ความไม่เหมือนของการสอน seo แล้วก็การสอน sem มีความไม่เหมือนกันเช่นไรในกระบวนการท

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความไม่เหมือนของการสอน seo แล้วก็การสอน sem มีความไม่เหมือนกันเช่นไรในกระบวนการท  (อ่าน 79 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ittipan1989
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25925


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: มีนาคม 30, 2017, 01:54:53 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ภายหลังที่มีผมได้ชี้แจงคำศัพท์ต่างๆที่เกี่ยวกับ SocialMedia Marketing ไปแล้ว ปรากฏว่ามีคนมีความสนใจถามคำถามเกี่ยวกับแวดวงนี้เข้ามาพอควรครับ ซึ่งน่าจะมีต้นเหตุมาจากกระแสของ e-commerce ที่กำลังครื้นครึกมากมายในปีนี้ ทั้งจากการบุกจากบริษัทชนชาติไทยและก็กลุ่มบริษัทต่างประเทศ ทำให้คนกลับมาตื่นตัวเรื่องการโปรโมทเว็บไซท์และหนทางการขายทางด้านอิเล็กทรอนิกส์กันอีกรอบ



โดยเหตุนั้น ฉบับนี้ผมก็เลยอยากะขออนุญาติกล่าวถึงการตลาดออนไลน์ต่ออีกสักครั้ง โดยฉวยโอกาสอธิบายลักษณะการตลาดใหญ่ๆที่ผมพบว่าคนมักจะงวยงงกันบ่อยๆเวลาผมมีโอกาสได้สอนหรือเสนองานให้กับลูกค้าครับผม นั่นก็คือคำว่า “SEO” รวมทั้ง “SEM”



สำหรับท่านที่เคยสนใจประเด็นการตลาดออนไลน์นั้น อาจจะเคยทราบคำว่า “SEO” อยู่บ้าง โดย “SEO” นั้นเป็นคำที่ย่อมาจากคำว่า “Search Engine Optimization” นั่นเองซึ่งถ้าหากจะแปลตรงตัวแล้ว เพื่อบอกความหมายถูกนั้น จริงๆจำต้องจัดคำกล่าวใหม่เป็น “Optimization for Search Engines” ซึ่งจะสามารถแปลตรงตัวได้ว่า “การปรับทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับ Search Engine”



คำว่า “Search Engine” นี้คือเว็บไซท์ที่ใช้ในลัษณะของการหาเว็บไซท์อื่นๆหรือที่ที่ได้รับความนิยมสุดในขณะนี้นั่นก็คือGoogle นั่นเอง โดยมีคู่ปรับที่ได้รับความนิยมด้อยกว่าลงมาเป็น “Bing” ของ Microsoft หรือ “Baidu” ของจีน“Naver” ของประเทศเกาหลี “Yandex” ของรัสเซีย



ในโลกที่มีเว็บไซท์เป็นอันมาก ขั้นตอนการที่ Search Engine เหล่านี้ใช้สำหรับเพื่อการเก็บข้อมูลว่ามีเว็บไซท์อะไรบ้างรวมทั้งแต่ละเว็บไซท์มีข้อมูลเกี่ยวกับอะไรบ้าง เพื่อสามารถแสดงผลการค้นหาให้กับผู้ใชได้นั้น เป็นการใช้โปรแกรมที่เรียกว่า “Crawler” กระทำการ “ไต่” หาเว็บไซท์ต่างๆที่มีอยู่ทั้งโลกอัตโนมัติ เพื่อทำอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับเว็บไซท์ว่ามีเนื้อหาอะไร และแต่ละเว็บไซท์นั้นควรได้รับจุดสำคัญมากแค่ไหน ผ่านระบบการประเมิณผลพิเศษของแต่ละบริษัท



ดังนี้ ด้วยเหตุว่าในปัจจุบันนั้น กระบวนการหาข้อมูลหรือเว็บไซท์ที่น่าสนใจที่ยอดนิยมที่สุดก็คือการ “Search” หรือ “ค้นหา” ผ่าน “Search Engine”พวกนี้ เพราะฉะนั้น “SEO” นั้นจึงหมายความว่าการปรับรายละเอียดรวมทั้งส่วนประกอบเว็บไซท์ให้ “Search Engine” สามารถอ่านรายละเอียดพวกเราได้ง่าย และทำให้เว็บไซท์พวกเราติดอันดับสูงๆเมื่อมีคนกระทำ “Search” เนื้อหาที่พวกเรามีความรู้สึกว่าตรงกับรายละเอียดเว็บไซท์พวกเรานั่นเอง



