สูตรลดน้ําหนักจาก วิธีลดความอ้วนจาก 82 ลงมาสู่ 50 กิโลกรัม

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สูตรลดน้ําหนักจาก วิธีลดความอ้วนจาก 82 ลงมาสู่ 50 กิโลกรัม  (อ่าน 13 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Bigbombboomz
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25813


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: มิถุนายน 09, 2017, 09:51:37 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


สูตรลดน้ําหนักจาก วิธีลดความอ้วนจาก 82 ลงมาสู่ 50 กิโลกรัม


ความอ้วน เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับของกินอร่อยๆ มาช้านาน หากว่าใครที่กำลังกินจุกจิก หรือกินเกินความพอดี ความอ้วนจะต้องมาเยือนเราอย่างแน่นอน ตอนกินเข้าไปอะไรๆ ก็ดูง่าย แต่รู้รึเปล่าว่าการเบิร์นออกเพื่อให้รูปร่างกลับมาเหมือนเดิมนั้นยากซะยิ่ง กว่าการเข็นครกขึ้นภูเขาซะอีก เหมือนกับสาวน้อยคนนี้ที่เรื่องราวการเปลี่ยนแปลงตัวเองมีความน่าสนใจมาก เธอได้นำเรื่องราวสูตรลดน้ําหนักด้วยตัวเองนี้ลงไปโพสต์ไว้ในเว็บไซต์ Pantip.com โดยถึงแม้ว่าจะมีความยากลำบากในการลดน้ำหนักขนาด ไหน แต่เธอก็ยังพยายาม จนสามารถทำให้รูปร่างตัวเองกลับมาสวยใสได้ในระยะเวลาเพียง 11 เดือน ถือว่าเป็นการลดน้ำหนักที่ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก และไม่เป็นการทำร้ายตัวเองจนเกินไป ลองไปติดตามเรื่องราวของเธอกัน …
สวัสดีค่ะ คือเราออยากมาแชร์ประสบการณ์การวิธีลดความอ้วนของ เราที่เชื่อว่าทุกคนต้องทำได้แน่ๆเพราะ แบบเราไม่ได้มีกฎเกณฑ์ หรือ อะไรมาก อุปกรณ์ไรก็ไม่มี ใช้ชีวิตอยู่แบบเด็กหอที่ต้องลดน้ำหนัก
 คือมันเป็นไรที่จะว่าง่ายก็ง่ายนะ ว่ายากหน่อยก็ได้ 5555555 แต่มันอยู่ที่ใจล้วนๆ
และอีกอย่างที่ไม่รู้ว่าแปลกไหม เราไม่มีแรงบันดาลใจจากอะไรทั้งสิ้นเลย คนอื่นชอบถามว่าชอบใครเปล่าเลยพยายามลดบอกตรงๆ ตอนอ้วนไม่ได้ชอบใครเลย แค่วันนึงถ่ายรูปออกมาละ เห้ย!!? นี่ตัวฉันหรอ ... คือมันแบบ นะ เดี๋ยวตามไปดูรูป
เล่าเรื่องวิธีลดความอ้วนตั้งแต่แรก
คือเป็นคนที่อ้วนมาแต่เด็กแล้ว อ้วนจากการกินเยอะเองนี่ละ ก็อ้วนปกติแต่ไม่ถึงขั้นมาก จนเริ่มมีจุดเปลี่ยนตอนเข้ามหาลัย

