ท้องแตกลายระหว่างตั้งครรภ์ พวกเรามีผลิตภัณฑ์ซึ่งสามารถช่วยปกป้อง และต่อสู้กับครี

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ท้องแตกลายระหว่างตั้งครรภ์ พวกเรามีผลิตภัณฑ์ซึ่งสามารถช่วยปกป้อง และต่อสู้กับครี  (อ่าน 77 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Saichonka
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21399


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ตุลาคม 17, 2017, 03:33:07 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

สำหรับแม่ที่กำลังมีท้อง ที่ไม่ต้องการที่จะอทางแก้ปัญหาท้องลาย หนา ย้อย ของแม่
1.ปัญหาท้องลาย
ธรรมดาแล้วแม่ที่ตั้งครรภ์ทุกคนจะมีลักษณะ ท้องลาย เนื่องจากผิวหนังพุงขยายใหญ่ขึ้น บางบุคคลก็มีมากมาย บางคนก็แค่ซีดๆสีของลายก็จะนานับประการขึ้นอยู่กับสีผิวของแม่ ช่วงที่ท้องจะลายสูงที่สุดเป็นตั้งแต่ 28-32 อาทิตย์ เพราะเหตุว่าเป็นช่วงๆที่ท้องขยายตัวอย่างเร็วด้วยเหตุผลดังกล่าวในช่วงนี้ควรดูแลหน้าท้องให้ดีที่สุด เป็นต้นว่า อย่าให้ท้องขยายเร็วเหลือเกินโดยการกินของกินที่เป็นประโยชน์จริงๆแค่นั้น กินอาหารหรือเครื่องดื่มที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิว เพื่อที่ผิวจะได้ไม่แห้งแล้วก็แตกลายมากเกินความจำเป็น ถ้าอยากทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความสดชื่นสามารถทาได้แต่ว่าไม่ควรทาแป้งทับเพราะจะทำให้ผิวยิ่งแห้ง การทาครีมเพื่อความชุ่มชื่นต่อผิวสามารถช่วยลดอาการท้องลายได้ตั้งแต่เริ่มมีครรภ์จ้ะ
2.ปัญหาท้องหนา
มีต้นเหตุมาจากการสะสมไขมันจากการกินมากจนเกินความจำเป็นตั้งแต่ตอนมีท้อง ม่าม้าโดยมากจะรู้ว่าตัวเองหน้าท้องครึ้มก็ตอนหลังคลอดนั่นแหละจ้ะ ช่วงนี้เราก็ได้รู้กันแล้วว่าปัญหาพุงหนาเกิดตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ ด้วยเหตุนั้นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ควรที่จะทำการเลือกกินอาหารที่มีคุณประโยชน์แค่นั้น แป้งหรือไขมันที่ไม่มีความจำเป็นควรจะเลี่ยง หากรับประทานโปรตีนมากก็จะไปลงลูก แม้กระนั้นหากรับประทานแป้งมากเกินไปอ้วนแม่แน่นอนค่ะ

3.ปัญหาท้องย้อย หย่อนยาน
ปัญหานี้มักกำเนิดกับคุณแม่ข้างหลังคลอด โดยยิ่งไปกว่านั้นคุณแม่ผ่านการตั้งท้องมาแล้วมากกว่า 1 ครั้ง ม่าม้าตั้งท้องทุกคนท้องจะยืดออกไปทั้งยังข้างหน้ารวมทั้งด้านข้างเมื่อออกลูกแล้ว เนื้อและก็ไขมันบริเวณที่เคยยืดออกก็จะหย่อนคล้อยตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงโลก ซึ่งปัญหานี้จะหนักมากสำหรับม่าม้าหลังคลอด ด้วยเหตุนั้นในตอน 3 เดือนแรกข้างหลังคลอดแม่ควรรีบลดความอ้วนให้ได้มากที่สุดเนื่องจากในช่วง 3 เดือนนี้น้ำหนักของแม่จะลดเร็วที่สุด และก็ทางที่ดีคุณแม่ควรให้ลูกดูดนมเสมอๆเนื่องจากว่าไขมันส่วนเปลืองที่อยู่ตรงหน้าท้องหรือหน้าขาม่าม้าจะถูกส่งไปช่วยผลิตน้ำนมแม่ ซึ่งเป็นการเผาผลาญไขมันที่ดีเลิศสำหรับม่าม้าหลังคลอด และก็ควรที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อการสร้างนมแม่เพียงแค่นั้น ลดอาหารที่เป็นไขมันแล้วก็แป้งให้สูงที่สุด การใช้ผ้าพยุงท้องก็ช่วยเรื่องท้องย้อยได้ดี หรือ ควรจะสิทอัพทุกๆวัน วันละ 30 นาที เป็นขั้นต่ำในตอนที่ร่างกายกลับมาแข็งแรงธรรมดาแล้วจ้ะ
ขาย Cocoro Hanako ราคา พิเศษ (Mobile: 094-964-4696)
สินค้าพร้อมส่ง ของแท้ 100% จากศูนย์ Hanako Thailand


