Advertisement
ร้านจำหน่ายสายกีต้าร์ เคลือบโปร่ง D'Addario EXP จัดส่งฟรี ติดต่อเลย
สายกีต้าร์ Elixir, Nanoweb, Coated, 80/20 Bronze, เบอร์ 12-53
• เป็นยี่ห้อเดียวที่มีการ Coating ครอบคลุมทั้งผิวภายนอก และ บริเวณช่องว่างระหว่างขดลวด
• ลดเสียงนิ้วรูดสาย เหมาะกับการบันทึกเสียง
• ตัวสายมีความนุ่มลื่นมือ เพิ่มความสามารถในการเล่น
• อายุการใช้งานสูงกว่าสายกีต้าร์ปกติ 3-5 เท่า ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา
การตั้งสายกีตาร์ให้ได้มาตรฐานนั้นทำเป็นหลายแนวทาง
เครื่องตั้งเสียง อิเลคโทนิค (Electronic Tuning)
การตั้งเสียงด้วยวัสดุชนิดนี้ จะอาศัยตาดูมากยิ่งกว่าหูฟัง โดยการดีดสายแต่ละสายรวมทั้งสังเกตุดูจากเครื่องตั้งสายซึ่งจะแสดงด้วยเข็มหรือไฟที่จอ
หลอดเปรียบเทียบเสียง(Tuning Pipe)
อุปกรณ์ในการตั้งสายกีตาร์อีก ก็คือหลอดเทียบเสียง ใช้เป่าเพื่อเทียบเคียงเสียง ประกอบด้วยหลอด
เทียบเคียงเสียง 6 หลอดร่วมกัน โดยแต่ละหลอดจะหรูหราเสียง E - A -D - G - B และ E ที่พวกเราจะต้องตั้งสายกีตาร์ให้
ตรงกับเสียงเหล่านี้ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยการฟังที่ดีแล้วก็เผชิญการเป็นหลัก ลักษณะของหลอดเทียบเสียงมีอยู่หลายประเภท
ตัวอย่างเช่น
ส้อมเสียง(Tuning Fork)
เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการเทียบเคียงเสียงกีตาร์ แม้กระนั้นอุปมือณืประเภทนี้ใช้เทียบได้เพียงแต่เสียงเดียว
ซึ่งเสียงที่ใช้สำหรับการเทียบเคียงเสียงนี้มักจะเป็นเสียงโน้ตตัว ลา (A) ที่อยู่บนช่องที่ห้า ของสายกีตาร์สายอันดับแรก(สายข้างล่างสุด)
แล้วจำต้องใช้สายกีตาร์ที่เทียบได้นั้นเป็นหลัก เพื่อใช้สำหรับในการเทียบเคียงสายกีตาร์สายอื่นๆต่อไป วิธีการแบบนี้จะยากกว่าวิธีอื่น
การเทียบเคียงเสียงกีตาร์กับเครื่องดนตรีประเภทคีย์บอร์ด
กดลงบนคีย์บอร์ดดังต่อไปนี้แล้วตั้งสายกีตาร์สายเปล่าให้หรูหราเสียงที่เท่ากับคีย์บอร์ดนั้นๆแม้กระนั้นมีข้อต่อรองว่าอุปกรณ์สำหรับเล่นดนตรีคีย์บอร์ดควรจะมีเสียงที่มาตรฐานด้วย
การตั้งสายกีตาร์ ด้วยการเปรียบเทียบสายในแต่ละสายของกีตาร์
เมื่อได้เสียงสายหนึ่งที่ได้มาตรฐาน(เสียง มี หรือ E) แล้วถัดไปจะกระทำการเทียบเคียงเสียงสายกีตาร์สายต่างๆด้วยแนวทางต่อแต่นี้ไป
- ดีดสายหนึ่งสายเปล่าที่ได้ระดับเสียง มี (E) 329.6 Hz
ที่มาตรฐานแล้วกดสายที่สองช่องที่ห้าพยายามปรับเสียงให้มีระดับเสียง
เท่ากับสายไม่สายที่หนึ่ง เมื่อหรูหราเสียงที่เสมอกันแล้วหลังจากนั้นก็จะได้เสียงของสายสองที่มาตรฐาน