คือ อ้วนแบบมากๆ เลย ชีวิตเปลี่ยนจากอยู่บ้านไป อยู่หอ กินไรก็อร่อยไปหมด ซื้อกินตอนไหนก็ได้ น้ำหนักช่วงนั้นรู้สึกจะ 75-76 กิโล ก็ยังไม่ได้มีทีท่าจะลดหรอก ก็กินๆๆๆ ต่อไป จนมีช่วงนึงคือปี 2 กินๆๆ เยอะแบบรู้ตัวเลยว่าเยอะ กินข้าวครบทุกมื้อ ขนมก็กิน แต่ดึกก็กินอีก มื้อดึกนะ เช่น โจ๊กคัพ+ไก่ทอด2 ชิ้น+ขนมจีบ คือ รู้ว่าตัวกินเยอะนะแต่หยุดไม่ได้จริงๆ แล้วพอกลับบ้านด้วยสภาพที่อ้วนแบบนั้น เจอใครที่บ้านก็ ทักว่าอ้วนมากกๆๆ คางจะย้อยถึงบ้านละ คือแบบเห้ยย ทำตัวไม่ถูกเลย พอชั่งน้ำหนักที่บ้าน เจอตัวเลข 82.9!! เห๊ยย นี่อ้วนจนขึ้นเลข 8เลยหรอ .....
พอถึงวันกลับหอเลยคิดว่าจะลองลดดู .... ซึ่งก็ไม่ได้คิดจะจริง
เริ่มแรกเลยนะ น้ำหนักที่ชั่งได้คือ 82.9 กิโล
 สูง 160 เซนติเมตร ความอ้วนที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือหน้าน้ำหนักปัจจุบันคือ 50 เป๊ะ กินเยอะหน่อยก็ 51-52 ระยะเวลาในการลดน้ำหนัก ประมาณ 11 เดือน ได้ แต่ด้วยความที่เราไม่ได้ทำต่อเนื่องนะ มันเลยนานมีช่วงที่แบบว่ารู้สึกลดมามากพอแล้วก็หยุด กลับมากินปกติ เลิกออกกำลังกาย เป็นแบบนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง รูปที่เห็นแล้วทำให้อยากลดก็คือ

นั่นแหละ น่าตกใจไหม
 วิธีแรกที่เราเริ่มทำเลยนะ คือ งดข้าวเย็น วันแรกที่เริ่มลดก็คือในรูปนี่ละ ซัดพิซซ่าไปแล้ว หลังจากนี้ก็รู้สึก เห้ยเราก็ทนได้นี่หว่า ไม่ได้รู้สึกหิวเลยนะ อาจจะเป็นเพราะอ้วนมาก อาหารที่กินแต่ละวันคงยังเหลือให้ใช้พลังงานได้อีกเยอะ 55555
ก็เริ่มทำมาเรื่อย ๆ จำระยะเวลาไม่ได้อะ อ๋อ แล้วพอรู้สึกว่าตัวเองจริงจังกับการลดน้ำหนักแล้ว เลยไปซื้อเครื่องช่างน้ำหนักแบบดิจิตอล เห็นกันเป็นจุดๆ ไปเลย
มันดีมาก เลยนะ เราชั่งทุกวัน จะได้เจียมตัว 5555 แล้วคราวนี้ทำมาเรื่อยจน น้ำหนักลดไป 2 กิโล !! แบบมันดีใจนะ คนไม่เคยคิดจะสนใจน้ำหนักอะ
นี่คือน้ำหนักลดแล้ว 2 โล เย้เย้ คือเหลือ 80 กิโล

คือมันลดก็จริง แต่เห็นสภาพตัวเองละก็ยังไม่ไหว ก็ยังคงงดมื้อเย็นมาสักพัก แต่คราวนี้ไปออกกำลังกายด้วย การออกกำลังของเราคือการวิ่ง
 ไม่ สิ เราไม่ถึงขั้นวิ่ง เราทำแบบเดินเร็วๆ เร็วธรรมดากับเร็วมาก สลับกัน เราไปวิ่งที่ฟิตเนสมหาลัย ความเร็วของเครื่องอยู่ที่ประมาณ 5.5-6.9 ไรแบบนี้
 แล้วก็มีปั่นจักรยานบ้างนะ บ้างจริงๆ เวลารอเครื่องวิ่งตอนไปว่างก็ปั่นๆ รอ มีภาพมายืนยัน

