Advertisement
เว็บอ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปล เว็บนิยายจีน นิยายประเทศญี่ปุ่น นิยายรัก นิยายY แฟนตาซี จำนวนไม่ใช่น้อย | ประพันธ์บุ๊ค
เพื่อนฝูง = เว็บนิยาย ‘เพื่อนกินหาง่ายเพื่อนตายหายาก’ สำนวนนี้ยังคงใช้ได้อยู่ตลอดเวลา แต่ว่าการมีเพื่อนดีๆสักคนนั้นคงเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย...
Kawebook ขอเสนอแนะสหายที่ชื่อว่า
เว็บนิยาย ให้ทุกคนได้รู้จักกัน อ่าน
นิยายนั้นสามารถทำให้เราบันเทิงใจ และมีความสุขเมื่อได้เจอ (อ่าน) หรือในบางครั้งก็ทำให้เราได้เจอกับหลากหลายอารมณ์ ไม่ว่าจะ สุข เสียใจ หงอยเหงา รัก ขำขัน ร้องไห้ หรืออาจจะหัวเราะทั้งน้ำตา บางตอนก็ทำให้อินจนกินไม่ลงก็เป็นได้! อ่านนิยาย อยู่กับเราเสมอ ไม่ว่ายามทุกข์ หรือ ยามสุข เรียกได้ตลอดเวลา แม้ยามที่พวกเรานอนไม่หลับ นิยายก็ยังช่วยกล่อมให้หลับได้ หรือยามที่เราเหงาหงอยต้องการใครสักคน เพียงแต่เปิดอ่านนิยายความเดียวดายที่มีก็จะเลือนรางไปในทันทีทันใด! แล้วข้อดีอีกอย่างของเพื่อนพ้องที่ชื่อว่า อ่านนิยาย ก็คือ ไปไหนไปกัน ตะลุยไปได้ทุกครั้งทุกเวลา ยิ่งขณะนี้ยิ่งสบายเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุว่าเพียงแค่พวกเรามีสมาร์ทโฟนคู่ใจเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้าไป เพียงเท่านี้พวกเราจะได้เจอ เว็บนิยายเพื่อนรักของเราแล้ว
นิยายเป็นยังไง
อ่านนิยายเป็น นิยาย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี พุทธศักราช 2525 บอกคำจำกัดความของอ่านนิยายไว้ว่า หมายคือเรื่องที่เล่าต่อกันมา ซึ่งก็คือความไม่เที่ยงหรือไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งผอง มีการตกแต่งเสริมต่อบางตอนเรื่องราวนั้นจะต่างไปจากชีวิตจริง อย่างเช่น กำเนิดเป็น ลูกสัตว์แล้วมาใช้เวทย์มนต์เวทมนตร์คาถาให้เปลี่ยนเป็นมนุษย์ได้ในภายหลัง เป็นต้น
จากความหมายของนิทาน ตำนาน นิยาย ดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว จะมีความคิดเห็นว่ามีความเหมือนกัน กระทั่งบางทีแยกกันไม่ออกแล้วก็มีนิยาย ตำนาน นิทานพื้นบ้านอยู่มากไม่น้อยเลยทีเดียว ในขณะนี้พวกเราใช้คำว่านิยายเพื่อเรียกเรื่องราวที่มีคนแต่งขึ้น บางครั้งก็อาจจะอิงหลักความจริงหรือไม่ก็ตาม อ่านนิยายมีหลากหลายประเภท ดังเช่น
1. นิยายรัก ( Romance fiction ) เป็นอ่านนิยายที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเป็นศูนย์กลางของเรื่อง จะย้ำความรู้สึกของผู้แสดงเป็นสำคัญ เว็บนิยายแนวนี้เป็นที่นิยมมากในตลาดและก็พลอตเกี่ยวกับความรักนี้ก็เกือบแทรกเข้าไปในอ่านนิยายทุกหมวดหมู่