สายสองสายไม่จะ มีระดับเสียง ที (B) 246.92 Hz
- ดีดสายที่สองสายไม่ที่ได้ระดับเสียง หน (B) ที่มาตรฐานแล้วกดสายลำดับที่สามช่องลำดับที่สี่ พากเพียรปรับเสียงให้มีระดับเสียง
เท่ากับสายไม่สายลำดับที่สาม เมื่อมีระดับเสียงที่เท่ากันแล้วก็จะได้เสียงของสายสามที่มาตรฐาน
สายสามสายเปล่าจะ หรูหราเสียง โซ (G) 196.0 Hz
- ดีดสายสามสายไม่ที่ได้ระดับเสียง โซ (G) ที่มาตรฐานแล้วกดสายที่สี่ช่องที่ ห้า อุตสาหะปรับเสียงให้มีระดับเสียง
เท่ากับสายไม่สายลำดับที่สาม เมื่อมีระดับเสียงที่เสมอกันและจะได้เสียงของสายสี่ที่มาตรฐาน
สายสี่สายเปล่าจะ หรูหราเสียง เร (D) 146.8 Hz
- ดีดสายสี่สายเปล่าที่ได้ระดับเสียง เร (D) ที่มาตรฐานแล้ว กดสายที่ห้าช่องที่ ห้า พากเพียรปรับเสียงให้หรูหราเสียง
เท่ากับสายเปล่าสายที่สี่ เมื่อมีระดับเสียงที่เท่ากันแล้วก็จะได้เสียงของสายห้าที่มาตรฐาน
สายห้าสายเปล่าจะ หรูหราเสียง ลาี (A) 110 Hz
- ดีดสายห้าสายไม่ที่ได้ระดับเสียง ลา (A) ที่มาตรฐานแล้ว กดสายที่หกช่องที่ ห้า บากบั่นปรับเสียงให้หรูหราเสียง
พอๆกับสายเปล่าสายที่ห้า เมื่อมีระดับเสียงที่เท่ากันและก็จะได้เสียงของสายหกที่มาตรฐาน
สายหกสายเปล่าจะ มีระดับเสียง มี (E) 83.4 Hz
การตั้งสายกีตาร์.
* สายที่ 1 จะต้องมีระดับเสียง E หรือเสียง มี (สูง)
* สายที่ 2 จะต้องมีระดับเสียง B หรือเสียง ที
* สายที่ 3 จะต้องมีระดับเสียง G หรือเสียง โซล
* สายที่ 4 จะต้องมีระดับเสียง D หรือเสียง เร
* สายที่ 5 ต้องมีระดับเสียง A หรือเสียง ลา
* สายที่ 6 ควรจะมีระดับเสียง E หรือเสียง มี (ต่ำ)
แนวทางการตั้งสาย กีต้าร์ การตั้งสายกีต้าร์ สามารถทำเป็นโดยเริ่มตั้งสายกีต้าร์จากสายล่างสุดก่อน สายล่างสุดจะเป็น key E แม้มีเครื่องตั้งสายกีต้าร์ ก็สามารถเทียบกับเครื่องสายได้เลย แต่สำหรับเพื่อนๆที่ไม่มี เครื่องตั้งสายให้ยึดเอาเส้นด้านล่างสุดเป็นหลักก่อน แล้วกระทำตามกรรมวิธีตั้งสายกีต้าร์ ดังนี้
การตั้งสายกีต้าร์ สายที่ 1 เทียบเคียง 2
ให้ทำการกดสายที่ 2 เฟรตที่ 5 แล้วดีดสาย 2 กับ 1 พร้อม
ทดลองฟังดูว่าเสียงที่เกิดขึ้นจาก 2 สายนี้เป็นเสียงเดียวกันหรือไม่
ถ้าหากเป็นเสียงตรงกันไม่กำเนิดเสียงวน ก็มีความหมายว่าตั้งสายกีต้าร์ 2 สายนี้ตรงแล้ว
การตั้งสายกีต้าร์ สายที่ 2 เปรียบเทียบ 3
ให้ทำกดสายที่ 3 เฟรตที่ 4 แล้วดีดสาย 3 กับ 2 พร้อม
ลองฟังมองว่าเสียงที่เกิดจาก 2 สายนี้เป็นเสียงเดียวกันหรือไม่
แม้เป็นเสียงตรงกันไม่เกิดเสียงวน ก็หมายความว่าตั้งสายกีต้าร์ 2 สายนี้ตรงแล้ว
การตั้งสายกีต้าร์ สายที่ 3 เทียบเคียง 4
ให้กระทำกดสายที่ 4 เฟรตที่ 5 แล้วดีดสาย 4 กับ 3 พร้อมกัน
ลองฟังมองว่าเสียงที่เกิดจาก 2 สายนี้เป็นเสียงเดียวกันหรือเปล่า
ถ้าเป็นเสียงตรงกันไม่กำเนิดเสียงวน ก็หมายความว่าตั้ง
สายกีต้าร์ 2 สายนี้ตรงแล้ว
การตั้งสายกีต้าร์ สายที่ 4 เปรียบเทียบ 5
ให้ทำกดสายที่ 5 เฟรตที่ 5 แล้วดีดสาย 5 กับ 4 พร้อม
ลองฟังดูว่าเสียงที่เกิดขึ้นมาจาก 2 สายนี้เป็นเสียงเดียวกันไหม
ถ้าเป็นเสียงตรงกันไม่กำเนิดเสียงวน ก็มีความหมายว่าตั้งสายกีต้าร์ 2 สายนี้ตรงแล้ว
การตั้งสายกีต้าร์ สายที่ 5 เปรียบเทียบ 6
ให้กระทำกดสายที่ 6 เฟรตที่ 5 แล้วดีดสาย 6 กับ 5 พร้อมกัน
ลองฟังมองว่าเสียงที่เกิดจาก 2 สายนี้เป็นเสียงเดียวกันหรือไม่
หากเป็นเสียงตรงกันไม่เกิดเสียงวน ก็หมายความว่าตั้งสายกีต้าร์ 2 สายนี้ตรงแล้ว
ประเภทของสายกีตาร์ ส่วนใหญ่ก็แบ่งได้สองจำพวก ก็คือสายเหล็ก กับสายเอ็น (nylon)
สายกีตาร์เหล็ก เป็นการจับคู่กันของ ลวดเหล็กเรียบ แล้วก็ลวดเหล็กที่มีลวดพันรอบ สายที่เรียบชอบเรียกว่า Plain (อาทิเช่นสาย 1,2 ของกีตาร์โปร่ง) สายที่มีลวดพันรอบ เรียกว่า wound (อย่างเช่นสาย 4-6) สายที่เป็น Plain นั้น ผู้สร้างบางรายก็ฉาบด้วยดีบุก เพื่อป้องกันสนิม ผู้ผลิตดังเช่น มาร์ติน (ซีปรี่ย์ sp)daddario (ซีรี่ exp) ฉาบสายด้วย ทองสัมฤทธิ์
ลวดที่เป็นศูนย์กลางของสายจำพวก wound นั้น มีทั้งยังลวดกลม รวมทั้งลวดทรงหกเหลี่ยม แกนลวดทรงกลมนั้น จะก่อให้ลวดที่พันรอบ สามารถพันสัมผัสกับผิวได้แน่นที่สุด แต่ว่าปัญหาก็คือ ด้วยเหตุว่าความกลมนั้นทำให้ลวดที่พันรอบ สามารถเลื่อนจากตำแหน่งที่พันได้ ถ้าเกิดประสิทธิภาพการผลิตไม่ดีเพียงพอ จึงเป็นต้นเหตุของลวดศูนย์กลางทรง 6 เหลี่ยม เหลี่ยมที่เกิดขึ้น จะเป็นตัวช่วยยึดให้ลวดที่พันรอบ สามารถเกาะกับแกนกลางได้แน่น ผู้สร้างอย่าง DR ยังคงทำสายกีตาร์โปร่ง ที่ใช้ลวดศูนย์กลางทรงกลม ในเวลาที่ผู้สร้างรายอื่นๆอย่าง dadGHSDeanMarkleyPyramid ก็ใช้ลวดทรง 6 เหลี่ยมทั้งนั้น
บริษัท โทมาสติค ของออสเตรีย ใช้ลวดแกนกลางเป็นลวดหลายเส้นถักเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นวิธีการของการสร้างสายไวโอลิน (โทมาสติค มีชื่อเรื่องสายเครื่องสายเชื้อสายวิโอล) สายของโทมาสติคนั้นยืดหยุ่นคล้ายสายเอ็น แต่ว่ายังมีเสียงที่ชัดแบบสายเหล็ก โลหะที่ใช้เป็นส่วนประกอบของสายกีตาร์นั้น ก็มีหลายประเภท ขึ้นกับประสิทธิภาพเสียงของโลหะนั้นได้แก่ นิเกิลชุบเงินทับทองบรอนซ์ทองคำ
สาย Bronze หรือ 80/20
