คลินิกรักษาโรคหมอหมา-แมว ทำหมัน สัตว์เลี้ยงป่วย รักษาสัตว์ป่วย โดยผู้เชี่ยวชาญ โ

[suChompunuch]

Advertisement

คลินิกรักษาโรคหมอหมา-แมว ทำหมัน สัตว์เลี้ยงป่วย รักษาสัตว์ป่วย โดยผู้เชี่ยวชาญ โทรติดต่อได้ 24 ชั่วโมง
รักษาสัตว�โรคติดต่อแมว
 
 Cat Scratch Hisease หรือโรคแมวข่วน มีเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย มีแถลงการณ์ว่าหมัดเป็นตัวแพร่ระบาดจากแมวสู่แมว แล้วก็จากแมวสู่คนผ่านแผลที่เกิดขึ้นมาจากแมวข่วน อาการในคนเริ่มจากรอยข่วนแปลงเป็นตุ่มใส ก่อนกลายเป็นแผลหลุมตื้นๆซึ่งจะหายไปเองด้านใน 3 – 7 วัน ทั้งนี้พวกเราสามารถคุ้มครองป้องกันได้โดยการกำจัดหมัด ตัดเล็บเจ้าเหมียว นอกจากนั้นพวกเราควรจะดูแลความสะอาดมือแล้วก็ทำความสะอาดแผลที่โดนแมวข่วนหรือกัดด้วยสบู่หรือน้ำที่สะอาด
 
 โรคผิวหนังจากเชื้อรา เชื้อราเหล่านี้ชอบอยู่ในที่ร้อนรวมทั้งเปียกชื้น แมวขนยาวมักจะมีปัญหานี้เป็นส่วนมาก อาการในแมวเป็นจะมีขนหล่นง่ายเป็นวงๆผิวหนังรอบๆที่ร่วงจะเป็นเกล็ดๆการรักษา ควรจะอาบน้ำแมวด้วยแชมพูยารักษาเชื้อรา (อาทิ ไนโซรอลของคน) แล้วเป่าขนให้แห้งสนิทตลอดตัว ก่อนทายารักษาเชื้อรา และจะต้องทำความสะอาดรอบๆที่เลี้ยงแมวด้วยการดูดฝุ่นละออง ต่อจากนั้นเช็ดถูด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค (สามารถใช้น้ำยาซักผ้าขาว “ไฮเตอร์” ในอัตราส่วน 1 : 10หมายถึงน้ำยา 1 ส่วนต่อน้ำ 10 ส่วน หรือเดทตอล สัดส่วนการผสมดูที่ฉลากข้างขวดได้เลยค่ะ)
 
 โรคพิษสุนัขบ้า อย่านอนใจไปว่าเป็นพิษหมาบ้า แมวจะเป็นไปได้ยังไงกัน ขอให้ทำความเข้าใจก่อนว่า โรคกลัวน้ำนี้สามารถเกิดขึ้นกับสัตว์กินนมเลือดอุ่น อาทิเช่น ม้า โค ค้างคาว อื่นๆอีกมากมาย ยิ่งหากแมวคุณรักอิสระก็ยิ่งจะต้องคุ้มครองป้องกันไว้ก่อน ถึงแม้แมวอิหร่านจะอยู่แต่ในบ้านเป็นส่วนใหญ่ (เกือบจะมิได้ออกมาจากบ้านเลยด้วยซ้ำ) ก็ควรได้รับวัคซีนนี้ด้วยเช่นเดียวกัน กันไว้ก่อน ดียิ่งกว่าตามแก้ทีหลังนะจ๊ะ
 
