ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอนซีทรู,ชุดนอนแบบอื

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอนซีทรู,ชุดนอนแบบอื  (อ่าน 22 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kittipong99010
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15531


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2020, 05:32:42 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ชุดนอนเชิ้ตขาว เนื้อผ้าดี บราลูกไม้ ตัดเย็บดี ใส่นอนสบาย ชุดนอน,ชุดนอนแบบอื่นๆ อาทิ ชุดชั้นในลูกไม้ Polyester พร้อมส่ง ส่งไปรษณีย์ไทย
การสั่งซื้อสินค้า มี 3 ช่องทาง

2 สั่งซื้อทางหน้าเวปไซต์ โดย ติดต่อทาง email

==> กดสั่งซื้อที่ตระกร้าสินค้า พร้อมกรอกชื่อที่อยู่ และ email ในการติดต่อกลับ หรือ

==> ส่งรูปชุดที่ต้องการหรือรหัสสินค้า มาทาง email : igetsee2@gmail.com


 
 
วิธีสำหรับซัก ตาก รีด และรักษาเสื้อผ้าชนิดต่างๆมีวิธีการ

๑. การซักเสื้อผ้าไหม ส่วนมากนิยมส่งร้านรับซักผ้า เนื่องจากมีแนวทางการซักที่ยุ่งยาก และต้องประณีตบรรจงเป็นพิเศษ แต่ว่าถ้าจะซักเองควรจะซักด้วยมือ ห้ามใช้เครื่องซักผ้า เพราะเหตุว่าแรงเสียดสีของ เครื่องซักผ้าจะมีผลให้เส้นใยชำรุดทรุดโทรม โดยวิธีซักเสื้อผ้าไหมด้วยมือมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
๑) ใส่นํ้าใส่ลงในกะละมังพอท่วมผ้าที่จะซัก นำนํ้ายาซักแห้งเทใส่นํ้าในกะละมัง ใช้มือ แกว่งนํ้าจนกระทั่งนํ้ายาซักแห้งแตกฟอง
๒) นำผ้าไหมลงแช่ในนํ้าสักประเดี๋ยว ใช้มือกดผ้าให้เปียกและก็จมนํ้า ใช้มือขยี้เบาๆตรงที่สกปรก เป็นต้นว่า ปกเสื้อ ปลายแขนเสื้อ รวมทั้งส่วนอื่นๆขยี้จนกระทั่งคราบเปื้อนเหงื่อไคล ฝุ่นผง และก็สิ่งสกปรกออกจนถึงหมด ห้ามใช้แปรงถูผ้าไหมเด็ดขาดและผ้าไหมบางประเภทห้ามซักด้วยสารซักฟอก เพราะเหตุว่าจะทำลายความมันของเส้นไหม ปริมาณการใช้นํ้ายาซักแห้งให้ดูตามคำแนะนำบนฉลากสินค้า
๓) นำผ้าไหมที่ซักสะอาดแล้วขึ้นจากนํ้า ใช้มือบีบเบาๆให้นํ้าและก็นํ้ายาซักแห้งออกจนถึงหมด
๔) นำผ้าที่ยกขึ้นจากนํ้าแล้ว ไปล้างในนํ้าสะอาด ๒ ครั้ง จากนั้นแช่ในอ่างนํ้าที่ผสม
นํ้ายาปรับผ้านุ่มไว้ชั่วประเดี๋ยว จำนวนการใช้นํ้ายาปรับผ้านุ่มให้มองตามคำแนะนำบนฉลากสินค้า
๒. การตากผ้าไหม ทำเป็นดังนี้
๑) ยกผ้าไหมขึ้นจากนํ้ายาปรับผ้านุ่ม แล้วบีบเบาๆไล่นํ้าออก ห้ามบิดผ้าเพราะว่าจะทำให้ผ้าเป็นรอยยับ ผิดลักษณะ
๒) สลัดผ้าเบาๆคลายออกใส่ไม้ห้อย
๓) นำเสื้อผ้าใส่ไม้แขวน ไปห้อยกับราวตากผ้าในที่ร่ม ที่มีลมพัดผ่าน
๓. การรีดเสื้อผ้าไหม มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
๑) นำผ้าไหมที่ซักตากแห้งพอหมาดๆมาประพรมนํ้าหรือฉีดพ่นนํ้ายารีดผ้าเรียบให้ทั่ว ม้วนพับเก็บเอาไว้ในช่องสำหรับเพื่อแช่แข็งของตู้แช่เย็น นานประมาณ ๑-๒ ชั่วโมง เพื่อนํ้าหรือนํ้ายาที่ฉีดไว้ กระจายขาดทุนผ้าจนทั่วดี ไม่ควรนำไปรีดข้างหลังพรมนํ้าทันทีจะทำให้ผ้าด่างและไม่เรียบ
๒) นำผ้าไหมที่ม้วนเก็บเอาไว้ภายในตู้แช่เย็นมารีด โดยใช้ผ้าฝ้ายขนาดผ้าที่เอาไว้สำหรับเช็ดหน้าวางทับบน ผ้าไหม แล้วจึงใช้เตารีด รีดบนผ้าฝ้าย หากไม่วางผ้าฝ้ายทับบนผ้าไหมก่อน ความร้อนจากเตารีด จะทำให้ผ้าไหมสีไม่สดใส เป็นรอยเหลืองรวมทั้งเก่าเร็ว ยิ่งไปกว่านี้ถ้าเกิดไม่รีดบนผ้าฝ้ายให้รีดด้วย อุณหภูมิตํ่า หรือใช้เตารีดไอนํ้า และไม่ควรรีดผ้าไหมช่วงเวลาที่ผ้าแห้ง เพราะว่าจะมีผลให้ผ้าแข็งกระด้างวาวลื่น
๔. การเก็บรักษาผ้าไหม ทำได้ดังต่อไปนี้
๑) ภายหลังจากรีดผ้าไหมเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ควรแขวนไว้กับไม้แขวนเสื้อ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปแขวน เก็บเอาไว้ภายในตู้สำหรับใส่เสื้อผ้า
๒) หากเป็นเสื้อผ้าไหมที่ใช้แล้ว แล้วก็ยังไม่เลอะเทอะ ควรห้อยกับไม้ห้อยแล้วก็นำไปผึ่งไว้ ในที่ร่ม ที่มีอากาศถ่ายเทดีหากเสื้อผ้าไหมเลอะเทอะนิดหน่อย ควรจะทำความสะอาดเฉพาะจุดนั้นทันที ใส่ไม้แขวนนำไปผึ่งให้แห้ง รีดให้เรียบก่อนนำไปเก็บ

