Advertisement
พิมพ์
แคตตาล็อกเพิ่มยอดขายโปรโมชั่น
งานจัดจำหน่ายเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดส่วนหนึ่งในการทำการทำงานเกือบทุกประเภท ไม่ว่าเป็นสินค้าและการบริการ แต่สิ่ง
หนึ่งที่จำเป็นต้องมีและขาดไม่ได้คือการเสนอให้ลูกค้าทราบได้ว่าหน่วยงานของเรานั้นขายอะไร มีข้อดีอย่างไร แต่การ
อธิบายผู้บริโภคด้วยปากเปล่านั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่นำเสนอได้ทั้งหมด ทำให้การพิมพ์แคตตาล็อกเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ใช้
เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์และการบริการของเราให้ลูกค้าได้รับทราบ ทั้งครอบคลุมรายละเอียด เข้าใจง่าย และมองเห็นภาพตามได้
ดีขึ้น แม้ยุคปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสารสนเทศมากมายเพื่อใช้ในการบรรยายมากยิ่งขึ้นทำให้ความนิยมของการใช้งานจะลด
น้อยลงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ดีการ
พิมพ์แคตตาล็อกก็ยังคงตอบโจทย์ในด้านความง่ายโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต
ทั้งยังพกพาง่าย ไม่เพียงเท่านั้นยังง่ายต่อการใช้ซ้ำ สามารถนำกลับมาดูใหม่ได้ ทั้งยังสามารถจดบันทึกลงรายละเอียด
เพิ่มเติมได้อีกด้วย
งา
พิมพ์แคตตาล็อก[/url] (Catalogue) คือสิ่งพิมพ์ที่มีประเภทเป็นงานพิมพ์ที่ถูกเย็บรวมเข้าเป็นเล่ม เหมือนกับ
หนังสือ วารสารหรือนิตยสาร ทั้งนั้นยังต้องมีองค์ประกอบจำพวก บทนำ สารบัญ และเนื้อหาเรื่องเบ็ดเตล็ดเหมือนกับ
หนังสือ ทำให้ส่วนใหญ่เกิดข้อสงสัยว่าแคตตาล็อกแตกต่างจากสิ่งพิมพ์รวมเล่มพันธุ์อื่นอย่างไร สิ่งที่แตกต่างก็คือ
จุดหมายการใช้งานเป็นหลัก โดยที่แคตตาล็อกนั้นจะมุ่งเน้นเนื้อความในด้านการโฆษณาและจัดแสดงแนะนำสินค้าเป็น
สำคัญ โดยจะมีรูปภาพและคำอธิบายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการแต่ละลักษณะขององค์กรเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำ
ความเข้าใจได้ดีขึ้น โดยต้องมีการจัดทำหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มอย่างชัดเจนเพื่อให้ง่ายต่อการสำรวจหาและมีการระบุหน้าลง
ในสารบัญด้วย
เนื่องด้วยงานชี้แจงผลิตภัณฑ์เป็นงานที่ค่อนข้างจะสำคัญมาก ทำให้การออกแบบและสร้างจะต้องคำนึงถึง
คุณภาพและความละเอียดลออเป็นสำคัญ โดยจะแบ่งส่วนประกอบส่วนเพิ่มเติมโครงสร้างการพิมพ์แคตตาล็อกเป็น 2 ส่วน คือ
1.ส่วนปกเล่ม ส่วนตรงนี้เป็นกลุ่มที่แสดงและสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้กับผู้พบเห็นจึงควรจะมีการออกแบบ
อาร์ตเวิร์คที่ดี การคัดใช้วัสดุหรือกระดาษที่มีคุณภาพและมีความหนาที่มากกว่าในส่วนของเค้าความ โดยอาจจะ
ใช้กระดาษประเภทอาร์ตการ์ด 190 แกรมขึ้นไป หรือกระดาษอาร์ตมันหรือกระดาษหนา 90 แกรมขึ้นไปก็เป็นได้และ
มีการแต่งเติมใช้สีและตกแต่งรูปภาพที่ดูน่าสนใจ รวมทั้งใช้เทคนิคในการพิมพ์ เช่น การปั๊มนูน การทำ Spot UV
ในจุดที่ต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษ หรือแม้กระทั่งการเคลือบฟิล์มลามิเนตเพื่อรักษาความพังจากภายนอก เป็นต้น
2.ส่วนเนื้อหา ซึ่งในส่วนะนี้เป็นจำพวกนี้จะรวมถึงบทนำ สารบัญไว้ด้วยโดยจะใช้กระดาษที่เป็นกระดาษปอนด์ 80 แกรมขึ้นไปเพื่อไม่
ให้หมึกหรือสีเลอะเทอะเพราะส่วนมากเนื้อหามักมีรูปภาพอธิบายจึงใช้สีค่อนข้างมาก แต่หากต้องการให้มีการพิมพ์สองหน้า