 Toxoplasmosis เป็นเชื้อโปรโตซัว ติดต่อผ่าน 3 ทางเป็น กินอาหารที่ปนเปื้อนขี้ที่มีไข่ กินเนื้อสัตว์ที่มีซีสต์ของโปรโตซัว แล้วก็ติดต่อตั้งแต่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากแม่ สำหรับสตรีท้องถ้ามีแมวอยู่ในบ้าน ควรจะให้คนในครอบครัวดูแลกระบะทรายแทนไปก่อนในตอนตั้งครรภ์ เราะเชื้อสามารถติดต่อรวมทั้งทำอันตรายลูกในท้องได้
สวรรค์สำหรับเจ้าแมว
ตำแยแมว ชื่อวิชาพฤกษศาสตร์ Acalypha indica L. ดูผิวเผินก็วัชพืชดีๆนี่เองแหละ แม้กระนั้นหากพิจารณาดีๆก็จะเห็นความน่ารักของมันอยู่บ้างนะ รูปร่างใบกลมๆดอกออกเป็นช่อเล็กๆชิดกับต้น เมื่อถอนออกมาจะมองเห็นรากเป็นเส้นฝอยๆสีขาว ก่อนให้เจ้าเหมียวพวกเราก็น่าจะล้างดินออกมาจากรากให้สะอาดสะอ้านซะก่อนด้วยนะคะ
แคทนิป (Catnip) ชื่อพฤกษศาสตร์ Nepata cataria เป็นพืชในสกุลไม่นต์ เลยเรียกว่า Catmint ด้วยเหมือนกัน มีบ้านเกิดทั้งยังในยุโรป เอเชีย รวมทั้งแอฟริกา ในเมืองนอกมีวางขายแบบแห้งกันเป็นล่ำเป็นสัน (นอกเหนือจากนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความ Green สูงด้วยนะ นั่นเป็น หลบหลีกการใช้สารเคมีและสารทำลายสภาพแวดล้อมในทุกกรรมวิธีการผลิต) ในไทยเจอเม็ดขายเป็นซองในชื่อ Nepeta mussinii
ตำแยแมวแล้วก็แคทนิป กล่าวได้ว่าเป็นยาเสพติดของเจ้าเหมียวที่ไม่มีพิษมีภัยใดๆก็ตามต่อแมวอะไรนะคะ พืชทั้งสองชนิดนี้จะต่างกันตรงส่วนที่แมวถูกใจกิน สำหรับตำแยแมว แมวเขาจะชอบกินตรงส่วนของราก ต่างจากแคทนิปที่แมวชอบกินในส่วนของใบ แต่ว่าอาการของบรรดาแมวๆที่ได้ชิมจะไม่ค่อยไม่เหมือนกันสักเท่าไหร่ พอใช้ได้กินตรงส่วนรากตำแยแมวหรือใบของแคทนิปเท่านั้นล่ะ บางตัวจะมีลักษณะอาการเหมือยเมายาก็ไม่ปาน บางตัวก็เกลือกไปกลิ้งมา แต่ว่าบางตัวจะขะมักเขม้นอย่างแรง พูดได้ว่าเป็นของเสริมขึ้นมาให้ชีวิตท่านแมวๆมีชีวิตชีวาและก็บางตำราเรียนเขาว่าเป็นประโยชน์ต่อแมวด้วยนะ
เราจะรู้ได้ยังไงว่าแมวเราเริ่มป่วยหรือไม่สบาย
จะทราบดีว่าแมวเจ็บไข้ เราก็ต้องทราบสภาพการณ์ปกติของแมวซะก่อน ด้วยเหตุนั้นเรามารู้ภาวะธรรมดาของแมวกันก่อนดีมากยิ่งกว่า อุณหภูมิแมวธรรมดาจะอยู่ที่ 38-39.2 องศา เราสามารถใช้เทอร์โมมิเตอร์ที่วัดไข้คนนี่ละ ถ้าหากมีติดบ้านอยู่แล้วก็ใช้วัดไข้ให้เจ้าเหมียวได้เลย แม้กระนั้นต่อจากนั้นจำเป็นต้องไปจ่ายตลาดคนใหม่นะ แล้วอันนี้ก็ยกให้เป็นของเจ้าเหมียวไป (เนื่องจากว่าเวลาวัดไข้ เขาเอาเข้าไปวัดในตูดเจ้าเหมียวจ้า)