80/20 เป็นอัตราส่วนผสมของโลหะ ทองแดง 80 % ดีบุก 20 % สีที่ได้เป็นสีทอง เสียงที่ได้แหบท ชัด และใส ส่วนชนิด 85/15 ก็จะให้เสียงที่อุ่นขึ้นจาก 80/20 รวมทั้งสีของลวดก็จะเข้มขึ้น
สายชนิด 80/20 เป็นสายที่ติดมากับกีตาร์จากโรงงานโดยส่วนใหญ่
สาย Brass
ส่วนผสมของสายประเภทนี้ เริ่มจาก ทองแดง 80 % รวมทั้ง สังกะสี 20 % จนกระทั่งไปถึง 60/40 ขึ้นอยู่กับผู้สร้าง สายชนิดนี้ เสียงจะแหลมใสกรุ๊ขี้ตระหนี่ริ๊งที่สุด ผู้สร้างหลายรายชอบเรียกสายประเภทนี้ว่า Bright bronze
สาย Phosphor bronze
ส่วนผสมของสายจำพวกนี้เป็น copper alloy 90 % และก็ ดีบุก 10 % และก็เพิ่ม Phosphor ลงไปด้วยในระหว่างขั้นตอนการผลิต ซึ่งไปเพิ่มความแข็งแรงของสาย และ การต้านสนิม เสียงของสายชนิดนี้ จะนวลกว่าสายจำพวก 80/20 และก็แก่เป็นเวลายาวนานกว่าบางส่วน สีของสายก็จะเข้มกว่า
สาย Nickel
สายประเภทนี้ เป็นการฉาบสายด้วย nickel ซึ่งแกนของสายจะเป็นสายเหล็ก ซึ่งรั้งนำได้โดยสนามไฟฟ้า จึงใช้กับกีตาร์ไฟฟ้า หรือกีตาร์โปร่งที่ติด pu แบบกีตาร์กระแสไฟฟ้า เสียงที่ได้จะทึบกว่าสายกีตาร์โปร่ง สายจำพวกนี้ มีทั้งเส้นเล็กๆกระทั่งไปถึงเส้นขนาดใหญ่ (ยกตัวอย่างเช่นสายกีตาร์แจส) บริษัท DR ทำสายกีตาร์ประเภทนี้โดยใช้ชื่อการค้าว่า Zebras โดยใช้การผสมผสานระหว่าง nickel กับ phosphor bronze ได้ผลสำเร็จทำให้ เสียงที่ได้เด่นชัดแบบสายกีตาร์โปร่ง และยังคงใช้กับกีตาร์ไฟฟ้าได้
สาย Flatwounds
ใช้ลวดทรงแบนพันรอบสาย เพื่อลดเสียงนิ้วที่รูดสายไปๆมาๆ รวมไปถึงให้เสียงที่ทีบกว่าสายปกติ ใช้กับพวกกีตาร์ jazz ทรง acrhtop หรือในเรื่องที่อยากเสียงแบบนุ่มนวล
สาย Half-rounds
สายที่พันรอบ เป็นทรงแบบบริเวณผิวสัมผัส แม้กระนั้นรอบๆที่สัมผัสแกนใน เป็นทรงกลม
เสียงอยู่ระหว่างสาย Flat กับ round ใช้ในสตูดิโอ ที่อยากได้ลดเสียงรูดนิ้ว แต่ยังคงให้เสียงที่ใสแบบกีตาร์โปร่งอยู่บ้าง
สาย Coated
ใช้เคมีภัณฑ์บางประเภทฉาบร่องของลวดที่พันรอบแกนกลางสายเหล็ก ยกตัวอย่างเช่น Kaman (บริษัทผลิตกีตาร์โอเวชั่น) ใช้ teflon แต่ว่าในสมัยแรกๆที่ใช้ ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ให้ teflon ติดกับร่องสายได้อย่างคงทน
Elixir เป็นบริษัทแรกที่ริเริ่มการเคลือบสายกีต้าร์ขึ้นมาบนโลกนี้ โดย Elixir ได้ทดลองเคลือบสารหลายอย่างลงบนสายกีต้าร์ ใช้สารพัดวิธีเท่าที่จะจินตนาการได้ จนในที่สุดก็ได้ชุดสายกีต้าร์ที่เคลือบด้วยวัสดุสีขาวประเภทเทฟล่อน ซึ่งเป็นชุดที่ดีที่สุดจากห้องทดลอง
การ Coating แบบ Elixir ช่วยยืดอายุการใช้งานของสายกีต้าร์ได้อย่างไร ?
