จุดสำคัญของ เรือกู้ภัย เมื่อเกิดสถานการณ์น้ำท่วม ที่มีขึ้นกับตัวข้าพเจ้าครับ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จุดสำคัญของ เรือกู้ภัย เมื่อเกิดสถานการณ์น้ำท่วม ที่มีขึ้นกับตัวข้าพเจ้าครับ  (อ่าน 49 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jirasak2708
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22854


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2016, 02:07:34 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

หากพูดคุยกันถึงเรื่องราวของสถานการณ์ภัยธรรมชาติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภัยแล้ง น้ำท่วม วาตะภัย ในเมืองไทยนั้น ล้วนเกิดจากฝีมือของมนุษย์อย่างเราทั้งนั้น แต่เหตุที่จะเกิดได้บ่อยครั้งที่สุด และก่อความเดือดร้อนได้บ่อยครั้งมากก็คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์ของอุทกภัย หรือ น้ำท่วมที่เกิดขึ้นตามชานเมือง หรือแม้แต่ในกรุงเทพมหานคร ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และขณะมีเหตุการณ์เกี่ยวกับน้ำท่วมสิ่งที่จะช่วยอำนวยความสะดวก และช่วยเหลือทุกคนได้ นั้นก็หนีไม่พ้นเรือกู้ภัย ที่ปฏิบัติภารกิจตั้งแต่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยรวมไปถึงช่วยเหลือในเรื่องของการส่งข้าวสารของแห้ง ให้กับทางผู้เจอภัยอันตรายอีกด้วย หากสำหรับตัวข้าพเจ้าเอง จะมาเล่าเรื่องประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม ที่เคยพบเจอมากับตัวเอง และได้รับการช่วยเหลือต่าง ๆ รวมทั้ง การแสดงถึงความมีน้ำใจของคนไทยด้วยกันเองด้วยครับ เพราะผมต้องบอกก่อนเลยว่า ถ้าวันนั้น ผมไม่ได้เพื่อน ๆ และทีมกู้ภัยมาช่วยเหลือป่านนี้ครอบครัวผมคงแย่ไปแล้วครับ
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่ กรุงเทพฯ น้ำท่วม มิตรสหายๆ คงจะกันได้นะครับ เมื่อราวๆปี 2554 ได้ คือ ณ ตอนแรกที่น้ำจะล้นเนี่ย เราก็ได้ยินข่าวมาบ้างแล้ว ว่ามีน้ำท่วมจากทางตอนเหนือ ไหลลงมาสู่ กทม โดยก่อนจะมาถึงที่พักอาศัยผมนั้น ทางตอนเหนือก็ได้มีอุทกภัยมาก่อนแล้ว ผมดูจากโทรทัศน์ ก็เห็นพี่น้องช่วยเหลือกันมาก ทั้งเอาเรือกู้ภัย ไปคอยช่วยขนส่งให้กับผู้คนที่ประสบเหตุโดยในข่าว ก็มีบอกอยู่แล้ว ว่าน้ำจะไหลลงมา ยัน กรุงเทพฯ ซึ่งส่วนตัวผม ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะคิดว่า มันค่อนข้างจะไกลตัว และอีกอย่าง กรุงเทพฯแทบไม่เคยมีเหตุการณ์น้ำท่วมหนักหนาอะไร เต็มที่ก็น้ำท่วมขังจากฝนตกปรกติเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยและไม่คิดว่าจะมีวันท่วมมาถึงที่อยู่อาศัยเราด้วย สักพักก็มีข่าวคราวว่าน้ำมาถึงอยุธยา ทีนี้ผู้คนก็เริ่มแตกตื่น โดยผมบอกก่อนว่า บ้านผมอยู่แถว ๆ ดอนเมืองนะครับผมณ ตอนนั้น ผมก็ศึกษาอยู่ ม.