สัตววัตถุหมีที่พบเจอในประเทศไทย

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุหมีที่พบเจอในประเทศไทย  (อ่าน 48 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
powad1208
Jr. Member
**

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 64


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2017, 03:49:42 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2.png" alt="" border="0" />
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/]หมีที่เจอในประเทศไท[/b]
๑. หมีควาย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Selenarctos  thibetanus (G. Cuvier)
มีชื่อพ้อง Ursus  thibetanus  G. Cuvier
ชื่อสามัญว่า Asiatic black  bear
ขนาดวัดจากปลายจมูกถึงโคนหางยาว ๑.๒๐-๑.๕๐ เมตร หางยาว ๖.๕-๑๐ ซม. น้ำหนักตัว ๖๐-๑๐๐ กิโล หัวออกจะแบน แคบ ปากยาวกว่าหมีหมา ขนรอบจมูก คาง แล้วก็รอบๆเหนือตามีสีขาว ใบหูใหญ่ ขอบกลมมน ตามลำตัวมีขนยาวสีดำ ทรวงอกมีขนสีขาวรูปตัววี  (V)  แต่ละขามี ๕ นิ้ว มีเล็บขนาดใหญ่โค้ง ปลายแหลม   ไม่หดกลับ หมีควายถูกใจออกหากินเพียงลำพังในยามค่ำคืน  นอกจากในช่วงฤดูสืบพันธุ์  ตอนกลางวันมักซ่อนอยู่ในโพรงดิน ตามโคลนรากของต้นไม้ใหญ่หรือตามโพรงหิน ลางครั้งออกมาหาเลี้ยงชีพผลไม้สุกหรือรังผึ้งในเวลากลางวัน ปีนต้นไม้เก่ง เดินด้วยขาอีกทั้ง ๔ ข้าง เมื่อสู้กับศัตรูจะยืนด้วยขาหลังทั้งคู่ขา แล้วใช้ฝ่าตีนของขาหน้าตะปบศัตรู  อาหารที่กินคือผลไม้ [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/06/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87/]น้ำผึ้[/b] [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87/]กวา[/b] เก้ง [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2/]หมูป่ปลา หมีควายโตเต็มวัยพร้อมสืบพันธุ์เมื่ออายุราว ๓ ปี ตั้งครรภ์นาน ๗-๘ เดือน  คลอดลูกทีละ ๑-๒ ตัว ออกลูกในถ้ำ หรือในโพรงไม้   อายุยืนราว ๓๐ ปี เจอในทุกภาคของไทย ในต่างแดนเจอที่กัมพูชา เวียดนาม ปากีสถาน ประเทศอินเดีย เนปาล ประเทศทิเบต เกาหลี  จีน  ประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน
๒. หมีสุนัข
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Helarctos  malayanus  (Raffles)
มีชื่อพ้อง  Ursus  malayanus  Raffles
ชื่อสามัญว่า  Malayan  sun  bear