การเต้นของหัวใจเฉลี่ย 120-200 ครั้ง/นาที อัตราการหายใจ 20-30 ครั้ง/นาที ส่วนความดันเลือดปกติจะอยู่ที่ 140/90 พวกเราน่าจะพอดูการเต้นของหัวใจรวมทั้งการหายใจของแมวได้ ส่วนความดันให้เป็นหน้าที่ของสัตวแพทย์ที่จะกระทำการตรวจวัดจะดีมากยิ่งกว่า
อาการแมวป่วย
ถ้าเป็นแมวเด็กก็จะซึม ไม่ยินยอมทานข้าว ท้องเสีย เวลาเข้านอนก็จะจุ้มปุ๊กประพฤติตนกลมๆเอาสองขาหน้ามารองหัวไว้ ส่วนแมวโตพึงสังเกตอาการซึม อดอาหาร ฉี่หรืออึไม่ออก กินน้ำมากมายหรือน้อยเกินไป ถ่ายอุจจาระหรือฉี่นอกกระบะ คลื่นไส้ที่ไม่ใช่ก้อนขน พุงโตผิดปกติ จับดูเหมือนมีแต่ว่าน้ำทั้งๆที่ตัวซูบผอม เพราะแมวเป็นสัตว์ที่เก็บอาการเก่ง เราควรจะหมั่นพิจารณาสิ่งที่ไม่ดีเหมือนปกติที่เกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม เพื่อจะได้รีบหาทางรักษาแก้ไขกันได้อย่างทันทีทันควัน ด้วยเหตุว่าเจ้าเหมียวกล่าวบอกคุณมิได้ แต่บางทีเขาก็บางทีก็อาจจะส่งสัญญาณ อย่างการเข้ามาเคลียคลอมากผิดปกติก็เป็นได้เหมือนกัน
อาการที่ควรสังเกตเพิ่ม
ตาแดง ขี้ตาเฉอะแฉะ ตาปิด พินิจตาของเจ้าเหมียวอยู่เสมอนะคะ มองความแตกต่างระหว่างขี้หูขี้ตาเขาเวลาธรรมดากับตอนไม่สบายจะสีจะเช่นเดียวกัน ขี้หูขี้ตาหรือน้ำตาปกติจะมีสีน้ำตาล ส่วนขี้หูขี้ตาตอนเจ็บป่วยจะสีคล้ายน้ำมูกข้นๆคือสีออกเขียวอมเหลือง ส่วนเวลาตาเจ็บจนตาปิด ถ้าหากพิจารณาให้ดีจะมีหนังตาที่สามสีขาวๆมาปิดตาอีกครั้ง มีขี้หูขี้ตาเกราะกรัง จำเป็นต้องรีบใช้สำลีชุบน้ำเกลือ (สำหรับล้างคอนแท็คท์เลนส์นั่นละขา) หรือจะเป็นน้ำยาล้างตาคน ขัดถูให้สะอาดอย่างเบามือ ก่อนใช้ยาป้ายตา (เป็นขี้ผึ้งป้ายตาสำหรับคนอีกนั่นเอง เทอร์รามัยสิน) ป้ายให้เขา
-น้ำมูกไหล แมวเปอร์เซียค่อนข้างจะมีน้ำมูกง่าย เพราะมันมักจะหน้าบี้ พวกเราสามารถให้ยาลดน้ำมูกของคนได้ อาทิเช่น ไบโซลวอน หรือแม้แต่คลอเฟนิรามีนก็ได้เช่นกัน ถ้าเกิดสองวันอาการยังไม่ดีขึ้น ก็อาจจะจำเป็นต้องพาไปพบหมอจะปลอดภัยกับเจ้าเหมียวมากสุดจ้ะ<br />

