10 เทคนิคดูแลสวนให้สวยน่ามองอยู่เสมอ

[Saichonka]

Advertisement

               ในบริเวณบ้านเรา จริงอยู่ที่ว่า..บ้านของเราจะมีสวนขนาดเล็กหรือใหญ่ ก็ตาม ก็สามารถให้ความร่มรื่นเย็นสบายได้ไม่ต่างกัน ซึ่งสำหรับบางคนการจัดสวนอาจกลายเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งไปแล้วก็ได้ แต่หากเราต้องการให้ความสวยงามอยู่คู่กับสวนของเราไปนานๆ ก็อย่าลืมดูแล และเอาใจใส่สวนของเราในการรับจัดสวน นั้นก็มีหลากหลายที่ หลากหลายบริษัท แต่ถ้าเราสามารถทำได้ในบทความนี้ก็มีวิธีดีๆมาบอก

1. เลือกเครื่องมือให้เหมาะสม

           อุปกรณ์และเครื่องมือแต่ละชนิดนั้นมีการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนทำสวนควรเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือให้ตรงกับจุดประสงค์และการใช้งาน ทั้งนี้เพื่อยืดอายุให้กับอุปกรณ์และถนอมส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้ไปในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ในขั้นตอนการเลือกซื้ออุปกรณ์นั้นไม่ควรซื้อของราคาถูกเพียงอย่างเดียว เพราะของราคาถูกอาจจะใช้งานได้ดีแค่ในช่วงแรกๆ เท่านั้น แต่ควรเลือกซื้อเครื่องมือที่มีราคาเหมาะสมกับคุณภาพมากกว่า

2. เก็บอุปกรณ์ไว้ในที่เดียวกัน

           ซื้อมาแล้วใช้งานแล้ว สำหรับการจัดเก็บอุปกรณ์ทำสวนนั้นควรเก็บรวบรวมเอาไว้พื้นที่เดียวกันทั้งหมด เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้การรวบรวมอุปกรณ์ทำสวนไว้ในที่เดียวกัน ยังช่วยป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้กับคนภายในบ้านอีกด้วย เนื่องจากอุปกรณ์บางอย่างมีความแหลมคม หากวางไม่เป็นที่ไม่เป็นทางอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ

3. หมั่นพรวนดินสม่ำเสมอ

           ดินเป็นสารอาหารสำคัญที่สุดของต้นไม้และช่วยพยุงต้นไม้ให้มีความแข็งแรงมั่นคงด้วย หากปล่อยให้ดินแห้งแข็งเกาะตัวแน่นรากของต้นไม้จะหาอาหารมาหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆได้ยากขึ้น ดังนั้นการพรวนดินสม่ำเสมอจึงจำสำคัญมากสำหรับต้นไม้ในสวนของเรา เพื่อให้รากสามารถชอนไชหาอาหารได้ง่ายขึ้นอีกทั้งยังเป็นการระบายความชื้น และทำให้ดินคายความร้อนได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย

4. รดน้ำตอนเช้า

           ตอนเช้าเป็นเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการรดน้ำต้นไม้ ทั้งนี้เป็นเพราะการรดน้ำในตอนเช้าจะช่วยลดการระเหยของน้ำได้ แต่หากไม่สะดวกควรเปลี่ยนเวลาไปรดน้ำในช่วงตอนเย็นของวันแทนก็ได้ ส่วนเวลาที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดก็คือช่วงกลางวันหรือตอนที่มีแดดจัด เพราะจะเกิดการเปลี่ยนอุณหภูมิกะทันหันซึ่งจะทำให้ต้นไม้ตายได้ นอกจากนี้ควรงดการรดน้ำต้นไม้ในช่วงกลางคืน เนื่องจากในช่วงนี้ทำให้เกิดความชื้นและเกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ง่าย

5. กำจัดวัชพืช

           หากต้นไม้ของคุณอุดมสมบูรณ์มีลำต้นที่อวบอิ่มใบสีเขียวสด ไม่ควรจะปล่อยให้สวนหรือต้นไม้มีวัชพืชปะปนอยู่ เพราะวัชพืชเหล่านี้จะเข้าไปรบกวนการเจริญเติบโตของต้นไม้ โดยการแย่งน้ำแย่งอาหาร และอาจจะทำให้ต้นไม้เกิดโรคได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นดูและกำจัดวัชพืชเป็นประจำและสม่ำเสมอ

