ท้องผูกบ่อยๆ อันตรายมากกว่าที่คุณคิด หากปล่อยไว้นานอาจเป็นมะเร็งลำใส้ได้

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ท้องผูกบ่อยๆ อันตรายมากกว่าที่คุณคิด หากปล่อยไว้นานอาจเป็นมะเร็งลำใส้ได้  (อ่าน 19 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jirasak2708
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22854


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มกราคม 21, 2017, 03:51:53 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ท้องผูกบ่อยๆ อันตรายมากกว่าที่คุณคิด หากปล่อยไว้นานอาจเป็นมะเร็งลำใส้ได้

มาอีกแล้ว วันนี้พี่ wawa@taladnadonline จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับอาการท้องผูก อึดอัดกันใช่ไหม หากว่าเราเคยมีอาการท้องผูกไม่ถ่าย บางคนเป็นอาทิตย์เลยนะ มันอันตรายมากเลยนะ หากเราไม่ถ่าย
อาการท้องผูก ถ่ายไม่ออก สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายของคนเราเองรวมไปถึงการเลือกรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก รับประทานอาหารแบบจำกัด ไม่มีกากใยไฟเบอร์ จะทำให้มีอาการท้องผูกบ่อยๆ และกลายเป็นอาการเรื้อรัง จากนั้นก็จะมีโรคอื่นๆตามมา เช่นริดสีดวงทวาร เป็นแผลแตกรอบๆทวารหนัก เนื่องจากอุจจาระเป็นก้อนแข็ง ทำให้เบ่งยาก และไปครูดกับบริเวณทวารหนัก ทำให้รู้สึกเจ็บปวดขณะถ่ายอุจจาระ
เมื่อคุณท้องผูกเป็นประจำ จะถ่ายไม่หมด อุจจาระที่ค้างอยู่ก็จะเกาะตามผนังลำไส้ พอมีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่ามันก็จะแซงหน้าไปก่อน แต่มันไม่สามารถดันพวกที่ค้างแข็งให้ออกไปได้ พวกที่ค้างแข็งไว้ก็จะเกาะติดแน่นไปเรื่อยๆ พอเยอะเข้าจะไปทับเส้นเลือดต่างๆในกระเพาะและกดทับกระดูกหลัง ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ท้องอืด ปวดหลัง ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อที่ไหล่และสะบัก เวียนหัว อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เป็นฝ้า ไมเกรนและอื่นๆ

ท้องผูกนานแค่ไหนถึงอันตราย
ที่จริงแล้วอาการท้องผูกไม่ใช่อาการที่รุนแรง แต่ถ้าเกิดอาการท้องผูกติดต่อกันเกิน 1 สัปดาห์แบบไม่มีสาเหตุ และไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น ควรรีบพบแพทย์ทันที เพื่อทำการวินิจฉัยอาการ เพราะอาการท้องผูกแบบไม่ทราบสาเหตุนั้น อาจเป็นการส่งสัญญาณของร่างกายและสาเหตุของโรคบางโรคเช่น โรคมะเร็งลำไส้ เพราะเป็นสาเหตุมาจากก้อนเนื้อร้ายที่มีอยู่ในลำไส้ใหญ่ ไปปิดกั้นช่องทางการเคลื่อนที่ของอุจจาระ ทำให้เราขับถ่ายไม่สะดวก นอกจากนี้แล้วการที่เราท้องผูกเป็นระยะเวลานานๆจะทำให้ลำไส้ใหญ่ขยายตัวอย่างผิดปกติ จนไปทับกับอวัยวะอื่นๆในร่างกาย สุดท้ายก็จะทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เช่นกรณีข่าว เด็กสาวอายุเพียง 16 ปีจากประเทศอังกฤษ ต้องเสียชีวิตลงเพราะเป็นโรคกลัวการเข้าห้องน้ำ และไม่ได้ถ่ายอุจจาระติดต่อกันนานถึง 8 สัปดาห์

สาเหตุของอาการท้องผูกที่พบบ่อย
1.การรับประทานอาหารไม่สม่ำเสมอและมีปริมาณเส้นใยน้อย
2.ขาดการออกกำลังกาย โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
3. ยาบางชนิด เช่น ยาระงับปวด ยาลดกรดที่มีส่วนผสมของอลูมิเนียมและแคลเซียม ยารักษาความดันโลหิตสูงบางชนิด ยารักษาโรคพาร์กินสัน ยาต้านปวดเกร็ง ยาต้านซึมเศร้า ยาบำรุงที่มีธาตุเหล็ก ยาขับปัสสาวะ ยาต้านการชัก
4. กลุ่มอาการลำไส้ทำงานแปรปรวน
5. การเปลี่ยนแปลงในชีวิตหรือกิจวัตร เช่นการตั้งครรภ์ อายุมาก การเดินทาง
6. การละเลยที่จะออกแรงเบ่งเพื่อขับอุจจาระ
7. ปัญหาของลำไส้ใหญ่และไส้ตรง และการทำงานของลำไส้เอง
8. การใช้ยาระบายไม่ถูกต้อง
วิธีป้องกันและรักษาอาการท้องผูก
1. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ควรดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อย 1.5 ถึง 2.0 ลิตรต่อวัน การออกกำลังกายทุกวันในระดับน้อยถึงปานกลางอาจทำให้มีการเคลื่อนไหวของลำไส้เพิ่มขึ้นได้
2. การฝึกนิสัยให้มีการขับถ่ายที่ดี ไม่ควรละเลย หรือยับยั้งไว้บ่อยๆ ควรฝึกให้ถ่ายอุจจาระสม่ำเสมอ
3. ท่านั่งที่เหมาะสมกับการขับถ่ายอุจจาระมีผลอย่างมาก ท่านั่งที่ถูกจะช่วยให้ไส้ตรงทำมุมดีขึ้นต่อการขับถ่าย
4. อาหาร การรับประทานอาหารที่สม่ำเสมอและดื่มน้ำเพียงพอ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดี อาหารที่มีปริมาณเส้นใยเพียงพอ 20 – 35 กรัมต่อวัน จะช่วยให้อุจจาระมีขนาดใหญ่และนุ่ม
5. การรับประทานเส้นใยหรือไฟเบอร์
6. ใช้ยาระบายเป็นครั้งคราว
7. ใช้ยาเหน็บทวารและการสวนอุจจาระ
** วิธีการที่ดีที่สุด hermist Sensa เพียง 170 บาท ทานก่อนมื้ออาหาร 2 เม็ดเท่านั้น เพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ไม่ปวดบิด ไม่ทรมาน สบายโล่งพุง

ที่มา : [url]http://www.taladnadonline.com/index.php?route=content/articleview&article_id=155[/url]

Tags : มะเร็งลำใส้,ถ่ายไม่ออก,hermist Sensa



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