สัตวแพทย์รักษาหมาแมว ด่วนรีบด่วน ขูดหินปูน ผ่าตัดเนื้องอก เปิดคลินิคที่ถ.สุขุมวิ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัตวแพทย์รักษาหมาแมว ด่วนรีบด่วน ขูดหินปูน ผ่าตัดเนื้องอก เปิดคลินิคที่ถ.สุขุมวิ  (อ่าน 46 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jirasak2708
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22854


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2017, 01:06:55 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

สัตวแพทย์รักษาหมาแมว ด่วนฉุกเฉิน ขูดหินปูน มดลูกอักเสบ เปิดคลินิคที่ซ.พัฒนาการ 20 ทะลุกันได้ ติดห้าง Maxvalue
คลินิกของเรรักษาสัตว์[/url] อยู่ตรง ซ.พัฒนาการ 30 ทะลุกันได้ ติดห้าง Maxvalue
ระวังโรคติดน้องหมา
1 โรคฉี่หนู
 
 โรคเลปโตสไปโลซีส (Leptospirosis) หรือที่เรียกกันชินปากว่า "โรคฉี่หนู" ซึ่งเป็นชื่อโรคที่หลายท่านคุ้นหูกันดี เนื่องจากว่าถึงหน้าฝนทีไร ก็จะมีการรณรงค์ให้ระวังติดเชื้อโรคนี้ เพราะว่าเชื้อมักอยู่ตามแหล่งน้ำท่วมขัง ตามดินรวมทั้งโคลนตม ฯลฯ ยิ่งฤดูฝนแบบงี้ ถ้าหากเราปล่อยน้องสุนัขไปเดินพบพื้นดินที่เลอะเทอะ หรือลงเล่นตามแหล่งน้ำท่วมขัง หากมีเชื้อแปดเปื้อนอยู่ ก็มีโอกาสไปรับเชื้อมาได้ โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายน้องหมาทางรอยแผลที่ผิวหนัง เยื่อเมือกที่ตา จมูก รวมทั้งปาก ยิ่งน้องหมาตัวไหนซุกชนถูกใจแอบไปเล่นซากหนู ก็จะได้โอกาสรับเชื้อมาได้โดยตรงเลย เพราะเหตุว่าหนูเป็นสัตว์รังโรค (reservoir host) สำคัญ ซึ่งสามารถเก็บกักเชื้อเอาไว้ภายในท่อไตได้ช้านาน
 
 
 สำหรับลักษณะการป่วยก็สังกัดระดับการโต้ตอบของระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย บางตัวบางทีอาจป่วยร้ายแรงจนกระทั่งขั้นไตวายกระทันหันและเสียชีวิตได้ บางตัวก็บางทีอาจไม่ออกอาการเจ็บไข้ให้มองเห็น เพราะมีภูมิคุ้มกันในร่ายกายที่ดี โดยเชื้อจะเข้าไปตามกระแสเลือด ไปทำลายเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด ไต ตับ ม้าม ระบบขยายพันธุ์ ระบบประสาทส่วนกลาง และที่ตาได้ด้วย น้องสุนัขที่ป่วยจะออกอาการ ตัวอย่างเช่น ซึม อ่อนแรง เบื่อข้าว ท้องเดิน อ้วก ดื่มน้ำมากมาย ฉี่มากมายหรืออาจฉี่น้อย ไปจนถึงไม่มีฉี่เลย บางตัวก็แสดงอาการร่างกายขาดน้ำ เป็นไข้สูง เกิดภาวะดีซ่าน (ตัวเหลือง) ตาแดง (เจอการอักเสบในส่วนยูเวียของตาและก็เยื่อบุตา) บางทีอาจเจ็บรอบๆท้อง ปวดกล้าม หากน้องหมากำลังท้องอยู่ก้จะแท้งลูกได้