เสื้อผ้าฝ้าย

๑. วิธีซักเสื้อผ้าฝ้ายเสื้อผ้าฝ้ายซักได้ด้วยมือหรือเครื่องซักผ้า แต่แนวทางในการซักด้วยมือจะถนอมเนื้อผ้ามากยิ่งกว่า นอกนั้นแนวทางซักผ้าอย่างถูกทางจะช่วยปกป้องราขึ้นเสื้อผ้าได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
๑) แช่ผ้าฝ้ายในนํ้าเกลือ หรือนํ้าส้มสายชู ๑ คืน แล้วนำขึ้นบีบนํ้าออก
๒) ใส่สารซักฟอก ๑ ช้อน ต่อนํ้า ๑ กะละมัง ใช้มือแกว่งจนถึงกำเนิดฟอง นำผ้าลงซักขยี้เบาๆยกขึ้นบีบนํ้าออกเบาๆนำไปล้างนํ้าสะอาด ๒ ครั้ง
๓) แช่ผ้าฝ้ายในอ่างนํ้าที่ผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มไว้สักครู่ยกขึ้นบีบนํ้าออก ถ้าเป็นผ้าฝ้ายสีขาวให้ซักในนํ้าสบู่หรือนํ้ายาฟอกขาว แม้กระนั้นควรจะเป็นนํ้ายาฟอกขาวประเภทอ่อน ล้างด้วยนํ้าสะอาด จะปั่นให้แห้งด้วยเครื่องซักผ้าก็ได้
๒. การตากเสื้อผ้าฝ้าย ทำได้โดยนำเสื้อผ้าฝ้ายที่ซักเสร็จแล้ว ผึ่งแล้วก็สะบัดให้คลี่ออก ใส่ไม้แขวนตากแดดจัดได้แต่ว่าไม่ควรนานเกินความจำเป็น เพราะเหตุว่าจะทำให้เส้นใยหย่อนคุณภาพและผ้าสีจางถ้าเกิดเป็นผ้าสีนําไปแขวนในที่ร่ม มีลมพัดผ่าน ใช้มือดึงผ้าให้ตึง อย่าให้มีรอยยับ จะช่วยให้รีดง่าย
๓. การรีดผ้าฝ้าย ทำได้โดยนำผ้าที่ตากไว้พอหมาดๆนำไปรีด ไม่ต้องประพรมนํ้า หรือจะใช้นํ้ายารีดผ้าเรียบก็ได้ รวมทั้งรีดด้วยอุณหภูมิสูง ผ้าก็เลยจะเรียบ
๔. การเก็บรักษาผ้าฝ้าย ผ้าฝ้ายจะขึ้นราได้ง่ายเมื่ออยู่ในที่อับชื้น การรักษาเสื้อผ้าฝ้าย ภายหลังจากซักแล้ว ควรใส่ไม้ห้อยแขวนเอาไว้ภายในตู้ที่มีไว้เก็บเสื้อผ้า ซึ่งวางไว้ในที่ที่มีอากาศระบายดี แห้งแล้วก็เย็นไม่สมควรแขวนเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้าให้แน่นเท่าไรนัก น่าจะแขวนหลวมๆทั้งก่อนเก็บไว้ในตู้ควรจะให้เสื้อผ้าแห้งให้สนิทก่อน