 
COCORO COOL ORGANIC Natural Organic Body Oil Serum (100 ml.)
Best for Pregnancy
ออร์แกนิค ออยล์ สูตรเย็นคุ้มครองปกป้องรอยแตกลายขณะตั้งครรภ์ ระหว่าง 1 - 9 เดือน รวมทั้งกระชับทรวงอก เพียงแค่ทา ไม่ต้องนวดยอดนิยม สำหรับ ม่าม้าขณะมีท้อง ไม่แสบร้อนผิว ด้วยสารสกัดออแกนิคจากพืชธรรมชาติ 100% ก็เลยไม่เป็นอันตรายกับลูกน้อย สามารถป้องกันรอยแตกลาย ลดอาการบวมน้ำ ทั้งยังยังสามารถช่วยกระชับทรวงอกที่ ย้วย หย่อนยานคล้อย อย่างเป็นธรรมชาติ
ออยล์เซรั่ม สูตรเย็น ซึมง่าย สูตรพิเศษจากวัวโคโร่ คุ้มครองป้องกันรอยแตกลายระหว่างมีท้อง ช่วยลดอาการคันจากการขยายตัวของผิวอย่างรวดเร็ว
ด้วยสูตรเฉพาะ ซึ่งสามารถลดเลือนรอยแตกลายได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยประสานสารสกัดพิเศษจากใบบัวบกญี่ปุ่น ซือโบะคูซะ ลิขสิทธิ์ของโคโคโร่ จากเกาะฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเพาะเลี้ยงด้วยระบบฟาร์มออร์แกนิค ที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้สารเคมีทุกขั้นตอน ก็เลยทำให้ทุกท่านมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยที่แม่ได้รับรวมถึงความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์ ทั้งยังช่วยเลี้ยงดูหน้าอกของคุณแม่ให้กระชับไม่หย่อนคล้อย จากอกที่ขยายตัวอย่างเร็วเพื่อรองรับการสร้างนมให้ลูกน้อย
สารสกัดใบบัวบกญี่ปุ่น ซือโบะคูซะ สูตรเฉพาะของวัวโคโร่ นั้นมีส่วนช่วยฟื้นฟู collagen รวมทั้ง elastin ใต้ชั้นผิวในระดับเซลล์ ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้น ให้ผิวนุ่มนวลน่าสัมผัสอยู่เป็นประจำ กลิ่นหอมยวนใจเย็นมีชีวิตชีวาจากธรรมชาติให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
"ชี้แนะเป็นพิเศษระหว่างมีครรภ์ 1 - 9 เดือน หรือข้างหลังลดน้ำหนัก"
ความสามารถจะเห็นผลดีเยี่ยมถ้าเกิดใช้ตั้งแต่เริ่มทราบดีว่าท้อง

ด้วยความล้ำหน้าทางวิทยาการซึ่งอยู่ในระหว่างการจดสิทธิบัติ 3 ฉบับ
เหมาะสำหรับ :
- แม่ตั้งแต่เริ่มตั้งท้อง เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นผิว และก็ป้องกันรอยแตกลาย
- คนที่อกหย่อนยานคล้อย ไม่กระชับ ผิวไม่เต่งตึง อยากได้อกที่กระชับเรียบเนียน
- กระชับผิวทั่วร่างกาย ไม่ให้เสียรูปขณะมีท้อง
- ดูแลลำคอ ให้ตึงกระชับ ไม่เหี่ยวย่น
- ผิวเหี่ยวย่นไม่กระชับหลังลดความอ้วนแบบเร่งด่วน หรือมีน้ำหนักตัวขึ้นลงเร็ว
- ผู้ที่อยากได้ให้รูปร่างกระชับ แล้วก็อยากใช้สินค้า ออร์แกนิค
ขนาด 100 ml. (สูตรเย็น)
อายุการใช้งาน 2 ปีนับจากวันผลิต - อายุการใช้งาน 1 ปีนับจากวันที่เปิด
COCORO COOL ORGANIC Registration No.10-1-5716365


