Advertisement
วิธีทำเซรามิกส์
กระบวนการทำเซรามิกส์
1.การจัดวัตถุดิบ
วัตถุดิบในการทำสินค้าceramicsได้แก่ แร่ดินชนิดต่างๆ เช่น ดินเหนียว ดินขาว ดินสโตนแวร์ และส่วนประกอบต่าง ๆ นำมาเข้าสู่ระบบการบดและขนาดของฝุ่น ต่อจากนั้นจึงนำน้ำดินไปรีดน้ำออก หรือกรองอัดน้ำดิน เพื่อให้ได้ดินนำไปขึ้นรูปต่อไป
ตัวอย่างวัตถุดิบในการผลิ
เซรามิค[/url]
1.1ดินหมายถึงดินขาวและดินเหนียว
ดินขาว คือ ดินเกาลิน (Kaolin) เช่น ดินขาวระนอง ดินขาว ดินขาวจังหวัดลำปาง เป็นต้น ดินชนิดนี้เมื่อเผาที่อุณหภูมิประมาณ 1,200 องศา จะมีสีขาว แต่ไม่ค่อยเหนียว ต่อจากนั้นจึงต้องมีการเจือปนดินเหนียวลงไป เพื่อช่วยในการขึ้นรูป
ดินเหนียว หรือ ดินบอลเคลย์ (Ball Clay) มีสีดำ มีความละเอียดและมีความเหนียวสูง ใช้ผสมกับดินขาวช่วยให้การขึ้นรูปง่ายขึ้น แหล่งดินเหนียวในประเทศสยาม ที่นิยมนำมาผลิต ในอุตสาหกรรม อยู่ที่สุราษฎร์
1.2 แร่ควอรตซ์ เป็นสารชิลิกา (SiO 2 )
นำมาใช้ผสมทำceramics เพื่อให้เนื้อตัวสินค้า มีความแข็งแรง และคงทนขึ้น และช่วยในการหดตัวของดิน แหล่งแร่ควอรตซ์ ในเมืองไทย พบที่ จังหวัดราชบุรี
2.การขึ้นรูปตัวสินค้า
การเทแบบการเทแบบมี 2 ลักษณะคือ
- การเทแบบโดยให้น้ำดินจับตัวอยู่ในแบบ เรียก Solid Casting ซึ่งเหมาะกับการเทแบบตัวสินค้าที่มีความหนาและรูปทรงแปลกๆ
- การเทแบบโดยมีการเทน้ำดินที่เหลือหลอทิ้ง เรียก Drain Casting ซึ่งเหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการผนังบางและต้องการความหนาสม่ำเสมอ
การขึ้นรูปโดยใช้แรงอัดการขึ้นรูปโดยกระบวนการนี้ใช้แพร่หลายในการผลิตสินค้าเซรามิคชนิดพิเศษ แรงอัดจะอัดลงบนแบบ ซึ่งมีผงเนื้อดินปั้นแห้งๆ หรือความชื้นเล็กน้อยอยู่ในแบบ แบบที่ใช้เป็นโลหะแข็ง การขึ้นรูปโดย วิธีนี้มีหลายประเภทที่จะต้องพิจารณาถึง ขนาดและโครงสร้างและการกระจายตัวของอนุภาคของเนื้อดินปั้น
การขึ้นรูปโดยวิธีการอัดเนื้อดินปั้นแห้งๆ( Dry and Dust Pressing )
ใช้กับการขึ้นรูปตัวสินค้าceramicที่ใช้ในงานประยุกต์ทั้งทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และกระแสไฟฟ้า เป็นกรรมวิธีอัด ผงกลมๆ ของเนื้อดินปั้นแห้งภานในแบบโลหะด้วยแรงอัดที่สูง ความชุ่มชื้นภายในผงเนื้อดินปั้นไม่เกิน 4 % ผงเนื้อดินปั้นกลมๆเลื่อนได้อิสระแต่มีความเหนียวไม่ดีเท่าที่ควรแต่เมื่อถูกแรงอัดจะอัดตัวกันได้หนาแน่นดี
การขึ้นรูปสินค้าโดยการหลอมเหลวแล้วเทลงแบบ
การขึ้นรูปวิธีการนี้จะใช้ในการทำให้ผลิตภัณฑ์วัสดุทนไฟมีความหนาแน่นสูงและทนทานต่อการกัดกร่อนของขี้ถลุง โดยหลอมเนื้อผลิตภัณฑ์ด้วยเตาไฟฟ้า แล้วเทลงในแบบโลหะหรือ แบบทราย แต่จะเกิดช่องว่าง ขึ้นในระหว่าง ปล่อย ให้ตัวสินค้าเย็นตัวลง
3.การเผาและการเคลือบเซรามิค
การเผาการเผาตัวสินค้าเซรามิกครั้งแรกเรียกว่าเผาดิบ โดยเพิ่มอุณหภูมิของเตาเผาให้สูงขึ้นอย่างช้า ๆ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์คงรูปไม่แตกชำรุดสินค้า