รังสิต ก็เห็นมีข่าวคราวมี ให้ระดมคนไปสนับสนุนกันทำฝายกั้นน้ำ บรรจุกระสอบทรายกัน เพื่อปกป้องรักษาไม่ให้น้ำไหลผ่าน โดยตัวข้าพเจ้าเอง ก็ได้ไปช่วยและเริ่มเห็นน้ำว่า มีน้ำซึมออกมาตามท่อ ซึ่งในแรกเริ่ม ก็ไม่ได้ขึ้นเร็วอะไรเลย แต่มันขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีลด ตัวผมเองก็เริ่มจิตใจไม่ดีละ มาคุยกับที่บ้าน พวกคนในพี่น้อง ก็ปรึกษากันว่า จะซื้อเรือกันดีไหม แบบที่มันเป็นละม้ายๆ เรือกู้ภัย เผื่อมันท่วมมาถึงที่พักอาศัยเราจริง จะได้มีไว้ถ่ายคนในบ้าน และต้องบอกก่อนว่า บ้านผม มีคุณตา คุณยาย ซึ่งมีอายุและแกเป็นคนที่หวงบ้านมาก แต่ในเวลานั้น น้ำยังมาไม่ถึงครับ เราได้แต่ปรึกษากัน ว่าถ้าสมมติมันมาถึงบ้านเราจริง เราจะเอายังไงกัน แต่ทางพ่อของผมเอง ก็ไม่เชื่อและบอกว่า ถึงมันมา เดี๋ยวมันก็ลด ผมก็เลยไม่อยากโต้เถียงกับเขาครับ ก็รอดูต่อไป สักพักมีข่าวว่า ฝายกั้นตรงแถวม.รังสิต พัง น้ำทะลักเข้ามา ท่วมแถวอาณาเขตนั้นแล้ว ซึ่งบ้านของผม ก็อยู่ไม่ได้ห่างไกลจาก ม.รังสิตมากนัก ก็เลยเริ่มตื่นเต้นขึ้นมา ณ ตอนนั้น ยังคุยเล่น ๆ กับเพื่อนฝูงอยู่เลยครับ ว่าเห้ย บ้านน้ำเอ่อยัง เพื่อนบอกว่า เริ่มมีซึม ๆ ขึ้นมาจากท่อบ้างแล้ว ไอบ้านผมก็เริ่มมีมาบ้าง แต่ไม่ได้เยอะอะไรมาก ตอนแรก ก็เลยบอกพ่อว่ามันเริ่มมาแล้วนะพ่อจะไปหาเรือกู้ภัยมาไว้ก่อนไหม เผื่อเอาไว้พาตาคุณยายออกไป ถ้ามันท่วมหนัก พ่อก็บอกว่า เดี๋ยวมันก็ลด คุณพ่อท่านบอกว่า อยู่ที่ดอนเมืองมา 20 กว่าปี ไม่เคยเจอท่วมสูงเลยหัวเข่าเลย เต็มทีก็เกินหัวเข่า และอีกอย่าง ดอนเมืองเป็นพื้นที่สูง น้ำมาไม่ถึงหรอก ถ้าไม่ยังงั้น สนามบิน คงเจ๊งด้วยแล้ว โดยส่วนตัวผมก็ยังคงออกไปซื้อของตามปกติธรรมดาแต่ก็เริ่มเห็นบางบ้านมีการจัดเตรียมเรือกู้ภัยเอาไว้บ้างแล้ว ที่นี้ก็เริ่มใจคอไม่ดีแล้วครับผมเพราะในใจผมเองเนี่ย เห็นว่า มันน่าจะมีโอกาสท่วม และพอสักพัก น้ำมันเริ่มท่วมจริง ๆ โดยมาจากท่อต่าง ๆ ซึมซาบขึ้นมาเรื่อย ๆ จนคนเริ่มอพยพหนีไปหมดแล้ว หมู่บ้านที่ผมอยู่นี้ เงียบเหงากันเลยทีเดียว ผมกับทางครอบครัว ก็ยังมีหวังว่ามันจะลด ก็หาเครื่องปั๊มน้ำ มาดูดน้ำออกจากบ้าน และก็ทำกระสอบทรายเอามากั้นน้ำไว้ เพื่อระแวดระวังไม่ให้น้ำเข้าบ้าน แต่ท้ายที่สุด มันก็เข้าบ้านจนได้ และเราก็ดูดน้ำจากภายในออกข้างนอก เรื่อย ๆ ทั้งวันทั้งคืน โดยการสลับเวรกัน ช่วยกันสังเกตเพื่อไม่ให้น้ำเข้าบ้านเรามากครับ แต่สุดท้าย ก็ไม่ไหวครับ น้ำขึ้นไปจนถึงต้นขาบนแล้ว และบ้านเรือนผมเป็นบ้านชั้นเดียว ก็เลยมาหารือกันใหม่ ว่าเราจะเอาไงกันดี เพราะว่ามันเริ่มท่วมขึ้น ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลงเลยแม้แต่น้อย และอีกอย่าง การขับถ่ายอะไรก็เริ่มลำบากมากขึ้น คุณพ่อเลยปลงใจ ทิ้งบ้านไว้ และให้พวกเราออกไป และหนีไปอยู่ ต่างจังหวัดกันครับ แต่อุปสรรคก็คือ น้ำมันท่วมสูงพอประมาณ สำหรับคนแก่ ที่แข้งขาไม่ค่อยมีแรง เป็นอะไรที่ลำบากมากครับ และการเคลื่อนย้ายก็ลำบาก เพราะว่าบ้านเราเป็นคนตัวใหญ่ จะให้แบกหามพวกท่านก็ไม่น่าจะไหวกันครับ ก็เลยตัดสินใจ ไปหาพวกให้บริการเรือกู้ภัย เพื่อมารับเราไปส่งในที่ ๆ น้ำยังล้นไม่ถึงครับ แต่ปัญหาก็คือ หาไม่ได้เลยครับ เพราะโดยมากก็จะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และค่อนข้างมีราคาสูง อีกอย่างคือคนใช้บริการจำนวนมาก พวกที่ทำมาหากินทางนี้ ก็เลยชาร์จสนนราคากันเต็มที่เลย ประเด็นก็คือ เราไม่ได้มีการเตรียมพร้อมอะไรสักอย่าง เงินสดก็ไม่ได้กดไว้เลย คือไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเช่าเรือราคาแพงเพียงนี้ ตู้ ATM ก็ใช้งานไม่ได้ครับ ทีนี้เราก็ค่อนข้างจะเครียดกันมากและ เพราะหาเรือให้เราอาศัยไม่ได้เลย และน้ำก็เริ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆๆ เลย แต่สุดท้าย พบพวกจิตอาสาครับ คอยขี่เรือกู้ภัย รับส่งผู้ที่ประสบภัย ลอยผ่านเข้ามาในหมู่บ้านพอดี เพื่อน้ำข้างของมามอบให้สำหรับคนที่มีบ้าน 2 ชั้น และไม่ประสงค์จะออกไปไหน ข้าพเจ้าก็เลยออกไปคุย และร้องขอพี่เขา ว่าช่วยไปส่งพวกผมหน่อย ประเดี๋ยวถ้าถึงที่ ที่น้ำท่วมไม่ถึงแล้ว จะรีบกดสตางค์มาให้ เขาก็บอกได้ ๆ ให้พวกเราขึ้นเรือไปครับ ผมนี้คือแบบปลาบปลื้มใจ เพราะเราหมดช่องทางแล้วจริง ๆ ณ ตอนนี้ ดีที่ได้เจอพวกพี่จิตอาสาพวกนี้ผ่านเข้ามาพอดี และพอเขานำพวกผมไปส่งเสร็จ พ่อผมกำลังจะไปรีบไปหาตู้ สำหรับกดเงิน มาเป็นการขอบคุณพี่เขา เขาบอกกลับมาว่า " ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รับ มีอะไรที่ช่วยเหลือกันได้ ก็ช่วยครับ คนไทยด้วยกันครับ " (แล้วก็ยิ้ม) ประโยคนี้ ทำให้ผมซึ้งใจมาก ๆ ในน้ำใจพี่ ๆ อาสาครับ แบบถ้าไม่ได้เรือกู้ภัยของพวกพี่เขา เราคงลำบากมาก ๆ แน่ ๆ และทำให้รู้ว่า คนไทยรักกัน และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จริง ๆ แถมยังช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่หวังผลประโยชน์อะไรเลย
อย่างน้อยในเหตุการณ์ที่เลวร้าย ก็แฝงไปด้วยความเป็นมิตรดี ๆ ที่ทำให้เราได้รู้ว่า พวกเราเฝ้าคอยช่วยเหลือกันและกันในยามลำบากครับ ผมซาบซึ้งใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก ถึงแม้ มันจะไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตอะไร สำหรับบุคคลอื่น ที่ไม่ได้ประสบกับภัยน้ำท่วมนั้น คงจะมองว่า ผมโอเว่อร์หรือไม่แต่สำหรับผม มันคือมิตรจิตมิตรใจที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ครับ และทำให้ญาติของผมผ่านพ้นวิกฤตนั้นมาได้ ยังไงก็ขอบคุณพวกพี่ ๆ จิตอาสากลุ่มนั้นมาก ๆ ครับ ถึงเขาอาจไม่ได้รับรู้ก็ตาม และเรื่องราวนี้ทำให้ผมคิดอยู่เสมอว่า หากมีใครที่ลำบากกว่าเรา และเราพอที่จะช่วยเหลือเขาได้ เราก็ควรช่วยเหลือเขานะครับผมเพราะอย่างน้อย ก็เป็นน้ำใจเพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และจะทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้นครับ
 

Tags : เรือ,ตกปลาช่อน,ตกปลาทะเล



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