หมีคน ก็เรียกเป็นหมีประเภทที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ขนาดวัดจากปลายจมูกถึงโคนหางยาว ๑-๑.๔๐ เมตร  หางยาว ๓-๕ ซม. น้ำหนักตัว ๓๐-๔๐กิโลกรัม หัวกลม   ปากสั้น ตามลำตัวมีขนยาวสีดำ ทรวงอกมีขนสีขาวหรือสีขาวอมเหลืองเป็นรูปตัวยู (U) แต่ละขามี ๕ นิ้ว มีเล็บขนาดใหญ่ โค้ง ปลายแหลม ไม่หดกลับ มีเต้านม ๔ เต้าบริเวณอกและหน้าท้อง หมีหมาถูกใจออกหากินเป็นคู่ในเวลากลางคืน   ลางครั้งเจอในกลางวันบ้าง ปีนต้นไม้ได้คล่องแคล่ว สร้างรังนอนโดยดึงกิ่งไม้ เปลือกไม้   มาวางไว้ใต้ท้อง   แล้วปล่อยขาแขวนคร่อมกิ่งไม้ไว้ โดยเอาคางเกยไว้ตรงง่ามไม้   ยืนด้วย ๒ ขาได้ โดยเฉพาะเมื่ออยากมองดูในระยะไกลหรือมองหาศัตรู เวลาเข้ารังแกจะแผดเสียงร้องราวกับสุนัข ของกินที่กินเป็นพวกผลไม้ แมลง ผึ้ง ปลวก ใบไม้ สัตว์ขนาดเล็ก หมีสุนัขโตเต็มวัยพร้อมผสมพันธุ์เมื่ออายุราว ๓-๕ ปี ท้องนานราว ๙๕ วัน ออกลูกครั้งละ ๑-๒ ตัว อายุยืนราว ๒๐ ปี เจอในทุกภาคของไทย  แม้กระนั้นพบได้ทั่วไปมากทางภาคใต้ ในต่างแดนพบที่ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า บังกลาเทศ   จีน   มาเลเชีย แล้วก็อินโดนีเชีย
ดีหมีในยาจีน
ดีหมีเป็นเครื่องยาอย่างหนึ่งที่ใช้ในยาจีน แพงแพงมากมายและหายาก เครื่องยานี้มีชื่อภาษาละตินตามตำรายาว่า Fel  Ursi มีชื่อสามัญว่า bear  gall  จีนเรียก สงต่าน  (สำเนียงแมนดาริน) ได้จากถุงน้ำดีของหมี ๒ ประเภทเป็นหมีควาย Selenarctos  thibetanus (G. Cuvier) และก็หมีสีน้ำตาล หรือ brown bear (Ursus  arctos  Linnaeus) สกุล Ursidae จำพวกข้างหลังไม่พบในธรรมชาติในประเทศไทย ดีหมีที่ได้จากบริเวณยูนนาน ส่วนใหญ่เป็นดีของหมีควาย จัดเป็นดีหมีที่มีคุณภาพดีเยี่ยมที่สุด ในทางการค้าขาย เรียก อวิ๋นต่าน  (ดีจากยูนนาน) แต่ว่าดีหมีที่มีขายในท้องตลาดอยากได้จากหมีที่พบทางภาคอีสานของจีน โดยเฉพาะบริเวณเฮย์หลงเจียงและก็มณฑลจี๋หลิน ส่วนมากได้จากหมีสีน้ำตาล ในทางกิจการค้าเรียก ตงต่าน  (ดีจากภาคตะวันออก) ซึ่งมีจำนวนมากกว่า
ลักษณะของดีหมี
ดีหมีแห้งมีรูปร่างกลม ยาวรูปไข่  ส่วนบนเรียวและกลวง ข้างล่างเป็นถุงใหญ่  ยาว ๑๐-๒๐ เซนติเมตร  กว้าง ๕-๑๐ เซนติเมตร (ข้างล่าง) เปลือกนอกสีน้ำตาลอมเทา สีน้ำตาลอมดำ หรือสีเหลืองอมสีน้ำตาล เป็นเงาน้อย ส่วนบนใส ดูได้เกือบจะทะลุผิวบางและร่น เมื่อฉีกขาดจะมองเห็นเป็นเส้นใย ในถุงน้ำดีมีน้ำดีที่แห้งแล้วเป็นก้อนหรือเป็นเม็ด บางครั้งก็เป็นผุยผงหรือก้อนเหนียวๆสีเหลืองทอง เป็นเงาเงา เปราะ ดีหมีที่มีสีเหลืองทองคล้ายสีอำพัน เนื้อบาง เปราะ เป็นมันเงา มักเรียก ดีหมีสีทองคำ หรือ ดีหมีสีทองแดง ชนิดทีมีสีดำหรือสีเขียวอมดำ แข็ง มีลักษณะเป็นแผ่น มักเรียก ดีหมีสีดำ  หรือ ดีหมีสีเหล็ก ส่วนจำพวกที่มีสีเขียวอมเหลืองเนื้อเปราะ มักเรียก ดีหมีสีกะหล่ำดอกเมื่อเรียกชิม  ดีหมีมีรสขมก่อน ต่อมาจะรู้สึกหวาน กลิ่นหอมเย็นๆหรือ คาวบางส่วน อมในปากจะละลายกระทั่งหมด ดีหมีที่มีคุณภาพดีควรจะมีรสขม  เย็น ไม่ติดฟัน  ก้อนน้ำดีสีเหลืองทองเป็นมันเงา รสขมตอนแรก  แล้วหวานตามหลัง
