Advertisement
จากรายงานของ Rocket Media Lab ในปี 2021 คนกรุงเทพมหานคร สูดเอาฝุ่น PM 2.5 เข้าไป เท่ากับปริมาณการสูบบุหรี่ถึง 1,261 มวนต่อคน เป็นที่รู้กันดีว่า ฝุ่น PM 2.5 คือ ฝุ่นพิษที่มีลักษณะเป็นฝุ่นละอองเล็กๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน
ซึ่งความอันตรายของ PM 2.5 ที่นอกจากจะมีขนาดเล็กจนสามารถผ่านการกรองของขนจมูกผ่านหลอดลมไปจนถึงถุงลมปอด แล้ว PM 2.5 ยังสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือด และสร้างผลร้ายให้กับร่างกายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการระคายเคืองเยื่อบุต่างๆ ทำให้เรามีอาการแสบจมูก แสบตา เจ็บคอแล้ว ในผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจเจ้า PM 2.5 จะเป็นตัวกระตุ้นให้อาการของโรคกำเริบได้ง่าย และนอกจากนี้ PM 2.5 ยังก่อให้เกิดอาหารระคายเคืองบนผิวหนัง เป็นผื่น คัน รวมถึงทำให้เกิดสิว และยังมีผลเสียอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเจ้าฝุ่นพิษ PM 2.5 ยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวเราตลอดเวลา แต่เราสามารถกำจัดเจ้าฝุ่นตัวร้ายได้ชั่วคราวด้วยการใช้เครื่องฟอกอากาศ แต่เครื่องฟอกอาการแบบไหนที่สามารถจัดการกับ PM 2.5 ได้บ้าง มาดูกันค่ะ
1. เครื่องกรองอากาศที่มีแผ่นกรองอากาศ HEPA แผ่นกรองอากาศ HEPA (High Efficiency Particulate Air Filter) เป็นแผ่นกรองอากาศที่ได้รับการยอมรับว่ามีคุณภาพสูง ผลิตจากเส้นใยไฟเบอร์กลาส มีคุณสมบัติในการดักจับฝุ่นละออง หรืออนุภาคที่มีใหญ่กว่า 0.3 ไมครอน ขึ้นไป และแน่นอนว่าสามารถดักจับฝุ่น PM 2.5 ที่มีขนาด 2.5 ไมครอนได้ อย่างเช่นใน
เครื่องฟอกอากาศ philips ที่มีแผ่นกรอง HEPA สามารถดักจับฝุ่น PM 2.5 เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ แบคทีเรีย และไวรัส ได้สูงถึง 99.9% พร้อมโหมดฟอกอากาศอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ ที่ฟอกอากาศได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
2. ค่า CADR ยิ่งสูงยิ่งดีCADR (Clean Air Delivery Rate) หรือ ค่าตัวเลขที่ได้จากการวัดปริมาณอากาศดี ที่ระบบฟอกอากาศสามารถฟอกเอาสิ่งปนเปื้อน อย่าง PM 2.5 ควันบุหรี่ เกสรดอกไม้ ฯลฯ ออกไปได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ยิ่งค่า CADR สูงเท่าไหร่ ก็หมายความว่าประสิทธิภาพในการฟอกอากาศของเครื่องฟอกอากาศยิ่งดีขึ้นเท่าไหร่นั้น
3. ระดับเสียง ไม่ควรเกิน 30-35 เดซิเบลยิ่งทำงานเงียบ ยิ่งดี เนื่องมาจากเสียงเครื่องฟอกอากาศที่ดังเวลาใช้งาน ก็เป็นสิ่งกวนใจ และรบกวนการนอนหลับอยู่ไม่น้อย
4. มีระบบฆ่าเชื้อช่วยเพิ่มความปลอดภัยเป็นอีกฟังก์ชั่นที่ไม่ควรมองข้ามในยุคโควิด-19 เนื่องด้วยนอกจากจะช่วยให้เราปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5 แล้ว ระบบฆ่าเชื้อจะช่วยให้เราห่างไกลจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรียต่างๆ อย่าง
เครื่องฟอกอากาศ sharp ที่นอกจากจะสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้แล้ว ยังมีเทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ เอกสิทธิ์แบบเฉพาะของ Sharp ปล่อยประจุบวกและลบ เพื่อกำจัดสิ่งปนเปื้อนในอากาศ เชื้อรา แบคทีเรีย และเชื้อไวรัส รวมถึงกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย
5. ระบบเซ็นเซอร์ช่วยตรวจจับอนุภาคในอากาศเป็นอีกระบบที่เครื่องฟอกอากาศหลายแบรนด์เลือกที่จะใส่เพิ่มเข้ามาเพื่อตรวจจับฝุ่นละออง และอนุภาคแปลกปลอมที่ลอยอยู่ในอากาศเพื่อให้ทั้งห้องของเรามีอากาศที่สะอาดและมีสิ่งปนเปื้อนให้น้อยที่สุด ซึ่ง
เครื่องฟอกอากาศ xiaomi มี PM Laser เป็นเซ็นเซอร์ที่ดักจับอนุภาคของฝุ่นขนาดเล็กได้แม่นยำสูงช่วยแจ้งค่า PM แสดงผลมาที่หน้าจอเพื่อให้ทราบว่าอากาศสะอาดพอหรือไม่ และยังสามารถควบคุมการใช้งานเครื่องฟอกอาการผ่านแอพพลิเคชั่น Mi Home บนสมาร์ทโฟนได้ด้วย
แม้ว่าเราจะควบคุมปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ลอยอยู่ทั่วไปไม่ได้ แต่ภายในบ้านของเรา เราสามารถเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศเป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพของเราและคนที่เรารัก เพียงมีเครื่องฟอกอากาศดีๆ สักเครื่อง เพื่อให้เราได้สูดอากาศที่สะอาด ก็นับได้ว่าเป็นความคุ้มค่าที่น่าลงทุนไม่น้อยเลยนะคะ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website :
https://www.homepro.co.th/c/APP02