Advertisement
เทคนิคการปลูกผม Follicular Unit Extraction (FUE) เป็นนวัตกรรมการปลูกผมรูปแบบถาวร ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ สวยงาม และเทคนิคการปลูกผม FUE ยังได้รับการยืนยันโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค FUE จากสหรัฐอเมริกาว่า บริเวณที่ปลูกผมใหม่ด้วยเทคนิคปลูกผม FUE มีความแข็งแรง ไม่เกิดการถอยร่นเสื่อมสภาพ
![](http://www.theskin.co.th/upload/proced/2014mar14_111834.jpg)
เทคนิคกาปลูกผม[/url]แบบ FUE เป็นนวัตกรรมการย้ายเซลล์รากผม โดยวิธีการเจาะเอาเซลล์รากผมมาปลูกถ่ายในบริเวณที่ไม่มีผมที่ต้องการรักษา โดยที่แพทย์ไม่จำเป็นต้องเราะ/ตัดหนังศีรษะของคนไข้ออกมาเป็นชิ้นยาว ไม่มีรอยแผลเย็บเหมือนวิธีการปลูกผมแบบวิธีอื่นๆ ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยเทคนิคการปลูกผมแบบ FUE คนไข้จำเป็นที่จะต้องหยุดการใช้ยาที่ใช้รักษาอาการผมร่วง และยากระตุ้นเส้น/รากผม เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 4-6 เดือน เพื่อที่แพทย์จะได้สามารถมองเห็นจุดตำแหน่งที่เกิดปัญหาจริงๆ และจากที่แพทย์ได้ทำการวิเคราะห์ปัญหาแล้ว แพทย์จะเริ่มทำการออกแบบเค้าโครงร่างเส้นผมตลอดแนวไรผม พร้อมทั้งประเมินปริมาณจำนวนของผมที่ใช้ทำการปลูก
ขั้นตอนและวิธีการรักษาเทคนิค FUE แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการฉีดยาชา หรือให้คนไข้ทานยานอนหลับแบบอ่อนๆ และแพทย์ถึงจะเริ่มทำการรักษา/ ปลูกผม FUE โดยการใช้เครื่องมือพิเศษหัวเจาะ ที่มีหัวขนาดเล็ก 0.8-1.2 มิลลิเมตร เจาะตรงบริเวณพื้นหนังศีรษะรอบกอผมที่กำหนด ลึกลงรากผม โดยเลือกใช้เซลล์ผมบริเวณด้านหลังศีรษะ ดึงกอผมที่มีความแข็งแรงเหล่านั้นออกมา และแพทย์จะทำการเปิดบริเวณศีรษะที่ต้องการปลูกผมใหม่ให้อ้าออก แล้วคำนวณกราฟ (เซลล์รากผม) แทนที่ คล้ายการย้ายเซลล์รากผมมาแทนที่สลับตำแหน่ง ขั้นตอนต่างๆ ต้องใช้ความละเอียดประณีตและความชำนาญเฉพาะทางของแพทย์อย่างมาก
เพราะว่าหากแพทย์ไม่ชำนาญเจาะ อาจทำให้เซลล์รากผมหลุดขาดได้ นอกจากจะเกิดปัญหาต่อเซลล์รากผมแล้ว อาจจะส่งผลถึงการปลูกผมใหม่ที่ไม่เป็นธรรมชาติ และผลเสียในระยะเวลาการรักษา
ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะเป็นการนำเครื่องมือเข้ามาช่วยเก็บกราฟที่แสดงผลออกมาก็จริง แต่ทุกขั้นตอนกลไกของการทำงานต้องผ่านมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งสิ้น ซึ่งนั้นก็หมายถึงหัวใจของวิธีการนี้คือแพทย์ผู้ทำการรักษา
การ ปลูกผมถาว[/i] [/b]เทคนิค FUE ได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.รักษาโดยแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะทาง และ 2.รักษาโดยหุ่นยนตร์ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าผลลัพธ์และความแตกต่างขึ้นอยู่ที่ผู้ควบคุมดูแลการรักษาเป็นหลัก เทคนิคการปลูกผม FUE จำเป็นต้องใช้ความละเอียด รอบคอบและแม่นยำ
หลังจากทำการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE คนไข้ไม่ควรสัมผัสแผล ซับแผล หรือทำการสระผม รวมทั้งห้ามให้แผลถูกน้ำบริเวณที่ได้ทำการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง
ผลที่ได้รับจากการรักษาด้วยเทคนิค FUE การศัลยกรรมปลูกผมด้วยเทคนิค Follicular Unit Extraction (FUE) เป็นการปลูกผมที่ได้รับความนิยมมากกว่าการศัลยกรรมผ่าตัดปลูกผมแบบ FUT เพราะการปลูกผมแบบ FUE เป็นวิธีการปลูกผมที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญจริงๆ ทุกขั้นตอนวิธีการต่างๆ จะผ่านมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านเดียวเท่านั้น หากเป็นการศัลยกรรมผ่าตัดปลูกผมแบบดั้งเดิมนั้น แพทย์จะใช้วิธีการเราะหนังศีรษะของคนไข้ออกมา แล้วส่งให้แพทย์ผู้ช่วยอีกท่าน นำหนังศีรษะที่เราะออกมานี้ไปตกแต่งกราฟก่อนที่จะนำเส้นผมมาปลูกใหม่ ณ จุดบริเวณศีรษะที่ต้องการปลูกผม ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้น ก็อาจจะขึ้นอยู่กับความสามารถและความชำนาญของแพทย์อีกเช่นกัน
ข้อดีของเทคนิคการปลูกผมแบบ FUE คือ สามารถที่จะนำเส้นขนในร่างกายของคนไข้ เช่น เส้นขนบริเวณหนวดเครา เส้นขนบริเวณหน้าอก เส้นขนบริเวณหน้าแข้ง นำมาผ่านกระบวนการและนำมาปลูกใหม่บริเวณหนังศีรษะที่ไม่มีผมได้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบลักษณะของเส้นขนในบริเวณนั้นๆ นอกจากปลูกผมแล้วยังสามารถที่จะนำมาปลูกขนตาและปลูกหนวดเคราได้อีกด้วย
ข้อเสียของเทคนิคการปลูกผมแบบ FUE คือ เป็นเทคนิคการเคลื่อนย้ายเซลล์รากผม ซึ่งทำได้ทีละเส้น เพื่อนำเซลล์รากผมของคนไข้ ไปปลูกในบริเวณพื้นที่ไม่มีเส้นผม ที่ได้กำหนดไว้ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน และความเชี่ยวชาญของแพทย์โดยเฉพาะ
ปลูกผมเทคนิคสวยธรรมชาติที่สุด HAIR transplant FUE การปลูกผม FUE คือ Follicular Unit Extraction (FUE) ซึ่งเป็นเทคนิคมาตรฐานสากลที่ใช้ทั่วโลกซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคนิคที่ให้ผลเรื่องความสวยงาม และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ศัลยกรรมปลูกผมเป็นวิธีแก้ปัญหาผมบางที่ได้ผลมากที่สุดในเวลานี้
Follicular Unit Extraction (FUE) เป็นวิธีในการย้ายเซลผมโดยไม่ต้องตัดหนังศรีษะออกมาเป็นชิ้นยาวๆ ไม่มีแผลเย็บเหมือนวิธีทั่วไป (strip FUT),โดยวิธีนี้จะใช้หัวเจาะขนาดเล็ก 0.8-1.2 มม. เจาะลงไปรอบๆกอผมลึกลงไปถึงรากผมด้านล่าง จากนั้นแต่ละกอผมจะถูกดึงออกมาจากหนังศรีษะ Strip FUT และ FUE บางครั้งอาจดูว่าเป็นวิธีการปลูกผมที่แตกต่างกัน แต่จริงๆแล้ว FUE ก็คือวิธีหนึ่งในการย้ายเซลผมออกมานั่นเอง โดยที่ย้ายกอผมออกมาจากหนังศรีษะโดยตรง ไม่ต้องตัดหนังศรีษะออกมาเป็นชิ้นแล้วไปแยกเป็นแต่ละกอผมอีกทีโดยใช้กล้องจุลทรรศน์
ปลูกผมด้วยวิธี FUE ดีกว่าอย่างไร - คนไข้จะรู้สึกเจ็บแผลน้อยกว่าวิธี Strip เพราะไม่ได้ตัดหนังศีรษะออกมา
- สามารถนำเส้นขนจากบริเวณอื่นๆของร่างกาย เช่น หนวด เครา ขนหน้าอก ขนแขน ขนหน้าแข้ง มาปลูกที่ศีรษะได้ขึ้นอยู่กับลักษณะของเส้นขนบริเวณนั้น
- การปลูกผมแบบ FUE กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก (Microdiscection) ไม่มีการเย็บแผล
- สามารถไว้ผมทรง Skin head ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแผลบนศีรษะ
ปลูกผมด้วยวิธี FUE ปลอดภัยไหม หมดกังวลกับทุกคำถาม เพราะเรามีทีมวิสัญญีแพทย์ ที่ทำหน้าที่ร่วมกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไว้คอยดูแลท่านอย่างใกล้ชิด ตลอดขั้นตอนของการรักษา
ขั้นตอนปลูกผมด้วยวิธี FUE -แพทย์จะฉีดยาชา หรือให้ยานอนหลับอย่างอ่อน