- ฉี่ไม่ออก ควรจะหมั่นสังเกตกระบะทราย มองว่าเขาฉี่บ้างหรือเปล่า ในวันหนึ่งๆควรจะฉี่ขั้นต่ำๆก็หนึ่งที หากมองไม่เห็นเขาฉี่แล้วก็มานะเบ่ง ให้รีบพาไปพบแพทย์เลย สำหรับตัวผู้จะง่ายหน่อย เนื่องจากว่าหมอบางทีอาจสวนฉี่หรือค้างท่อฉี่เอาไว้ให้ระบายฉี่ออกมาได้ แต่เจ้าเหมียวจำต้องเจ็บหน่อย ส่วนตัวภรรยา ยังไม่เคยมีประสบการณ์เลยจ้ะ<br />

-ท้องเสีย ลองดูว่าพวกเราเปลี่ยนแปลงของกินให้เขาหรือเปล่า หากมิได้เปลี่ยนก็ลองหาสาเหตอื่นๆที่น่าจะเป็นไปได้ อาทิเช่น ถ่ายพยาธิให้เขาครบมั้ย มีลักษณะอาการอื่นๆได้แก่ คลื่นไส้ ร่วมด้วยหรือเปล่า ถ้าหาก 1-3 วันแล้วยังไม่ดีขึ้นก็อย่าเฉย ให้รีบพาไปหาแพทย์เลยแรง
 
 ภาพน่ารักบางส่วนจากทางร้านค่ะ
 

 

 
 

 
มีหลากหลายคำ ทั้งุภาษิต คำพังเพย สำนวนต่างๆ ที่มีแมวเข้าไปร่วมแจม
ตีนแมว คำนี้มีที่มาจากอุ้งเท้าของแมวที่มีขนปกคลุม เวลาเดินหรือกระโจนจึงมีเสียงเบามากจนกระทั่งเกือบจะมิได้ยิน คนเราจึงเอาไว้เรียกพวกหัวขโมยหรือพวกยกเค้าต่างๆนั่นเอง
 
 แมวมอง (Scout) เดี๋ยวนี้ใช้เรียกผู้ชักจูงศิลปินไปสู่วงการมายา หรือ นักกีฬาไปสู่ระดับอาชีพ เมื่อก่อนใช้หมายความว่ากองทหารที่มีหน้าที่คอยเหตุ ที่เรียกแบบนี้นั้น คาดคะเนว่ามาจากความประพฤติปฏิบัติของสัตว์ในสกุลนี้ ที่สามารถซุ่มซ่อนเพื่อเฝ้ารอเหยื่อโดยไม่ให้เหยื่อรู้สึกตัวนั่นเอง
 
 แมวนอนหวด เป็นสำนวน คือ พวกที่ชอบแอ๊บ (มาจากแมวที่เข้าไปแอบอยู่ในหวด ซึ่งเป็นภาชนะอย่างหนึ่ง และคอยขโมยอาหาร) แต่ว่าจริงๆเป็นอย่างข้างนอกหรือไม่ก็ไม่เคยทราบ น่าสะพรึงกลัวนะคนอย่างงี้ รวมทั้งส่วนมากแล้วชอบใช้เปรียบกับหญิงซะด้วยซิ
 
 แมวคราวเป็นแมวตัวผู้แก่ๆมักอยู่ติดที่ไม่ค่อยออกไปไหน การใช้แมวคราวเจอในพิธีโกนผมไฟ ลงอู่เด็ก และพิธีสมรสของคู่บ่าวสาว ดังเช่นว่าคำอวยพรจากคนแก่ว่า “ให้เย็นเสมือนฟัก ให้หนักเหมือนแฟง ให้อยู่เรือนเหมือนก้อนเส้า เฝ้าเรือนราวกับแมวคราว” คำให้พรนี้จึงหมายติดอยู่มว่า ให้บ่าวสาวแก่ไวๆจะได้อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนกันเสียเชิง (เอิ่ม จะดีหรอแก่ไวๆเนี่ย แหะๆ)
 
