Advertisement
หลังเกิดเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง
Koh Samed Oil Spill หลายหน่วยงานต้องเข้ามาร่วมกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (พีทีทีจีซี) ต้นเหตุของเรื่อง ในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของอ่าวพร้าว และบริเวณโดยรอบเกาะเสม็ด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในหมู่นักท่องเที่ยวให้กลับคืนมาอีกครั้ง
กรมควบคุมมลพิษได้ตรวจสอบคุณภาพน้ำและสารปนเปื้อนบริเวณเกาะเสม็ดหลังเกิด ปัญหาน้ำมันรั่วไหลลงทะเล
Koh Samed Oil Spill โดยเฉพาะบริเวณอ่าวพร้าว พบว่า ทุกชายหาดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนปะ
การังฟอกขาวลดลง จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 60 -70 ล่าสุดเหลือเพียงแค่ร้อยละ 10 เท่านั้น ส่วนผลการตรวจหน้าหาดอ่าวพร้าว ได้มาตรฐานไม่พบสารปนเปื้อน การตรวจชั้นทราย ระดับความลึก 50 -70 เซนติเมตร หน้าหาดอ่าวพร้าว ทั้ง 3 จุด มีค่าโลหะหนักเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นผลที่น่าพอใจ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในบริเวณอ่าวพร้าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ปีที่แล้ว
สิ่งที่ฟื้นฟูได้ยากยิ่งกว่าธรรมชาติก็คือ ความมั่นใจของนักท่องเที่ยวคนไทย และต่างชาติ จากกระแสข่าวทางโซเชียล มีความรุนแรงจนเกินไปจากความเป็นจริงที่มีอยู่ในพื้นที่ กระทั่งก่อผลกระทบอย่างมากมายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไม่เฉพาะแค่บนเกาะเสม็ดเท่านั้น แต่ยังกระทบไปทั้งจังหวัดระยองอีกด้วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท ร้านค้าร้านอาหาร กลุ่มประมงพื้นบ้าน ในพื้นที่เกาะเสม็ด ถึงกับโอดครวญ นี่จึงเป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้วว่า ข้อเท็จจริงในวันนี้ สภาพของเกาะเสม็ด หลัง
Koh Samet Oil Spill ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ยิ่งมาฟังข้อเท็จจริงจาก “คนทำงานตัวจริง” นั่นคือคณะทำงานและทีมนักวิจัยของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ ที่เข้าไปทำงานสำรวจและศึกษาระบบนิเวศทางทะเลในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด มานานหลายปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่ว จนมาถึงช่วงที่เกิดเหตุไปจนกระทั่งหลังเหตุการณ์ ทีมงานของ ดร.ธรณ์ จึงมีความชำนาญในพื้นที่ท้องทะเลย่านนี้ แต่เมื่อเกิดวิกฤติน้ำมันรั่วไหล
Thailand Oil Spill คณะของดร.ธรณ์ จึงมีการปฎิบัติหน้าที่เข้มข้นกว่าเดิมมาก ทั้งการติดตามผล และการฟื้นฟูอ่าวพร้าว รวมถึงบริเวณโดยรอบเกาะเสม็ดมาอย่างต่อเนื่อง
เอาเป็นว่าที่ลือกันไปจนเกินเลย ทำเอาเสม็ดแทบกลายเป็นเกาะร้างตอนหลังเหตุการณ์
Koh Samed Oil Spill หลังจากที่ทุกฝ่าย ทุกหน่วยงาน คนในพื้นที่ ร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหา และฟื้นฟู ประชาสัมพันธ์ จนในที่สุดอ่าวพร้าวก็เปิดให้เที่ยวกันได้ และปัจจุบันนี้ เกาะเสม็ด ทั้งที่อ่าวพร้าว และทุกๆ หาด ก็กลับมาสวยงาม น่าเที่ยว และบรรยากาศคึกคักดังเดิมแล้ว
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก ไทยรัฐ / เดิลินิวส์