2. นิยายลึกลับ ( Mystery fiction ) จะเน้นย้ำการสอบสวนซักถาม มีการคลายปมเป็นหลัก
3. นวนิยายสยองขวัญ (Horror fiction) เป็น
อ่านนิยายเกี่ยวกับตัวประหลาด ปีศาจ สัตว์ร้าย ที่เพียงพอเวลานักอ่านได้อ่านแล้ว จะเกิดความสยองขวัญ รังเกียจในความน่าขนลุก
4. นวนิยายวิทยาศาสตร์ ( Sciences fiction ) เป็นการนำวิชาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาเป็นศูนย์กลางสำหรับเพื่อการปั้นเรื่อง ได้แก่การทำทดลองศึกษาค้นคว้า การโคลนนิ่งมนุษย์ นิยายแนวนี้จำต้องมีความรู้ความสามารถในเรื่อง นั้นๆถึงจะสามารถแต่งได้ คนเขียนจำเป็นต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างดี
5. นวนิยายอัศจรรย์ ( Fantasy fiction) หรือบางคนบางทีอาจจะเรียกว่านิยายแนวแฟนตาซี จะมีการใช้เทพต่างๆมาใช้ในการแต่งเรื่อง รวมถึงเรื่องที่เกิดความเชื่อถือ อภินิหาร ตำนวน เรื่องราวที่เหนือธรรมชาติ นิยายแนวนี้มักจะมีการผสมผสานระกว่างความอัศจรรย์กับวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน จนถึงแปลงเป็นนิยายจำพวก sciences fantasy ขึ้นมา
6. นวนิยายแนวกามารมณ์ ( Erotica fiction) เป็นการอ่านนิยายที่เน้นอารมณ์แล้วก็ความรู้สึก ซึบดูดซับไปกับการบรรยายที่เป็นธรรมชาติ รวมทั้งเขียนถึงฉากกามารมณ์มากมายเป็นพิเศษในเรื่อง
7. นวนิยายที่สะท้อนปัญหาสังคม เป็นการอ่านนิยายที่ย้ำการจัดการปัญหาของสังคม แทรกสอดคติธรรมเข้ามา แสดงความคิดเห็นของตัวละครลง ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกทางแก้ อยู่ที่ว่าผู้เขียนอาจจะใส่ทางแก้ไขของปัญหาลงไปหรือเปล่า
นวนิยาย” กับคำว่า “นิยาย” ต่างกันอย่างไร
หรืออาจเกิดขึ้นเนื่องจากปรารถนาตัดคำให้สั้นขึ้น เพื่อสะดวกในการเรียกอย่างงั้นหรือ…ที่จริงคำว่า“นิยาย” กับ”นิยาย”นั้น มีความไม่เหมือนกันในบางรายละเอียด แม้กระนั้นก็ยังมีความเกี่ยวพันกันอยู่ คำว่า”นิยาย” นั้นจะซึ่งก็คือ เรื่องที่แต่งขึ้นจากเรื่องจริงหรือจินตนาการของนักเขียน โดยมีรายละเอียดและก็การเดินเรื่องที่สลับซับซ้อน เข้าถึงผู้แสดงแต่ละตัวได้อย่างดี ส่วนคำว่า “ นิยาย” นั้น จะมีรายละเอียดและก็การดำเนินเรื่องที่ตรงไป ตรงมา ไม่ซับซ้อนซักเท่าไหร่ ย้ำการเล่าเรื่องรวมทั้งการคุยกันโต้ตอบเป็นสำคัญ เนื้อเรื่องจะวนเวียนอยู่กับเรื่องของความรัก เรื่องผี หรือบู๊ผลาญ ส่วนหน้าปกก็มักนิยมนำรูปของศิลปินวัยรุ่นมาเป็นจุดเรียกร้องความพอใจของผู้ซื้อ