Elixir ได้อธิบายจากภาพขยายของสายกีต้าร์ว่า ในระหว่างที่เราเล่นกีต้าร์ คราบเหงื่อไคล และ สิ่งสกปรกต่างๆ จะจับตัวรวมกันเข้าไปติดอยู่ในบริเวณช่องว่างระหว่างขดลวดของสายกีต้าร์ พอนานวันเข้าก็กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเสื่อมของสายกีต้าร์
รูปด้านซ้าย : คือภาพขยายของสายธรรมดาที่ไม่ได้ผ่านการเคลือบ เห็นได้ว่ามีสิ่งสกปรกเข้าไปฝังตัวเกาะติดอยู่ในช่องว่างระหว่างขดลวด เป็นสาเหตุที่ทำให้สายหมดอายุอย่างรวดเร็ว
Review สาย Elixir จากเจ้าของร้าน
เรื่องโทนเสียง : สาย Elixir แทบทุกรุ่นจะมี Character เสียงที่ค่อนข้างใสจัดจ้าน ยกเว้นแค่ Polyweb รุ่นเดียวที่มีเสียงค่อนข้างหนา เพราะเคลือบหนากว่ารุ่นอื่นครับ
การเลือกซื้อกีตาร์ กีตาร์ที่วางขายมีมากไม่น้อยเลยทีเดียวหลายแบบรวมทั้งระดับราคาต่างๆกัน ผมอยากจะพูดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการซื้อกีตาร์เป็นซื้อตัวที่คุณถูกใจที่สุดในด้านของรูปร่างทรง และก็เสียงของมันซึ่งถ้าคุณเลือกกีตาร์ที่คุณชอบจริงๆมันจะมีผลให้คุณรักมันและก็สุขสบายที่จะฝึกฝนมากยิ่งกว่าการที่ซื้อตามราษฎรเขาโดยไม่สนใจว่ามันจะเหมาะสมกับคุณไหม ส่วนหลักใหญ่ๆสำหรับในการเลือกซื้อกีตาร์ก็ได้แก่
- เลือกดูรุ่นที่คุณพอใจที่สุดบางทีอาจจะเป็นกีตาร์คลาสสิกที่เป็นสายไนล่อนสำหรับคนที่อยากเล่นกีตาร์คลาสสิก(ซึ่งควรจะไปเรียนกับสถานที่เรียนจะดีมากกว่าฝึกหัดเอง) หรือกีตาร์โฟล์คสำหรับเล่นเพลงทั่วไป ซึ่งยังมีขนาดแล้วก็ทรงต่างๆให้เลือกแล้วต่อจากนั้นก็เลยดูรายละเอียดโดยรวม เช่น ลักษณะธรรมดาดังเช่นว่ามีรอยบุ๋ม สีถลอก หรือรอยแตกหักต่างๆบนตัวกีตาร์หรือไม่ ความเรียบร้อยของกระบวนการทำสี รอยต่อต่างๆต้องไม่มีรอยปริแตก ดูที่ลายไม้ยิ่งลายไม้ขนานกันมาก แล้วก็มีลายถี่มากๆจะมีความแข็งแรง ควรจะหลีกเลี่ยงประเภทที่มีตาไม้
มองว่าคอกีตาร์ตรงหรือไม่บางทีอาจพิจารณาง่ายๆโดยกดสายกีตาร์ที่ช่อง 1 และอีกมือกดที่ช่อง 19 ของสายเดียวกันแล้วสังเกตว่าระยะห่างระหว่างสายกีตาร์กับเฟร็ตทุกเฟร็ตต้องเท่ากัน นอกนั้นก็มองที่เฟร็ตว่าประกอบเรียบร้อยหรือเปล่าบิดเบี้ยวมั๊ย บนฟิงเกอร์กระดานมีรอยแตกมั๊ย รวมทั้งระยะจากนัทไปยังเฟร็ต 12 กับระยะจากเฟร็ต 12 ไปถึงสะพานสายจะต้องมีระยะเสมอกัน ถ้าเกิดดูภาดตัดขวางคอกีตาร์จะมีทั้งแบบราบเรียบและแบบที่โค้งนิดหน่อยให้รับกับนิ้วมือก็ลองดูว่าคุณชอบแบบไหน