อาจจะต้องใช้กระดาษที่มีความหนาเพิ่มขึ้นเพื่อให้ไม่สามารถเห็นผ่านเห็นได้ทั้งสองด้าน เป็นต้น นอกจากนี้การใช้สีควรจะ
ทำให้งานที่พิมพ์ออกมานั้นเหมือนสินค้าจริงให้มากที่สุดเพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหากับลูกค้าภายหลังได้ซึ่งต้องใช้
ความชำนิชำนาญพอสมควร
ในด้านการเลือกใช้สัดส่วนของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นต้องขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 ประการ ประการแรกความสมดุล
ระหว่างสัดส่วนเล่มกับความหนาของเนื้อหา ยกตัวอย่างเช่น หากกำหนดขนาดเล่มให้มีขนาดเล็ก แต่มีเนื้อหาที่ต้องบรรยายมาก
ทำให้รูปเล่มมีความหนามากเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้ผู้รับสารรู้เบื่อหน่ายและไม่อยากอ่าน เป็นต้น อย่างที่สองความสมดุลระหว่าง
สัดส่วนเล่มกับขนาดภาพ โดยการวางรูปภาพในเนื้อหาต่อ 1 หน้ามากที่สุดไม่ควรเกิน 8 ภาพเพราะส่งผลให้เกิดการลายตาได้
และต้องมีการจัดรูปภาพให้มีสัดส่วนที่ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นได้เด่นโดยไม่เล็กจนเกินไป ประการสุดท้ายคือความสมดุล
ระหว่างขนาดเล่มกับขนาดตัวหนังสือ ส่วนมากการตระเตรียมทำแคตตาล็อกมักจะไม่เน้นการลงรายละเอียดที่เป็นตัวหนังสือมากนัก
จึงไม่ค่อยมีข้อสงสัย แต่สำหรับสินค้าบางจำพวกหรือสินค้าที่เน้นด้านการบริการที่ต้องมีการอธิบายเนื้อหาเป็นจำนวนมาก
การกำหนดสัดส่วนตัวอักษรจะต้องทำให้สามารถมองเห็นและอ่านได้ง่าย อาจจะต้องมีเทคนิคการจัดแจงรูปแบบการอ่านที่ดูน่าสนใจ
ซึ่งอาจจะทำให้ใช้พื้นที่ในหน้าค่อนข้างมาก โดยทั้งหมดนี้มีองค์ประกอบที่ต้องตรวจร่วมในการออกแบบและกำหนดสัดส่วน
ซึ่งสัดส่วนของรูปเล่มที่นิยมใช้กับก็ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 15 x 10.25 นิ้ว หรือเล็กที่สุดโดยประมาณกระดาษ A6 โดยขนาดที่ใช้
เรื่อยที่สุดคือ A4 เพราะมีสัดส่วนที่พอดี พกพาสะดวก รวมถึงสะดวกในออกแบบและจัดหน้ากระดาษ
ส่วนนี้จะกล่าวถึงโอกาสการแจกจ่ายหรือการใช้งานพิมพ์แคตตาล็อกเพื่อให้เกิดคุณประโยชน์สูงสุด สำหรับพิมพ์แคตตาล็อก
นี้ถือว่าเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีต้นทุนมักสูง ซึ่งหากให้จัดแจงพิมพ์เป็นปริมาณก็อาจจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากจนเกินไป เพื่อให้ได้
ประสิทธิภาพและการความคุ้มค่าที่สุดควรจะมีการกำหนดจำเพาะจำเพาะเป้าหมายที่ต้องการให้ได้รับสาร เช่น การส่งตรงถึง
ลูกค้าที่เป็นขาประจำหรือบริโภคสินค้าอย่างต่อเนื่อง หรือ กลุ่มสมาชิกหรือผู้ที่ลงบัญชีมีความต้องการข่าวสาร เป็นต้น
โดยอาจจะส่งผ่านทางไปรษณีย์หรือการมอบให้กับมือผู้รับสารเองก็ได้ โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทางผู้จัดแจงทำเองต้องคาดหวังที่จะ
ได้รับการสนองตอบมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาแบบอื่นๆ แต่สำหรับกิจการบางลักษณะอาจจะใช้การจัดแจงพิมพ์แคตตาล็อกเพียงไม่กี่
เล่มโดยจัดแจงแบ่งให้ในส่วนของหน้าร้านขายของเพื่อใช้สำหรับเวลาที่ลูกค้าเข้ามาสืบถาม หรือแบ่งให้ฝ่ายขายหรือตัวแทนจำหน่าย
ไว้ใช้เพียงเท่านั้นก็สามารถทำได้
เครดิต :
[url]http://www.pimplernprint.com/แคตตาล็อก_วารสาร/[/url]
Tags : พิมพ์แคตตาล็อก