การออกกำลังกายเราไม่ได้ประกอบด้วยกำหนดวันนะ คือว่างวันไหนก็ไป ส่วนมากก็จะว่าง ถ้าไม่ต้องทำงาน ไม่มีสอบ ก็จะไป
การออกกำลังกายของเราอีกแบบคือ ตีแบต มันสนุกดีนะ โชคดีที่เพื่อนก็เดินตีด้วย
อ๋อ ลืมบอกตอนลดน้ำหนักนี่ เพื่อนก็เป็นส่วนสำคัญนะ คือปกติเราอยู่หอใช่ปะ ทุกวันรวมความว่ากินข้าวกับเพื่อน พอถึงคราวที่เราจะลดน้ำหนัก
เรา ต้องบอกมันอย่างจริงจังเลย ว่า ไม่กินนะข้าวเย็น ร้านนมใช่ไหมไปกินขนมที่ไหนก็ห้ามชวน แรกๆ ก็ยังมีชวนบ้าง หลังๆ เราไม่ไป เพื่อนนี่เงียบหายไปเลย 555
คราวนี้พอลดมาสักพักเราก็ปรึกษาพี่สาว พี่เราก็แนะนำให้เราไปดู รายการ good shape save cost ซึ่ง มันโอเคมาก !!
จริงนะ คือเราดูแล้วเรามีกำลังใจมากเลย ก็คือจะเน้นควบคุมอาหาร มากกว่าออกกำลังกาย ซึ่งปกติเราก็ออกอยู่แล้วไปละ
พอ ดูรายการนี้เราก็ กินหมู่คำนวณแคลอรี่เลยละ จริงจังมากๆ สมมุติจะกินตอนเย็นคือก็ต้องดูอะไรที่แคลอรี่น้อย ๆ พอช่วงนี้ก็เลยออกกำลังกายไม่ได้สม่ำเสมอ
ออกบ้างไม่ออกบ้าง บางอาทิตย์นี่หยุดไปเลย แต่ น้ำหนักก็ลดนะ ลงมาเหลือประมาณ 75-76 กิโล

คือว่าทุกส่วนนี่มันแน่นเดินทางหมดจริงๆ
หลังจากนั้นเราก็คุมแคลอรี่มาเรื่อยๆ รวมหมดเลย ออกกำลังกายบ้าง แบบว่าอาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง
แต่ถ้าอาทิตย์ไหนไม่ไปก็คือไม่ได้ไปเลยทั้งอาทิตย์นะ ถ้าจำไม่ผิด ช่วงประมาณเดือนมีนาเราหนัก 71 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มเรียนซัมเมอร์
ผมลองใช้สูจรพระเทพ แบบ 7 วัน น้ำหนักก็ลดประมาณ 3 กิโลนะ จำไม่ได้ว่าทำช่วงมีนาหรือเมษา ถือว่าไม่เยอะ เพราะอ่านจากสูตรเค้าบอกลด 7-8 โล
แต่มันเป็นระยะเวลาที่ทำกำนัลเราลงถึงเลข 6!!! แบบ 68-69 เห๊ยยย มันฟินมากกกกก เปล่ารู้ว่าทำไม 55555 ดีใจที่ตัวเองพ้นจากเลข7 สักที
หลังจากนั้นพอเดือนพฤษภาเราจำได้เลยหนัก 65 กิโล ..

