Advertisement
แชร์ข้อมูลสอนเกี่ยวกับ การทำ SEO On Page Promote Website สนับสนุน Search Engine แบบผู้เชี่ยวชาญ เป็นพื้นฐานที่สำคัญความรู้ การทำ SEO On Page ทำการตลาดออนไลน์ สนับสนุน Search Engine แบบผู้เชี่ยวชาญ ขอต้อนรับท่านเข้าสู่บทความที่เกี่ยวกับทำ SEOคุณสามารถหาคำตอบได้จากที่นี่
การปรับ SEO ด้วยปัจจัย On Page ยุคปัจจุบันการทำ SEO ให้ติดอันดับ Google จะต้องมุ่งเน้นคุณภาพมากกว่าเดิม การปรับเว็บด้วยปัจจัย On Page จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการโปรโมทให้เว็บติดอันดับแรกๆ ของ Search Result เพราะกูเกิลอยากได้เว็บที่มีบทความคุณภาพที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านมากที่สุด การปรับเอสอีโอเอนเพจจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการดันให้เว็บติดหน้าแรก Google เพราะหากสร้าง Qaulity Content ที่มีประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชม Google ก็จะนำเว็บของเราไปแสดงอยู่อันดับแรกๆ ยุคนี้กูเกิลได้พัฒนาอัลกอริทึมตัวใหม่ที่ชื่อว่า RankBrain ซึ่งเป็นระบบ AI (Artificial Intelligence) ในการจัดอันดับด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ และด้วยระบบการจัดอันดับโดยใช้ RankBrain มุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับบทความคุณภาพมากยิ่งขึ้น เว็บที่มีเนื้อหาน้อยๆ หรือมีปริมาณหน้าที่ อินเด็กซ์ ไม่มาก แต่เน้นการเพิ่มลิงค์มากๆ จะทำอันดับได้ยากขึ้น ตรงกันข้ามกับเว็บที่มีเนื้อหาคุณภาพ และมีจำนวนหน้าเว็บไซต์ที่ อินเด็กซ์ มากๆ สามารถดันอันดับได้ง่ายขึ้น การปรับให้เว็บมีเนื้อหาคุณภาพตามเกณฑ์ Quality Rater Guideline จึงมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งทางกูเกิลก็ได้ออกเอกสารสำหรับตรวจสอบคุณภาพของเว็บ โดยแบ่งความสำคัญของเนื้อหาด้วยเกณฑ์ที่ Google กำหนดขึ้น หลายๆ คนพอจะเริ่มเข้าใจกันแล้วใช่หรือไม่ครับ ว่าการปรับ On Page คือ การปรับให้เว็บสนับสนุนกา
ทำ SEO[/url] โดยมุ่งเน้นที่การปรับทางด้านปัจจัยภายในเว็บเป็นหลักนั่นเองครับ และการปรับออนเพจเอสอีโอก็มีหลายอย่าง เพื่อปรับให้เว็บสนับสนุน Keywords ที่ต้องการดันอันดับบน SERPs (Search Result Pages) ว่ากันว่าการปรับออนเพจที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยส่งเสริมให้เว็บติดอันดับเร็ว บางคนอาจยังงงๆ ว่าแค่การปรับหน้าเว็บไซต์ก็สามารถดันอันดับได้แล้วหรือ ผมขออธิบายดังนี้ ว่า การปรับให้เว็บมีบทความคุณภาพ อย่างแรกเลย ระบบอัลกอริทึมจะรู้ได้ทันทีว่าเว็บที่เราสร้างขึ้นนั้น มีบทความคุณภาพ เพราะว่ากูเกิลมีข้อมูลมากมายอยู่ในมือ โดยเก็บรวมข้อมูลต่างๆ จากเว็บทั่วโลก มาไว้บน Server ของ Google และเมื่อเราสร้างเว็บใหม่ๆ และได้ทำการอิมพอร์ตเข้า Search Engine