 สำหรับเชื้อก่อโรคนี้ ก็เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า เลปโตสไปล่า (Leptospira spp.) เป็นแบคทีเรียรูปเกลียว (spirochetes) เขยื้อนได้ (motile) รวมทั้งมีส่วนปลายเป็นตาขอ มีทั้งกรุ๊ปที่ก่อโรคและไม่ก่อโรค ตัวเชื้อที่ก่อโรคแล้วก็เป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุข กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการระบาดติดต่อทั้งในคนและก็ในสัตว์ทั่วทั้งโลก อย่างเช่น Leptospira interrogans ซึ่งยังแบ่งย่อยออกไปได้อีกมากกว่า 250 serovars โดยแต่ละ serovars จะมีการปรับพฤติกรรมให้เข้ากับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแต่ละชนิด รวมทั้งมีกระจายไปในภูมิภาคต่างๆของโลก ทำให้วัคซีนที่ฉีดนั้นควรมี serovar ของเชื้อที่ตรงกับ serovar ที่พบบ่อยในท้องถิ่นนั้นๆด้วย ก็เลยจะสามารถคุ้มครองโรคฉี่หนูได้ครับผม

 
2 โรคพยาธิในเม็ดเลือด
 
 
 โรคนี้หลายๆคนคงจะรู้จักกันดี รวมทั้งเชื่อว่าเพื่อนฝูงๆหลายท่านคงเคยมีน้องหมาของตัวเอง มีอาการป่วยเป็นโรคนี้กันมาบ้างแล้ว ไปสู่ฤดูฝนที่ไรก็จะมีปัญหาเรื่อง "เห็บ" มาให้กวนประสาท นอกจากจะมาแย่งรับประทานเลือดในตัวน้องสุนัขแล้ว ทำให้น้องสุนัขเกิดภาวะโลหิตจางได้แล้ว ยังเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาแพร่ได้อีก เห็บสามารถนำเชื้อโปรโตซัวและก็ริคเก็ตเซีย เป็นต้นว่า บาบิเซีย (Babesia sp.) เฮปขว้างโตซูน (Hepatozoon sp.) เออร์ลิเชีย (Ehrlichia sp.) อะที่นาพลาสมา (Anaplasma sp.) แล้วก็บาร์โทเนลล่า (Bartonella sp.) หรือพวกเชื้อแบคทีเรีย Spirochete ที่ชื่อ Borrelia burgdorferi เป็นต้นเหตุการป่วยเป็น "โรคลายม์ (Lyme Disease)" ได้ด้วย โดยตัวเห็บก็มีหลายชนิด แต่ละจำพวกก็เป็นพาหะนำน่าไว้วางใจต่างกันไป
 
 
 สำหรับโรคพยาธิในเม็ดเลือด เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการติดเชื้อสิงมีชีวิตเซลล์เดียวที่เข้าไปแอบแฝงอยู่ในเม็ดเลือดขาวหรือเม็ดเลือดแดง รวมทั้งตามอวัยวะต่างๆดังเช่นว่า ต่อมน้ำเหลือง ตับ ม้าม รวมทั้งไขกระดูก สามารถเจอสุนัขป่วยไข้ได้ตลอดทั้งปี กำเนิดได้กับสุนัขทุกตัว โดยเฉพาะหมาที่ขาดการป้องกับเห็บให้อย่างสม่ำเสมอสม่ำเสมอ อาการที่เจอก็คือ หมาที่เจ็บป่วยจะซึม เบื่อข้าว เยื่อเมือกซีดเซียว มีไข้สูง น้ำหนักลด เลือดกำเดาไหล เป็นอัมพาตขาหลัง เจอจุดเลือดออกตามผิวหนังหรือเยื่อบุต่างๆพวกเราสามารถทราบได้จากการวิเคราะห์เลือด ถ้าหากเป็นจำต้องรักษาด้วยการใช้การฉีดยา หรือกินยาสม่ำเสมอเป็นเดือนตราบจนกระทั่งจะหายนะครับ