นวัตกรรมใหม่ปัจจุบัน สิทธิพิเศษเฉพาะของโควัวโร่ ฮาท้องนาโกะ
ด้วยออร์แกนิคออยล์สีขาวใสสูตรเย็นอ่อนๆที่เราคิดค้นและปรับปรุงขึ้นมาจากสูตร COCORO COOL GEL ที่ได้รับความนิยมแล้วก็ผลลัพธ์สูงสุดโดยเฉพาะ ทำให้มีอณูสารสำคัญต่างๆขนาดเล็กเป็นพิเศษสามารถซึมไปสู่ผิวอย่างลึกล้ำ ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น เรียบเนียน คุ้มครองปกป้องรอยแตกลาย กระชับทรวงอก แล้วก็ลำคอ ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ให้ผิวนุ่มนวลอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสร้างเสริม Collagen และก็ Elastin ใต้ชั้นผิว เสริมสร้างความงดงามให้กับร่างกาย กระชับหุ่นไม่ให้เสียทรง ด้วยการปกป้องคุ้มครองบำรุงผิวพรรณของคุณ กระทั่งคุณอยากเปิดเผยความสวยงามของผิว

ป้องกันรอยแตกลาย อย่างเป็นธรรมชาติ
สารสกัดจากใบบัวบก ช่วยบำรุงผิวจากข้างในสู่ภายนอก เพิ่มประสิทธิภาพปกป้องรอยแตกลาย ลดอาการบวมน้ำ เพิ่มความยื่ดหยุ่นของผิว ช่วยเก็บกักความชื้นไว้ให้ผิวนุ่มนวล มอบผิวเรียบเนียนดุจแพรไหมให้กับผิวพรรณ

กระชับหน้าอก
ขณะมีท้อง อกที่ "ขยาย" เพื่อรองรับการสร้างน้ำนมให้ลูกน้อย มีผลทำให้หย่อนคล้อย หรือแตกลาย ควรจะดูแลทรวงอกของท่านด้วย โคโคโร่ ออร์แกนิค ที่มอบความมีชีวิตชีวา ด้วยกลิ่นหอมเย็นอ่อนๆมอบความสดชื่นให้แก่ผิวได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยกระชับผิวทรวงอก ที่หย่อนคล้อย ให้กระชับอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ท่านสัมผัสความเต่งตึงดังสาวแรกรุ่นอีกรอบ

กระชับลำคอ
คอเป็นส่วนที่เพศหญิงส่วนมากขาดการดูแล ให้ วัวโคโร่ ออร์แกนิค ช่วยเลี้ยงดูคอของคุณให้ยกกระชับ ตึง เรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์อยู่เป็นประจำ

หุ่นไม่เสียรูป
ขณะท้อง รูปร่างจะเปลี่ยนแปลง แล้วก็ขยายจากหลายสาเหตุ และอาการบวมน้ำ ซึ่งทำให้หญิงคนจำนวนไม่น้อย ไม่สามารถที่จะจะกลับมามีรูปร่างที่ได้ส่วนสัดได้อย่างเมื่อก่อน ให้ ออร์แกนิคออยล์ สูตรพิเศษจาก วัววัวโร่ ดูแลให้หุ่นงามกระชับ ไม่เสียรูป ตั้งแต่ขณะมีท้อง เพื่อรูปร่างงามกระชับสมส่วน จากนี้รวมทั้งตลอดกาล
 

หน้าท้องลาย?