Console เว็บของเราก็จะถูกกูเกิลนำไปจัดทำดัชนีบนผลการค้นหา หรือที่เรียกว่า Google Index ซึ่งการที่เราเพิ่มเว็บเข้าไปในเครื่องมือ Search Console ของกูเกิลนั้น จะส่งเสริมให้กูเกิลนำเว็บของเราไปจัดทำดัชนีได้เร็วยิ่งขึ้น แน่นำว่าเว็บใหม่ควรใช้เครื่องมือตัวนี้ หรือบางกรณีหากไม่นำเข้าไปในเสิร์ทคอนโซลก็อาจสร้าง Links กลับมายังเว็บไซต์ เพื่อทำให้ Google Bots ทำการ Crawled มาเก็บข้อมูลหน้าเว็บของเราไป Index ก็ได้เช่นกันครับ การปรับหน้าเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ จะช่วยส่งเสริมให้เว็บของเราถูกหลักของ RankBrain อีกด้วย เพราะอัลกอริทึมตัวนี้มีความสามารถในการคัดเลือกเว็บคุณภาพเพื่อนำไปจัด อันดับบน Search Result ได้เป็นอย่างดีครับ ซึ่งล่าสุดหัวหน้าพัฒนาด้าน Search Quality ของกูเกิล ได้ออกมาบรรยายว่าการจัดอันดับเอสอีโอ ยังคงใช้ Content + Links เป็นปัจจัยหลัก และสำหรับ Top 3 กูเกิลจะใช้ Content + Linsk + RankBrain ในการจัดอันดับ ซึ่ง แสดงให้เห็นชัดว่า Content มีความสำคัญต่อการดันอันดับเอสอีโอมากๆ รองลงมาก็จะเป็นเรื่องของ Links ส่วนเว็บที่ต้องการทำให้ติดอันดับ Top 3 ก็ต้องปรับให้เว็บมีคุณภาพไปอีกขั้น คือ มีเนื้อหาคุณภาพ มีลิงค์คุณภาพ แล้วต้องสนับสนุนการจัดอันดับด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์อีกด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจว่าเว็บที่อยู่หน้าแรก จะขยับขึ้น ลงช้า เพราะมีการคัดเลือกคุณภาพของเว็บหลายวิธีการ เพื่อจัดอันดับเว็บที่มีคุณภาพมากที่สุดอยู่อันดับบนสุด การปรับเอสอีโอออนเพจในยุคนี้ ยังต้องทำให้เว็บรองรับ User ทุกด้าน เพราะกูเกิลออกมากล่าวอยู่บ่อยๆ ว่าต้องทำเว็บให้ถูกใจผู้ใช้งาน และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับยูสเซอร์ หรือที่เรียกว่า UX (User Experience) ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากๆ และมันสัมพันธ์กับอันดับ SEO มากๆ เพราะยูสเซอร์ ทำให้เว็บไซต์มีค่าตัวเลขต่างๆ ที่กูเกิลนำมาใช้วัดคุณภาพของเว็บดีขึ้นนั่นเองครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขในส่วนของ Search Console หรือ Analytics ล้วนแต่เป็นปัจจัยหลักที่กูเกิลนำมาใช้จัดอันดับ และเอาข้อมูลเหล่านั้นมาแยกแยะคุณภาพของเว็บตามเกณฑ์ที่กูเกิลกำหนดไว้
เขียนบทความยังไงให้พึงพอใจ Google วิธีการการเขียนบทความให้พอใจ Google คือ การเขียนเนื้อหาให้ครอบคลุมทั้งหมดที่สัมพันธ์กับเรื่องที่กำลังนำเสนอ เช่น หากเรากำลังเขียนเนื้อหาเกี่ยวกับการทำ "อาหาร" เราก็ต้องอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับกรรมวิธีการทำอาหาร แต่ละเมนู รวมทั้งเขียนอธิบายเกี่ยวกับเครื่องปรุงของเมนูอาหารนั้นๆ ตลอดจนเทคนิควิธีการปรุงอาหารให้อร่อย เป็นต้น คือ ต้องอธิบายให้ผู้ติดตามได้รับความรู้จริงๆ และสามารถนำเอาความรู้ที่ได้จากการอ่านเนื้อหาของเรา ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้นั่นเองครับ ยังไงก็ตามจุดสำคัญอีกอย่างของการสร้างเนื้อหาให้มีคุณภาพในมุมมองของ Google คือ การโปรโมทให้คนเข้าอ่านบทความของเรามากๆ แม้ว่าบทความจะดีแค่ไหน มีรายละเอียดลึกซึ้งแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีคนอ่านเลย หรือ มีน้อย หน้าเว็บ หรือ หน้าบทความของเราก็จะติดอันดับแรกๆ ของ Google ได้ยากครับ เพราะยุคนี้ กูเกิลเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน เป็นลำดับแรก เว็บไหนก็ตามที่มีคนเข้าเว็บมากๆ ย่อมจะมีอันดับที่ดีตามมาครับ บางครั้งอาจไม่ต้องสร้างลิงค์กลับมาหาเว็บหลักด้วยซ้ำ สรุป การสร้างบทความคุณภาพในมุมมองของ Google คือ การเขียน Content ที่มีรายละเอียดครบถ้วน รวมทั้งมีการสืบทอดประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้อ่าน อีกทั้งต้องโปรโมทให้คนเข้าอ่านบทความปริมาณมากๆ เท่านี้ เราก็สามารถเป็น Expert Writer ในมุมมองกูเกิลได้แล้วละครับ
ขั้นตอนการปรับ On-Page SEO ให้เว็บไซต์ การปรับเอสอีโอออนเพจแบบง่ายที่สุด และเป็นกระบวนการการดันอันดับแรกๆ เลยก็คือ การปรับให้ Title ของเว็บ Meta Description และ Meta Keywords รวมทั้งการเน้นคำ ข้อความ ประโยค ให้สนับสนุน Keyword ที่เราต้องการทำ SEO ครับ การปรับไตเติ้ลของเว็บ ควรแทรกคีย์เวิร์ดหลักที่ต้องการโปรโมทให้ติดอันดับกูเกิล เข้าไปด้วย ซึ่ง อันดับความสำคัญของ ข้อความ หรือ ประโยค ของไตเติ้ลจะเรียงจากซ้ายไปขวาครับ นั่นหมายความว่า หากเราต้องการเน้นคีย์เวิร์ดอะไร ก็กำหนดให้อยู่ด้ายซ้ายมือสุดไว้ครับ แต่บางที ต้องให้ความสำคัญของ การทำให้ประโยคหน้าชอบด้วยครับ บางกรณี การนำ Main Keyword ของเว็บไปอยู่ด้านหน้าสุด อาจไม่ทำให้ประโยคหน้าสนใจ ทำให้คนเห็นแล้วอาจคลิกเข้าอ่านเว็บลดลงได้ครับ การที่คนค้นหาแล้วเจอเว็บของเรา ไม่ว่าจะเป็นหน้าหลัก หรือหน้ารอง หากมีผู้ใช้งานทำการคลิกเข้าอ่านเนื้อหาภายในเว็บ จะส่งเสริมให้เว็บของเราได้รับคะแนนข้อมูลของ Google Search Console ในส่วนของ Analytics for Search ซึ่ง กูเกิลจะเข้าใจว่าเว็บของเราเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดอะไรมากที่สุด และมีคนสนในคลิกเข้าเว็บของเราจากลุ่มคีย์เวิร์ดไหน เพื่อนำเว็บของเราไปจัดอันดับในกลุ่มคีย์เวิร์ดที่มีผู้ใช้งานค้นหาและคลิ กเข้าอ่านเว็บบ่อยๆ ครับ และยิ่งมีคนคลิกเข้าอ่านเว็บของเรามากเท่าไหร่ ย่อมทำให้เว็บของเรามีค่า CTR (Click Through Rate) สูงยิ่งขึ้น และค่า CTR นี่เอง ทางพนักงาน Google อย่าง Andrey Lipattsev ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมพัฒนาในด้าน Search Quality ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Search