Advertisement
บทความการหาช่างภาพหรือตากล้อง
เทคนิคการหาช่างภาพหรือตากล้องโดยส่วนใหญ่หลายคนอาจจะไม่รู้การหาช่างภาพอย่างไรให้ถูกใจและได้ภาพออกมาดีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแพงมากจนเกินไป ขนาดขูดเลือดขูดเนื้อกันเกินไป กรณีผลงานถูกใจบางคนบอกว่าแพงหน่อยไม่เป็นไรยอมจ่ายได้ แต่บางทีนี่สิ เจอช่างภาพฝีมือไม่ดีแล้วยังต้องจ่ายแพงอีก ซึ่งณใสถานะการณ์โลกก้าวไปไกลอย่างรวดเร็วเหลือเกิน กล้องดิจิตอลก็ราคาถูก ทำให้ผู้คนซื้อกล้องกันง่ายมากขึ้นแล้วก็มาบอกว่าตัวเองเป็นช่างภาพแล้วนะครับ ฉะนั้น หลักการเลือกผู้ที่จะมาเป็นตากล้องในงานพิธีสำคัญ ต้องทำอย่างไรบ้างมาดูกันเลยครับอันดับ 1 อย่างแรกเลยต้องมาดูกันที่ผลงานของช่างภาพกันเลยครับ ว่าผลงานถูกใจไหม ช่างภาพมีมุมมองที่เราชบหรือป่าว หรือองค์ประกอบภาพนั่นเอง มิใช่ดูที่อุปกรณ์กล้องนะครับ การฟังจากเพื่อนก็ต้องฟังหูไว้หูมิใช่เชื่อเพื่อนทั้งหมดนะครับ เพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนว่าสวยบางคนว่าไม่สวย ดังนั้นตัวเองต้องเป็นคนเลือกช่างภาพเองถึงจะดีที่สุดนะครับ เช่น บางคนชอบงานมุมอลังการ บางคนชอบแนวฟิลลิ่ง ทีนี้ต้องมาดูว่างานของช่างภาพเป็นแบบนั้นมั้ย ถ้าใช่ที่เราชอบ มุมมองสวย ทีนี้ก็ต้องมาดูกันที่ราคาอีกทีนะครับว่าพอรับไหวหรือป่าวอันดับ 2นึกถึงสไตล์ภาพว่าเราชอบภาพแนวไหน เช่น เรื่องของโทนสีภาพ การจับอารมณ์ของแบบรวมถึงการตกแต่งภาพครับ บางทีเห็นภาพโทนสีแปลกๆตาแบบเก๋ๆ หรือตามภาษาวัยรุ่นเรียกว่า "แนว" ควรคิดให้ดีก่อนนะครับว่าภาพที่แนวๆนั้นพอวันเวลาผ่านไปซัก 2-3ปีนั้น ลองกลับมามองดูใหม่ภาพที่สีแนวๆนั้น อาจจะดูแย่หรือไม่ได้เรื่องในอนาคตก็เป็นไปได้นะครับ ยกเว้นแต่ช่างภาพคนนั้นแนวจริงๆครับเพราะบนความแนวมักจะซ่อนอารมณ์ภาพไว้ด้วย แต่ที่ผมเห็นส่วนใหญ่จะแนวแบบไม่ถูกทางกันซะมากกว่าครับ อันดับ 3สุดท้ายการเลือกช่างภาพให้นึกถึงความจริงอย่างง่ายๆเลยนะครับ ว่าราคาที่ช่างภาพรับมานั้นช่างภาพได้อะไร ยกตัวอย่างง่ายๆช่างภาพบางคนรับงานวันละ 1000บาท ซึ่งถ่ายทั้งวันเคยได้ยินเพื่อนของลุกค้ามาคุยข่มราคาบัณฑิตผมว่าเค้าจ้างช่างภาพมาราคาถูกมากแถมถ่ายให้ทั้งวันด้วยนะครับ ต้องมาดูงานทีหลังดีกว่านะครับไม่ใช่ดูที่ราคาเป็นหลักก่อนนะครับ ต้องดูเจตนาของช่างภาพคนนั้นด้วยว่าเค้าทำเพื่อแค่อยากได้พอร์ทงานหรือมาหัดถ่ายเล่นๆเพราะถ้าแค่มาถ่ายเล่นๆฝึกฝีมือสำหรับช่างภาพคนนั้นคงคิดว่าขอแค่ค่าน้ำมันให้คุ้มกับค่ารถและที่เหลือคือค่าข้าว ผมเองก็เคยผ่านจุดนั้นมาแล้วนะครับ ซึ่งข้อนี้อยากให้ลองโทรคุย ดูนิสัย ดูผลงาน และถามข้อมูลช่างภาพก่อนตัดสินใจจะเลือกมาถ่ายงาน เพราะว่างานไม่ได้จัดกันบ่อยๆและไม่สามารถย้อนเวลากับไปถ่ายใหม่ได้ ลูกค้าที่เคยติดต่อผมมาแล้วหลายคนมาบ่นให้ผมฟังทีหลังว่ารู้แบบนี้เลือกผมถ่ายงานดีกว่าซึ่งผมก็บอกลูกค้าให้ดูผลงานเยอะๆก่อนที่จะมองที่ราคาก่อนนะครับ ถ้าไม่เลือกผมก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมอยากให้ลูกค้าซื้อความสบายใจและเลือกงานที่ชอบมากกว่าเท่านั้นเอง อย่าเอาแบบพี่สาวหรือแม่ติดต่องานมาให้นะครับ เพราะที่พี่สาวหรือคุณแม่เลือกมานั้นอาจไม่ถูกใจตัวเองก็เป็นได้และจะรู้สึกเสียใจภายหลังนะครับข้อมูลนี้จากประสบการณ์ของผมโดยตรงนะครับเลยอยากจะให้ลูกค้าได้ช่างภาพที่ถูกใจกันนะครับ
http://www.kissmeweddingstudio.com/