แนวทางลดรอยแตกลาย
1.ดูแลตนเองให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการ หันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะเหตุว่าการออกกำลังกายนอกเหนือจากที่จะช่วยทำให้รูปร่างของพวกเราดูดีแล้วก็ผิวมีความยืดหยุ่นแล้ว ยังช่วยทำให้ระดับฮอร์โมนภายในร่างกายเกิดความสมดุลแล้วก็ช่วยลดการเกิดปัญหาผิวแตกลายได้อีกด้วย, รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น วิตามินเอ, แร่สังกะสี (แคร์คอยต, ฟักทอง, ตำลึง, มะละกอ, กวางตุ้ง, ผักบุ้ง), วิตามินซี, วิตามินดี (นม, เนย, ตับ, ปลาแซลมอน), โปรตีน (เนื้อสัตว์ต่างๆ) เป็นต้น แล้วก็บากบั่นควบคุมการรับประทานอาหารให้ได้ ไม่ตามใจปาก แม้กระนั้นถ้าต้องการเห็นผลไว้ขึ้นก็แนะนำให้หาวิตามินเสริมมากินครับ อย่างวิตามินซีวันละ 500-1,000 มก. เพื่อช่วยสร้างเสริมคอลลาเจน, ดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยเพิ่มความชื้นแล้วก็สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว (แต่ว่าสำหรับบางบุคคลที่มีผิวหนังแห้งรวมทั้งฝาผนังชั้นขี้ไคลเสื่อม การดื่มน้ำมากมายๆก็ไม่ได้ช่วยเก็บความเปียกชื้นเอาไว้ได้) รวมทั้งอุตสาหะหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชนิดชารวมทั้งกาแฟ, ไม่อาบน้ำอุ่นและไม่เกาผิวเป็นอันขาด ด้วยเหตุว่าจะก่อให้ผิวแห้งและแตกลายเพิ่มมากขึ้น, พากเพียรเลี่ยงไม่ให้น้ำหนักตัวมากขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยงอย่างวัยรุ่น ผู้ออกแรง รวมทั้งหญิงตั้งท้อง (ยิ่งหญิงที่รู้สึกตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ ก็น่าจะหาครีมทาไว้แต่เนิ่นๆเพราะเหตุว่าถ้าหากรอให้ผิวแตกลายเมื่อไร จะหาครีมมาโบกมากแค่ไหนมันก็ยากที่จะกลับมาดังเดิม) เป็นต้น
2.ทาครีมบำรุงเป็นประจำ เป็นวิธีรักษารอยแตกลายแนวทางแรกๆที่ทุกคนระลึกถึง โดยให้เน้นย้ำการทาครีมบำรุงที่มีความเข้มข้นสูงในรอบๆผิวแตกลายแต่ละวันเสมอๆก่อนนอนแล้วก็ในตอนเวลาเช้า หรือทาทุกคราวหลังอาบน้ำ เพื่อช่วยลดรวมทั้งป้องกันการเกิดรอยแตกลายที่ผิวหนัง และอย่าปล่อยให้รอบๆที่ผิวแตกลายแห้งเด็ดขาด !! มิฉะนั้นมันอาจจะแผ่ขยายกว้างขึ้นมากกว่าเดิมก็ได้ รวมทั้งทุกๆครั้งที่ทาให้พากเพียรทาครีมและก็นวดผิวย้อนรอยขึ้นไปด้วย
3.ครีมลดรอยแตกลาย ถ้าเกิดจะให้ดีขึ้นการหันมาใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับลดรอยแตกของผิวหนังโดยยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่น่าดึงดูด ถึงแม้ว่าการใช้ครีมรักษารอยแตกลายจะไม่ทำให้รอยแตกลายหายไปได้อย่างยั่งยืน แต่มันก็สามารถช่วยคุ้มครองปกป้องและก็ทำให้รอยแตกลายดูจางลงได้อย่างถูกใจ ส่วนผลิตภัณฑ์ตัวไหนจะได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดนั้นจะต้องทดลองถามเภสัชกรประจำร้านขายยาดูได้เลยนะครับ หรือหากไม่แน่ใจจริงๆว่าครีมที่ใช้จะเหมาะกับเราและได้ผลใช่หรือไม่ คุณอาจจะขอความเห็นหมอผิวหนังมองก็ได้ โดยยาที่แพทย์จะจ่ายมามักจะมีส่วนผสมของวิตามินเอเพื่อช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนแล้วก็ความยืดหยุ่นในผิว และก็ครีมที่มีส่วนผสมของกรดกรดผลไม้ (AHA)

