Advertisement
หลังจากใส่ท่อช่วยหายใจและยืนยันตำแหน่งว่าถูกต้องแล้ว ผู้ปฏิบัติควรบันทึกระดับความลึกของท่อโดยดูตัวเลขที่ระดับฟันหน้าของผู้หมดสติก่อน แล้วจึงใช้เทปตรึงท่อ เพราะว่ามีความเสี่ยงอย่างมีนัย จำเป็นที่ท่อช่วยหายใจจะขยับหลุดจากที่ไปเมื่อผู้สลบก้มหรือเงยศีรษะ 83–85 แนะนำให้มอนิเตอร์ตำแหน่งของท่อช่วยหายใจอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาที่ขนย้ายคนไข้ 86,87 ผู้ปฏิบัติควรถือเป็น หลักว่าต้องตรวจสอบยืนยันตำแหน่ง
ท่อช่วยหายใจทุกครั้งหลังการใส่ท่อเสร็จและเมื่อใดก็ตามที่ผู้เจ็บป่วยขยับตัวหรือถูกเคลื่อนย้าย
ควรตรึงท่อช่วยหายใจด้วยเทปเหนียวหรือเครื่องมือตรึงท่อที่ทำมาสำเร็จรูป (Class I) การศึกษา2 รายการกับคนเจ็บในไอ.ซี.ยู.ที่ใช้ backboard ซึ่งเป็นวัสดุอุปกรณ์ตรึงท่อสำเร็จรูปพบว่า(LOE 7)88,89 backboard สามารถตรึงท่อให้อยู่กับที่ได้ดีเทียบเท่าการใช้เทปเหนียวที่ปฏิบัติกันอยู่แต่เดิม จึงอาจคำนึงใช้วัสดุอุปกรณ์นี้ในระหว่างการขนส่งผู้เจ็บป่วยได้ (Class IIb) หลังการยืนยันตำแหน่งและการตรึงท่อช่วยหายใจแล้ว ควรทำการเอกซเรย์ปอด (ถ้าทำได้) เพื่อยืนยันว่าปลายท่ออยู่ในตำแหน่งที่พอดี คืออยู่เหนือ carina พอดี
มีข้อพึงระวังที่สำคัญที่สุด 3 ประการในการทำ CPR หลังจากที่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจแล้ว คือ
ต้องแน่ใจว่าท่อช่วยหายใจอยู่ถูกที่ (ต้องตรวจยืนยัน)
เมื่อมีผู้ปฏิบัติการ 2 คน ไม่ต้องทำ CPR เป็นรอบๆ แต่ให้ต่างคนต่างทำโดยผู้กดหน้าอกทำการกดหน้าอกต่อเนื่องในอัตรา 100 ครั้งต่อนาทีโดยไม่ต้องหยุดรอการช่วยหายใจ ขณะเดียวกันผู้ช่วยหายใจก็ทำ การช่วยหายใจสม่ำเสมอในอัตรา 8 - 10 ครั้งต่อนาทีโดยไม่ต้องรอการกดหน้าอก และควรเปลี่ยนคนผู้กดหน้าอกทุก 2 นาที
หลีกเลี่ยงการช่วยหายใจมากเกินไปด้วยการใช้อัตราการหายใจเร็วเกินไป เนื่องมาจากจะไปลดจำนวนเลือดที่ไหลกลับเข้าหัวใจขณะทำ CPR
ขอบคุณบทความจาก :
[url]http://breathingrank.com[/url]