับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ทานอาหารดึกดื่นๆกินเสร็จแล้วนอนในทันที หรือไม่มีเวลาบริหารร่างกาย ก็จะยิ่งทำให้ได้โอกาสเป็นโรคกรดไหลย้อน
ทางที่ดี คุณควรหากิจกรรมเครียดน้อยลงบ้าง ดังเช่นว่า นั่งสมาธิ บริหารร่างกาย อ่านหนังสือ หรือใดๆก็ตามที่ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และก็ลดความเคร่งเครียดได้ ก็จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงที่กระตุ้นให้เกิดโรคกรดไหลย้อนนั่นเอง
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอีกทั้ง 10 แนวทางแบบนี้ถ้านำไปปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ หมั่นพิจารณาอาการตัวเองเป็นประจำก็จะสามารถช่วยทำให้คุณห่างไกลจากโรคกรดไหลย้อน และก็ลดการกลับมาเป็นซ้ำของโรคได้อีกด้วย
แม้กระนั้นถ้าเกิดคุณมีลักษณะร้ายแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ชี้แนะให้พบหมอผู้ชำนาญด้านระบบทางเดินอาหารโดยตรงเพื่อตรวจประเมินร่างกายรวมทั้งรับการรักษาที่เหมาะสมจะยอดเยี่ยม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
jarscalcTags : jarscalc,jarscalc.com,http://jarscalc.com