4.สูตรน้ำมันจากธรรมชาติ ที่ชี้แนะเป็นอันดับแรกคือ “น้ำมันงา” ให้ท่านใช้น้ำมันงานำมาทาผิวรอบๆที่เป็นรอยแตกบ่อยๆ โดยให้ชโลมทาทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ด้วยเหตุว่าน้ำมันงานั้นมีชื่อเสียงมากมายในด้านการบำรุงผิว ซึ่งสามารถช่วยให้ผิวที่เคยแห้งแข็งกลับมามองผ่องใสผ่องใสได้อีกที หรือหากมีน้ำมันมะกอกก็ให้นำไปอุ่นกระทั่งเกือบจะร้อนแล้วนำมานวดวนรอบๆผิวที่แตกลาย ทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 20 นาที แล้วค่อยล้างออก ส่วนน้ำมันอื่นๆซึ่งสามารถช่วยบำรุงรักษาผิวให้ชุ่มชื้นแล้วก็คุ้มครองปกป้องผิวแตกลายได้ก็มีอีกหลายอย่าง เช่น น้ำมันที่สกัดจากมะพร้าว, น้ำมันละหุ่ง, น้ำมันดอกทานตะวัน, น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากอะโวคาโด, น้ำมันอัลมอนด์, น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ เป็นต้น
สูตรสมุนไพรลดรอยแตกลาย อย่างสูตรแรกที่เสนอแนะก็คือ “ว่านหางจระเข้” ให้ท่านใช้วุ้นสีขาวจากว่านหางจระเข้ที่ล้างยางออกแล้ว นำมาทาบริเวณผิวแตกลายเสมอๆทุกยามเช้าแล้วก็เย็น ซึ่งจะช่วยให้รอยแตกลายนั้นเบาๆดูจางลงได้ ส่วนอีกแนวทางนั้นให้ท่านใช้เฉพาะน้ำเมือกจากใบสดว่านหางจระเข้ 1 ส่วน นำมาผสมกับโลชั่นที่มีไว้สำหรับดูแลผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของพวกเราอีก 5 ส่วน แล้วก็ประยุกต์ใช้ทาผิว โดยผสมพอประมาณในแต่ละครั้ง ถ้าหากจะใช้อีกรอบก็ให้ผสมใหม่ทุกคราว หรือถ้าไม่มีว่านหางจระเข้ พวกเราอาจใช้ใบบัวบกแทนก็ได้ ด้วยการนำมาตำคั้นเอาแต่น้ำ ต่อจากนั้นนำมาทาบริเวณรอยแตกลายบ่อยๆทุกเช้าตรู่รวมทั้งเย็น ผิวที่แตกลายก็จะเบาๆจางลงได้เช่นเดียวกัน ส่วนอีกวิธีนั้นให้ใช้มันฝรั่งสด 1 หัว เอามาปอกออกแล้วบดอย่างละเอียด ใช้ทาบริเวณที่ผิวแตกลาย ทิ้งไว้โดยประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แต่ว่าจะใช้ได้ผลเฉพาะกับผิวที่เริ่มแตกลายเท่านั้น นอกนั้นคุณยังสามารถนำไข่ขาวมามาส์กผิวบริเวณที่เป็นรอยแตกลายได้อีกด้วย
5.การขัดหรือสครับผิว เป็นอีกวิธีหนึ่งซึ่งสามารถช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปและกระตุ้นเซลล์ผิวหนังใหม่ให้ขึ้นมาชดเชยผิวเดิมได้ ในระหว่างอาบน้ำก็ให้ใช้ใยบวบขัดผิวไปด้วย ถ้าจะให้ดีก็ลองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารสกัดมาจากธรรมชาติแล้วก็มีประสิทธิภาพสำหรับในการซึมซาบสู่ผิวได้ดี นำมาใช้ขัดหรือสครับผิวบริเวณที่มีปัญหา โดยเสนอแนะให้ทำเพียง 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์ หรือถ้าจะให้ง่ายยิ่งกว่านั้นก็จะบางทีอาจใช้สูตรสครับผิวทำเองจากธรรมชาติก็ได้ ตัวอย่างเช่น
-สูตรมะนาว หลายๆคนใช้สูตรนี้แล้วสำเร็จ คือการใช้น้ำมะนาวรวมทั้งดินสอพองมาผสมกันแล้วก็ใช้ทาบริเวณผิวแตกลาย ซึ่งน้ำมะนาวจะมีฤทธิ์เป็นกรดแบบธรรมชาติที่ช่วยลดปัญหาผิวแตกลายได้ รวมทั้งยังช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้อาการแตกลายบนผิวจางลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย
-สูตรขมิ้นผสมมะขาม ให้นำขมิ้นแล้วก็มะขามมาผสมกันแล้วก็ใช้ขัดนวดผิว ขมิ้นนั้นมีเคอคูมินที่ทำให้ผิวขาว ส่วนมะขามนั้นมีกรดเอเอชเอที่ช่วยในเรื่องการผลัดเซลล์ผิว
สครับน้ำตาล อีกแนวทางที่ทำเป็นง่ายและสะดวกสุดๆเพียงคุณถือน้ำตาลมาผสมกับน้ำอัลมอนด์รวมทั้งน้ำมะนาว แล้วก็นำส่วนประกอบมาขัดผิวที่แตกลาย ก็จะช่วยไขปัญหาผิวแตกลายได้
6.ยาใช้ภายนอกแก้ผิวแตกลาย ซึ่งเป็นยาทาในกรุ๊ปอนุพันธ์กรดวิตามินเอ ที่ชี้แนะให้ใช้เป็น เรตินเอ (Retin A) ให้เลือกใช้ความเข้มข้น 0.025% หรือ 0.05% (ถ้าเกิดเข้มข้นมากกว่านี้ประเดี๋ยวแสบ) ภายหลังอาบน้ำเสร็จให้ขัดหรือสครับผิวก่อน แล้วเช็ดตัวให้แห้ง คอยให้แห้งสนิทสักราวๆ 10 นาที บีบเรตินเอใส่นิ้วมือแล้วนำมาทาบริเวณผิวที่เป็นรอยแตก แบบไม่ต้องลงครีมบำรุงหรือโลชั่น โดยให้ทำเฉพาะก่อนนอนรวมทั้งทำวันเว้นวัน (สตรีตั้งท้องห้ามใช้เด็ดขาด) ส่วนวันที่ไม่ได้ใช้ก็ให้ทาด้วยครีมบำรุงไปตามปกติ ให้บากบั่นทำดูนะครับสักประมาณ 1 เดือน มั่นใจได้เลยว่าผิวจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่อย่างแน่นอน ถึงแม้ในระยะแรกที่ทามันอาจจะก่อให้เกิดรอยแดงเป็นวง เป็นรอยดำไหม้ หรือบางทีอาจถลอกปอกเปิกไปบ้าง ประเดี๋ยวสักพักมันก็จะเบาๆหายไปเอง
7.การดูแลรักษาด้วยทรีตเมนต์ต่างๆอาทิเช่น การกคอยผิวด้วยเกล็ดเพชรนิลจินดา (Microdermabrasion) เพื่อช่วยให้ผิวมองเรียบเนียนขึ้นโดยการกำจัดเซลล์ชั้นบนออกไป หรือทำผลัดเซลล์ด้วยกรดผลไม้ (Chemical Peel) เพื่อช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป (ได้ผลการรักษาโดยประมาณ 10-20%) รวมถึงการรักษาโดยใช้คลื่นวิทยุเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (ได้ผลการดูแลรักษาประมาณ 20-40%) ฯลฯ (ภาพก่อนและข้างหลังการดูแลรักษาด้วย Microdermabrasion จากข้อมูลมิได้ระบุจำนวนครั้งแล้วก็ช่วงเวลาสำหรับการรักษา)