3 โรคพยาธิหนอนหัวใจ
 
 
 โรคพยาธิหนอนหัวใจ เป็นโรคที่มีคนไม่ใช่น้อยงงงวยกับโรคพยาธิในเม็ดเลือด บางบุคคลมีความคิดว่าเป็นโรคเดียวกัน ซึ่งความเป็นจริงแล้วสองโรคนี้ต่างกันมาก โรคพยาธิหนอนหัวใจจะมี "ยุง" เป็นพาหะ นำตัวอ่อนระยะที่ 3 (ระยะติดต่อ) มาสู่น้องสุนัขต่อจากนั้นก็จะลอยละล่องไปตามกระแสโลหิต กระทั่งพัฒนากระเป๋านตัวสมบูรณ์เต็มวัยที่หัวหัวใจของสุนัข ซึ่งตัวสมบูรณ์เต็มวัยสามารถอาศัยอยู่ในหัวใจสุนัขได้นานถึง 5-7 ปีอย่างยิ่งจริงๆ และก็ตัวสมบูรณ์เต็มวัยก็มิได้อาศัยอยู่เฉยๆครับ ยังสามารถปล่อยตัวอ่อนออกสู่กระแสโลหิตได้นานเป็นเวลา 3-6 ปี ถ้าเกิดมียุงมากัดหมาที่เจ็บป่วย ก็จะรับเชื่อจากกระแสโลหิตไปแจกจ่ายน้องสุนัขตัวอื่นๆได้อีกนับไม่ถ้วนเลย
 
 
 ก็อย่างที่ทราบนะครับว่า ฤดูฝนเป็นหน้าที่ยุงชุกชุมเป็นพิเศษ ด้วยเหตุว่ามีแหล่งน้ำขังให้ยุงมาตกไข่เพาะพันธุ์ น้องหมาที่เลี้ยงอยู่นอกตัวบ้าน ที่มิได้รับยาคุ้มครองพยาธิหนอนหัวใจบ่อยๆ จึงเสี่ยงที่จะรับเชื้อและก่อโรคได้ง่าย ถ้าหากมียุงที่มีเชื้ออยู่มากัด ซึ่งเมื่อเป็นแล้วน้องหมาก็จะมีลักษณะอาการหอบ เหนื่อยง่าย หายใจติดขัด ไอเรื้องรัง ท้องมาน ไม่อยากอาหาร หากเป็นรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ การดูแลรักษาก็สังกัดระยะการตำหนิดเชื้อ และภาวะของสุนัขด้วยขอรับ มีหลายวิธีด้วยกัน ให้ยาฆ่าพยาธิตัวเต็มวัยแบบอย่างฉีด หรือให้ยากำจัดพยาธิตัวอ่อนเพื่อลดจำนวนไมโครฟิลาเรียในกระแสโลหิต ซึ่งอาจต้องใช้ช่วงเวลารักษาเป็นระยะเวลานาน

4 โรคผิวหนังอักเสบติดเชื้อ
 
 
 หน้าฝนเป็นหน้าที่มีความเฉอะแฉะ ซึงความเปียกแฉะนี่เอง เป็นสาเหตุทำให้น้องสุนัขป่วยด้วยโรคผิวหนังได้ โรคผิวหนังที่เกิดขึ้นจากความชื้นส่วนใหญ่จะมีเชื้อก่อโรคสำคัญตัวอย่างเช่น เชื้อแบคทีเรียและก็เชื้อรา น้องหมาที่พักผ่อนนอกบ้าน เล่นน้ำฝน นอนบนพื้นหรืออุปกรณ์ปูรองที่เปียกแฉะ ก็จะได้โอกาสป่วยเป็นโรคผิวหนังอย่างนี้ได้ ซึ่งจะก่อให้สุนัขมีลักษณะอาการคัน ผื่นแดง มีเม็ดตุ่มแดง มีตุ่มหนอง ขนตก และมีกลิ่นตัวได้ ซึ่งการรักษาก็จำเป็นต้องใช้ระยะเวลานานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน มียารับประทาน ยาใช้ภายนอก รวมทั้งยาสระผมทำลายเชื้อ ที่สำคัญเราจำต้องดูและรักษาความสะอาดให้ดีๆ เนื่องจากอาจกลับมาเป็นอีกได้ภายหลังรักษาหายไปแล้ว