ลงรูปใน facebook ช่วง หนัก 65 เพื่อนเริ่มทักเยอะมากขึ้นตำหนิผอมลงป่าวๆ รู้สึกดีมากเลยนะ
ต่อจากนั้นก็กังวลเบาๆ ก็เพราะว่า เดือนพฤษภาดำเนินเที่ยวเกาหลี ญี่ปุ่น เกือบเดือนนึงเต็ม กลัวน้ำหนักขึ้นมากๆๆ
แต่ไปแต่ละที่คือกินจัดเต็มนะ รู้สึกแบบ อุตส่าห์มานี่นา ... พอกลับมาไทย ชั่งน้ำหนัก ปรากฏว่า ไม่ขึ้นเลย !!!
ดีใจม้ากกกกก พอกลับมาแล้วอยู่ในจุดอิ่มตัว คือกินปกติ กินเย็นกินดึก กินบุฟเฟ่ จนวันนึงชั่งน้ำหนักแล้ว 68 !!!
เห้ย คือไร ... ที่เราตั้งใจมาทำไปทำไม ? กลับลงมาจากเที่ยวน้ำหนักก็อุตสาห์ไม่ขึ้น มีเวลาลดทำไมไม่ตั้งใจ?
แบบวนในหัวเรามากกกกกก จำได้ว่าเริ่มลดจริงๆ จังๆ อีกครั้งยุคสมัยกลางเดือน มิถุนา
***คราวนี้เป็นสูตรโหดนะ***
เราลองทำเองแบบไม่ถามใครคือ
มื้อเช้า : โยเกิร์ต
เที่ยง : ไข่ต้ม 2ฟอง
เย็น : ผลไม้ (บางวันไม่กิน)
ตอน เย็นออกคลาไคลเดินเร็วๆ รอบสวนสารธารณะ (สระพังทอง) 2-3รอบ ทุกวัน!! เพราะว่าเราว่างมาก อยู่บ้านมีแต่นั่งๆ นอนๆ ออกไปขยับร่างกายซะหน่อย
ช่วงนั้นกูออกอยู่สองแบบคือ ว่ายน้ำกับวิ่งนี่ละ ไม่รู้ออกกำลังกายได้มากไหม แต่ควบคุมอาหารนี่ได้ผลสุดๆๆ
เอ่อ .. แต่เราขอเตือนนะ ช่วงที่เราทำคือเราไม่ได้ทำไรเลยแต่ละวัน แบบงานบ้านหรือทำไรก็เปล่าได้ทำ แล้ว มันเป็นช่วงปิดเทอม เราทำเราโอเค เพื่อนเราเคยลองประกอบกิจแล้วมันหน้ามืด
ถือเอาว่าอาจจะแล้วแต่คนอะ ใชวิจารณญาณแล้วกันเน่อออออ
นั่นละ พอวันที่ 20 กรกฎา ข้าจำได้แม่น เพราะว่าเรากำลังจะไปค่ายด้วยกันเพื่อนๆ สาขา เราเลยพยายามเร่งลดมาก 5555 แบบอยากมีการเปลี่ยนแปลงชัดๆ
น้ำหนักอยู่ที่ 58 กิโล ....... เห้ยมันคือเลข5แล้ว ....... ดีใจอะ
พอเปิดเทอม กลางๆ เดือนสิงหาก็หนัก 58 อยู่ คือแบบ แต่งตัวเด๋อด๋าๆ มากก เพราะเสื้อผ้าเปลี่ยนใหม่หมด เย้