8.เมโสรักษารอยแตกลาย‎ (Mesotherapy) เป็นวิธีการใช้เข็มส่งตัวยาที่มีคุณลักษณะช่วยกระตุ้นการสมานรอยแตกลายของผิว ก็เลยทำให้รอยแตกลายลดจางลง โดยใช้กรุ๊ปยาหลายๆตัว อาทิเช่น กรดอะมิโนไกลซีน (Glycine), วาลีน (Valine), โปรลีน (Proline), ไฮดรอกซีโปรลีน (Hydroxyproline) แล้วก็สารอาหารผิวอื่นๆโดยปริมาณที่ฉีดก็แล้วแต่รอบๆที่ต้องการไขปัญหา ราคาทำต่อครั้งราว 1,000-2,000 บาท สตรีมีท้องไม่ควรทำ (ภาพก่อนแล้วก็หลังการดูแลและรักษาด้วยวิธีการฉีดเมโส ตามข้อมูลไม่ได้ระบุตัวยาที่ใช้ จำนวนครั้ง แล้วก็ระยะเวลาสำหรับในการรักษา)

9.เดอร์มาโรลเลอร์ (Dermaroller) อีกหนึ่งเครื่องมือทางการแพทย์ที่ถูกนำมาใช้เกลือกในรอบๆผิวที่ต้องการ เพื่อช่วยทำลายพังผืดที่หลุมบนผิวหรือรอยที่เป็นปัญหา ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและก็อีลาสตินใต้ผิวหนัง ก็เลยช่วยรักษารอยแตกลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้เกิดผลกระทบอะไรก็แล้วแต่รวมทั้งโดยมากแล้วจะนำมาใช้พร้อมกันไปกับตัวยาหรือเซรั่มบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิว จึงช่วยให้ตัวยาซึมผ่านผิวหนังก้าวหน้าขึ้น แต่ว่าจะต้องทำบ่อยเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุกๆ2 สัปดาห์ ต่อเนื่องกันราว 5-6 ครั้ง จึงจะเห็นผลความเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น (ภาพก่อนและก็ข้างหลังการดูแลรักษาด้วยเดอร์มาโรลเลอร์ ตามข้อมูลไม่ได้กำหนดปริมาณครั้งรวมทั้งช่วงเวลาที่ใช้รักษา)

