Advertisement
อีกหนึ่งเรื่องราวความสำเร็จในการหางาน ที่อาจจะไม่ต้องฝ่าฟันอะไรมากมาย แต่ความพิเศษมีอยู่ที่การรู้จักความต้องการของตัวเอง และการใช้เครื่องมือที่ดีในการหางานที่ใช่ แล้วก็มีความสุข สนุกสนานในทุกนาทีที่ได้ทำงาน หนุ่มไอทีหัวใจสมาร์ท จากบริษัทเจ้าของเว็บไซต์เพื่อการท่องเที่ยวชื่อดัง ผู้ใช้เทคโนโลยีนำทาง จนเจองานที่ใช่ และใจรัก
งานตอนนี้ทำอะไรอยู่ “ตอนนี้ทำ
งาน IT support เวลาใครมีปัญหาเรื่องคอมพ์ ถ้ามีปัญหาเราก็เข้าไปแก้ไขเลย ทีมที่นี่จะแบ่งเป็น2 พาร์ท คือ Help desk กับ Support ผมอยู่ support ก็จะเป็นฝ่ายที่วิ่งเข้าหา user มากกว่า โดยเฉพาะใน officeแต่ก็จะมี service ทั่วโลกเหมือนกันครับ”
เส้นทางที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เป็น IT มาตลอดรึเปล่า “ใช่ครับ งานก่อนหน้านี้ผมก็เป็น IT มาก่อน แต่จะเป็นงาน
Mobile App developer เป็นเหมือนคนเขียนMobile App แล้วก็ดูแล้วไม่ค่อยเหมาะกับตัวเองเท่าไหร่ ก็เลยออก มันเหมือนไม่ใช่ทางผม แต่ถ้าถามว่าทำได้ไหม ได้นะครับ แต่ในเรื่องของรูปแบบงาน หรือว่าภายในองค์กรมันยังไม่โอเคสำหรับผมเท่าไหร่ ผมก็อยู่แล้วรู้สึกไม่สบายใจ ก็เลยลาออกมา แล้วตอนที่ลาออกเนี่ย ก็คือไม่ได้เตรียมตัวอะไร คือออกมาเลย เหมือนเคว้งไปเลย เพราะว่าไม่ได้
หางานรองรับ ประกอบกับว่าตอนนั้นเราเป็น
เด็กจบใหม่ด้วย แบบว่า พองานมันไม่ใช่ เราไม่อยากจะเสียเวลากับที่นี่ เลยตัดสินใจออกมา ก็ไม่ได้ทันคิดว่าเราจะต้อง
หางานรองรับก่อน”
เป็น IT ก็ต้องหางานแบบ IT แน่ ๆ เลย “ครับผม เคยได้รับอีเมล์ตามเว็บฯ ต่าง ๆ banner ตามเว็บฯ แล้วก็ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์หางานครับ ก็มาโดนที่ jobsDB เค้าบอกกันว่างานโอเค ก็เลยเข้าไปฝากเรซูเม่ สร้างโปรไฟล์เลยครับ แล้วก็เลือกประเภทงานที่เราต้องการจะหา จากนั้นไม่นานก็ได้ทำงานมาถึงปัจจุบันที่ทำอยู่ ก็ลองสมัครไป รอไปประมาณไม่กี่เดือนครับ กว่าเขาจะเรียกสัมภาษณ์ แล้วก็ตกลง แต่ระหว่างที่รอก็ apply ส่ง ๆ ๆ ไปเยอะพอสมควร หรือไปสัมภาษณ์งานจากบริษัทที่เพื่อนแนะนำมาด้วย”
4 คนส่วนมากมักคิดว่า การ
สมัครงาน คือการเอาตัวเราเองไปให้องค์กรเลือกว่าจะรับ หรือไม่รับเข้าทำงาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตัวเราเองก็มีสิทธิ์ในการเลือกองค์กรเหมือนกัน ด้วยความเข้าใจผิดนี้ ทำให้ใครต่อใครหลายคน ย้ายงานไปแล้วเจอปัญหา อารมณ์ประมาณว่าหนีเสือ ปะจระเข้อยู่บ่อย ๆ เพราะมัวแต่คิดว่าตัวเองต้องเป็นผู้ถูกเลือกตลอดเวลา จึงเผลอตัวเผลอใจไปรับข้อเสนอแบบไม่ทันพิจารณาให้รอบคอบ เพราะเกรงว่าจะไม่ได้งาน
คุณลองเปลี่ยนความคิดแบบเดิม ๆ แล้วถ้ามีโอกาสได้เลือกงานใหม่อีกครั้งลองนำข้อแนะนำต่อไปนี้ไปปฏิบัติดูค่ะ
- หาข้อมูล
ขอบคุณโลกใบนี้ที่มีเวบเสิร์ชเอนจิ้น (Search Engine) ทำให้เราหาข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ถ้าคุณอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทไหน ก็สามารถเข้าไปหาได้ แล้วอะไรคือประเด็นสำคัญที่เราอยากรู้เพื่อการสมัครงานกันล่ะ? คุณอาจมีคำถามในใจ สิ่งที่เราควรพิจารณาคือ ความมั่นคงของบริษัทนั้น ถ้าเวปไซต์ของบริษัทนั้นมีแผนผังขององค์กรให้ดูด้วยยิ่งดีใหญ่ คุณจะได้เห็นขอบข่ายงานของตำแหน่งคุณได้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่น ๆเช่น ชื่อเสียงองค์กร สวัสดิการอื่น ๆ ฯลฯ
