โฆษณาออนไลน์ไม่ดีหรือดี ให้ดูที่ 4 ตัวนี้ ขายสินค้าออนไลน์ให้เก่งแบบเทพๆจะต้องท

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โฆษณาออนไลน์ไม่ดีหรือดี ให้ดูที่ 4 ตัวนี้ ขายสินค้าออนไลน์ให้เก่งแบบเทพๆจะต้องท  (อ่าน 32 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jeatnarong9898
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 24436


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 13, 2017, 06:42:36 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ปวดศรีษะอย่างมาก โฆษณา Facebook นับวันยิ่งแพง ทำอย่างไรดีเนี่ย?
ทุกๆวันนี้ปฎิเสธมิได้ว่าการทำโปรโมทบน Facebook นั้นการแข่งขันค่อนข้างสูงมากมาย…
แต่พอจะไม่ทำโปรโมทโพสต์ไปก็ไม่มีใครเห็นอีก โลกมันชั่งอยู่ยากจริงๆภายหลังจากประชาสัมพันธ์ไปและก็จำเป็นต้องเจอกับจำนวนอีกเต็มไปหมดไม่รู้อะไรเป็นอะไร
วันนี้แม่ค้าเลยมีสถิติ 4 ตัวไว้สำหรับวัดผลโฆษณา Facebook มาฝากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ลองดูกันค่ะ
1.”CPM” ตัวช่วยประเมินค่าใช้สอยพื้นฐาน
Cost per 1,000 Impression หรือ CPM เป็นวิธีวัดผลจากจำนวนการเข้าถึงคนโดยจะคิดเงินทุกๆ1,000 การเข้าถึง โดยการคิด CPM ของ Facebook จะมีปัจจัยสำคัญๆอยู่ 2 อย่างด้วยกัน คือ
1)จำนวนคู่แข่งขันที่มีเป้าหมายเดียวกัน
2)ความชี้เฉพาะหรือความยากง่ายในการเข้าถึง ยิ่งระบุมากๆ(ปริมาณคนน้อย) ค่า CPM ยิ่งแพงเป็นธรรมดา
ในการนำ CPM มาใช้วัดผลนั้น ให้จำไว้ว่า “ยิ่งถูกเยอะแค่ไหน ยิ่งดี” เพราะว่าเท่ากับว่าพวกเราประหยัดเงินในการเข้าถึงคนได้เยอะขึ้น
2.”CTR” ดูว่าประชาสัมพันธ์ของพวกเราน่าดึงดูดขนาดไหน
Facebook StatCTR หรือ Clickthrough Rateเป็นอัตราจำนวนคนที่ Click เข้ามามองโฆษณาของเรา ต่อปริมาณคนทั้งปวงที่เห็นประชาสัมพันธ์ของพวกเรา CTR ช่วยบอกถึงความน่าดึงดูดใจของโปรโมท ทั้งรูปภาพรวมทั้งข้อความในการใช้ หากรูปภาพรวมทั้งเนื้อความตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาตัวเลขนี้ก็จะยิ่งสูงมากขึ้น ถ้าจะให้ดีอัตราการ Click น่าจะอยู่ที่ 10% แต่ว่าถ้าไม่ถึงจำนวนก็ควรจะมากที่สุดเท่าที่ทำเป็น
3.”CPC” สำหรับวัดประสิทธิภาพของโปรโมท
CPC หรือ Cost per Click คือ ราคาต่อ Click จะมีการคิดเงินทุกๆครั้งที่มีคน Click บนประชาสัมพันธ์ของพวกเราจ้ะ โดยใช้สำหรับวัดประสิทธิภาพของโฆษณาทั้งรูปภาพและใจความ ว่ามีความน่าดึงดูดใจมากมายน้อยแค่ไหน โดยค่า CPC นั้นควรจะจำเป็นจะต้องสวนทางกับ CTR เพราะเหตุว่ายิ่งคน Click มาที่ประชาสัมพันธ์ของพวกเราเยอะแค่ไหน ค่า CPC ควรจะจำเป็นจะต้องน้อยลงและอัตราการ Click เข้ามานั้นจะสูงขึ้นอัตโนมัติ
4.”Relevance Score” ปังไม่ปังวัดกันตรงนี้
Relevance ScoreRelevance Score เป็นตัวที่ Facebook ไม่ค่อยได้บอกอย่างแจ่มแจ้งว่าใช้อะไรในการคำนวนบ้าง แม้กระนั้นจากการหาข้อมูลที่ได้รับมาจากแหล่งต่างๆที่มีการทดสอบกันมาจะสรุปได้ว่า มันคือ คะแนนความเกี่ยวพันของโปรโมทของคุณกับกลุ่มเป้าหมาย โดยปัจจัยสำคัญๆที่ต้องเอาใจใส่จะมีดังนี้
1)Negative Signals ที่ User มีต่อโปรโมทของคุณ ยกตัวอย่างเช่นการกด “หลบซ่อนประชาสัมพันธ์” หรือการรายงานไปยัง Facebook ส่วนนี้จะมีผลให้ Relevance Score ต่ำลง
2)Campaign Objective ถ้าเกิดพวกเรามีการเลือกจุดมุ่งหมายของ Campaign รวมทั้งทำมันเจริญนี้ก็จะนำมาใช้ในการเพิ่ม Relevance Score ได้ อย่างเช่น เราเลือกจุดมุ่งหมายของ Campaign เป็น Website Clicks โดยหวังให้มีคน Click ไปที่ Website เยอะที่สุด ยิ่งคน Click มากเท่าไหร่ค่า Relevance Score ก็จะสูงขึ้นเพียงแค่นั้น
3)”CTR” อัตราคนที่ Click เข้ามาดูโฆษณายิ่งเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี
4)Like, Comments, and Shares ทั้งหมดนี้เรียกว่าปริมาณ Engagements ยิ่งคนมีส่วนร่วมกับประชาสัมพันธ์ของพวกเรามาก ซึ่งนี่ก็แปลว่าโปรโมท Facebook ของเราได้รับความพอใจเป็นอย่างดี จะมีผลให้ Relevance Score สูงขึ้น
พอเพียงจะได้ข้อมูลกันแล้วนะคะ ว่าสถิติตัวไหนเป็นอย่างไรบ้าง ทีนี้ก็เหลือเพียงแค่การใช้ประโยชน์ โดยแม่ค้าอยากจะฝากไว้ว่า “การตลาดในทุกวันนี้ ไม่มีสูตรสำเร็จ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนจะต้องลองถูกลองผิด รวมทั้งประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ”
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ขายของออนไลน์

ที่มา : [url]http://xn--22cap6ea7bify1fba3dza2p0cvcze.blogspot.com/[/url]

Tags : ขายของออนไลน์,เริ่มต้นขายของออนไลน์,วิธีขายสินค้าออนไลน์



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