เหตุเพราะ”นวนิยาย” กับ”นิยาย” มีความคล้ายและก็เกี่ยวเนื่องกันอยู่ เพราะว่าจุดประสงค์โดยรวมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนวนิยายหรือนิยายของผู้เขียนทุกคนต่างก็อยากได้ที่จะเสนอผลงานของตนเพื่อป้อนตลาด และคิดถึงความอยากของผู้บริโภค โดยเหตุนี้รายละเอียดที่ปรากฏในนิยาย หรือนิยาย อีกทั้งจึงหนีไม่พ้นที่จะจำต้องเอ๋ยถึง เรื่องราวความรัก แล้วก็ประเด็นต่างๆที่เกี่ยวโยงแล้วก็ สอดคล้องกับสภาพทางด้านสังคมและก็แบบการดำนงชีพของคนในสังคมที่เป็นอยู่ในแต่ละยุคนั้นๆ แล้วก็ถ้าหากจะพินิจพิเคราะห์ในแก่นของเรื่องแล้วก็จะพบเรื่องราวของการต่อสู้ ผสมด้วยความรักที่ยังมีการชั้นเชิง ทะเลาะกันระหว่างตัวละครที่เป็นตัวเอกในเรื่อง ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้พิจารณาได้ว่านวนิยาย ที่ออกมาในแต่ละยุคสมัยจะมีความซ้ำกัน และวนเวียนไปมา โดยเหตุนี้นวนิยายจึงมีลักษณะที่เช่นเดียวกับ “การนำยเรืออยู่ในอ่าง” ลักษณะเช่นนี้เองที่ทำให้คำว่านวนิคุณยาย หรือนิยาย น้ำเสียเกิดขึ้น ดังเช่นในแนวความคิดของ ยกศักดิ์ เจริญกุลการซื้อขาย ที่ได้เสนอความคิดเห็นผ่านบทความที่ชื่อ “ทศวรรษหน้าของนวนิยายไทย” (แมกกาซีน “สารคดี” ฉบับที่ 142 ปีที่ 12 ธ.ค. 2539 )
ยกศักดาได้กล่าวไว้ว่า “การที่กลุ่มเว็บนิยาย หรืออ่านนิยายในแนวโรมานซ์เป็นที่นิยมก็เนื่องจากการที่นักอ่านมีความผูกพันกับผู้เขียนเป็นรายคน หรือชอบใจอ่านนิยายแนวนั้นเป็นการส่วนตัว จึงทำให้ผู้เขียนจำต้องสร้างเอกลักษณ์อย่างแจ่มแจ้ง จึงทำให้นิยายจำเป็นต้องอยู่ในกรอบของตนเอง ดังนั้นการที่จะเรียกร้องให้นวนิยายยอดฮิตเลิกประพฤติเป็นนิยายน้ำเสีย นั้น ถือได้ว่าเป็นการอ้อนวอนในสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย เนื่องจากหัวใจของนวนิยายยอดฮิตอยู่ที่ความเป็นน้ำเน่า ของนิยายจำพวกนี้ ตรงประเด็นนี้เองที่ผู้เขียนมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกับคำกล่าวของ ชูศักดิ์ในข้างต้น ดังนี้
ประการที่1. ในตอนนี
อ่านนิยาย[/url]ที่แต่งขึ้นนั้นจะมีเนื้อหาที่เกี่ยวโยงกับชีวิตของมนุษย์ในสังคมเพราะฉะนั้นผู้เขียนก็เลยได้นำเนื้อหา เรื่องราวต่างๆจากสภาพแวดล้อมรอบตัวมาเป็นองค์ประกอบในงานนิพนธ์ของตนเอง แต่ว่าเรื่องราวก็ยังหลีกลี้ไม่พ้นจากการที่พระเอกรักนางเอกฝ่ายเดียว หรือเป็นเรื่องที่ความรัก จะต้องถูกกัดกัน แต่ท้ายที่สุดก็ลงเอยกันด้วยดี หรือควรมีการแย่งความรักกันจนเป็นเรื่องอลหม่าน อาทิเช่น เว็บนิยาย เรื่อง รอยมาร ของพัดชา หรือปัญหา ของ วณ.รวบรวมมารค เป็นต้น โดยเหตุนั้นนวนิยายในกลุ่มนี้จึงเป็นที่ชอบใจ ของกรุ๊ปคนอ่านเป็นจำนวนมาก และก็เมื่อเอามาทำเป็นบทละครทางโทรทัศน์แล้วหลังจากนั้นก็ยิ่งทำให้นักอ่านติดตามดูและติดอกติดใจอ่านนิยายหัวข้อนั้นอย่างยิ่ง จนถึงจำต้องไปซื้อนิยายประเด็นนั้นมาอ่านกันหลายๆรอบ