5 โรคระบบฟุตบาทหายใจ
 
 
 หน้าฝนเป็นช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนค่อนข้างจะหลายครั้ง ความชุ่มชื้นทำให้เชื้อโรคบางสิ่งเจริญเติบโตได้ดีหรือแพร่ไปติดต่อกันได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น โรคสำคัญๆทางระบบฟุตบาทหายใจที่พบมากในน้องหมาก็ดังเช่นว่า โรคไข้หวัด หรือ โรคหลอดลมอักเสบติดต่อในสุนัข พบมากในลูกหมา สุนัขสูงอายุ และก็หมาที่มีปัญหาภูมิต้านทานบกพร่อง ต้นเหตุเกิดขึ้นจากการตำหนิดเชื้อ เชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย ถ้าหากติดด้วยกัน จะเรียกว่า "Super infection"
 
 น้องสุนัขที่เป็นจะแสดงอาการไอแบบมีเสลด แล้วทำท่าขากๆเสมือนมีอะไรติดคอ บางรายอาจมีขี้หูขี้ตา ตาอักเสบ มีน้ำมูกใสๆไปจนกระทั่งมีน้ำมูกข้นสีเขียว เพราะมีการติดโรคแบคทีเรียเข้าแทรก ส่วนมากน้องหมาจะยังแก่นแก้ว เบิกบานดี กินอาหารได้นะครับ แม้กระนั้นบางรายที่มีลักษณะร้ายแรงอาจมีไข้ ซึม ไม่อยากอาหาร ปอดอักเสบ หายใจลำบาก จนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยก็มี

 โรคนี้ติดต่อกันง่ายสุดๆ จากการไอหรือจามของสัตว์ป่วยไปสู่ทางเท้าหายใจโดยตรง หรือแปดเปื้อนมากับภาชนะและมือของคนที่ไปสัมผัสกับน้องสุนัขที่เจ็บไข้ก็ได้แล้ว ถ้าเกิดสุขภาพดีดีก็บางทีอาจไม่แสดงอาการ แต่บางรายกำเนิดความเครียด เพราะว่าไม่ได้ออกไปไหนต้องอยู่แต่ในบ้าน หรือถูกเลี้ยงในที่มีหมาหลายตัวร่วมกัน ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการระบาดของโรคในกรุ๊ปหมาดังที่กล่าวถึงมาแล้วได้
 
 
 สำหรับเพื่อการรักษา ถ้าหากมีอาการไม่ร้ายแรง จำนวนมากจะสามารถหายได้เองข้างใน 7-10 วัน เดี๋ยวนี้จำต้องให้น้องสุนัขได้พักเต็มที่ ให้อาหารและก็น้ำอย่างพอเพียง เพื่อคุ้มครองป้องกันภาวะขาดน้ำ ควรจะให้น้องสุนัขอยู่ในที่ที่อบอุ่น ไม่นอนบนพื้นที่เย็นชื้น ไม่เปิดพัดลมโกรกหรือนอนตากเครื่องปรับอากาศ บางทีอาจหาเสื้อมาสวมให้ก็ได้ ถ้าเกิดมีเสมหะมากผู้ครอบครองบางทีอาจช่วยน้องสุนัขทำ "ตบอก (Coupage)" โดยการทำฝ่ามือโค้งเป็นรูปถ้วย ตบลงรอบๆซี่โครงช่วงอกด้วยแรงที่พอเหมาะ ไล่จากส่วนท้ายไปต้น คล้ายการตีกลองด้วยมือ เพื่อให้น้องหมาได้ไอแล้วขับเสมหะออกมา ควรจะทำวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 5-10 นาที หรือบางทีก็อาจจะพาเดินเล่นเพื่อกระตุ้นให้ไอก็ได้นะครับ หากมีลักษณะอาการเยอะขึ้นเรื่อยๆแพทย์บางทีอาจจะฉีดยา บิดายา รวมทั้งให้ยามาป้อนต่อทีบ้านนะครับ
 
