ข้อควรระวังในการทานขิง

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อควรระวังในการทานขิง  (อ่าน 67 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
plawan1608
Full Member
***

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 158


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 08, 2017, 08:17:35 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


ข้อควรระวังในการทานขิง

           มีบางการวิจัยพบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์และการแท้ง แต่ในการตั้งครรภ์รายอื่น ๆ นั้นไม่พบว่าการกินขิงจะทำให้เกิดอาการเหล่านั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการคลื่นไส้จากการแพ้ท้องได้อีกด้วย ดังนั้นคุณควรไปปรึกษาแพทย์ก่อนจะที่ใช้ขิงในการเยียวยาอาการแพ้ท้องด้วยตนเองค่ะ
     ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าหากบริโภคเข้าไปในปริมาณที่มากก็จะอาจเยื่อบุภายในช่องปากเกิดการอักเสบจนเป็นอาการร้อนในได้ดังนั้นไม่ควรกินขิงมากจนเกินไปค่ะ
 
 - ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด         การค้นคว้าหนึ่งในออสเตรเลียพบว่าขิงนั้นมีสรรพคุณในการต้านการแข็งตัวของเลือดมากกว่ายาแอสไพริน สถาบันสุขภาพของออสเตรเลียได้ออกคำเตือนให้งดการรับประทานขิงในขณะที่ใช้ยาละเลือดเพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอาการห้อเลือดหรืออาการเลือดออกได้ ดังนั้นถ้าหากคุณมีอาการเลือดออกผิดปกติหรือกำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือด ควรหลีกเลี่ยงการกินขิงค่ะ
 
การใช้เป็นอาหาร
ขิงนำมาทำอาหารได้หลากหลาย ขิงอ่อนใช้เป็นผักจิ้ม ใช่ทำผัดขิง ใสในยำเช่นยำหอยเเครง ใส่ในเเกงฮังเลน้ำพริก กุ้ง อม ซอยใส่ในต้มส้มปลาเมี่ยงคำ ไก่สามอย่าง  ใช้ทำขิงดอง ใส่ในไข่หวานเพื่อดับกลิ่นคาวไข่ทำเป็นอาหารหวาน เช่น น้ำขิง  ขิงแช่อิ่ม และยังทำเป็ขิง[/url]ผงสำเร็จรูป สำหรับชงดื่ม
คุณค่าทางโภชนาการ
เมื่อบริโภคขิง 100 กรัม คุณค่าทางโชนาการที่ได้รับคือ พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 0.4 กรัม คาร์โบไฮเดรท 4.4 กรัม ไขมัน 0.6 กรัม เส้นใยอาหาร 0.8 กรัม ธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิตร แคลเซียม 18 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม เบต้า-คาโรทีน 10 ไมโครกรัม วิตามินซี 1 มิลลิกรัม ไธอะมีน 0.02 มิลลิกรัม ไนอะซีน 1 มก. ไลโบฟลาวิน 0.02 มิลลิกรัม
สารเคมีและสารอาหารที่สำคัญ
ในเหง้าขิงมี น้ำมันหอมระเหยอยู่ประมาณ 1 - 3 % ขึ้นอยู่กับวิธีเพาะและช่วงการเก็บรักษา ในน้ำมันประกอบด้วยสารเคมี ที่สำคัญคือ ซิงจิเบอรีน (Zingiberene) , ซิงจิเบอรอล (Zingiberol) , ไบซาโบลี (bisabolene) และแคมฟีน (camphene) มีน้ำมัน (oleo - resin) ในปริมาณสูง เป็นส่วนที่ทำให้ขิงมีกลิ่นฉุน และมีรสเผ็ด ส่วนประกอบสำคัญ ในน้ำมันซัน ได้แก่ จินเจอรอล (gingerol) , โวกาออล (shogaol) , ซิงเจอโรน (zingerine) มีสรรพคุณเป็นยากัดบูด กันหืน ใช้ใส่ในน้ำมันหรือไขมัน เพื่อป้องกันการบูดหืน สารที่ทำให้ขิงมีประโยชน์เป็นยากันบูด กันหืนได้คือ สารจำพวกฟีนนอลิค



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
plawan1608
Full Member
***

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 158


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2017, 03:18:13 pm »

ขิงมีดีอะไร

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