10.เลเซอร์รอยแตกลาย การดูแลรักษาผิวแตกลายด้วยเลเซอร์นี้จะเหมาะสมกับสาวๆใจร้อนที่อยากให้ปัญหานี้หายไปอย่างเร็ว มีเลเซอร์แบบช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับสีรอยแตกลายให้ใกล้เคียงกับสีผิวธรรมดา เลเซอร์สร้างผิวใหม่ และเลเซอร์แบบรักษารอยแดงหรือรักษาความผิดปกติของเส้นเลือด ที่ชี้แนะคือ Fraxel Laser (ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะกับรอยแตกลายที่เป็นมานานแล้ว) และก็ V-Beam Laser (ช่วยทำลายเส้นโลหิตในมีรอยแตกแดง เหมาะสมกับรอยแตกลายที่เพิ่งจะเกิดใหม่หรือมีสีชมพู) แม้กระนั้นกระบวนการทำครั้งเดียวจะมองไม่เห็นผลอย่างชัดเจน ต้องทำโดยตลอดราวๆ 3-5 ครั้ง (ห่างกันทีละ 2 สัปดาห์) จนกว่ารอยแตกลายจะเบาๆจางหายไป สามารถรักษาได้รอยแตกลายในช่วงแรกรวมทั้งระยะหลัง จากการเรียนพบว่า การรักษาด้วยแนวทางแบบนี้จะได้ผลราวๆ 40-60% แต่ว่าจะเหมาะสมกับผู้ที่มีงบประมาณทำสวยมากมายหน่อย เนื่องจากว่าราคาแนวทางการทำเลเซอร์ก็ค่อนข้างแพงใช่เล่นเลยล่ะ
11.เลเซอร์ลบรอยแตกลาย
วิธีการทำไอพีแอล (Intensed Pulsed Light – IPL) เป็นวิธีการใช้แสงสว่างความเข้มสูง นำมายิงรอบๆผิวที่เป็นรอยแตก ในขณะยิงจะรู้สึกเจ็บคล้ายกับโดนหนังสะติ๊กดีดผิว แต่วิธีแบบนี้จะได้ประสิทธิภาพที่ดีกับรอยแตกในระยะต้นที่มีสีแดง หากเป็นรอยแตกในระยะหลังๆ(รอยแตกสีขาวซีดเผือด) มักจะไม่เป็นผล แล้วก็จำเป็นต้องทำอย่างน้อย 5 ครั้ง (ห่างกันครั้งละ 2 อาทิตย์) ค่าบริการครั้งละ 1,500-2,500 บาท ซึ่งจากผลการศึกษาวิจัยพบว่า วิธีการแบบนี้สามารถทำให้รอยแตกจางลงได้โดยประมาณ 30-50% โดยขึ้นอยู่กับระยะของรอยแตกที่เป็น (ภาพก่อนแล้วก็ข้างหลังการดูแลรักษาปริมาณ 5 ครั้ง)

12.ฉีดคาร์บ็อกซี่ (Carboxytherapy) เป็นทางแก้รอยแตกลายด้วยการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในรอบๆที่อยากได้ เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวทำให้ผิวตึงกระชับขึ้น รวมทั้งยังช่วยสลายเซลล์ไขมันส่วนเกินในรอบๆที่อยากได้ได้อีกด้วย มันจึงถูกนำมาใช้เพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆของร่างกาย แต่ว่าก็ยังสามารถนำมาใช้รักษาผิวแตกลายได้ด้วย โดยอาศัยแนวทางการฉีดก๊าซที่แตกต่าง ซึ่งจะเป็นการฉีดตื้นๆเข้าไปเพียงแต่ชั้นหนังแท้ตามแนวร่องแตกลายผิวหนัง ไม่ได้ฉีดลึกเข้าไปในชั้นไขมันใต้ผิวเสมือนการฉีดเผาผลาญไขมัน แต่ว่าการดูแลรักษาด้วยแนวทางลักษณะนี้ต้องทำอย่างต่ำ 3-5 ครั้ง ติดต่อกันทุกๆ1 อาทิตย์ ซึ่งวิธีแบบนี้จะใช้ได้ผลราว 30-60% หรือไม่เห็นผลเลย มีค่าบริการทีละ 1,500-2,000 บาท (ภาพก่อนและหลังการรักษาจำนวน 8 ครั้ง รวมช่วงเวลา 5 เดือน)
 