เสื้อผ้าลินิน


๑. การซักเสื้อผ้าลินิน ซักด้วยมือ เพราะไม่ทำให้ผ้ายับ รีดง่าย รวมทั้งวิธีซักผ้าลินินสีขาว ควรจะซักในนํ้าอุ่น ผ้าลินินสีให้ซักในนํ้าเย็น และก็ใช้สารซักฟอกที่มีส่วนผสมของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีเพื่อช่วยจัดการกับรอยคราบเปรอะเปื้อน
การซักผ้าลินินด้วยมือมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
๑) นำผ้าลินินแช่นํ้าสักครู่เอาขึ้นบีบเบาๆนำผ้าไปแช่ในนํ้าสารซักฟอกที่ตระเตรียมไว้แช่ไว้สักครู่เพื่อสารซักฟอกจัดการสิ่งสกปรก แล้วหลังจากนั้นใช้มือขยี้ให้สิ่งสกปรกออกให้หมด แล้วเอาขึ้น จากนํ้าสารซักฟอก บีบนํ้าออกเบาๆไม่สมควรบิดผ้าแรงๆเนื่องจากจะทำให้เกิดรอยยับ นอกเหนือจากนั้นยังคงใช้สารฟอกขาวคลอรีนได้
๒) นำผ้าไปล้างในนํ้าสะอาด ๒-๓ ครั้งจนถึงหมดสารซักฟอก นำไปแช่ในอ่างนํ้าผสม นํ้ายาปรับผ้านุ่มสักประเดี๋ยวยกขึ้นไล่นํ้าออก
๒. การตากเสื้อผ้าลินิน ทำเป็นโดยนำผ้าลินินที่ซักเสร็จแล้วใส่ไม้ห้อย ผึ่งแดดจัด แม้กระนั้นไม่นานเกินไป แล้วตากลมไว้เพียงพอหมาดก็เลยนำไปรีด
๓. การรีดเสื้อผ้าลินิน ทำเป็นโดยนำเสื้อผ้าลินินที่ห่อไว้ หรือผึ่งลมพอเพียงหมาดๆไปรีด โดยใช้ความร้อนสูง รวมทั้งให้รีดภายใน เพื่อด้านนอกวาว
๔. การรักษาเสื้อผ้าลินิน หลังจากรีดเสร็จแล้วให้แขวนกับไม้ห้อย แล้วค่อยนำไปเก็บไว้ภายในตู้ที่มีไว้สำหรับใส่เสื้อผ้า

เสื้อผ้าขนสัตว์


เสื้อผ้าขนสัตว์ ดูแลยาก เพราะเหตุว่าเมื่อถูกความร้อนและก็เปียกชื้น ผู้ที่ทำขึ้นมาจากขนสัตว์จะเชื่อมชิดกันเป็นแผ่น และหดตัวทุกหนเมื่อแฉะ จึงต้องควรส่งร้านซักอบรีดที่มีความชำนาญสำหรับในการซักรีดจะดีมากยิ่งกว่า
สำหรับวิธีการดูแลรักษาเสื้อผ้าขนสัตว์อย่างง่ายที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง มีดังนี้
๑. ใช้แปรงนุ่มๆแปรงฝุ่นละอองออกทุกคราวข้างหลังการใช้ ถ้าถูกนํ้าให้สะบัดออก อย่าแปรงขณะผ้าแฉะ
๒. แขวนเสื้อผ้าขนสัตว์ในที่อากาศโปร่ง แห้ง และก็เย็น หรือใส่ลงในถุงพลาสติกแล้วห้อยในตู้ที่มีไว้สำหรับใส่เสื้อผ้า
๓. ห้ามใช้เสื้อผ้าชุดเดียวติดต่อกันเป็นเวลานานนับเป็นเวลาหลายวัน เพราะเมื่อขนสัตว์มีการเสียดสีหรือเช็ดไปมานานๆจะแข็งวาว บางจำพวกขนจะหลุด

