ประชาสัมพันธ์ออนไลน์ห่วยหรือดี ให้มองที่ 4 ตัวนี้ ขายสินค้าออนไลน์ให้เก่งแบบเทว

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประชาสัมพันธ์ออนไลน์ห่วยหรือดี ให้มองที่ 4 ตัวนี้ ขายสินค้าออนไลน์ให้เก่งแบบเทว  (อ่าน 22 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
promiruntee
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 19636


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: มีนาคม 15, 2017, 04:25:21 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ปวดหัวอย่างยิ่ง โปรโมท Facebook นับวันยิ่งแพง ทำยังไงดีเนี่ย?
ขณะนี้ปฎิเสธไม่ได้ว่าการทำโฆษณาบน Facebook นั้นการแข่งขันออกจะสูงมาก…
แม้กระนั้นเมื่อจะไม่ทำโปรโมทโพสต์ไปก็ไม่มีใครมองเห็นอีก โลกมันชั่งอยู่ยากจริงๆภายหลังจากประชาสัมพันธ์ไปแล้วหลังจากนั้นก็จำต้องเจอกับจำนวนอีกเยอะไม่หมดไม่รู้อะไรเป็นอะไร
วันนี้แม่ค้าเลยมีสถิติ 4 ตัวไว้สำหรับวัดผลโฆษณา Facebook มาฝากพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ลองมาดูกันค่ะ
1.”CPM” ตัวช่วยประเมินค่าครองชีพพื้นฐาน
Cost per 1,000 Impression หรือ CPM เป็นวิธีวัดผลจากจำนวนการเข้าถึงคนโดยจะคิดเงินทุกๆ1,000 การเข้าถึง โดยการคิด CPM ของ Facebook จะมีปัจจัยหลักๆอยู่ 2 อย่างร่วมกัน เป็น
1)จำนวนคู่แข่งขันที่มีเป้าหมายเดียวกัน
2)ความเฉพาะเจาะจงหรือความยากง่ายในการเข้าถึง ยิ่งเจาะจงมากมายๆ(ปริมาณคนน้อย) ค่า CPM ยิ่งแพงเป็นธรรมดา
ในการนำ CPM มาใช้วัดผลนั้น ให้จดจำไว้ว่า “ยิ่งถูกเท่าไหร่ ยิ่งดี” เพราะเหตุว่าพอๆกับว่าพวกเราประหยัดเงินในการเข้าถึงคนได้มากเพิ่มขึ้น
2.”CTR” มองว่าประชาสัมพันธ์ของพวกเราน่าดึงดูดแค่ไหน
Facebook StatCTR หรือ Clickthrough Rateหมายถึงอัตราปริมาณคนที่ Click เข้ามาดูโฆษณาของเรา ต่อปริมาณคนทั้งปวงที่เห็นโฆษณาของพวกเรา CTR ช่วยบ่งถึงความน่าสนใจของประชาสัมพันธ์ ทั้งรูปภาพและก็ข้อความในการใช้ หากรูปภาพและเนื้อความตรงกับความพึงพอใจของกรุ๊ปเป้าหมาจำนวนนี้ก็จะยิ่งสูงขึ้น หากจะให้ดีอัตราการ Click ควรอยู่ที่ 10% แต่ถ้าหากไม่ถึงจำนวนก็ควรสูงที่สุดเท่าที่ทำเป็น
3.”CPC” สำหรับวัดประสิทธิภาพของโปรโมท
CPC หรือ Cost per Click คือ ราคาต่อ Click จะมีการคิดเงินทุกๆครั้งที่มีคน Click บนโปรโมทของพวกเราค่ะ โดยใช้สำหรับวัดประสิทธิภาพของประชาสัมพันธ์ทั้งรูปภาพและใจความ ว่ามีความน่าดึงดูดใจมากมายน้อยเพียงใด โดยค่า CPC นั้นควรจะจะต้องสวนทางกับ CTR เนื่องจากยิ่งคน Click มาที่โปรโมทของพวกเรามากเท่าไหร่ ค่า CPC ควรจะจำเป็นต้องน้อยลงรวมทั้งอัตราการ Click เข้ามานั้นจะสูงมากขึ้นอัตโนมัติ
4.”Relevance Score” ปังไม่ปังวัดกันตรงนี้
Relevance ScoreRelevance Score เป็นตัวที่ Facebook ไม่ค่อยได้บอกอย่างชัดเจนว่าใช้อะไรในการคำนวนบ้าง แต่จากการหาข้อมูลที่ได้รับมาจากแหล่งต่างๆที่มีการทดสอบกันมาจะสรุปได้ว่า มันเป็น คะแนนความสัมพันธ์ของโปรโมทของคุณกับกลุ่มเป้าหมาย โดยปัจจัยสำคัญๆที่ต้องเอาใจใส่จะมีดังต่อไปนี้
1)Negative Signals ที่ User มีต่อโฆษณาของคุณ ตัวอย่างเช่นการกด “ซ่อนประชาสัมพันธ์” หรือการรายงานไปยัง Facebook ส่วนนี้จะก่อให้ Relevance Score ลดลง
2)Campaign Objective หากเรามีการเลือกจุดมุ่งหมายของ Campaign และก็ทำมันเจริญนี้ก็จะนำมาใช้ในการเพิ่ม Relevance Score ได้ ดังเช่น เราเลือกจุดหมายของ Campaign เป็น Website Clicks โดยหวังให้มีคน Click ไปที่ Website เยอะที่สุด ยิ่งคน Click มากแค่ไหนค่า Relevance Score ก็จะสูงมากขึ้นแค่นั้น
3)”CTR” อัตราคนที่ Click เข้ามามองประชาสัมพันธ์ยิ่งมากแค่ไหนยิ่งดี
4)Like, Comments, and Shares ทั้งผองนี้เรียกว่าปริมาณ Engagements ยิ่งคนมีส่วนร่วมกับโปรโมทของเรามากมาย ซึ่งก็นับได้ว่าโฆษณา Facebook ของเราได้รับความพึงพอใจเป็นอย่างดี จะทำให้ Relevance Score สูงมากขึ้น
พอจะได้ข้อมูลกันแล้วนะคะ ว่าสถิติตัวไหนเป็นอย่างไรบ้าง ต่อไปนี้ก็เหลือเพียงแค่การเอาไปใช้ โดยแม่ค้าอยากจะฝากไว้ว่า “การตลาดในทุกวันนี้ ไม่มีสูตรสำเร็จ ทั้งหมดทุกอย่างล้วนต้องลองผิดลองถูก แล้วก็ประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ”
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : วิธีขายสินค้าออนไลน์

เครดิตบทความจาก : [url]http://xn--22cap6ea7bify1fba3dza2p0cvcze.blogspot.com/[/url]

Tags : ขายของออนไลน์,วิธีขายสินค้าออนไลน์



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