 ปิดประตูตีแมว หมายถึง การรังแกผู้ที่ไม่มีทางสู้ แล้วยังปิดทุกทางไม่ให้หนีไปไหนได้อีกด้วย ส่วนใหญ่มักใช้กับเหตุการณ์ที่ผู้หญิงมักกลายเป็นเหยื่อของชาวไม่ว่าจะชายหนุ่มหรือไม่ก็ตาม หรือสถานะการณ์ปิดล้อมเพื่อทำร้ายอีกข้างที่ไม่มีอาวุธจะต่อสู้ด้วย
 
 แมวไม่อยู่ หนูเบิกบาน ( When the cat’s away, the mice will play.) ใช้กับเหตุการณ์ที่คนแก่ไม่อยู่ ผู้น้อยทั้งหลายแหล่ก็เก็บความรู้สึกไม่อยู่ หรือใช้เมื่อบอกกับสหายในวง (สุรา) เสวนาต่างๆว่า เมียหรือผัวไม่อยู่ ก็เลยออกมาเริงร่าได้สุดฤทธิ์
 
 ฝนตกลงมาเป็นหมาแมว (Raining cats and dogs) มิได้มีสุนัขหรือแมวตกลงมากมายจากฟ้าจริงๆหรอกนะคะ แม้กระนั้นในอดีตที่สุขอนามัยและการแพทย์ยังไม่เจริญก้าวหน้าเสมือนในขณะนี้นั้น ทำให้เวลาฝนตกหนักๆน้ำชอบท่วมขังด้านในตัวเมือง และมีผลเสียให้น้องหมาน้องแมวที่อาศัยอยู่ตามข้างทางข้างถนนป่วยหนักจนกระทั่งขั้นเสียชีวิตกัยนมากมาย พอน้ำเบาๆลด คนก็ออกมาด้านนอก ก็จะพบกับกองแมวและก็สุนัขเต็มไปหมด เลยนำมาใช้ในความหมายว่า ฝนที่ตกนั้นมากยิ่งสาหัสมากนั่นเอง
 
 ที่เท่าแมวดิ้นตาย
 
 มีที่มาจากนิทานพื้นบ้าน เรื่อง "ศรีธนญชัย" ตอนที่ศรีธนญชัยบอกขอที่ดินจากพระมหากษัตริย์ ขอเพียงแต่ที่เท่าแมวดิ้นตายเพียงแค่นั้น พระมหากษัตริย์มีความคิดเห็นว่าเป็นที่ดินเพียงนิดหน่อย ก็เลยทรงอนุญาต ศรีธนญชัยได้ทีก็เลยเอาแมวตัวหนึ่งมาผูกเชือกที่คอ แล้วเฆี่ยนตีให้แมวดิ้นไปเรื่อยๆกว่าแมวตัวนั้นจะตายก็กินพื้นที่เป็นอาณาเขตกว้าง
 
 จากนิทานเรื่อง ศรีธนญชัย "ที่เท่าแมวดิ้นตาย" จะหมายถึง ที่ดินจำนวนไม่น้อย แม้กระนั้นสำหรับการใช้เป็นสำนวน จะเป็น ที่ดินเพียงเล็กน้อยเพียงแค่นั้น
 
 แมวไม่อยู่ หนูเหลิง
 
 อย่าคิดว่า เขียนไม่ถูก หรือสะกดไม่ถูกนะคะ คำว่า เหลิง เป็นคำเก่าที่หมายความว่า เหลิงกระทั่งลืมตัว ลำพอง หรือลำพอง แต่ในขณะนี้ชอบใช้ "แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง"
 
