Advertisement
การเสริมคาง คืออะไร ?
เสริมคาง เป็นหนึ่งในศัลยกรรมการปรับแต่งรูปใบหน้า คนเอเชียและคนไทยส่วนใหญ่มักจะพบกับปัญหาคางตัด รูปใบหน้าเป็นหน้าเหลี่ยมและคางสั้น การทำศัลยกรรมเสริมคางจะสามารถช่วยเติมเต็มรูปร่างของคาง เพราะรูปขนาดของคางนั้น เป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารกำหนดมิติของใบหน้าส่วนล่าง เช่น บางคนมีรูปคางสั้น บางคนมีรูปคางเล็ก บ้างคนมีรูปคางไม่มีความนูนหรือรูปคางร่นมาด้านหลัง จึงทำให้ใบหน้าดูกลมและหน้าสั้น คออาจจะดูมีเนื้อเยอะ ซึ่งทำให้มีรูปลักษณ์ที่ไม่สวยงาม และปัญหาเหล่านี้สามารถที่จะแก้ไขได้ โดยการเสริมคางเพื่อทำให้สามารถมองเห็นรูปคางได้อย่างชัดเจน ใบหน้าส่วนล่างก็จะแลดูมีมิติ และสมดุลสมบูรณ์ดี
เสริมคาง เป็นการผ่าตัดแก้ไขปัญหารูปหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด คางมีรอยหยัก คางบุ๋ม ทำให้ใบหน้าดูกลม ดูมน ไม่ได้รูป โดยปกติทั่วไปแล้วคนไทยจำนวนไม่ใช่น้อย มักจะมีลักษณะคางที่สั้นมาก ทำให้ใบหน้าดูสั้นเกินไป ไม่สมส่วน รู้สึกไม่มั่นใจ เวลาถ่ายรูปเซลฟี่ หรือแม้กระทั่งจะถ่ายรูปหน้าตรง ต้องอาศัยมุมหลอก เพื่อช่วยให้คางดูยาว ปัญหาทั้งหมดนี้จะหมดไปการทำศัลยกรรมเสริมคางตามโรงพยาบาลและคลินิกทั่วไปในทุกวันนี้ พบว่ามีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ วิธีฉีดไขมันที่คาง หรือใช้สารฟิลเลอร์ แต่วิธีนี้จะไม่คงอยู่ถาวร เพราะไขมันและสารฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปเองภายใน 3-5 ปี ส่วนวิธีที่สองคือ วิธีเสริมคางด้วยซิลิโคน จะเป็นการผ่าตัดเล็ก โดยใช้ซิลิโคนชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในการเสริมจมูก มาเหลาปรับทรงตามความเหมาะสม จากนั้นนำมาใส่บริเวณคาง ซึ่งการเสริมคางด้วยซิลิโคนนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้
1. การเสริมคางจากด้านนอกช่องปากการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางจากด้านนอกช่องปาก เป็นการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณใต้คาง ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร โดยแพทย์สามารถปรับรูปคางได้หลายองศา และสามารถวางตำแหน่งซิลิโคนได้แม่นยำ ชัดเจน รวมถึงยังสามารถตกแต่งผิวหนังส่วนเกินใต้คางได้ ลดโอกาสในการบิดเบี้ยวเอียงได้ดีขึ้น ซึ่งข้อดีของการเสริมคางแบบแผลนอกปาก คือ ดูแลค่อนข้างง่าย แผลมีขนาดเล็ก บวมน้อย พักฟื้นไม่นาน แต่การเสริมคางแบบเปิดแผลภายนอก อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ ซึ่งต้องใช้เวลา 1-3 เดือนกว่ารอยแผลเป็นจะหายเอง แต่ถ้าทายาลดรอยแผลเป็นร่วมด้วยก็จะช่วยให้แผลเป็นหายเร็วขึ้น
2. การเสริมคางจากด้านในช่องปากการศัลยกรรมวิธีนี้เป็นการผ่าตัดเปิดแผลด้านในช่องปาก ตรงบริเวณเหงือกด้านในกับริมฝีปากล่าง ให้มีความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร (หรือแล้วแต่ขนาดซิลิโคน) จากนั้นศัลยแพทย์จะผ่าแยกเยื่อหุ้มบริเวณขอบล่างของคางออก แล้วจึงวางแท่งซิลิโคนเข้าไปให้พอดีกับตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากนั้นก็เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย ซึ่งวิธีเสริมคางแบบแผลในปากเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูง เพราะไม่ทำให้เห็นแผลเป็นภายนอกที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด เหมาะกับคนที่มีแผลเป็นนูนง่าย (คีลอยด์) แต่หลังการผ่าตัดต้องดูแลแผลในปากเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อจากน้ำลายหรือเศษอาหาร รวมถึงควรระมัดระวังไม่ให้คางกระแทกจนซิลิโคนเคลื่อนผิดตำแหน่งได้