6. ป้องกันสวนจากสัตว์เลี้ยง

           สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังและการดูแลกันอีก เพราะถ้าหากเราเผลอสัตว์เลี้ยงอาจจะไปขุดคุ้ยกัด กิน ทำให้ต้นไม้เกิดเสียหายได้ ในทางกลับกันพืชเองก็อาจทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดอาการแพ้ได้เป็นผื่นคัน หรือได้รับสารพิษได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยของต้นไม้และสัตว์เลี้ยง ควรปิดกั้นทางเข้าออกและพื้นที่สวนให้ห่างจากสัตว์เลี้ยงจะดีกว่า

7. เลือกใช้ปุ๋ยให้ถูกต้อง

           ปุ๋ยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและความเข้มข้นของสารเคมีแตกต่างกันออกไป เพื่อให้เหมาะสมกับชนิดของพันธุ์ไม้เช่น ปุ๋ยเร่งดอก ปุ๋ยเร่งใบ และปุ๋ยเร่งผล เป็นต้น ทั้งนี้หากใช้ผิดประเภทนอกจากจะไม่ได้ผลตามที่คาดหวังยังทำให้เกิดสารเคมีสะสมในลำต้นและเกิดปัญหาดินเสียได้อีกด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกใช้ปุ๋ยให้เหมาะสมกับประเภทและพันธุ์ของต้นไม้ หรืออาจจะเปลี่ยนไปใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทน เพื่อลดสารตกค้างในดินและหลีกเลี่ยงอันตรายจากสารเคมีต่างๆ

8. รักษาคุณภาพของดิน

           ดินเป็นแหล่งอาหารหลักของพืช ดังนั้นควรรักษาและคงคุณภาพของดินเอาไว้ให้สมบูรณ์อยู่เสมอ ด้วยการหมั่นพรวนดินรดน้ำ และหมั่นกำจัดวัชพืช ถ้าหากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการปูกระเบื้อง เพราะการปูกระเบื้องในสวนนอกจากจะรบกวนการเจริญเติบโตของต้นไม้แล้ว ยังทำลายหน้าดินและคุณภาพในดินอีกด้วย

9. ผสมปุ๋ยด้วยตัวเอง

           หากต้องการเพิ่มคุณภาพให้กับปุ๋ย สามารถนำพวกใบไม้แห้งหญ้าแห้ง หรือกาบมะพร้าว ใส่ผสมลงไปในปุ๋ยด้วยก็ได้ และอาจเปลี่ยนนำของเหล่านั้นไปหมักเป็นปุ๋ยมาใช้ ซึ่งปุ๋ยหมักนี้นอกจากจะช่วยลดจำนวนขยะแล้วยังเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ รักษาความชุ่มชื่นในดินและยังไม่เป็นอันตรายต่อพืชเมื่อใช้ติดต่อกันนาน ๆ ด้วย

10. ลงตารางการเวลาการจัดสวน

           ทั้งนี้เพื่อให้การดูแลสวนเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง ควรจะจดวันเวลาที่ทำสวนครั้งสุดท้ายเอาไว้ เพื่อเตือนความจำและกำหนดวันเวลาสำหรับการดูแลสวนในครั้งต่อไป ทั้งนี้กว่าต้นไม้จะเติบโตแข็งแรงสามารถต่อสู้กับสภาพอากาศและโรคต่าง ๆ ได้ใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี ดังนั้นจึงควรวางแผนระยะยาวเอาไว้ด้วย

           ในเรื่องของการดูแลสวนนั้น นอกจากการศึกษาข้อมูลที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้จะต้องอาศัยประสบการณ์การบำรุงดูแลสวนด้วย ถ้ามีข้อสงสัยหรือมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ อาจจะสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญหรือปรึกษากับคนรู้จักใช้ประสบการณ์ของพวกเขามาช่วยจัดการปัญหาของเราด้วยก็ได้นะคะ

ถ้าหากคุณไม่มีเวลาในการดูแลสวน มาหาเราสิคะkritsanapanmai  ทางเรามีบริการออกแบบสวน รับจัดสวน จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา7 ปีที่ผ่านมา ออกแบบงานตกแต่งภูมิทัศน์ พร้อมทีมงานมืออาชีพของเรากว่า50 ชีวิต ที่พร้อมจะบริการคุณถึงที่ออกแบบและจัดสร้างผลงาน ให้ตรงตามวัตถุประสงค์และตรงตามความต้องการของลูกค้าเราพร้อมบริการรับเหมาจัดสวนทั้งโครงการเล็กๆ เช่น บ้านพักอาศัยส่วนตัว ออฟฟิศและโครงการจัดสวนขนาดใหญ่ จัดสวน โรงงาน ร้านค้า หมู่บ้านจัดสรร

ที่มา : https://goo.gl/6dMdRr[/b][/size]