Advertisement
ถ้าใครเคยใช้รถ Volvo ก็จะรู้ดีว่าจุดขายของรถยี่ห้อนี้ก็คือความปลอดภัยครับ ล่าสุดเค้าพัฒนาระบบนิรภัยแบบใหม่ที่ช่วยให้คนเดินถนนปลอดภัยยิ่งขึ้น
ระบบนี้มีชื่อว่า
Pedestrian Detection เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บของคนเดินถนนในกรณีที่ถูกรถชน มันทำงานโดยถุงลมนิรภัยภายนอกตัวรถ จะพองตัวขึ้นมาบังกระจกหน้าเมื่อชนคน เพื่อช่วยลดแรงกระแทก ซึ่งระบบนี้จะเริ่มนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในสายผลิตภัณฑ์รถยนต์ IntelliSafe ของ Volvo
ถุงลมนิรภัยแบบใหม่นี้จะใช้ร่วมกับ radar location sensor ที่ติดตั้งไว้ภายนอกรถยนต์ โดยมันจะสามารถตรวจจับวัตถุหรือบุคคลที่เข้ามาขวางหน้ารถได้ ในช่วงแรกที่มันจับตำแหน่งสิ่งกีดขวางด้านหน้าได้ IntelliSafe จะทำการเตือนผู้ขับพร้อมกับเหยียบเบรคให้อัตโนมัติให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงการชนไม่ได้ เซนเซอร์จับการกระแทกจะเป็นตัวสั่งงานให้ฝากระโปรงหน้าก็จะเปิดออกเพื่อให้ถุงลมพองตัวขึ้นมา
การที่ Volvo พยายามเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนเดินถนนถือเป็นเรื่องที่ควรยกย่องเป็นอย่างยิ่ง แต่จุดอ่อนของระบบถุงลมนิรภัยแบบใหม่นี้ก็คือ ประสิทธิภาพการทำงานของมันจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อรถยนต์วิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 22 ไมล์ต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตามด้วยปริมาณรถติดในเมืองทุกวันนี้ ความเร็วขนาดนี้ก็ถือว่าเป็นความเร็วปกติที่คุณต้องใช้ขับในเมืองอยู่ทุกวันแล้วล่ะ
ถ้าคุณสนใจอยากได้รถยนต์ที่ติดตั้งระบบ IntelliSafe รถที่คุณเห็นในคลิปด้านล่างก็คือ Volve V40
สนนราคาขายคันละ 40,000$ หรือ 1,200,000 บาทครับ ถ้าเข้ามาขายในบ้านเราคงเจอภาษีบวกเข้าไปอีกเยอะเลยล่ะ
cr.
http://dailygizmo.tv