   
โรคที่คุณอาจจะได้รับจากสุนัข
1. ปรสิต (Parasites)
โรคที่เกิดขึ้นและมีสาเหตุมาจากพยาธิในกระเพาะหรือลำไส้ ตัวอย่างเช่น พยาธิปากขอและพยาธิตัวกลม ซึ่งอาจจะติดจากการที่คุณได้รับไข่ของพยาธิเข้าไปภายในร่างกายหรือเกิดขึ้นจากการสัมผัสกับไข่หรือตัวอ่อนของพยาธิที่อยู่ในดิน ดังนี้อาจจะมีการเกิดจากการที่คุณทำสวน ทำความสะอาดรั้ว หรือเดินบนดินบนทรายด้วยเท้าเปล่า ด้วยเหตุผลต่างๆเหล่านี้ ทำให้เด็กๆตกอยู่ในความเสี่ยง จำเป็นต้องแน่ใจว่าเด็กๆล้างมือทุกครั้งภายหลังที่สัมผัสกับสัตว์เลี้ยง
2. โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies)
ทุกคนน่าจะรู้จักโรคนี้กันดีอยู่แล้ว มีต้นเหตุจากการที่หมาได้รับเชื้อแล้วส่งผ่านโรคมาทางทะเลลาย อาทิเช่น กัด หรือน้ำลายสุนัขผ่านไปสู่ร่างกายคน ทั้งยังสุนัขแล้วก็แมวสามารถเป็นโรคนี้ได้
3. เลปโตสไปโรซิส (Leptospirosis)
เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ติดเข้าสู่ร่างกายคนโดยการสัมผัสกับฉี่ของสัตว์เลี้ยงหรือนำสิ่งที่สัมผัสกับปัสสาวะของสัตว์เลี้ยงไปสู่ปาก
4. โรคกลาก (Ringworm)
เป็นโรคที่จะก่อให้เกิดจุดแดงๆรอบๆผิวหนังของคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบๆหนังหัว ตามเนื้อเรียกตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณข้อพับ ที่เท้ารวมทั้งเล็บ
ในฐานะเจ้าของสัตว์เลี้ยง คุณจำต้องรู้จักสัตว์เลี้ยงของตนเป็นอย่างดี และก็ต้องระมัดระวังในการกระทำต่างๆอีกทั้งของตนและก็สัตว์เลี้ยง จำต้องมั่นใจว่าสุนัขของคุณมีการตรวจร่างกายที่บ่อยและได้รับวัคซีนครบตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
สัตว์ดูเหมือนจะทุกชนิดสามารถเป็นพาหะแพร่กระจายโรคสู่มนุษย์ได้ แม้กระนั้นสัตว์ที่มีโอกาสเสี่ยงสูงเกินไปกว่าก็คือ สัตว์เลี้ยงที่อยู่นอกบ้าน สัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้รับวัคซีน สัตว์เลี้ยงที่มิได้รับการรักษาความสะอาด เพื่อป้องกันภัยคุณและสมาชิกใ
 
เบอร์โทรติดต่อ 087-220-5414 (24 Hrs)
ไลน์ :solar147
สถานพยาบาลไม่มีปิด เปิดตลอด 1 วันฉุกเฉิน แต่ว่าเวลาทำงานปกติประจำวันตั้งแต่ 10.00 น. - 21.00 น.

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : [url]http://www.vetpattanakarn20.com/[/url]

Tags :  สัตวแพทย์, รักษาสัตว์ พัฒนาการ, หมอสัตว์ พัฒนาการ



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