Advertisement
ประเทศไทยดำรงฐานะเมืองร้อน และมีหน้าร้อนมากกว่าหน้าหนาว จึงมักได้ยินบ่อยๆ ว่าหน้าร้อนและหน้าร้อนกว่า ดังนั้นการใช้ชีพของคนไทยก็เปลี่ยนไป แอร์บ้านก็เข้ามามีบทบาทในสังคมไทย บ้าน ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ
ถ้าร้านไหนไม่มีแอร์บ้าน หรือ เครื่องปรับอากาศ คนแทบไม่ค่อยเข้าไปใช้บริการ แอร์จึงสิ่งสำคัญ ดังนั้นการถนอมรักษาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทุกคนที่มีเครื่องปรับอากาศต้องเอาใจใส่ เพื่อจะได้ใช้แอร์อย่างมีประสิทธิภาพในการทำความเย็น จึงมีคำถามบ่อยๆ ว่าเมื่อไหร่ต้องถึงช่วง
ล้างแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศเสียที จริงๆ มันมีหลายปัจจัย เช่น ที่อยู่อาศัยมีฝุ่นมากน้อยต่างกันตามพื้นที่ ความเย็นของเครื่องปรับอากาศลดลง เย็นช้าลง อากาศในหน้าร้อนที่ร้อนมากๆ การใช้งานต่อเนื่องเป็นประจำ ฟิลเตอร์กรองฝุ่นโสโครก
ซึ่งเราเองสามารถแก้ปัญหาได้ แค่เบื้องต้นเท่านั้น เราควรทำความสะอาด แผงกรองอากาศควรทำเป็นประจำทุกเดือนหรือ 2 เดือน เพื่อลดการหมักหมมของเชื่อโรค ส่วนการล้างแอร์โดยช่างผู้ชำนาญการก็ควรทำทุกๆ 6 เดือน
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และการใช้ธุรกิจ การล้างภายในต้องใช้ช่างผู้ชำนาญ เนื่องจากต้องมีการถอดชิ้นส่วนบางชิ้น เช่นถอดถาดน้ำทิ้งมาล้างเพื่อให้น้ำทิ้งไหลได้สะดวก และใช้ปั๊มน้ำแรงสูงฉีดทำความสะอาดแผงคอยล์ การตรวจเช็คสภาพ ราคาแอร์
เป็นการตรวจเช็คระบบทั่วไป ซึ่งโดยมากแล้วจะทำพร้อมกับการล้างภายในโดยช่างผู้ชำนาญซึ่งข้อดีที่ตามมา คือทำให้แอร์เย็นเร็ว แอร์บ้าน หรือ เครื่องปรับอากาศ กินไฟบ้างและลดการสะสมของเชื้อโรค ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสุขภาพของเราเองด้วย และยังยืดอายุการใช้งานของ
เครื่องปรับอากาศอีกด้วย พร้อมทั้งนี้เรายังต้องดูแลสภาพทั่วไปของเครื่องอื่น ๆ เช่น น๊อต สกรู ยางรองแท่นเครื่องต่าง ๆ อย่าให้หลุดหรือหลวม เพราะอาจทำให้เกิดเสียงดังจากการสั่นสะเทือนได้ ดูแลฉนวนที่ใช้ป้องกันความร้อนต่าง ๆ ถ้าพบว่าชำรุดทรุดโทรม
ฉีกขาดควรแก้ไขหรือซ่อมบำรุง เพราะถ้าฉนวนที่ใช้ป้องกันความร้อนชำรุด จะทำให้ไอน้ำในอากาศกลั่นตัวเป็นหยดน้ำในบริเวณนั้น และจะทำความเสียหายให้กับฉนวนส่วนอื่น ๆ อีก หรือน้ำที่เกิดขึ้นนั้นจะหยดลงบนฝ้าเพดาน หรือตามผนังห้อง
ทำให้เกิดรอยรอยเปื้อนสกปรก และเกิดเชื้อราขึ้นได้ ทำให้ต้องเสียเวลาและความเสียหายอื่นๆ อาจตามมา แอร์บ้าน หรือ เครื่องปรับอากาศ
การใช้แอร์บ้าน หรือ เครื่องปรับอากาศ ให้ได้ประโยชน์และตัดทอนค่าใช้จ่าย ควรทำดังนี้
1. ล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยช่างผู้แกล้วกล้า และควรถอดฟิลเตอร์มาล้างทำความสะอาดเป็นประจำเพื่อให้แอร์ทำงาน ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศด้วย
รวมทั้งยังสามารถประหยัดค่าไฟได้อีกส่วนหนึ่ง
2. ไม่ควรนำความชื้นเข้าไปในห้องแอร์ เพราะแอร์จะทำงานตรากตรำ ในการต้องรีดความชื้น ออกจากห้อง ทำให้ต้องสูญเสียพลังงานไปโดยใช่เหตุ
3. ไม่ควรนำของร้อนเข้าไปในห้องแอร์ เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองไฟฟ้ามาก แอร์บ้าน หรือ เครื่องปรับอากาศ
4. ปิดประตู หน้าต่างให้สนิทขณะเปิดแอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศร้อน หรือความชื้นจากภายนอกเข้ามา เพราะจะทำสละให้ เครื่องปรับอากาศ ทำงานหนักขึ้น
5. ปรับทิศทางของช่องจ่ายลมเย็น และความแรงของลมให้เหมาะสม กับตำแหน่งที่ต้องการ เพื่อจะได้มืดเร็วขึ้น
6. ตรวจสอบและซ่อมแซมฉนวนหุ้มท่อน้ำยาที่เชื่อมต่อระหว่าง คอนเดนซิ่งยูนิต และแฟนคอยล์ยูนิต ราคาแอร์
7. ตรวจเช็คระบบไฟฟ้า เช่นสภาพของเคเบิล
8. วัดความดันน้ำยาในระบบว่าเพียงพอหรือไม่
9. หยอดน้ำมันมอเตอร์พัดลมทั้งที่คอยล์ร้อน และคอยล์เย็น
10. ควรตั้งอุณหภูมิแอร์ ต้องไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส สำหรับแอร์บ้าน หรือว่า เครื่องปรับอากาศ
11.อย่าวางสิ่งของขวางทางลมเข้าออก เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ลดลง
ราคาแอร์12. ทำความสะอาดแผงลอยท่อของชุดระบายความร้อน โดยการใช้แปรงนิ่ม ๆ และฉีดน้ำล้างเพื่อทำความสะอาดบริเวณแผงอลูมิเนียมและคลีบระบายความร้อน ทุกๆ 6 เดือน จะช่วยทำให้แอร์ระบายความร้อนได้ดีขึ้น
13.เลือกเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับพื้นที่ เช่นห้องที่โดนแสงแดดส่อง ห้องที่ไม่มีฉนวนกันความร้อน เป็นต้น ต้องลงคะแนนเสียงให้เหมาะสม
แอร์บ้าน[/b] หรือ
เครื่องปรับอากาศTags : แอร์บ้าน,เครื่องปรับอากาศ,ราคาแอร์