ประการที่ 2. นิยายต่างๆที่นักเขียนได้พรีเซ็นท์ออกมาหลายต่อหลายหัวข้อนั้น หากแม้จะมีการเสาะหาแนวความคิด และก็เคล็ดลับสำหรับการผูกเรื่องให้มีความให้มีความแตกต่างต่างเว็บนิยายก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาของตน หรือของนักประพันธ์คนอื่นๆก็ตาม แม้กระนั้นเรื่องราวก็ยังไม่หลุดพ้นจากเรื่องของความรัก การต่อสู้ รวมทั้งการสืบเสาะหาสัจธรรมเรื่องจริงของชีวิต ลักษณะแบบนี้มีให้มองเห็นอยู่ทั่วไปในสังคม เป็นความจริงที่เกิดได้ไม่มากมายก็น้อย ด้วยเหตุผลดังกล่าวนักเขียนที่มีแนวคิดที่จะนำเรื่องด้านสังคมมาผสมผสานในงานของตนเองเพิ่มมากขึ้น ทำให้นิยายมีรายละเอียดและรูปแบบของการเดินเรื่องที่แปลกใหม่จำนวนไม่ใช่น้อย รวมทั้งรูปแบบของความแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นมากมายขนาดนี้จึงทำให้รายละเอียดของนิยายมีลักษณะวนเวียน ซ้ำไป ซ้ำมา ราวกับการพายเรือในอ่าง ซึ่งในลักษณะดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นทำให้นวนิยายของไทย ไม่มีวันที่จะหลุดพ้นจากความเป็นน้ำเน่าได้
ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าทั้งอ่านนิยายหรือนิยายไทยนั้นยังคงมีกลิ่นของความเป็นน้ำเน่าซ่อนเร้นอยู่ไม่ว่าจะเป็นยุคใดสมัยใด เนื่องจากว่าผู้เขียนยังจำเป็นต้องเอาใจกลุ่มนักอ่านเป็นสำคัญ เพราะเหตุว่าผู้เขียนมีความรู้และความเข้าใจดีว่าในแต่ละยุคนั้น กลุ่มนักอ่านมีความสนใจในเรื่องประเภทใด ผู้เขียนเว็บนิยายก็เลยได้สร้างงานเขียนของตนเองให้ออกมาตรงตามความชอบของคนอ่าน เพื่อให้กลุ่มผู้อ่านมีการยอมรับ และก็สนใจที่จะซื้อหาอ่านงานต่างๆเหล่านั้น ผลสืบเนื่องที่สำคัญแก่งานเขียนของไทยสูงที่สุดลำดับต้นๆ จากการที่มีคนประเทศไทยไปรับการศึกษาเล่าเรียนในยุโรปก็คือ การรับเอาวรรณกรรมในแบบอย่างที่พวกเรามาเรียกว่า"นิยาย"รวมทั้ง"เรื่องสั้น"เข้ามาในประเทศไทย
Glory Forever Co.,LTD ( Kawebook.com )
ที่อยู่ : 195 หมู่ 5 ถนนพระราม 2 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง สมุทรสาคร 74000
เวลาทำการ : 08 : 00 - 18 : 00 จันทร์ - เสาร์
e-mail :
contact@kawebook.comเว็บอ่านนิยาย:
https://www.kawebook.comTags : นิยาย,อ่านนิยาย,เว็บนิยาย