เราก็กลับไปอยู่หอ ใช้ชีวิตปกติ กินข้าวอะไรก็ธรรมดา แต่มันยังติดนิสัยแบบตอนอยู่บ้านก็คือ กินน้อยอะ คือ ถ้ากินข้าวอิ่มแล้วคือ อิ่ม
ขนม เค้ก นม ถ้าไม่มีความอยากก็ไม่ได้กิน บางวันรู้สึกชิน กลางวันนั่งกินไข่ต้มก็มีบ้าง 555555
ทำให้น้ำหนักเราลดเองมาเหลืออยู่ที่ 55 กิโล .... สนุกดีอะแก (เปิดเทอมมาแรกๆไม่ได้ออกกำลังกายเลย)
สูตรลดน้ําหนัก
พอ น้ำหนัก 55 แบบอย่างคงที่แล้ว เราก็ทำการกินปกติ ออกแนวเริ่มปล่อยวางตัวด้วยซ้ำ ฮ่าาา ก็กินขนม กินนม กินข้าวเยอะขึ้น แต่ก็ไม่เท่าตอนอ้วนแหละ
แล้วคราว นี้อยู่ๆไปเรื่อยก็รู้สึกว่า 55 ฉันก็ยังอวบๆอยู่เลยนะ เลยพยายามลด โดยการกลับมาควบคุมการกิน แบบจริงจังขึ้น แต่คราวนี้อีฉันไม่ใช้สูตรโหด
เพราะ กระผมต้องเรียนหนังสือ ทำนู๊นนี่ อีฉันทำเป็นแบบ กินพวกก๋วยเตี๋ยว สลัดผัก เกาเหลา ผลไม้ ไข่ต้ม วนๆ อยู่แบบนี้ ถ้าต้องกินข้าวจริงๆ ก็กินกับเยอะกว่า ข้าวก็แบ่งๆ ให้เพื่อนไป
ช่วงนี้เราออกกำลังกายด้วยนะ ไปวิ่งตอนเช้า 40 นาที ควรจะอาทิตย์ละสองครั้งได้
นั่นละ ... น้ำหนักเราลดมากเกิน 52 !! เย้ บอกตรงๆนะมันเริ่มลดยากแล้วตั้งแต่ 55 กิโล มา
พอ หนัก 52 เราก็ยังไม่ลืมเป้าหมายข้าวของเครื่องใช้เรา ดิฉันอยากหนัก 45 !! คือรู้นะว่ามันย้ากกกยาก แต่ก็พยายามกระดึ้บๆ ให้ลดลงๆ ไปเรื่อย คราวนี้มาถึงช่วงสอบ final ก็อยากจะลดน้ำหนักไปด้วยละ แต่มันก็ต้องกินเว้นเน้อะ ก็กินปกติ แต่ละมื้อส่วนมากแบบรีบกินรีบเสร็จจะได้ไปอ่านหนังสือ ก็ยังกินไข่ต้มอีกเช่นเคย มันอิ่มมากเลยนะ ไปลอง ... ก็จะกินแบบปกติ แต่ไม่มีเวลาไปหาขนมมากินอะดิ หรือบางวันขี้เกียจออกไปข้างนอกมากๆ แบบอยากนั่งอยู่กับที่ ก็กินแค่โยเกิร์ต ผลไม้ ของกินเล่นเล่นๆ (มันไม่ดีนะ) น้ำหนักก็ลดมาถึง 50 กิโลถ้วนสมบูรณ์
คือดีใจมากกกกกกกกกก อยากลดต่อ แต่ใกล้ตรงกลับมาบ้านนี่ละ เครื่องใช้กินอร่อย ไม่กิน พ่อแม่ก็ดูเป็นห่วง ฮร่าาาาาาา
ถึงเวลาต้องลงรูป after 30 กิโลที่หายไปแล้วใช่ปะ ? แต่รูปตอนก่อนลดเราเยอะกว่าตอนลดแล้วอีก ดูไหม ? ดูๆๆ เราจะลง 555555
จำไม่ได้นะช่วงไหนเท่าไร ดูสุ่มๆ ไป 55555 ปัญหาหลักสำหรับเราเลยนะ เราเป็นคนหน้าใหญ่ แก้มนี่ใหญ่มาก 555 น้ำหนักลดเท่าไรหน้าก็ยังอ้วนอยู่


หลังจากที่น้ำหนักหายไป 32 กิโล !!! จาก 82.9 ลงมาเหลือ 50 กิโล ..... เฮ้ !!
สรุปน้ำหนักทุกวันนี้คือ 50 กินเยอะๆหน่อยก็สัก51-52 แต่วันถัดมาก็อยู่ช่วง 50 โลแหละ ..
 
นี่คือการเปลี่ยนแปลง เหมือนชีวิตหลังมรสุมมมมมม ฮ่าาา






สุดท้ายด้วยการ selfie ที่คิดว่าหน้าจะเล็กสุดได้เท่านี้ละ แก้มก็ยังมีเช่นเดิม แต่มันคงเล็กกว่าภาพแรกเย้อะ

#### จบแล้ววววว ####
* ขอบคุณไอดีของพี่ไกด์
*รูปอาจจะสีแปลกๆ คือมันเป็นรูปแต่งไว้ลง Instagram
*ไม่ได้กินยาลดน้ำหนัก ช่วงนั้นแค่วิตามินซี หรือยาบำรุงผิวไรก็แทบไม่กิน กลัวมันจะทำให้อ้วน 5555
- เคยกินยา fulfill ของแบล๊คมอที่ว่าทำให้อิ่ม สีชมพูๆ แต่ยานี้เราว่ามันอยู่ที่ใจ มันทำให้อิ่ม แต่ถ้าใจอยากสะอย่าง เลยไม่ค่อยได้กิน, แล้วก็ยา detox สีเขียวๆ ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับลดน้ำหนักนะ เป็นแบบขับถ่ายไรงี้ กิน แค่นี้จริงๆ
*สงสัยอะไร ถามเลย
*เรามีเป้าหมายจะลดให้ได้ 45 แต่พ่อแม่ที่บ้านบอกให้พอ เราเลยขอสัก 48
*อยากให้ทุกคนสู้ คือเราลดได้ทุกคนก็ได้อะ เชื่อดิ้
*นิสัยส่วนตัวเราคือชอบกินจุกจิก ชอบน้ำอัดลม ขนม เค้ก
*การลดของเราเน้นการควบคุมอาหารนะ ออกกำลังกายเป็นรอง ทำได้ก็จะดี
*การลดน้ำหนักอยู่ที่ใจสุดๆเลย
TT^TT เพิ่มเติมนะคะ TT^TT
ขอบคุณทั้งคอมเม้น คำชม และความเป็นห่วง เราไม่ได้บอกว่าวิธีเราเป็นวิธีที่ดี แต่เราแค่อยากจะแชร์ว่าวิธีนี้เห็นผลกับเรา แล้วตอนเราลงรูปใน facebook คนจะทักแชทมาถามเยอะมาก แล้วบอกว่าเราทำให้เค้ามีกำลังใจ ที่มาโพสคืออยากให้คนที่อ้วนมากๆ มาก่อนแบบเราได้มีกำลังใจในการลดนะ ว่าเอ้อคนอย่างเราก็ลดได้เหมือนกันนะ ...
สำหรับคอมเม้นที่บอกถึงว่า เราตอบแต่คนชมไม่ตอบคนติเลย คือเราเลือกตอบคนที่มีคำถามอยากจะถามเรา คนที่ติเราอ่านแล้วเราก็ไม่รู้จะตอบอะไร เพราะเราลดมาถึงขนาดนี้แล้ว เราควรทำยังไงละ ? ทุกวันนี้เรากินข้าวปกติมาสักพักแล้วนะคะ
เราขอบอกว่า วิธีนี้อาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด ถ้าจะกิน แนะนำให้กินให้ครบ สามมื้อ แต่ลดปริมาณลงนะคะ ^^
เชื่อได้ว่าเรื่องราวของสาวน้อยที่ใช้นามว่า Like a Pyramid คงจะเป็นวิธีที่ดีในการที่สาวๆ คนไหนอยากจะหันมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น เห็นรึเปล่าว่าวิธีที่เธอทำนั้นไม่ยาก และไม่ต้องเตรียมการ หรือเตรียมความพร้อมอะไรให้มากมาย ขอแค่เรามีความอดทนที่จะผ่านมันไปให้ได้ มีความสม่ำเสมอ อย่าเพิ่งย่อท้อก่อนจะเห็นผล ไม่ใช่แค่รูปร่างดีขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่สุขภาพของเราก็จะดีตามไปด้วย ใส่ชุดไหนก็ดูตรู ถ่ายรูป Act อะไรก็ดูสดใส เดินไปทางไหนก็น่าจับตามองไปซะหมด
แคลอรี่พร้อมทั้งความต้องการพลังงานสิ่งของร่างกาย
แคลอรี่ (Calorie) ก็ลงความว่าหน่วยข้างในการวัดพลังงานที่ฉันมักจะเห็นได้จากฉลากที่อยู่ข้างกล่อง ผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ มีจุดประสงค์เพื่อไว้ปริมาณแคลอรี่ของอาหารที่เรารับประทานเข้าไป เนื่องจากว่าร่างกายของเราต้องการพลังงาน โดยสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย ได้แก่