อาการข้างหลังคลอด อย่างงี้จัดว่าไม่ดีเหมือนปกติ จำต้องรีบพบแพทย์ทันที
1. อาการแท้งลูก:
ปกติม่าม้าหลังคลอดจะมี น้ำคร่ำ ไหลออกมาเป็นสีแดงๆประมาณ 2-3 วันหลังหลังจากนั้นจะเป็นสีจางๆออกน้ำตาลๆแม่จำเป็นต้องพิจารณาตัวเองให้ดีว่าเลือดที่ไหลออกมานั้นเป็นอาการตกเลือด หรือเป็นอาการของน้ำคาวปลา หากเป็นอาการแท้งลูกจะมีเลือดไหลตลอดออกมาจำนวนมาก แม่จะมีภาวะซีดเผือด เหน็ดเหนื่อย หรือเป็นลมเป็นแล้ง อาการตกเลือดจะเกิดขึ้นข้างใน 24-48 ชั่วโมง หากมีลักษณะอาการแบบนี้จำต้องรีบพบหมอด่วนค่ะ
2. อาการมดลูกอักเสบ:
ดูได้จากลักษณะของการปวดท้องน้อย แล้วก็การไหลของน้ำคาวปลา ถ้าน้ำคาวปลามีสีแดงสดออกมาเป็นเวลานานหรือมีกลิ่น ให้คิดไว้ก่อนว่าเป็นอาการของ มดลูกอักเสบ จำเป็นต้องรีบพบหมอด้วยเหมือนกันจ้ะ

3. เต้านมอักเสบ:
ถ้าเกิดมีอาการปวดเต้านมอาจจะคิดว่าเป็นอาการเต้านมคัด แม้กระนั้นถ้ามีอาการปวดเต้านม เต้านมบวมแดง และแข็งเป็นก้อนอาจจะเกิดจากอาการเป็นฝี ซึ่งต้นสายปลายเหตุเกิดมาจากการปวดคัดเต้านม และลูกดูดไม่ถูกวิธี เมื่อคัดเต้านมมากๆแล้วก็น้ำนมไม่ไหลจึงก่อให้เกิดเป็นเต้านมอักเสบได้จ้ะ
4. ภาวะกลัดกลุ้มหลังคลอด:
มักจะเจอเมื่อแม่กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านแล้ว ภาวการณ์เซื่องซึมข้างหลังคลอดแม่จะรู้สึก เบื่อลูก ไม่ได้อยากต้องการเลี้ยงลูก ไม่สนใจลูก เบื่อหน่ายกับชีวิต อาการแบบนี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่หลังคลอดนาน 1-2 อาทิตย์ถึงจะมีอาการดียิ่งขึ้นแม้กระนั้นสำหรับแม่บางคนอาจมีอาการกลัดกลุ้มยาวนานกว่านั้นรวมทั้งเป็นหนักกว่านั้น จนจำต้องพบกับคุณหมอด้านจิตหมอค่ะ
5. แผลผ่าคลอดอักเสบ:
แม่บางบุคคลจะต้องผ่าคลอด ถ้าลักษณะแผลมีลักษณะบวมแดง มากขึ้นหรือมีหนองไหลออกมาจะต้องรีบพบหมอในทันทีเช่นเดียวกันค่ะ เพราะเหตุว่าอาจเกิดการติดเชื้อโรคได้จ้ะ
6. มีลักษณะอาการไข้ขึ้นสูงข้างใน 48 ชั่วโมง:
ม่าม้าข้างหลังคลอดที่มีไข้ขึ้นสูงเรื่อยรับประทานยาลดไข้ก็ยังไม่ดีขึ้น จำเป็นต้องรีบเจอแพทย์เช่นเดียวกันค่ะ
อาการสอดแทรกต่างๆของคุณแม่ข้างหลังคลอดที่กล่าวไปบางทีอาจก่อให้เกิดอันตรายจนกระทั่งเสียชีวิตได้ ฉะนั้นแม่ข้างหลังคลอด จะต้องหมั่นสังเกตอาการตัวเองให้ดีนะขา


ขอบคุณบทความจาก : [url]http://www.mamamiothailand.com/[/url]

Tags : Tummy Rub Butter,Tummy Rub Oil,



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