Marketing ของอเมริกาว่า Click-through-rates as a ranking signal ซึ่งสอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญทางด้าน SEO อย่าง Rand Fishkin ที่ออกมาให้ความเห็น พร้อมทั้งได้ทำการทดลองเกี่ยวกับค่า CTR ว่ามีผลต่อการจัดอันดับค่อนข้างมาก รวมไปถึงการ Click เข้าเว็บผ่านการ Search Query เป็นปัจจัยที่ทำให้ติดอันดับรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แม้ว่าทีมงานของ Google บางคน เช่น Gary Illyes ทำงานด้าน Standup Trends Analyst at Google หรือ Jonh Mueller ทำงานด้าน Webmaster Trends Analyst at Google. For webmaster help. ซึ่งไม่ได้อยู่ในแผนกการพัฒนาระบบ Core Algorithm ได้ออกมาพูดว่า CTR และการคลิกเข้าเว็บไม่ได้เป็นปัจจัยในการจัดอันดับ Google Ranking แต่เมื่อหัวหน้าทีมพัฒนาทางด้านคุณภาพของกูเกิลออกมารับรอง ก็มั่นใจว่าถูกต้องแล้ว อีกทั้งมันก็สอดคล้องกับการทดลองเกี่ยวกับ SEO จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก หรือแม้กระทั่งตัวผมเอง ก็เข้าใจว่าปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่ออันดับค่อนข้างมาก และอาจเป็นปัจจัยหลักด้วยซ้ำไปครับ แม้ว่า Andrey Lipattsev จะออกมายืนยันว่า Google ยังคงใช้ Content + Link เป็นปัจจัยหลักในการจัดอันดับกูเกิล และจะใช้ Content + Link + RankBrain ในการจัดอันดับกูเกิล Top 3 ก็ตาม จากการประเมินผลหลายๆ ครั้ง พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่ออันดับที่เร็ว แรง มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด คือ จำนวน Traffic ที่เข้าสู่เว็บจากที่ตั้งที่แตกต่างกันทางด้านภูมิศาสตร์ และยิ่งเป็น Google Search Traffic ยิ่งจะส่งผลทำให้เว็บติดอันดับเอสอีโอ ได้เร็วมากๆ และทราฟฟิคมีแต่จะส่งผลดีเท่านั้น แตกต่างลิงค์อาจส่งผลเสียต่ออันดับเว็บได้ หากมีการ Update Algorithm แล้วระบบอัลกอริทึมคิดว่าลิงค์นั้นๆ ไร้คุณภาพ ก็อาจทำให้เว็บมีอันดับที่แย่ลงได้ แน่นอนถ้าเป็นทราฟฟิคจะไม่เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว เพราะทราฟฟิคที่มาจากคนจริงๆ ย่อมจะส่งผลดีต่อเว็บเสมอ และกูเกิลจะบันทึกข้อมูลเหล่านั้นไว้ตลอดเวลา ตราบใดที่เรายังคงใช้งาน ชื่อเว็บไซต์ นั้นๆ อยู่ครับ เห็นไมละครับในแง่ของ SEO หากเราพูดเกี่ยวกับอะไรสักหัวข้อ มันจะแตกแขนงออกไปหลายๆ หัวข้อย่อย และหลายๆ ปัจจัย จากการทดสอบและทดลองเกี่ยวกับ SEO Factors มาสักพัก จริงๆ แล้วทดสอบมาเนิ่นนานหลายปี และเห็นว่า Google มีแนวโน้นที่จะใช้คน หรือ ผู้ใช้งาน เป็นปัจจัยชี้วัดคุณภาพของเว็บ เหตุผลหลักที่ Google ทำแบบนี้ เพราะนักทำ SEO สายดำ หรือที่เรียกว่า Black Hat นั้น ไม่สามารถใช้วิธีการสแปม เพื่อให้มีคนเข้าเว็บไซต์จำนวนมากๆ ได้ อีกทั้งไม่สามารถทำให้คนค้นหาจาก Search Engine พูดง่ายๆ กูเกิลเลือกใช้ปัจจัยชี้วัดคุณภาพของเว็บด้วยปริมาณยูสเซอร์ รวมทั้งพฤติกรรมต่างๆ ของยูสเซอร์ในเว็บหนึ่งๆ ครับ ซึ่งระยะหลังเราจะได้ยินคำว่า UX (User Experience) จากเว็บเอสอีโอเมืองนอกอยู่บ่อยๆ ครับ