เสื้อผ้าใยสังเคราะห์


๑. วิธีซักเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ สามารถซักได้ด้วยมือและเครื่องซักผ้า แต่ซักมือจะถนอมเนื้อผ้ามากยิ่งกว่า โดยวิธีซักเสื้อผ้าใย สังเคราะห์มีวิธีการ ดังต่อไปนี้
๑) ควรจะแยกผ้าสี และก็ผ้าขาวออกจากกัน ไม่สมควรซักรวมกัน เพื่อป้องกันสีจาง
๒) ซักในนํ้าธรรมดาหรือน้ำอุ่น ด้วยสารซักฟอกหรือสารซักฟอกจำพวกอ่อนอย่างเบามือ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด ๒-๓ ครั้งแล้วบีบให้น้ำแห้ง
๓) ถ้ามีความจำเป็นต้องฟอกขาว ควรจะใช้สารฟอกขาวอย่างอ่อน
๒. การตากเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ตากแดดได้แต่ว่าจะต้องกลับเอาด้านในออก เพื่อเป็นการป้องกันและยังเป็นการไม่ให้สีซีดจาง และไม่ควรตากนาน เพียงพอหมาดเก็บ เข้าที่ร่ม
๓. การรีดเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยสังเคราะห์เนื้อผ้าไม่ยับ ก็เลยไม่จำเป็นที่จะต้องรีดแต่ถ้าเกิดจะรีด ควรที่จะใช้อุณหภูมิตํ่า
๔. การเก็บเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ควรแขวนด้วยไม้แขวนแล้วเก็บไว้ในตู้สำหรับเก็บเสื้อผ้าเสื้อผ้าใยครึ่งหนึ่งสังเคราะห์

เสื้อผ้าใยครึ่งสังเคราะห์


๑. การซักเสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์ เสื้อผ้าใยครึ่งสังเคราะห์เมื่อถูกนํ้าจะลดความเหนียวรวมทั้งความทนทานไม่ทนกรด หากเลอะยางผลไม้หรือนํ้าผลไม้จำต้องซักทันที ควรซักแห้งหรือบางทีอาจซักนํ้าได้แม้กระนั้นผ้าจะยับมากมาย เสียเวลาซักนาน อย่าแช่นํ้าหรือทิ้งเอาไว้ภายในนํ้านาน และควรใช้สารซักฟอกจำพวกอ่อน ขณะซักไม่สมควรขยี้หรือบิดมากมาย แล้วล้างนํ้าสะอาด ๒-๓ ครั้ง แล้วบีบนํ้าให้หมาด
๒. การตากเสื้อผ้าใยกึ่งสังเคราะห์ ควรจะห้อยตากในที่ร่ม
๓. การรีดเสื้อผ้าใยครึ่งหนึ่งสังเคราะห์ ควรจะรีดด้วยอุณหภูมิต่ำเนื่องจากว่าไม่ทนไฟ ถ้าความร้อนสูงจะละลาย
๔. การเก็บเสื้อผ้าใยสังเคราะห์ ควรจะแขวนด้วยไม้ห้อยแล้วเก็บในตู้เสื้อผ้า นอกจากเสื้อผ้าใยธรรมชาติ ใยสังเคราะห์ และก็ใยครึ่งหนึ่งสังเคราะห์แล้ว ยังมีเสื้อผ้าไหมพรม และก็เสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วยเลื่อมและลูกปัด ซึ่งต้องมีกรรมวิธีการดูแลละเอียดลออ ดังนี้