แน่นอนว่าเว็บไซท์ที่ติดอันดับสูงๆใน Search Engine นั้นจะได้รับการเข้าชมจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ท (“traffic”) ในหลายชิ้นโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆก็ตามทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์แต่ละที่นั้นอยากได้ที่จะทำ SEO เว็บไซท์ตนเองให้ติดอันดับสูงๆจนกระทั่งกำเนิดเป็นแวดวงผู้ประกอบอาชีพ SEO รับจ้างทำSEO ให้เว็บไซท์ต่างๆมหาศาล เพื่อคนสามารถศึกษาค้นพบเว็บไซท์ตนเองได้เมื่อเขาทำ “Search”โดยใช้คำกล่าว (“keywords”) ที่เกี่ยวเนื่อง ยกตัวอย่าเช่น ถ้าเกิดเราเป็นร้านค้าขายเครื่องเรือน เราก็คงอยากให้เว็บไซท์ของพวกเราติดอันดับสูงๆเมื่อมีคนค้นหาด้วยคำว่า “เครื่องเรือน”หรือ “ร้านขายเฟอร์นิเจอร์” ฯลฯ



ดังนี้แนวทางการทำ SEO สำคัญๆมีสองแบบ แบบอันดับแรกคือการมีองค์ประกอบเว็บไซท์ที่ดี ซึ่งขึ้นอยู่กับการดีไซน์เนื้อหาเว็บไซท์ และก็การพัฒนาโปรแกรมที่ดี ทำให้ crawler ของ Search Engine สามารถเข้าถึงรายละเอียดได้อย่างระมัดระวังซึ่งก็เปรียบการทำหนังสือหรือแมกกาซีนที่อ่านได้เข้าใจง่าย เป็นการคิดตั้งแต่ตอนทำรายละเอียด แล้วเมื่อตีพิมพ์บนเว็บไซท์ก็สามารถปลดปล่อยให้ Search Engine ไตร่ตรองต่อเอง



ส่วน SEO อีกแบบนึงนั้น เป็น SEO ที่ชอบทำกันเป็นรายเดือนหรือสม่ำเสมอ โดยเรียกกันว่าเป็นการ “ปั่น” เว็บ โดยจ้างผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน SEO เป็นคนทำ โดยผู้ชำนาญนั้น จะมีความสามารถว่า Search Engine แต่ละที่นั้น ใช้ระบบตรรกะอะไรที่อยู่ในการวัดจุดสำคัญของเว็บไซท์แต่ละเว็บไซท์ และก็จะใช้มายากลกลยุทธ์ต่างๆจากตรรกะนี้ เพื่อเว็บไซท์พวกเรานั้นติดอันดับสูงขึ้นๆรวดเร็วกว่าที่มันอาจจะต้องเป็นตามปกติ (แบบอย่างการ“ปั่น” ในอดีตกาลที่ระบบตรรกะของ Search Engine ยังไม่ค่อยสมบูรณ์เหมือนทุกวันนี้คือ การที่คนต่างชาติปั่นเว็บไซท์ของประธานธิปดี George W. Bush ให้ติดอันดับต้นๆเมื่อมีคน Search คำว่า“Stupid” ใน Google)



กระบวนการทำ SEO แบบแรกนั้น เป็นการทำโดยอาจจะเสียเพียงแค่รายจ่ายในตอนทำเว็บไซท์ แต่ว่าไม่ต้องเสียถัดไปเมื่อทยอยทำเนื้อหาเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง แต่ว่าแนวทางการทำ SEO แบบที่สองนั้น เป็นรายจ่ายที่จำเป็นต้องทำตลอดเพราะเหตุว่าคล้ายกับเป็นการเกมระบบของ Search Engine ซึ่งตัว Search Engine นั้นก็จะกระทำปรับตรรกะระบบเพื่อไม่ให้สามารถถูกเกมได้อยู๋ตลอดระยะเวลา