เซรามิคที่ผ่านการเผาดิบแล้วบางชนิดนำไปใช้ได้โดยไม่ต้อง เคลือบ เช่น กระถางต้นไม้ อิฐ ไส้เครื่องกรองน้ำแต่ผลิตภัณฑ์โดยมากจะต้องเคลือบผิวเพื่อ ให้เกิดความ สวยหรู มีความคงทนและป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนบนผิว
การเคลือบเคลือบ คือชั้นของแก้วบางๆ ที่ละลายรวมกันติดอยู่กับผิวดินซึ่งขึ้นรูปเป็นภาชนะทรงต่างๆ สารที่ใช้ เคลือบ ผลิตภัณฑ์ เซรามิกเรียกว่า น้ำเคลือบ ซึ่งเป็นสารเจือระหว่างซิลิเกตกับสารช่วยหลอมละลาย วัตถุดิบที่เป็นน้ำยาเคลือบถูกป่นจนละเอียดมากกว่าดินหลายเท่า ก่อนนำมาเคลือบบนดินเผา เป็นชั้น หนา 1-1.5 มม. เมื่อเคลือบแล้วต้องทิ้งให้สินค้าแห้ง เช็ดก้นสินค้าให้สะอาดก่อนเข้าเตาเผา ผลิตภัณฑ์ที่เคลือบแล้ว โดนเผาผ่านความร้อนอุณภูมิสูง วัตถุดิบที่เป็นแก้วในเคลือบเมื่อถึงจุดละลายรวมกัน ชั้นของเคลือบจะกลายเป็นแก้วแวววาวติดอยู่กับผิวดิน
เคลือบช่วยให้การล้างภาชนะสะดวก เนื่องจากเคลือบมีสมบัติลื่นมือ สามารถซักฟอกง่าย กว่า ผิวดินที่มีลักษณะค่อนข้างหยาบ
เคลือบมีคุณสมบัติเป็นแก้วไม่ดูดซับน้ำ และยังเพิ่มความทนทาน ทำให้ภาชนะดินเผา ไม่บิ่นง่าย เมื่อกระทบกันบ่อยๆขณะล้างทำความสะอาด และสามารถใส่ของเหลวได้โดยไม่รั่วซึม
โรงงานceramicในช่วงเวลาทีแรก
อุตสาหกรรมเซรามิคลำปางในยุคทีแรกเริ่มประมาณปี พ.ศ. 2502-2505 กลุ่มชาวจีนท้องถิ่นเดียวกัน (ชาวจีนเมืองไท้ปู)ได้ชวนกันมาตั้งโรงงานขึ้นที่ลำปาง เพื่อกำเนิดถ้วยตราไก่ ถ้วยก๋วยเตี๋ยว ซึ่งรุ่นแรก ๆ ได้แก่ โรงงานจานชามลำปาง โดยนายทวี ผลเจริญ และมิตรสหายสนิทได้ร่วมกันออกทุนจัดตั้งขึ้น แต่ต่อมานายทวีได้แยกตัวออกไปเริ่มตั้งโรงงานแห่งใหม่ชื่อ ‘โรงงานทวีผล’ และได้นำเตาแบบสี่เหลี่ยมเข้ามาลองทำเผา ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำในยุคแรกๆ เพราะได้รับความไว้นับถือให้กำเนิดลูกถ้วยไฟฟ้าเป็นแห่งแรกในสยาม
ในราวปี พ.ศ. 2505-2510 ช่วงนี้ถือเป็นยุคหัวเลี้ยวหัวต่อครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรม
เซรามิกส์ ลำปางอีกช่วงหนึ่ง เนื่องด้วยมีกลุ่มคนจีนในประเทศไทยมาลงทุนเปิดโรงงานผลิตถ้วยชามที่จังหวัดลำปางเป็นมากมาย โดยใช้เตามังกร เตาสี่เหลี่ยม เตาอุโมงค์เป็นหลัก แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะขาดความเชี่ยวชาญทางด้านวัตถุดิบ และเคล็ดที่ดีพอ การผลิตมีความผิดพลาดหลายแห่ง จึงเกิดการสูญเสียวัตถุดิบเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้คุณภาพสินค้าไม่สม่ำเสมอ ค่าจึงตกต่ำ และขายได้เฉพาะในพื้นถิ่นแค่นั้น
อย่างไรก็ตามลมหายใจของอุตสาหกรรมโรงงานเซรามิคของลำปางก็ยังไม่ถึงกับหยุดสนิทและตายไป เพราะปี พ.ศ. 2510-2512 กรมวิทยาศาสตร์ กระทรวงอุตสาหกรรมในขณะนั้นได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมโรงงานเซรามิคในจังหวัดลำปางเป็นพิเศษ รวมทั้งมีแนวคิดอยากให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม จึงได้จัดประกวดชามขึ้นที่วัดบุญวาทย์ ในช่วงนั้นถือเป็นการเกิดใหม่อีกครั้งของอุตสาหกรรม
โรงงานเซรามิคของลำปาง เพราะนับตั้งแต่นั้นมาเซรามิคลำปางก็ติดลมบน
Tags : เซรามิค,เซรามิก,โรงงานเซรามิค