ของแท้หรือของปลอม
เนื่องมาจากดีหมีเป็นเครื่องยาที่หายาก จึงมีของที่ไม่ใช่ของแท้ขายมากมายในหลายต้นแบบ เป็นต้นว่า ปลอมด้วยดีหมู ดีโค หรือดีแกะ แต่อาจตรวจทานดีหมีแท้ได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
๑. วิธีการตรวจทางกายภาพ บางทีอาจทำได้ด้วยการดูลักษณะทั่วไปข้างนอก รวมถึงผิวและรูปร่าง ตรวจตรารูเปิดของถุงน้ำดีแล้วก็บริเวณที่ผูก มองปริมาณของน้ำดีแห้ง (ถ้ามีมากแล้วก็เต็มบางทีอาจเป็นของปลอม) ตรวจดูน้ำหนักของดี (ถ้าหากมีน้ำหนักมากเกินไป อาจเป็นของคละเคล้าเลียนแบบด้วยโลหะลางดังเช่นตะกั่ว หรือเหล็กผสมทราย) ตรวจด้วยการเอาผงดีหมีเล็กน้อยวางบนนิ้วชี้ หยดน้ำลงไป ๑ หยด แล้วขยี้ด้วยนิ้วโป้งมือ (ถ้าเป็นของแท้จะมีกลิ่นหอมยวนใจเย็น) น้ำดีที่เป็นของแท้จะเปราะ แตกง่าย ได้ผลึกรูปหลายเหลี่ยม   (ถ้าหากเป็นของปลอมจะเหนียวและก็แข็ง ไม่เป็นเงา) อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้ควรต้องอาศัยประสบการณ์รวมทั้งความเชี่ยวชาญมากมาย
๒. แนวทางเผาไฟ เอาเข็มเขี่ยๆผงดีหมีเล็กน้อย   เผาไฟ ถ้าหากเป็นของแท้จะปุดเป็นฟอง  แต่ว่าถ้าเกิดเป็นของเลียนแบบจะติดไฟหรือเยิ้มเหลว หรืออาจมีปุดเป็นฟองแต่มีกลิ่นไม่พึงปรารถนา
๓. แนวทางตรวจด้วยน้ำ เพิ่มน้ำลงในถ้วยน้ำ ขนาดราว ๓ ใน ๔ แก้ว เอาเกล็ดดีหมีเล็กน้อยใส่ลงเบาๆบนผิวน้ำ เกล็ดดีหมีนั้นจะหมุนอย่างรวดเร็วชั่วขณะ ขณะหมุนอยู่ก็จะละลายไปเรื่อยแล้วจมลงในน้ำ ทำให้มองเห็นเป็น “เส้นเหลือง” ลงสู่ตูดแก้ว เส้นเหลืองนี้ดำรงอยู่เป็นเวลานานกว่าจะหายไป แม้ที่ผิวน้ำมีฝุ่นน้อยเมื่อใส่เกล็ดดีหมีลงบนผิวน้ำ   ผงดีหมีจะหมุนอย่างรวดเร็วและก็ผลักฝุ่นละอองที่ผิวน้ำให้กระจายออก นอกจากนี้ วิธีการแบบนี้ยังคงบางทีอาจใช้เหล้าขาวแทนน้ำ จะกำเนิดเส้นเหลืองให้เห็นเหมือนกัน
๔. แนวทางตรวจทางเคมี ทำได้โดยตรวจสาระสำคัญในดีหมีซึ่งไม่พบในดีของสัตว์อื่นหมายถึงกรดเอ้อร์โซเดสออกศซิวัวลิก (ursodesoxycholic acid)  อาทิเช่น ด้วยวิธีรงคเลขผิวบาง  (thin-layered  chromatography) หรือด้วยวิธีรงคเลขของเหลวสมรรถนะสูง  (high  performance  liquid  chromatography  หรือ  HPLC)

[url=http://www.disthai.com/]สรรพคุณรวมทั้งขนาดที่ใช[/size][/b]
แบบเรียนจีนว่า ดีหมีมีรสขม ฤทธิ์เย็น ใช้เป็นยาลดไข้ แก้อาการชัก บำรุงสายตา ใช้เป็นยาเจริญอาหารและยาตอบแทนน้ำดี เป็นยาช่วยผู้ป่วยที่หมดสติเนื่องด้วยไข้สูง ใช้หยอดตา ทาหัวริดสีดวงทวารหนักที่นำไปสู่อาการปวดบวม ใช้รับประทานเป็นยาแก้โรคตับอักเสบ โรคความดันโลหิตสูง โรคบิดเรื้อรัง ใช้ครั้งละ ๐.๖-๑.๕ กรัม   โดยชงน้ำกิน   หรือทำเป็นยาลูกกลอนก็ได้ หรือใช้ละลายน้ำบางส่วนเป็นยาใช้ภายนอก หรือใช้ทำเป็นยาตาก็ได้