การปรับ On-Page ที่ดีต้องมีเนื้อหาครอบคลุม หลายๆ คนอาจเข้าใจว่าการปรับ On-Page ที่ดี คือการปรับแต่งเฉพาะในส่วนของ Title , Meta Description และ Meta Keywords รวมไปถึงการเน้นข้อความในประโยคที่มีคีย์เวิร์ดหลักของเว็บไซต์เท่านั้นๆ จริงๆ แล้วหากเป็นเมื่อหลายปีก่อนอาจจะใช้แค่การปรับเท่าที่พูดมาข้างต้นก็เพียง พอแล้ว แต่การทำเอสอีโอยุคปัจจุบันการปรับแค่นี้ยังไม่พอต่อคำว่าคุณภาพในสาย ตาของ Google เพราะคำว่าคุณภาพในมุมมองของกูเกิล คือ การทำให้เว็บมีบทความที่ครบคลุมเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ อย่างสมบูรณ์แบบ ตลอดจนสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ของผู้เขียนเข้าไปในบทความอีกด้วย เพื่อผู้อ่านได้รับประโยชน์สูงสุดจากการอ่านข้อมูลภายในเว็บไซต์ อีกทั้งในยุคปัจจุบันเราไม่จำเป็นต้องเน้นคำ หรือ ประโยค มากมาย คล้ายเมื่อก่อน Google ก็เข้าใจได้ว่าเรากำลังเขียนบทความเกี่ยวกับอะไร และต้องการนำเสนอให้กับผู้ติดตามในกลุ่มไหน คีย์เวิร์ดอะไร และใครบ้างควรได้อ่านบทความของเรา ซึ่งเรื่องพวกนี้กูเกิลเขาปรับปรุงระบบอัลกอริทึมและระบบปัญญาประดิษฐ์มาสนับสนุน การสร้างเว็บของเรา เพื่อออกสู่มุมมองผู้ใช้งานทั่วไปอยู่แล้วครับ ขึ้นอยู่กับเราว่าจะสร้างเนื้อหาได้ดีแค่ไหน พึงพอใจกูเกิลและผู้อ่านมากน้อยขนาดไหน เพราะผู้ใช้งานคือผู้บอกให้กูเกิลเข้าใจว่าเว็บเรามีคุณภาพหรือไม่ จากข้อมูลคนเข้าเว็บ ช่วงเวลาที่อาศัยอยู่ในหน้าเว็บไซต์ (Time Session) ค่าอัตตราตีกลับ (Bounce Rate) ปริมาณการเปิดหน้าเว็บไซต์ (PageView) ตำแหน่งของยูสเซอร์ (Geography) สถิติเหล่านี้สะท้อนถึงคุณภาพของเว็บได้เป็นอย่างดีครับ และพยายามห้ามคัดลอกเนื้อหาจากเว็บอื่นมาโพสลงในหน้าเว็บไซต์ของเราเด็ดขาด เพราะ Google จะมองว่าเว็บของเราเป็น Duplicate Content หรือเป็น Spam Content ได้ครับ หากอยากได้อ้างอิงเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่น ให้ทำการรีไรท์ใหม่ตามความเข้าใจของเราครับ แน่นอนว่าคุณอาจเคยเจอเว็บที่คัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นมาแล้วมีอันดับเอสอีโอ ที่สุดยอดกว่าเว็บต้นฉบับ เช่น Sanook , Kappok , mthai บางทีเว็บเหล่านี้ก็คัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นมา แล้วให้เครดิตกับเว็บต้นฉบับ แต่อันดับเอสอีโอดันดีกว่า ไม่ต้องข้องใจกันครับ เพราะเว็บพวกนี้เป็นเว็บขนาดใหญ่มีปริมาณผู้ใช้งานเข้าเว็บปริมาณมากมาย มหาศาล และด้วยจำนวนทราฟฟิคมากๆ ทำให้กูเกิลคิดว่ามีคุณภาพมากกว่าครับ ยังไงถ้าเป็นเว็บใหม่ หรือเว็บไม่ใหญ่ ไม่ควรคัดลอกเนื้อหาจากเว็บอื่นมาเป็นอันขนาดครับ เพราะอาจทำให้เว็บมีอันดับร่วงไปจากเดิมได้ครับ