เสื้อผ้าไหมพรม


เสื้อผ้าไหมพรม เป็นผ้าที่ถักทอจากเส้นไหมพรม มีลักษณะนุ่ม ไม่ยับ ยืดหยุ่นได้ดิบได้ดี ใส่อบอุ่น คุ้มครองความหนาวก้าวหน้า
๑. แนวทางซักเสื้อผ้าไหมพรมทำได้โดยซักมือหรือซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ทั้งคู่วิธีควรที่จะใช้นํ้ายาซักแห้งซัก ขยำเบาๆเมื่อสะอาด หมดสิ่งสกปรก นำไปล้างนํ้าให้สะอาด ๒-๓ นํ้า นำไปแช่นํ้ายาปรับผ้านุ่มสักประเดี๋ยว ไม่ควรนำเสื้อผ้าไหมพรมต่างสีซักรวมกันสีจะตกได้เสื้อผ้าไหมพรมที่สกปรกนํ้ามัน มีแนวทางซักโดยใช้นํ้าอุ่นๆผสมนํ้าสบู่หรือผงซักผ้า ตีจนถึงขึ้นฟอง นำเสื้อผ้าไหมพรมที่มีรอยเปื้อนแช่ลงไปประมาณ ๓๐ นาทีแล้วขยำเบาๆจนสิ่งสกปรก นํ้ามันหลุดออกหมด เอาไปล้างในนํ้าอุ่น ๒-๓ ครั้ง จนสะอาด นำไปตาก ภายหลังซักเสื้อผ้าไหมพรม ปูเสื้อไหมพรมลงบนพื้นโต๊ะ นำผ้าขนหนูแห้งๆปูทาบกับตัวเสื้อ แล้วม้วนไปพร้อมเพียงกัน ผ้าขนหนูจะซับนํ้าในเสื้อไหมพรมให้แห้งโดยไม่ต้องบิดเนื่องจากถ้าหากบิดจะก่อให้เส้นไหมพรมยับแล้วก็ยืด
๒. การตากเสื้อผ้าไหมพรม ทำเป็นโดยนำเสื้อผ้าไหมพรมที่ซึมซับนํ้าจนถึงแห้งแล้ว วางราบบนแผ่นบอร์ดยาว ผึ่งจนแห้งในที่ร่ม ไม่สมควรนำเสื้อไหมพรมตากบนราวตากผ้า เพราะผ้าไหมพรมเป็นผ้าที่มีนํ้าหนักแล้วก็ทิ้งตัว จะมีผลให้ยืดย้วย ผิดรูปร่าง
๓. การรักษาเสื้อผ้าไหมพรม ทำได้โดยพับเก็บไว้ในตู้เก็บเสื้อผ้า ไม่สมควรแขวนเนื่องจากจะก่อให้ยืดย้วย เสียรูปร่าง

