Advertisement
Credit :
http://www.xn--12c1bij4d1a0fza6g ... n-juke-e-power.htmlยางรถยนต์ ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการขับเคลื่อนยานพาหนะให้ไปตามที่ต่าง ๆ ได้ อย่างปลอดภัย และถือว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่มีความสำคัญอย่างมากไม่แพ้กับอุปกรณ์ ส่วนประกอบ หรือโครงสร้างอื่น ซึ่งจากอดีตมาจนกระทั่งปัจจุบัน
ยางรถยนต์นั้นได้มีการพัฒนารูปแบบการใช้งานให้มีสมรรถนะการใช้งานให้ดีขึ้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโดยพื้นฐานในการเลือกซื้อยางรถยนต์ให้มีความเหมาะสม คุ้มค่าและมีความปลอดภัยในการใช้งานนั้นผู้ที่เป็นเจ้าของรถจะต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติหลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณสมบัติด้านการยึดเกาะถนน เพราะจะช่วยในเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่ เนื่องจากยางรถเป็นส่วนเดียวของรถที่สัมผัสกับพื้นถนน หากมีการยึดเกาะที่ไม่ดีก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ในการเลือกใช้ควรเลือกยางที่มีคุณสมบัติที่เกาะถนนได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในสภาพที่เป็นถนนแห้งและถนนเปียก เรื่องของดอกยางรีดน้ำได้ดี ช่วยรีดน้ำได้จากสภาพถนนที่เปียก เพราะถนนที่เปียกจะช่วยให้รถลื่นไถลและสูญเสียการควบคุมได้ง่าย ดังนั้นการเลือกดอกยางที่รีดน้ำได้ดีจะช่วยลดในเรื่องการลื่นไถลได้มากที่สุด เรื่องของระยะเบรคที่ควรมีระยะเบรกที่สั้น เพราะจะช่วยในเรื่องการห้ามล้อได้อยู่ในระยะประชิดได้ดี เรื่องของสภาพยางควรมีความยืดหยุ่น ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป เพื่อรองรับน้ำหนักและแรงกระแทกและความแรงดันลมภายใน เรื่องของความเงียบและนิ่มนวลทุกการขับขี่ ไม่มีเสียงดังรบกวน ไม่ทำให้การเดินทางต้องสะดุด และเรื่องความสามารถในการรับน้ำหนักได้ดีเมื่อเทียบกับยางประเภทเดียวกันและอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ต้องให้ความสนใจนั่นคือการใส่ใจเรื่องของยางให้มีอายุการใช้งานที่ใหม่อยู่เสมอ และป้องกันยางให้เสื่อมสภาพ หรือเสื่อมอายุก่อนเวลาอันสมควร ด้วยการตรวจเช็คสภาพตามจุดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1.สำรวจสายพานและการทำงานของสายพานยางอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการสึกของดอกยาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องมีการใช้งานในสภาพอากาศที่ร้อนหรือวิ่งบนผิวถนนที่ร้อนจัด
2.หมั่นสังเกตุตัวเลขบอกอายุการใช้งานบนยาง
รถยนต์ ซึ่งปกติจะมีการระบุถึงวันเดือนปีที่ผลิตไว้อย่างชัดเจนเพื่อที่จะได้รู้กำหนดในการเปลี่ยนยาง
3.หมั่นสังเกตุสภาพของดอกยาง หากดอกยางสึกเกือบเท่ากับสะพานยางให้ดำเนินการเปลี่ยนทันที หรือหากยางรถยนต์มีอายุการใช้งานเกิน 3 ปี หรือมีการใช้งานที่ถึง 50000 กิโลเมตร
4.หมั่นสังเกตุลมยางให้มีขนาดพร้อมใช้งานอยู่เสมอ คอยหมั่นสังเกตุลมยางว่าหากมีลมที่พร่องมากเกินไปจะทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนัก ส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ
ขอบคุณบทความจาก :
์http://www.carpresent.com/Tags : รถยนต์,ยางรถยนต์,ล้อยางรถยนต์