อย่างไรก็แล้วแต่ โดยความเป็นจริงแล้ว SEO นั้นมิได้เป็นกรรมวิธีหาผู้เข้าชมจาก Search Engine เพียงแค่วิธีเดียว เนื่องมาจากตัว Search Engine แต่ละแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Googleนั้น มีพื้นที่ให้คนลงโปรโมท โดยจะทำการขึ้นโฆษณาเมื่อมีคนใส่คำค้นหาที่เราได้กำหนดไว้ ซึ่งการลงโฆษณาอย่างนี้นั้น จะเรียกว่าเป็น “Search Engine Marketing” หรือ “SEM” นั่นเอง



รายจ่ายในการลงโปรโมทนั้น จะขึ้นตามปริมาณการคลิกเข้ามาชมเว็บไซท์ของผู้เข้าชมแค่นั้น โดยราคาต่อคลิก (“Cost Per Click” หรือ “CPC”) นั้นจะถูกหรือแพงก็ขึ้นกับว่ามีคนอยากได้ลงโปรโมทเมื่อมีผู้ใช้ทำการค้นหาคำบอกเล่า (keywords) เดียวกันกับที่พวกเราอยากมากแค่ไหน ถ้าเป็นคำบอกเล่าที่กว้างๆอย่าง “เครื่องเรือน” แล้ว ค่าใช้จ่ายก็มักจะแพง แต่ว่าแม้เป็นคำเฉพาะทางอย่าง “เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก” ราคาก็จะถูกลง แล้วก็ตรงต่อกลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย



อย่างไรก็แล้วแต่ หลายๆครั้ง ผู้ครอบครองเว็บไซท์จะทุ่มรายจ่ายไปกับกระบวนการทำ SEO ทุกเดือนแทนที่จะทำ SEM เพราะเป็นความคิดส่วนตัวว่าการลงประชาสัมพันธ์นั้นไม่น่าจะได้ผล บางทีอาจเพราะว่าตนเองมีนิสัยรังเกียจคลิกคำโฆษณา หรือจ่ายค่าSEO จนถึงลืมตัวและคิดไปว่า ที่จริงแล้วเปลี่ยนแปลงงบมาจ่ายลงโฆษณาแบบ SEM บางทีอาจทำให้สามารถคุมรายจ่ายได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ได้ keywords ที่หลายๆคำกว่าก็เป็นได้ เหตุเพราะรายจ่ายในการจ้างผู้เชี่ยวชาญทำ SEOนั้นก็มิได้ถูกนัก



จากประสบการณ์ของผมแล้ว SEO นั้น ก็เปรียบเสมือนเราส่งคนเข้าไปในกองผู้คนเพื่อให้เอ่ยถึงแล้วก็ชี้แนะผลิตภัณฑ์ของพวกเรา ซึ่งจะสร้างกระแสได้ แม้กระนั้นหากคำพูดที่พวกเราส่งไปนั้น ไม่เป็นไปตามที่คนทั่วไปเขาคิดจริงๆก็อาจก่อให้เกิดผลเสียกลับมา และก็ยังจำต้องเสียค่าใช้จ่ายต่อเนื่องในการคอยส่งคนไปเพื่อไม่ให้กระแสตายลงอีกด้วย ต่างกับ SEM ที่เป็นเสมอเหมือนการใช้ Marketing Tools รวมทั้ง MarketingChannels ทั่วๆไป เพื่อคนสนใจ และกำเนิดกระแสตามธรรมชาติของมันเองมากกว่า



แม้กระนั้น ในที่สุดแล้วแนวทางการทำ SEO และ SEMนั้น ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการจะใช้เว็บไซท์เป็นช่องด้านการค้าหรือช่องทางการโฆษณาอย่างเป็นจริงเป็นจังทั้งสอง จึงเป็นเรื่องที่ควรศึกษารวมทั้งทำความเข้าใจเพิ่มเติมอีกเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเลือกเส้นทางการเดินที่เหมาะกับธุรกิจของเราให้ได้ครับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เรียน seo

Tags : seo



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