 สำนวนนี้หมายคือ เวลาที่ผู้ให่ไม่อยู่ผู้น้อยก็เล่นกันคึกคะนอง ฮึกเหิมตน ที่ว่าสำนวนนี้น่าดึงดูดก็เนื่องจาก การเอาธรรมชาติของหนูที่กลัวแมวมาเทียบ โดยเทียบแมวเป็นผู้ใหญ่ เทียบหนูเป็นผู้น้อยนั่นเอง รวมทั้งบางครั้งบางครวสำนวนนี้ก็จะมีคำพ่วงสำนวนด้วย คือ "แมวไม่อยู่ หนูเบิกบาน แมวมาหลังคาเปิง" นั่นเป็นเวลาผู้ใหญ่ไม่อยู่ ผู้น้อยก็เล่นกันอย่างบ้าดีเดือด สนุก พอคนแก่กลับมาก็ลนลาน รีบกวาดข้าวของและสถานที่ให้อยู่ในภาวะปกติ เสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
 
 ฝากเนื้อไว้กับเสือ ฝากปลาย่างไว้กับแมว
 
 มีที่มาจากบทเสภาหลวงเรื่อง "ขุนช้าง-ขุนแผน" ตอนที่ขุนแผนทิ้งนางวันทองไว้กับขุนช้าง แล้วขุนแผนก็มีความรู้สึกว่า "พวกเราฝากวันทองคำไว้กับขุนช้างเหมือนฝากปลาย่างไว้กับแมว" เนื่องจากว่าขุนช้างก็รักนางวันทองคำเช่นเดียวกัน ดังฉันท์จากบทเสภาหลวงเรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ดังนี้
 
 เนื้อตกถึงเสือหรือจะงดเว้น อร่อยรสค่อยรับประทานเป็นภักษา
 ทิ้งเอาไว้ให้มันสองเวลา เจ้าแก้วตานี้จะเป็นอย่างใด
 
 สำนวนนี้อาจใช้ว่า "ฝากอ้อยไว้กับช้าง ฝากปลาย่างไว้กับแมว" ก็ได้ทั้งสองประเภท เพราะเหตุว่าทั้งสองแบบสื่อความหมายเช่นกันคือ ฝากสิ่งใดไว้กับคนที่ถูกใจสิ่งนั้น ย่อมสูญเสียให้กับผู้นั้นไป
 
 หุงข้าวแดกดันสุนัข ปิ้งปลาประชดประชันแมว
 
 มีความหมายว่า แนวทางการทำประชดประชันหรือกระทบกระแทกที่ผู้ที่ทำรังแต่ว่าจะเสียคุณประโยชน์ เป็นต้นว่า คุณยกสมบัติให้เขาไปอย่างนี้ เหมือนหุงข้าวประชดประชันสุนัข ปิ้งปลาแดกดันแมว เขายิ่งชอบใจ เอาไปถลุงใช้เพลินไปเลย ฯลฯ
 
 สำนวนนี้มีที่มาจากข้อเท็จจริงที่ว่า โดยธรรมดา สุนัขถูกใจข้าว และแมวก็ชอบรับประทานปลา ด้วยเหตุดังกล่าว เมื่อหุงข้าวหรือปิ้งปลาให้ ทั้งสุนัขรวมทั้งแมวก็รับประทานเสียเพลิน มีความสุข แต่ว่าคนหุงคนปิ้งกลับเสียของเอง เปรียบเสมือนพวกเราโกรธคนไหนแล้วให้ในสิ่งที่ผู้นั้นขอเพื่อเป็นการแดกดันเหน็บแนม ก็เท่ากับเข้าทางเขา รวมทั้งคนที่เสียผลดีก็คือตัวเราเอง เนื่องจากว่าไหนจะไม่หายโกรธแล้ว ยังจะต้องเสียของไปอีก
 
 เรียกว่าเป็นการประชดประชันถากถางอย่างไม่ถูกทาง และก็ทำให้เสียหายมากขึ้น ตัวอย่างเช่นฉันท์จากสุภาษิตบทประพันธ์ของสำนวน "หุงข้าวประชดประชันสุนัข ปิ้งปลาแดกดันแมว" ดังนี้
 