- ถามคนรู้จักที่เป็นวงใน
ข้อนี้ช่วยได้มากทีเดียว การถามคนที่รู้จักที่อยู่ในองค์กรนั้น ๆ จะทำให้เรารู้ข้อมูลในเชิงลึกแบบ exclusive มากกว่าการหาแต่ในอินเตอร์เนตเพียงอย่างเดียว เพราะคนที่รู้จักกับเราจะบอกความจริงที่คุณอาจหาไม่ได้จากเวปไซต์องค์กร เช่น ตำแหน่งที่คุณอยากสมัครนั้นเป็นตำแหน่งที่มีความก้าวหน้าหรือไม่ องค์กรกำลังมองหาคนแบบไหน และอื่น ๆ อีกมากมายแสดงให้เห็นถึงความจริงที่คุณต้องไปเผชิญเพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจ
- ศึกษาวัฒนธรรมองค์กร
เรื่องวัฒนธรรมองค์กรทำให้คนตัดสินใจลาออกมาแล้วเป็นจำนวนมาก ดังนั้นถ้ามีโอกาสได้เลือกอีกครั้ง ก็อย่าลืมศึกษาให้ถ่องแท้ด้วย ยิ่งถ้าใครได้มีโอกาสเข้าทำงานในองค์กรต่างชาติ ที่ต้องทำงานกับคนจากหลายชาติ หลายภาษายิ่งควรคำนึงถึงข้อนี้ให้มาก เพราะบางทีอาจมีบางจุดที่เรารับไม่ได้ เช่น วัฒนธรรมการพูดวิจารณ์ตรง ๆ วัฒนธรรมการเคารพลำดับอาวุโส ฯลฯ ควรเลือกองค์กรที่เหมาะกับนิสัยเรานะคะจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดในภายหลัง
- รู้ความต้องการของตัวเอง
เวลาจะย้ายงานใหม่ ควรมีที่มาที่ไป ทำไมถึงอยากย้ายงาน สิ่งที่เราคาดหวังจากงานใหม่คืออะไร เวลาเจรจาเรื่องเงินเดือน และผลประโยชน์ต่าง ๆ จะได้มีจุดยืนเป็นของตัวเอง บางทีองค์กรที่ดีกว่าเดิม ก็ไม่ได้มีหมายความถึงแค่เพียงตัวองค์กรเท่านั้น แต่หมายความถึงการได้ย้ายไปสู่จุดที่ตัวเองพอใจมากกว่าด้วย ดังนั้นการพิจารณาถึงความต้องการของตัวเองก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเช่นกัน
- เตรียมตัว
เมื่อคุณตัดสินใจจะไปสมัครงานแล้ว ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งานด้วย ถ้าอยากได้งานที่ดีขึ้นก็ต้องเตรียมตัวให้ดี อัพเดทประวัติการทำงาน คุณสมบัติโดดเด่นต่าง ๆ นานา จงเขียนลงไปให้หมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสมบัติที่องค์กรที่คุณต้องการสมัครกำลังมองหา เช่น สมมติว่า องค์กรนั้นกำลังหานักการตลาดอยู่ คุณก็ควรอัพเดทงานที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำการตลาด และเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่คาดว่าน่าจะถูกถาม เช่น ทำไมคุณอยากร่วมงานกับบริษัทเรา? ทำไมคุณอยากเปลี่ยนงาน? ไม่ใช่ตอบแค่เพียงผ่านไป แต่จะตอบอย่างไรให้ดูน่าเชื่อถือ และโดดเด่นเป็นที่จดจำต่อผู้สัมภาษณ์ด้วย
การหางานให้ได้องค์กรที่ดีกว่าเดิมไม่ใช่แค่พิจารณาในเรื่องเงินเดือน หรือชื่อเสียงขององค์กรเท่านั้น แต่ควรพิจารณาถึงแง่มุมอื่น ๆ ที่อาจมี ผลกระทบต่อการทำงานของเราด้วย เพราะคำว่าองค์กรดีในความรู้สึกคนอื่นกับความรู้สึกของตัวเราเองก็อาจไม่เหมือนกัน เพราะเกณฑ์ในการตัดสินของเราก็ไม่เหมือนกับคนอื่น ถ้ามีโอกาสเลือกงานใหม่ทั้งที ต้องเลือกให้ดีกว่าเดิมนะคะ จะได้ไม่ต้องย้ายใหม่บ่อย ๆ
Tags : หางาน,สมัครงาน,ตำแหน่งงานว่าง
Tags : หางาน,สมัครงาน,ตำแหน่งงานว่าง