ประโยชน์ทางยา
แพทย์แผนไทยใช้ดีหมีเป็นทั้งเครื่องยาแล้วก็กระสายยา แบบเรียนสรรพคุณยาโบราณว่าดีหมีมีรสขม หวาน มีสรรพคุณดับพิษร้อนภายใน แก้พิษบ้าคลั่ง สติลอย ตาเหม่อ บำรุงน้ำดี ขับขี่รถยาให้แล่นทั่วตัว ใช้ดีหมีเป็นยากระจายเลือดลิ่มสำหรับบุคคลที่ซ้ำซอกเนื่องจากตกต้นไม้หรือตกจากที่สูง หรือถูกของแข็งกระแทก ทำให้ฟกช้ำดำเขียว เว้นเสียแต่ดีหมีแล้ว หมอแผนไทยยังรู้จักใช้ “เขี้ยวหมี” เป็นเครื่องยาในตำรับยาหลายขนาน ตัวอย่างเช่น ยาปรับแก้ขนานหนึ่งใน พระคู่มือมหาโชตรัต ดังต่อไปนี้ สิทธิการิยะ ถ้าใครเปนไข้แลให้ร้อนด้านในให้ต้องการน้ำนัก แลตัวคนป่วยนั้นให้กระด้างราวกับขอนไม้แลท่อนฟืน ให้ตัวนั้นเปนเหน็บชาไปทั่วทั้งกายหยิกไม่เจ็บ ท่านว่ากำเนิดรอยแดงข้างในแลให้ปากแห้งคอแห้งฟันแห้งนมท้อแท้ให้เปนต่างๆนั้น   ท่านว่ารอยแดงผุดออกยังไม่สิ้นยังอยู่ในหัวใจนั้น   ถ้าหากจะแก้ให้เอารากกะตังบาย ๑   จันทน์ทั้งยัง ๒   สนเทศ ๑   ท้อถอยม ๑   เพ่งดูนาศ ๑   รากแตงรุนแรง ๑   รากหมูปล่อย ๑   หัวมหากาฬ ๑   หัวกะเช้าผีมด ๑   รากไคร้เครือ ๑   ใบระงับ ๑   ใบภิมเสน ๑   ใบเฉียงมีดพร้าหอม ๑   ใบทองพันชั่ง ๑   [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99/]เขากวา[/color] ๑   งาช้าง ๑   เขี้ยวเสือ ๑   เขี้ยวหมี ๑   เขี้ยวไอ้เข้ ๑   เขี้ยวหมูป่า ๑   เขี้ยวแรด ๑   กรามพญางู ๑   เขี้ยวปลาพยูน ๑   เกสรดอกบัวน้ำทั้งยัง ๗   [url=http://www.disthai.com/16484914/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%81]ผลสมอพิเภ[/color] ๑   เทียนดำ ๑   ใบสเดา ๑   เปลือกไข่เป็ดสด ๑   [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C/]ผลจันทน[/b] ๑   [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C/]ดอกจันทน[/color] ๑   [url=http://www.disthai.com/16488236/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2]สมอไท[/b] ๑   รากมะรุมบ้าน ๑   รวมยาดังนี้เอาเสมอภาค   ทำผง   แล้วจึงบดปั้นแท่งไว้   ฝนด้วยน้ำดอกไม้   ทั้งรับประทานทั้งพ่น   แก้สรรพไข้ทุกอันดังกล่าวข้างต้นมานั้น   หายแล อนึ่ง “เขี้ยวหมี”   เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่งในพิกัดยาไทยที่เรียก “นวเขี้ยว”   หรือ “[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/06/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%A7/]เนาวเขี้ย[/b]”   ตัวอย่างเช่น   เขี้ยวหมูป่า   เขี้ยวหมี   เขี้ยวเสือ   เขี้ยวแรด   เขี้ยวหมาป่า   เขี้ยวปลาพะยูน   เขี้ยวตะไข้  เขี้ยวแกงเลียงผา   และก็งา



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