-จะทำการย้ายรากผมจากบริเวณท้ายทอย ซึ่งเมื่อหายดีแล้วจะมองเห็นรอยแผลไม่ชัดเจน แล้วนำมาแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนจะนำไปปลูกในบริเวณที่ไม่มีผม
-แพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษเปิดให้มีช่องบริเวณหนังศีรษะที่ไม่มีผม แล้วใส่รากผมที่เตรียมไว้ลงไป
-หลังการักษาสามารถกลับบ้านได้เลย
ข้อควรปฏิบัติหลังปลูกผม
-ภายใน 24 ชม. แรกหลังการผ่าตัด ห้ามสัมผัสแผล ทำแผล ซัลเลือด สระผม หรือ ถูกน้ำบริเวณที่ปลูกผม
-หลังการปลูกผมควรนอนในท่าที่ศีรษะสูงในช่วง 2-3 วันแรก โดยนอนหนุนหมอน
-งดสระผมหลังการปลูกผม 24 ชั่วโมง หลังครบ 24 ชั่วโมง ให้สระผมได้ด้วยแชมพู และทิ้งแชมพูไว้บนศีรษะประมาณ 15 นาที เพื่อให้สะเก็ดนิ่ม โดยสระผมทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น
-ควรงดสูบบุหรี่
-ผ้ารัดศีรษะ (Head Band) ให้รัด 4-5 วัน หลังปลูกผมเสร็จแล้ว จึงเอาออกได้
-หลังการผ่าตัดปลูกผม 7 วัน แพทย์อาจจะนัดตัดไหมบริเวณท้ายทอย
-ระวังในการขึ้น หรือ ลงรถยนต์ในขณะที่ศีรษะของท่านยังชาอยู่ การกระแทกของศีรษะอาจจะทำให้เส้นผมที่ปลูกอยู่หลุดได้
-ไม่ควรขับรถยนต์กลับบ้านเอง หลังการผ่าตัดปลูกผม เนื่องจากฤทธิ์ของยานอนหลับอาจจะยังไม่หมด
-ในกรณีที่มีอาการบวมบริเวณศีรษะ หรือหนังตาหลังผ่าตัด อาจใช้น้ำแข็งประคบบริเวณหน้าผากได้ แต่ห้ามประคบน้ำแข็งบริเวณศีรษะที่ได้รับการปลูกผมเด็ดขาด
-ในกรณีที่มีสะเก็ดเลือดบริเวณผ่าตัดปลูกผม ห้ามแกะเด็ดขาด สะเก็ดเลือดเหล่านี้จะหลุดเองโดยธรรมชาติ ภายใน 2 สัปดาห์
เกี่ยวกับการปลูกผม FUE การผ่าตัดปลูกผมเริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นในประเทศไทย นับตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2533 เทคนิคการผ่าตัดปลูกผมเข้ามาใช้ในเมืองไทยเป็นครั้งแรก ขณะนั้นความรู้ความเข้าใจของคนไทยและ ทัศนคติเกี่ยวกับการปลูกผมยังไม่ดีเท่าไรนัก ต่อเมื่อเริ่มมีจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดเพิ่มขึ้น และได้รู้ถึงผลการรักษาว่าเป็นธรรมชาติและปลอดภัย ปัจจุบันจึงได้มีผู้ป่วยนิยมทำกันมากขึ้น เทคนิคและวิธีการผ่าตัดก็มีการพัฒนาขึ้นทุกวัน ทำให้ในปัจจุบันการผ่าตัดปลูกผมเป็นที่นิยมกว้างขวางขึ้น มีผู้สนใจกันมาก โดยเฉพาะแพทย์ในสาขาต่างๆก็หันมาสนใจเริ่มเรียนรู้และฝึกปฏิบัติจนเป็นผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากขึ้น FUE เริ่มต้นกำเนิดในป โดย น.พ. Ray Wood , น.พ. William R. Rassman และ น.พ. John Cole เป็นคนแรกที่นำเสนอในการประชุมวิชาการ ของสมาคมแพทย์ปลูกผมนานาชาติ ต่อมาได้รับการสนับสนุนและขยายความนิยมโดย นพ. Rassman ศัลยแพทย์ปลูกผมชาวอเมริกันให้เป็นที่แพร่หลาย
![](http://www.theskin.co.th/upload/gallery/gal_galfilename_20131216104302.jpg)
รายละเอียดเพิ่มเติม [url=http://www.theskin.co.th/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9C%E0%B8%A1.html]http://www.theskin.co.th/ปลูกผม.html
THE SKIN CLINIC
ที่อยู่ 55/78 ม.6 ซ.โยธินพัฒนา ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม
แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230
เบอร์โทร : 0 2515 0264
E- mail :
marketing@theskin.co.th[/size]