การศึกษาเห็ดหลินจือทางเภสัชวิทยาและข้อควรรู้ควรระวังๆ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การศึกษาเห็ดหลินจือทางเภสัชวิทยาและข้อควรรู้ควรระวังๆ  (อ่าน 62 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2017, 01:05:17 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


รูปแบบและขนาดวิธีใช้
เห็ดหลินจือ[/i]ที่นำมาบริโภคจะให้ผลลัพธ์ดีที่สุด ก็ต่อเมื่อคนปกติทั่วไปใช้ดอกเห็ดอบแห้ง ชงเป็นชา เพื่อดื่มเป็นประจำ ถ้าต้องการต้มเป็นยา ต้องดื่มให้หมดวันละ 1 - 3 เวลา และจะดื่มเวลาใดก็ได้ ถ้าจะนำมาดองเหล้า จะให้ดอกเห็ดดองกับเหล้าขาวหรือเหล้าเหลือง ชนิด 40 ดีกรี ปริมาณ 100 – 150 ซีซี ทิ้งไว้ 15  วัน และค่อยนำมาดื่มครั้งละ  10 ซีซี หรือ ช้อนชา วันละ 1 – 3 เวลา ก่อนหรือหลังอาหารก็ไม่ต่างกัน นอกจากนั้น ยังมีผู้ผลิตเป็นแคปซูล โดยนำส่วนผสมของดอกเห็ด เส้นใย หรือราก และผงสปอร์ รวมอยู่ในเม็ด  ซึ่งปริมาณขึ้นอยู่กับอายุของผู้ใช้  หากเป็นเด็ก ใช้ 1 – 2 แคปซูลก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับผู้ป่วย ควรใช้ ครั้งละ 3 แคปซูล  วันละ 2 เวลา จะดีที่สุดอีกทั้งชนิดผงสปอร์บริสุทธิ์ ที่จะออกฤทธิ์มากกว่าแบบแคปซูล ก็จะนำมาผสมน้ำอุ่นในปริมาณ 1 กรัม หรือไม่เกิน 3 กรัม สำหรับผู้ป่วย และ ยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว อาจผสมในน้ำผึ้ง น้ำผลไม้ เครื่องดื่ม และอาหารคาวหวานได้ง่ายๆ
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
เห็ดหลินจือมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยามากมาย เช่น ฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน (10-13) ฤทธิ์ด้านเนื้องอกและมะเร็ง (10-14-16) ฤทธิ์ป้องกันเส้นประสาทเสื่อม (17-20) ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด (21-22) ฤทธิ์ลดไขมันในเลือด (23-24) ฤทธิ์ต้านออกซิเดชัน (25-27) ฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ (anti-inflammation) (28-29) เป็นต้น ซึ่งสาระสำคัญ คือ สารกลุ่ม polysaccharides (10,11,13) สารกลุ่ม triterpenoids (30-33) สารกลุ่ม sterols (34-36) สารกลุ่ม fatty acids (37) สารกลุ่มโปรตีน (38-41) เป็นต้น ซึ่งสาระสำคัญดังกล่าวจะพบได้ในส่วนสปอร์มากกว่าส่วนดอก (42) และสปอร์ที่กะเทาะผนังหุ้มมีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิกันและพบเจอมะเร็งได้ดีกว่าสปอร์ที่ไม่กะเทาะผนังหุ้ม และส่วนดอก (43-45)

การศึกษาทางพิษวิทยา
การทดสอบทางพิษวิทยาของส่วนสกัดด้วยน้ำ  และส่วนสัดที่เป็น polysaccharide ในหนูถีบจักร พบว่าค่อนข้างปลอดภัย ขนาดที่ให้ครั้งเดียวไม่ทำให้หนูตายสำหรับพิษกึ่งเฉียบพลันนั่น  หนูถีบจักรป้อนด้วยส่วนสกัดด้วยน้ำขนาดวันละ 5 กรัม/กิโลกรัม เป็นเวลา 30 วัน  ไม่พบการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว น้ำหนักอวัยวะต่างๆ และลักษณะต่างๆ  ที่ตรวจได้ในเลือดไปจากหนูปกติ
การทดสอบทางคลินิกในเภสัชตำรับของจีน ให้กับคนไข้ที่เป็นโรคประสาทตื่นตัว  นอนไม่หลับ ปวดข้อ  อารมณ์ไม่แจ่มใส โดยทดลองกับคนไข้ 51 ราย ได้ผลดีมาก 26 ราย ดี 18 ราย ไม่ได้ผล 7 ราย สรุปว่าดีมาก 51% หรือ ได้ผลดี 86.3% ทำเป็นยาเม็ดให้ครั้งละ 3 เม็ด หรือทำเป็นผงให้ครั้งละ2 – 4 กรัม  หรือใช้เห็ดหลินจือ แห้ง 10 กรัม ฝานให้เป็นชิ้นบางๆ ต้มกับน้ำ 2 ลิตร ต้มเคี่ยวจนเหลือ 1 ลิตร แล้วเอาชิ้นส่วนเห็ดออกแล้วต้นให้งวดเหลือครึ่งลิตร ดื่มตลอดวัน
มีการศึกษาเกี่ยวกับพิษวิทยาของเห็ดหลินจือทั้งพิษแบบเฉียบพลันและพิษแบบเรื้อรังพบเจอว่ามีความเป็นพิษต่ำมาก และมีความปลอดภัยสำหรับการใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
ข้อแนะนำ ข้อควรระวัง
ในระยะแรก คนปกติก็อาจมีอาการท้องเสีย คอแห้ง หรือมีผื่นคัน แต่ก็มักจะหายได้เองภายใน 2 – 7 วัน แต่ถ้ายังมีอาการข้างเคียงดังกล่าวอยู่ แนะนำให้หยุดใช้ไปก่อนหนึ่งสัปดาห์ แล้วลองเริ่มต้นใหม่  ควรบริโภคเห็ดหลินจือแดงสกัดก่อนอาหารอย่างน้อย 1 – 2 ชั่วโมง แต่สำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะ ให้กินหลังอาหาร 2 ชั่วโมงแทน เนื่องจากควรรับประทานขณะท้องว่าง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด  ในการดูดซึมตัวยาจากเห็ดหลินจือ  สำหรับผู้ที่ระบบกระเพาะย่อยยาก ควรกินวิตามินซี หรืออาหารที่มีวิตามินซีสูงร่วมด้วย เพื่อช่วยในการดูดซึมตัวยาจากเห็ดหลินจือ ให้เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น
 
 

Tags : เห็ดหลินจือ,เห็ดหลินจือ



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2017, 06:27:48 pm »

การศึกษาทางด้านวิทยาของเห็ดหลินจือน่าน่ารู้

บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