ถิ่นกำเนิดกวาวเครือแดงและสรรพคุณประโยชน์มากมายที่น่ารู้ของกวาวเครือแดง

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ถิ่นกำเนิดกวาวเครือแดงและสรรพคุณประโยชน์มากมายที่น่ารู้ของกวาวเครือแดง  (อ่าน 32 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2017, 03:27:18 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


กวาวเครือแดง[/b]
ชื่อสมุนไพร  กวาวเครือแดง
ชื่อประจำถิ่น  กวาวเครือ (เหนือ)    จานเครือ  (อีสาน)   ตานจอมทอง  (ชุมพร)  โพตะกุ , โพมือ  (กะเหรี่ยง)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Butea  superba  Roxb
ชื่อวงศ์  Leguminosae   วงค์ย่อย   Papilonaceae
ถิ่นกำเนิดกวาวเครือแดง
 พบอยู่มากในบริเวณที่ราบเชิงเขา และ เชิงเขาป่าเต็งรัง  ภูเขาหินปูน  ในเขตที่มีต้นไม้ใหญ่ไม่หนาแน่นนัก  มักพบอยู่เป็นกลุ่มๆ ภายในป่า  อาจเกิดจากสาเหตุ  คือ  ติดฝักได้น้อย  ฝักมีขนาดใหญ่ ทำให้แพร่กระจายตำแหน่งเดิมได้ยาก  ต้นกวาวเครือแดง ที่สร้างพุ่มเอง จะมีรูปร่างเตี้ย  ส่วนต้นที่เกี่ยวพันกับต้นไม้ใหญ่จะแตกกิ่งไปถึงยอดไม้
ลักษณะทั่วไปของกวาวเครือแดง
กวาวเครือแดงอยู่ในจำพวกไม้เลื้อย เป็นเถาวัลย์ เนื้อแข็ง มักชอบพาดขึ้นกับต้นไม้ใหญ่

  • ใบ      ใบใหญ่คล้ายใบต้นทองกวาว  แต่ใบใหญ่กว่า
  • ดอก ดอกใหญ่คล้ายดอกแคแสด  แต่เป็นพวงระย้าเหมือนดอกทองกวาว
  • หัว มีหลายขนาดลักษณะรูปร่างทรงกระบอก เมื่อสะกิดที่เปลือก จะมียางสีแดง คล้ายเลือดไหล

ออกมา

  • ราก มีรากแขนงขนาดใหญ่  แยกจากเหง้าเลื้อยไปรอบๆ หลายเมตร
การขยายพันธุ์กวาวเครือแดง
ทำได้ 3 วิธีดังนี้

  • การนำไปปลูกเมล็ด โดยการเพาะปลูกเมล็ดในกระบะขี้เถ้าแกลบประมาณ 45 วัน นำต้นกล้าที่ได้ ปลูกลงถุงเพาะชำโดยใช้ดิน 2 ส่วน ขี้เถ้าแกลบ 1 ส่วน เปลือกมะพร้าว 1 ส่วน ค่า pH ประมาณ 5 เมื่อต้นกล้าเจริญเติบโตได้ 60 วัน จึงนำลงแปลงเพาะปลูกกลางแจ้ง  โดยทำด้วยไม้ไผ่  หรือปลูกร่วมกับไม้ยืนต้นในกระบวนการเกษตร เช่น ไผ่  สัก  ปอสา  หรือไม้ผลอื่นๆ  พื้นที่ปลูกควรอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล  300-900 เมตร
  • การปักชำ นำเถาที่มีข้อมาปักชำในกระบะ หรือถุงที่บรรจุขี้เถ้าแกลบ  เมื่อเถาแตกรากและยอดแข็งแรงดีแล้ว จึงนำลงแปลงปลูกต่อไป
  • การแบ่งหัวต่อต้น หัวของกวาวเครือ ไม่มีตาที่จะแตกเป็นต้นใหม่  จำเป็นต้องใช้ส่วนของลำต้นมาต่อเชื่อตามวิธีการขยายพันธุ์แบบต่อราก  เลี้ยงกิ่ง (nursed root grafting)  สามารถนำหัวกวาวเครือขนาดเล็ก อายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป  และต้นหรือเถาที่เคยทิ้งไปหลังการเก็บเกี่ยวมาขยายพันธุ์ได้ หลังการต่อต้นประมาณ 45-60 วัน ก็สามารถนำลงปลูกได้ และมีข้อดีคือสามารถต่อต้นกับหัวข้ามสายพันธุ์ได้

    องค์ประกอบทางเคมี
                ส่วนหัวประกอบด้วยสารไฟโตแอนโดรเจน และไอโซฟลาโวลิกแนน 2 ชนิด ได้แก่ Mebicarpin (carpin 3-hydroxy-9methoxypterocarpan); สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ ได้แก่ butenin; formononetin (7-hydroxy_-methoxy-isoflavone); (7,4_-dimethoxyisoflayone); 5,4_-dihydroxy-7-methoxy-isoflavone, 7-hydroxy-6,4_-dimethoxyisoflavone
    แอนโทไซยานินมีค่าการดูดกลืนแสงในช่วงคลื่น  510-540 นาโนเมตร  สารละลายแอนโทไซยานินมีการเปลี่ยนแปลงสีตามค่าความเป็นด่าง (pH) ต่ำจะมีสีแดง pH ปานกลางจะมีสีน้ำเงินม่วงและเมื่อ pH สูงจะมีสีเหลืองซีด
    สรรพคุณกวาวเครือแดง 

  • หัว รสเย็นเบื่อเมา  บำรุงเนื้อหนังให้เต่งตึง  บำรุงสุขภาพ  เพิ่มปริมาณอสุจิ เป็นยาอายุวัฒนะ

    แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย

  • ราก แก้ลมอัมพาต  บำรุงโลหิต  ผสมกับรากสมุนไพรอื่นอีก 8 ชนิดเรียกว่า  พิกัดนวโลหะ  แก้โรคลมที่เป็นพิษ  แก้ริดสีดวง  ทำลายพยาธิ  ดับพิษ  ถอนพิษไข้  สมานลำไส้

     

    Tags : กวาวเครือแดง,กวาวเครือ



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