 ประชดหมายศาลร้อง เห็นใจ
 ก็เลยทุ่มเทกลับไป เฉกเสแสร้ง
 เขารอคอยรับเร็วไว ทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง เสนอที่นา
 กำเนิดก่อประโยชน์แล้ง ต่างล้วนคือสูญ
 
 ย้อมแมวขาย
 
 เป็นสำนวนที่เราชอบได้ยินกันเป็นประจำในกลุ่มของนักธุรกิจผู้ซื้อขาย ในอดีตกาลคนมักนิยมเลี้ยงแมวไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาหงอย และก็เพื่อนพ้องก็มักอยากให้เพื่อนฝูงดูดี งดงาม คนสมัยก่อนจึงใช้ขมิ้นบ้าง ปูนบ้าง มาย้อมสีขนของแมวให้มีชีวิตชีวาที่ผ่องใสงามเป็นที่สะดุดตา จึงเป็นที่มาของสำนวน
 
 บางหนังสือเรียนก็ว่าสำนวนนี้มีที่มาจากบรรดาแมวมงคลทั้งหลาย ซึ่งนิยมเลี้ยงในหมู่เจ้าขุนมูลนาย หากประชาชนนำแมวลักษณะดีถูกตามตำรามาขายก็จะตีราคาให้งาม ก็เลยเกิดการ "ย้อมแมว" คือจับเอาแมวทั่วไปมาแต้มแต่งให้มองมีลักษณะเสมือนแมวมงคล แล้วจากนั้นจึงค่อยนำไปหลอกขาย สำนวนย้อมแมวขายในปัจจุบันมักจะใช้เพื่อการทำธุรกิจการค้าเป้าหมายกำไร หลอกขายสินค้าที่ด้านนอกดูดี แต่แท้ที่จริงแล้วด้อยคุณภาพ
 
 บางเวลาบางทีอาจใช้สำหรับในการกล่าวประชดประชัน เสียดสีสาวงามที่เข้าแข่งขันตามเวทีต่างๆที่มักถูกปรับโฉมให้สวยสดงดงามหลอกสายตาคณะกรรมการ ตรงตามความหมายของสำนวนเป็น ตกแต่งสิ่งที่ไม่ดี ไม่สวยงาม โดยมีเจตนาให้คนอื่นมั่นใจว่าเป็นของดี
 
 สำนวนทั้งปวงนี้ล้วนแล้วแต่มีที่มาแล้วก็ความหมายแฝงอยู่ แต่ละสำนวนเมื่อฟังแล้วอาจจะให้ความรู้สึกไม่ดี บางทีก็อาจจะฟังแล้วคิดไปในทางที่ลบ บางสำนวนบางทีอาจใจดำกับแมว หรือเห็นว่าแมวเป็นสัตว์ที่ไม่น่าไว้วางใจ อาจเป็นเพราะเนื่องจากสุภาษิตสำนวนกลุ่มนี้มีมาแต่โบราณ โดยสำนวนเป็นสิ่งที่สามารถสะท้อนให้มองเห็นถึงสังคมแล้วก็วัฒนธรรม ซึ่งยุคสมัยนั้นความเกี่ยวเนื่องระหว่างคนกับแมวบางทีอาจยังมีระยะห่างระหว่างกัน

คลินิกรักษาสัตว์ คนรักงหมา แมว กระต่าย กระรอกให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง ตอบได้ทุกคำถาม
 เปิดบริการทุกวัน 10.00 น. - 21.00 น.


ขอบคุณบทความจาก : [url=http://www.vetpattanakarn20.com/][url]http://www.vetpattanakarn20.com/[/url]

Tags :  สัตวแพทย์ พัฒนาการ, หมอสัตว์, หมอสัตว์ พัฒนาการ