เสื้อผ้าที่ปักเลื่อมรวมทั้งลูกปัด


เสื้อผ้าที่ปักเลื่อมรวมทั้งลูกปัด ส่วนใหญ่จะตัดเย็บโดยใช้ผ้าไหม ผ้าป่านหรือผ้าลินิน ซึ่งซักรีดได้ยาก และก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เลื่อมหรือลูกปัดหลุดอีกด้วย ก็เลยจำต้องดูแลอย่างถูกวิธีดังต่อไปนี้
๑. แนวทางในการซักเสื้อผ้าที่ปักเลื่อมและก็ลูกปัด ทำเป็นโดยก่อนซักให้ตรวจหาจุดเลอะเทอะก่อน ก็เลยนำไปแช่ชั่วประเดี๋ยว เอาขึ้นบีบนํ้าออกโดยไม่บิด ต่อจากนั้นนำไปลงซักในกะละมังที่มีนํ้าแฟ้บที่ตีจนขึ้นฟอง ขยี้ส่วนเลอะเทอะออกให้หมด หากถูกจุดสกปรกเป็นที่ปักเลื่อมหรือลูกปัด ให้ขยี้เบาๆแล้ว ยกขึ้น นำเสื้อผ้าลงแช่ในอ่างนํ้าที่ผสมนํ้ายาซักแห้งสักครู่ แล้วก็ขยี้ตรงที่ไม่มีลูกปัดล้างนํ้า ๑-๒ ครั้ง เอาขึ้นไล่นํ้าออก ห้ามบิด แล้วนำเสื้อผ้าลงแช่ลงในอ่างนํ้าผสมนํ้ายาปรับผ้านุ่มสักประเดี๋ยว ยกขึ้นไล่นํ้าออกโดยไม่บิด
๒. การตากเสื้อผ้าปักเลื่อมและก็ลูกปัด ทำได้โดยนำไปใส่ไม้ห้อย ผึ่งในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทดี อย่านำไปตากแดด เนื่องจากว่าจะมีผลให้ลูกปัดบิดและแตกหักง่าย
๓. การรีดเสื้อผ้าปักเลื่อมและก็ลูกปัด ทำได้ดังนี้
๑) ฉีดพ่นนํ้าให้ทั่วเพียงพอหมาดๆม้วนพักไว้ชั่วประเดี๋ยว นำไปฉีดนํ้ายาเพื่อให้ผ้าเรียบ ม้วนให้นํ้ายารีดผ้าเรียบดูดซึมจนถึงทั่วจึงนำไปรีด
๒) การรีดผ้าปักเลื่อมแล้วก็ลูกปัด ให้กลับหัวในออกนอก วางลงบนโต๊ะรีด ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินขนาดเท่าผ้าที่มีไว้สำหรับเช็ดหน้าชุบนํ้าจนกระทั่งทั่วพอหมาด วางทาบตรงปักเลื่อมแล้วก็ลูกปัดรีดเบาๆจนกระทั่งเสื้อผ้าปักเลื่อมลูกปัดแห้ง ภายหลังให้กลับหัวใช้ปลายเตารีดค่อยๆรีดผ้าที่อยู่ใกล้กับเลื่อมรวมทั้งลูกปัดเพื่อเรียบเพิ่มขึ้น ส่วนตรงอื่นๆก็ใช้ผ้าสาลูหรือผ้าลินินชุบนํ้าพอหมาดวางทับแล้วก็รีดกระทั่งทั่วหมดทั้งตัว โดยรีดตรงปกและตัวเสื้อ สำหรับแขนเสื้อรีดเป็นส่วนในที่สุด
 
 
-------------------------------------------------------------------------------------------
วิธีสำหรับในการดูแลเสื้อยืดสกรีนแล้วก็ เสื้อโปโล


เสื้อโปโล จะได้รับผลพวงในแบบที่แตกต่างขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพเนื้อผ้าของเสื้อผ้าของคุณไม่ว่าจะคือเรื่องของช่วงเวลาของลายปริ๊นบนเสื้อและก็ระยะเวลาของเสื้อกับการตอบสนองต่อน้ำรวมทั้งสบู่ ถ้าประสิทธิภาพของอุปกรณ์ยิ่งดี ช่วงเวลาในการใช้ก็จะยิ่งแข็งแรง และก็นานมากขึ้นจ้ะ

1. พลิกด้านเสื้อของคุณก่อนจะโยนมันเข้าไปในเครื่องซักผ้าแม้กระนั้นทริคนี้ไม่ได้ใช้ได้เพียงแค่กับเสื้อยืดสกรีน, เสื้อโปโล หรือยีนส์

สามารถใช้ได้กับทุกผ้าเลยค่ะ คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากการกลับด้านเส้อผ้าของคุณก่อนเอามาซักจะคุ้มครองป้องกันให้สีจากเสื้อของคุณจางไว

2. แยกผ้าที่เหมือนๆกันออกมาซักครั้งละก้อนคุณอาจกำลังคิดอยู่สินะว่าคุณรู้อยู่แล้วล่ะหัวข้อนั้น คือแบบคุณอาจจะคิดใช่ไหมว่าคนเรานี่จะต้องเป็นคนชนิดไหนกันที่จะเอาผ้าทุกๆสีทุกๆแบบมาซักรวมกันนะ? ใช่ไหมล่ะ? และเราก็อยากจะบอกกับคุณอีกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องสีหรอกนะ มันคือเรื่องของเนื้อผ้า คุณควรที่จะแยกผ้าที่มีเนื้อผ้าคล้ายกันแล้วซักมันด้วยกัน ผ้าเดนิมแล้วก็อื่นๆที่มีซิปกระดุมควรที่จะจับแยกกับผ้าอื่นๆอยางได้แก่ เสื้อยืด หรือ เสื้อโปโล ออกมาจากกันเลยจ้ะ เพราะว่าถ้าเกิดผ้าที่แข็งกว่ามันเสียดสีกับผ้าที่มีเนื้อบางกว่า นุ่มกว่า มันจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการฉีกขาดได้เลย