ทดลองหมุนลูกบิดมองว่าลื่นมั๊ยล็อคสายอยู่มั๊ยมีรอยเปื้อนสนิม หรือร่องรอยถลอกปอกเปิกหรือไม่ มีการคดมั๊ย เช็คดูอีกทั้ง 6 ตัว
วิเคราะห์ที่นัทรวมทั้งบริดจ์ ว่าบริบูรณ์หรือไม่รอยต่อสนิทมั๊ย และก็ตัวพินยึดสายกีตาร์จำต้องอยู่ในภาวะบริบูรณ์
- โอกาสนี้ก็ลองกดสายกีตาร์ดูว่ากดยากมั้ยสูงต่ำไปมั๊ย เป็นระยะแอ็คชั่นคือระยะระหว่างสายกับฟิงเกอร์บอร์ดควรสูงประมาณ 2 มม.ที่ช่องที่ 1 บนฟิงเกอร์กระดาน
ลองดีดสายมองว่าเสียงเป็นที่น่าพอใจคุณมั๊ย มีเสียงประหลาดแทรกระหว่างดีดมั๊ย เช็คเสียงฮาโมนิคว่าบริบูรณ์มั๊ยคือเสียงจำต้องปิ๊งและไม่มีเสียงประหลาดแทรกสอดมาโดยการดีดสายไม่แล้วก็ใช้นิ้วมือแตะเบาๆเหนือเฟร็ตที่ 12 ของสายเดียวกันแล้วดีดดูจะได้เสียงที่เป็นเสียงเดียวกันกับที่ดีดสายเปล่าแต่ว่าระดับเสียงจะสูงขึ้นมากยิ่งกว่า ลองเช็คทุกๆสาย
ถ้าเกิดเป็นกีตาร์โปร่งไฟฟ้า คุณจะต้องทดสอบระบบของมันเพราะว่าเวิคมั๊ยลองเสียบแอมป์เล่นจริงๆลองปรับปุ่มคอนโทรลต่างๆรวมทั้งพินิจเสียงที่ได้เมื่อต่อเข้าแอมแปร์ว่าผิดเพี้ยนไปมั้ย
ถ้าเป็นกีตาร์ไฟฟ้าหลักโดยรวมก็เช่นเดียวกับข้างบน แต่ว่าสิ่งที่จำต้องเช็คอื่นๆได้แก่ระบบคันบังคับสมบูรณ์ไหมทดลองใช้งานดู จุดที่ขันน๊อต สกรูจำต้องแน่น ทดสอบต่อกับแอมแปร์และก็ทดลองเล่นมองลองเปลี่ยนไปใช้ปิคอัฟแต่ละตัวว่าปฏิบัติงานปกติมั๊ย รวมถึงปุ่มคอนโทรลต่างๆ
**** อย่างหนึ่งที่คุณควรจะรู้ไว้คือ
ไม่มีกีตาร์ตัวไหนที่เพอเฟ็ค 100 % สามารถเล่นได้ทุกสไตล์ในโลก กีตาร์ตัวนี้อาจเหมาะกับเพลงนี้ แต่ไม่เหมาะกับอีกเพลงเป็นต้นเช่นเวลาคุณดูคอนเสิร์ทนักดนตรีบางคนหรือบางคณะใช้กีตาร์เปลืองมากเพลงนึงก็ตัวนึงเป็นต้นดังนั้นคุณควรจะรู้ว่าคุณอยากเล่นเพลงแบบไหน หรือชอบเสียงกีตาร์แบบไหนให้เลือกแบบที่คุณชอบก็พอ
เงื่อนไขการจัดส่ง • สั่ง 3 ชุดขึ้นไป ฟรี EMS คละยี่ห้อ คละรุ่นได้
ร้าน
สายกีต้าร
เบอร์โทร 061-387-8980
line [url]http://line.me/ti/p/~sighguitarอีเมล
sighguitar@gmail.comTags : สายเคลือบ, สายกีต้าร์ ยี่ห้อไหนดี, ขายสายกีตาร์