Advertisement
พญาอีแร้[/b]
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sarcogyps calvus (Scopoli) จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับอีแร้งเป็นตระกูล Accipitridaeมีชื่อสามัญว่า red-headded vulture หรือ king vultureอีแร้งเจ้าพระยา หรือ นกแร้งหัวแดง (ลาว) ก็เรียก นกประเภทนี้เป็นนกขนาดใหญ่ ขนาดวัดจากปลายปากถึงปลายหางยาวราว ๘๔ เซนติเมตร ขนทั่วตัวสีดำ หัว คอ และแข็งเป็นเนื้อสีแดง มีขนอุยสีน้ำตาลออกขาว มีแถบสีขาวตรงส่วนบนของอกรวมทั้งที่ต้นขาทั้งสอง เมื่ออายุยังน้อยขนทั่วตัวมีสีน้ำตาล ใต้ท้องสีอ่อนกว่า และก็มีลักษณะเป็นลายเกร็ด ส่วนบนมีขนสีขาวทั่วไป
พญานกแร้งไม่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงเหมือนอีแร้งธรรมดา พบได้มากอยู่สันโดษหรืออยู่เป็นคู่ รวมทั้งลวกินซากสัตว์ร่วมกับอีแร้งอื่นๆมั่นใจว่านกจำพวกนี้เป็น “เจ้าแห่งอีแร้ง” จำเป็นต้องลงกินซากสัตว์ก่อนจำพวกอื่นๆและก็เลือกรับประทานเฉพาะส่วนที่มีรสชาติยอดเยี่ยม จึงเรียก“พญาแร้ง” ชอบอาศัยอยู่ตามชายป่าและทุ่งข้าว มีเขตการกระจายประเภทกว้างมากมาย ตั้งแต่จีน ประเทศอินเดีย ลงมาด้านใต้จนถึงคาบสมุทรมลายู ในอดีตกาลเคยพบมากอยู่ทั่วๆไปในประเทศไทย มักทำรังอยู่บนต้นไม้สูง ตามป่าเขาและก็ทุ่งข้าว นากจากนั้น ในประเทศไทยยังเจออีแร้งดำหิมาลัย (cinereous vulture) อันมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aegypius monachus (Linnaeus) เป็นนกที่ย้ายถิ่นเข้ามายังประเทศไทยในตอนนอกฤดูผสมพันธุ์ หรืออาจเป็นนกที่หลงเข้ามา แม้กระนั้นเป็นนกหายากรวมทั้งมีจำนวนน้อยมาก
คุณประโยชน์ทางยาแพทย์แผนไทยตามต่างจังหวัดใช้หัวอีแร้งเผา ผสมเป็นยาแก้ไข้รอยแดง ไข้พิษ กระดูกอีแร้งเผาไฟเป็นเครื่องยาอย่างหนึ่งใน “ยามมหานิลแท่งทองคำ” (มอง คู่มือเภสัชกรรมแผนไทย เล่ม ๔ เครื่องยาธาตุวัตถุ) แก่ไข้พิษ ไข้กาฬ ส่วนหางอีแร้งรวมทั้งหางอีกาเผาไฟ แบบเรียนโบราณมีรสเย็น เบื่อ บดผสมกวาวเครือแก้ซางชัก และใช้รมปีศาจแม่ซื้อที่รบกวนเด็กที่เป็นลมเป็นแล้งซางประเภทนี้ ถ้าแก้เลือดเป็นพิษให้เข้า “ดีอีแร้ง” เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ยาแก้เลือดทำพิษ เอาดีอีแร้ง เจาะไนดี แล้วเอาพริกไทยตำยัด ใส่ให้เต็ม ตากให้แห้ง ถ้าเกิดจะแก้เลือดทำพิษ ให้ฝนกับสุรารับประทานหายวิเศษฯ พระคู่มือปฐมจินดาร์ให้ยาหลายขนานที่เข้า “กระดูกอีแร้ง” เป็นเครื่องยาด้วย มีอยู่ขนานหนึ่งเข้า “ศีร์ษะอีแร้ง” เป็นยากวาดซางแดงดังต่อไปนี้
[url=http://www.disthai.com/][url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร[/url] ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาศีร์ษะ
งูเห่า ๑ ศีร์ษะแร้ง ๑
ศีร์ษะกา ๑
หอยสังข์ ๑ รากดิน ๑
ดอกบุนนา[/b] ๑ ดินถนำ ๑ บอแร็ก ๑ น้ำหมึกหอม ๑ นอแรด ๑
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%80/]เขากุ[/b] ๑ มูลหมูหยาบคาย ๑
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B2/]กฤษณา ๑ กะลำภัก ๑ ผลจันทร์ ๑ ดอกจันทร์ ๑ เขี้ยวเสือ ๑ เขี้ยวจระเข้ ๑ เขี้ยวแรด ๑ เขี้ยวหมู ๑ กรามแรด ๑ กรามช้าง ๑ รวมยา ๒๒ สิ่งนี้ เอาเท่าเทียม ทำเปณจุณ บดปั้นแท่งไว้ละลายน้ำมะนาว ปัดกวาดได้สารพัดสารพันทรางทั้งมวลหายยอดเยี่ยมนัก