3. ซักผ้ากับน้ำเย็นหากเอ๋ยถึงหัวข้อการซักผ้า น้ำเย็นมักจะเป็นตัวเลือกที่ดีเสมอส่วนน้ำอุ่นน่ะไม่สมควรเป็นตัวเลือกแต่เดิมเลยล่ะ ลองทศเอาไว้ภายในดวงใจนะคะเนื่องจากเราจะกลับมากล่าวเรื่องนี้กันอีกหลังจากนี้ นอกเสียจากว่าเสื้อยืด หรือ เสื้อโปโลของคุณไปโดนดินโดนโคลนจนถึงเปรอะเปื้อนมามันก็ไม่มีความจำเป็นเลยที่คุณควรต้องใช้น้ำร้อนซักเสื้อผ้าของคุณ ด้วยเหตุว่าน้ำเย็นก็ทำหน้าที่เจริญพอที่จะทำความสะอาดเสื้อของคุณ ไม่ใช่แค่มันปกป้องกลั่นน้ำหมึกออกจากเสื้อของคุณนะ แต่ว่าเป็นการลดการใช้ไฟฟ้าด้วยอีกต่างหาก

4. พากเพียรอย่าย้อมสีเสื้อไม่ใช่แค่การย้อมสี หรือการกัดสีนะ แม้กระนั้นการใช้ผงซักฟอกแรงๆอย่างน้ำยาปรับผ้านุ่มเองก็สามารถทำให้ความแน่น ความคงทนของ เสื้อเสื่อมสภาพลง ตรงข้าม ทดลองเพียรพยายามเลือกใช้สบู่ที่อ่อนลงที่จะสามารถดูแลเสื้อผ้าชองคุณได้เสียดีกว่าค่ะ

5. หลีกเลี่ยงการอบผ้า สำคัญสุดๆเลย! เครื่องอบผ้าก็เยี่ยมดีอ่ะเพราะเหตุว่าประหยัดเวลาของพวกเรา แม้กระนั้นมันถูกออกแบบมาให้ทำลายผ้าพวกเราสุดๆเลยรู้ไหม นึกออกไหมค่ะที่เราบอกคุณที่ผ่านมาในเรื่องของความร้อนกับผ้า? แนวคิดนี้ถูกใช้ในข้อนี้แบบเดียวกันเลยนะ ความร้อนจะมีผลให้ผ้าหด แล้วก็ทำให้รอยปริ๊น หรือรอบสรีนเป็นรอยแตก เก็บเครื่องอบผ้าไว้ใช้กับผ้าเช็ดตัว หรือผ้าที่มีไว้สำหรับปูที่นอนดีมากยิ่งกว่าค่ะ แล้วตากผ้าในแบบที่เราทำกันมาแสนจะนานมากๆดังเดิม แล้วก็อย่าลืมอุตสาหะเลี่ยงการปั่นแห้ง แนวความคิดคล้ายๆกันเลยจ้ะ

6. ปล่อยผ้าให้แห้งในที่ร่ม แขวนผ้าในที่ร่มที่แดดไม่อาจจะเข้าถึงได้โดยตรงสิขา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงสว่างที่มาจากพระอาทิตย์) จะเป็นอันตรายต่อเสื้อผ้าแล้วก็สีของเสื้อผ้าคุณแน่ๆ แม้กระนั้นคุณอาจจะสงสัยสินะ เพราะว่าคุณก็สวมเสื้อยืดสกรีนหรือ เสื้อโปโล ของคุณออกไปไหนมาไหนข้างนอกตลอด ซึ่งก็มองไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนไปจากปกติเลยนี่? เรื่องนั้นก็จริงจ้ะ แต่ถ้าแม้ว่าคุณจะออกไปภายนอก คุณก็มิได้ใช้เวลาภายใต้แดดติดต่อกันตรงเวลาหลายชั่วโมงอยู่ดี

7. หลบหลีกการรีดผ้า ความร้อนเป็นของต้องห้าม! แต่ว่าถ้าหากว่าคุณจำเป็นจะต้องจริงๆที่จะจะต้องรีดเสื้อยืดสกรีน หรือ เสื้อโปโล ของคุณ เราก็อยากจะแนะนำให้คุณใช้ความร้อนในระดับที่ต่ำที่สุดของเตารีด รีดเสื้อผ้าของคุณในแบบกลับด้าน

เครดิต : [url]http://www.igetsee2.com/[/url]

Tags : ชุดนอนไม่ได้นอน,ชุดนอนอื่นๆ ,ชุดหนัง



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