ปรับ On-Page ที่ดีต้องแชร์เนื้อหาไปยัง Facebook แม้ว่าปัจจุบัน Google จะปรับปรุงระบบอัลกอริทึมไปอย่างรวดเร็ว มีระบบอัลกอริทึมใหม่ๆ ออกมามากมาย อีกทั้งได้ปรับปรุงระบบ Algorithm ให้มีขีดความสามารถในการคัดเลือกคุณภาพของเว็บได้มากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าการเขียนบทความ
คุณภาพอย่างเดียวก็สามารถติดอันดับต้นๆ ของ Main Keyword และ Niche Keyword บ้างอาจเรียก Long tial keywords ได้ แต่ระดับการแข่งขันเอสอีโอของแต่ละคีย์เวิร์ดย่อมไม่เหมือนกันออกไป สำหรับคีย์ที่มีการแข่งขันสูงๆ และมีคนค้นหามากๆ มีข้อมูลเกิดขึ้นมากมายในแต่ละวันของคีย์เวิร์ดนั้นๆ การที่เราอาศัยแค่สร้างเนื้อหาดีอย่างเดียวอาจไม่สามารถการัณตีในการทำให้ติด อันดับแรกๆ ของ Search Result ได้ครับ เพราะว่ากูเกิลไม่ได้มองแค่คุณภาพของบทความ ความยาวของเนื้อหา ความลึกซึ้งของบทความ เพียงอย่างเดียว เพราะบางทีบทความที่มีรายละเอียดเยอะ แต่บางทีคนไม่ชอบอ่านก็มี Google จึงใช้ User เข้ามาตัดสินว่าเว็บไหนมีคุณภาพ เนื้อหาไหนควรอยู่อันดับแรกๆ ของ SERPs เริ่มเข้าใจกันบ้างแล้วใช่ไหมครับว่า การสร้างเว็บคุณภาพด้วยการเขียนเนื้อหา
คุณภาพ มีความจำเป็นต้องมีคนอ่าน ยิ่งคนอ่านเยอะเท่าไหร่ ยิ่งแสดงว่ามีคุณภาพมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าหากเราเขียนเนื้อหาที่ดี เว็บของเราก็จะติดอันดับคีย์เวิร์ดรองหลายๆ คีย์ และผู้ค้นหาจะเจอหน้าย่อยของเราได้มากขึ้น แต่การรอให้ตัวเลขต่างๆ ที่เป็นตัวชี้วัดคุณภาพของเว็บค่อยๆ มีตัวเลขที่ดี จากการสร้างบทความ
เพียงอย่างเดียวอาจใช้เวลานานมาก ยิ่งปริมาณทราฟฟิคที่เข
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องสอนเกี่ยวกับ การทำ SEO On Page Promote Website สนับสนุน Search Engine แบบผู้เชี่ยวชาญ
แนะนำความรู้ การทำ SEO On Page Promote Website รองรับ Google Search แบบมืออาชีพอ้างอิงจาก: ทำ SEOแท็ก: ทำ SEOสอนเกี่ยวกับ การทำ SEO On Page Promote Website สนับสนุน Search Engine แบบผู้เชี่ยวชาญ
หมวดหมู่: Search Engine Optimizationหน้าหลัก: http://www.cmseogroup.comรายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/page/สูตรการทำ-SEO-แบบใหมติดต่อเรา: [url=http://www.cmseogroup.com/page/คำถามก่อนจ้างทำ-SEO]http://www.cmseogroup.com/page/คำถามก่อนจ้างทำ-SEOชื่อ: ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป (CM SEO GROUP)ที่อยู่: Hamony Office หมู่ 1 ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ 50210เบอร์โทรติดต่อ: 096-237-3905อีเมล์: thaiseogroup@gmail.com