คาร์โบไฮเดรต จะปันออกพลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ต่อกรัม เท่ากันกับโปรตีน
โปรตีน จะให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรี่ผสานกรัม
ไขมัน จะให้พลังงานสูงสุด หมายความว่า 9 กิโลแคลอรี่ต่อกรัม (ให้พลังงานเป็นสองเท่าของโปรตีน หรือคาร์โบไฮเดรต)
สำหรับร่างกายสรรพสิ่งเรานั้น โดยปกติปริมาณของแคลอรี่ที่ควรบริโภคต่อวันสำหรับผู้ที่ทำงานหนักปานกลาง คือ ประมาณ 2,000 กิโลแคลอรี่ แต่สำหรับผู้ที่ต้องทำงานหนัก ไม่ใช่หรืออาจต้องใช้พลังงานมาก อย่าง กรรมกร หรือนักกีฬา ต่างก็ต้องการพลังงานเขตเพิ่มมากขึ้นกว่านี้ หากต้องการลดน้ําหนักจะต้องเข้าใจถึงเรื่องพลังงานในอาหาร ส่วนผู้ที่ทำงาน เบากว่าคนปกติทั่วไปก็ต้องพลังงานในส่วนที่น้อย วิธีลดความอ้วนบาง คนอาจเหมาะกับการนับแคลอรี่ การบริโภคอาหารในแต่ละมื้อสำหรับคนทั่วไปก็ไม่ควรเกิน 600 กิโลแคลอรี่ มักจะเป็นอาหารจานเดียว อย่าง ข้าวผัด และก๋วยเตี๋ยว ซึ่งจะให้ปริมาณพลังงานประมาณ 300 - 500 กิโลแคลอรี่ ซึ่งตามคำแนะนของ Thai Recommended Daily Intakes (Thai RDI) ได้ระบุปริมาณของสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับคนไทยที่มีอายุ ตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปที่มีความต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่ อาจจำแนกเป็นปริมาณความต้องการของสารอาหารต่างๆ ได้แก่ …
คาโบไฮเดรต คิดหมายถึง 60% ไม่ใช่หรือประมาณ 1,200 กิโลแคลอรี่ เหรอเท่ากับปริมาณบริเวณควรบริโภคต่อวันเท่ากับ 300 กรัมต่อวัน
โปรตีน คิดเป็น 10% หรือประมาณ 200 กิโลแคลอรี่ หรือเท่ากับปริมารที่ควรบริโภคต่อวันเท่ากับ 50 กรัมต่อวัน
ไขมัน คิดเป็น 30% หรือประมาณ 30% หรือเท่ากับปริมาณที่ควรบริโภคต่อวันเท่ากับ 66.6 กรัมต่อวัน
แต่ถ้าหากคนไหนที่ต้องงานพลังงานมากกว่า หรือน้อยกว่าที่กล่าวจรข้างต้นนี้ แนะนำให้ทำการปรับมากขึ้น หรือลดลงตามสัดส่วนของพลังงานทั้งหมดที่ต้องการต่อวัน สูตรลดน้ําหนักเกี่ยวกับการทานพลังงานจากอาหารให้เพียงพอไม่เกินพอดีนี้ ร่างกาย ของเราจะใช้พลังงานที่ได้รับเข้าดำเนินช่วยเสริมระบบต่างๆ ภายในร่างกายสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ภายในร่างกายสามารถกักเก็บพลังงานส่วนเกินไว้ในรูปของ ไขมันและแหล่งพลังงานอื่นๆ ตามอวัยวะภายในร่างกายไว้สำหรับใช้ในอนาคตอีกด้วย
ข้อมูลสูตรลดน้ำหนัก จาก http://women.sanook.com/32977/


คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ผู้หญิง

Tags :  หนังสือแฟชั่น



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