สัตววัตถุหมีที่พบเจอในประเทศไทย

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุหมีที่พบเจอในประเทศไทย  (อ่าน 21 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
teeratum123
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20032


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2017, 08:45:01 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[b]สมุนไพร[/b][/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2.png" alt="" border="0" />
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/]หมีที่พบในประเทศไท[/b]
๑. หมีควาย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Selenarctos  thibetanus (G. Cuvier)
มีชื่อพ้อง Ursus  thibetanus  G. Cuvier
ชื่อสามัญว่า Asiatic black  bear
ขนาดวัดจากปลายจมูกถึงโคนหางยาว ๑.๒๐-๑.๕๐ เมตร หางยาว ๖.๕-๑๐ ซม. น้ำหนักตัว ๖๐-๑๐๐ โล หัวออกจะแบน แคบ ปากยาวกว่าหมีสุนัข ขนรอบจมูก คาง รวมทั้งรอบๆเหนือตามีสีขาว ใบหูใหญ่ ขอบกลมมน ตามลำตัวมีขนยาวสีดำ หน้าอกมีขนสีขาวรูปตัววี  (V)  แต่ละขามี ๕ นิ้ว มีเล็บขนาดใหญ่โค้ง ปลายแหลม   ไม่หดกลับ หมีควายถูกใจออกหากินเพียงลำพังในกลางคืน  เว้นเสียแต่ในฤดูสืบพันธุ์  ช่วงกลางวันมักซ่อนอยู่ในโพรงดิน ตามโคลนรากของต้นไม้ใหญ่หรือตามโพรงหิน ลางครั้งออกมาหาเลี้ยงชีพผลไม้สุกหรือรวงผึ้งในตอนกลางวัน ปีนต้นไม้เก่ง เดินด้วยขาทั้ง ๔ ข้าง เมื่อสู้กับศัตรูจะยืนด้วยขาข้างหลังทั้งคู่ขา แล้วใช้ฝ่าตีนของขาหน้าตะปบศัตรู  อาหารที่กินเป็นผลไม้ [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/06/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87/]น้ำผึ้[/b] [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87/]กวา[/b] เก้ง [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2/]หมูป่ปลา หมีควายโตเต็มวัยพร้อมสืบพันธุ์เมื่ออายุราว ๓ ปี มีท้องนาน ๗-๘ เดือน  ออกลูกทีละ ๑-๒ ตัว ออกลูกในถ้ำ หรือในโพรงไม้   อายุยืนราว ๓๐ ปี เจอในทุกภาคของไทย ในต่างชาติเจอที่เขมร เวียดนาม ประเทศปากีสถาน อินเดีย เนปาล ทิเบต ประเทศเกาหลี  จีน  ประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน
๒. หมีสุนัข
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Helarctos  malayanus  (Raffles)
มีชื่อพ้อง  Ursus  malayanus  Raffles
ชื่อสามัญว่า  Malayan  sun  bear
หมีคน ก็เรียกเป็นหมีประเภทที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ขนาดวัดจากปลายจมูกถึงโคนหางยาว ๑-๑.๔๐ เมตร  หางยาว ๓-๕ เซนติเมตร น้ำหนักตัว ๓๐-๔๐กิโลกรัม หัวกลม   ปากสั้น ตามลำตัวมีขนยาวสีดำ อกมีขนสีขาวหรือสีขาวอมเหลืองเป็นรูปตัวยู (U) แต่ละขามี ๕ นิ้ว มีเล็บขนาดใหญ่ โค้ง ปลายแหลม ไม่หดกลับ มีเต้านม ๔ เต้ารอบๆทรวงอกและก็หน้าท้อง หมีหมาชอบออกหากินเป็นคู่ในยามค่ำคืน   ลางครั้งเจอในตอนกลางวันบ้าง ขึ้นต้นไม้ได้คล่องแคล่ว สร้างรังนอนโดยดึงกิ่งไม้ เปลือกไม้   มาวางไว้ใต้ท้อง   แล้วปลดปล่อยขาห้อยคร่อมกิ่งไม้ไว้ โดยการเอาคางเกยไว้ตรงง่ามไม้   ยืนด้วย ๒ ขาได้ โดยเฉพาะเมื่ออยากมองดูในระยะไกลหรือมองหาศัตรู เวลาเข้าทำร้ายจะแผดเสียงร้องเหมือนสุนัข ของกินที่กินเป็นพวกผลไม้ แมลง ผึ้ง ปลวก ใบไม้ สัตว์ขนาดเล็ก หมีสุนัขโตเต็มวัยพร้อมผสมพันธุ์เมื่ออายุราว ๓-๕ ปี ตั้งครรภ์นานราว ๙๕ วัน ออกลูกทีละ ๑-๒ ตัว อายุยืนราว ๒๐ ปี พบในทุกภาคของไทย  แม้กระนั้นมักพบมากมายทางภาคใต้ ในต่างชาติเจอที่ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมาร์ บังกลาเทศ   จีน   มาเลเชีย แล้วก็อินโดนีเชีย
ดีหมีในยาจีน
ดีหมีเป็นเครื่องยาอย่างหนึ่งที่ใช้ในยาจีน มีราคาแพงมากมายและหายาก เครื่องยานี้มีชื่อภาษาละตินตามตำรายาว่า Fel  Ursi มีชื่อสามัญว่า bear  gall  จีนเรียก สงต่าน  (สำเนียงแมนดาริน) ได้จากถุงน้ำดีของหมี ๒ ชนิดเป็นหมีควาย Selenarctos  thibetanus (G. Cuvier) แล้วก็หมีสีน้ำตาล หรือ brown bear (Ursus  arctos  Linnaeus) ตระกูล Ursidae จำพวกข้างหลังไม่พบในธรรมชาติในประเทศไทย ดีหมีที่ได้จากมณฑลยูนนาน ส่วนใหญ่เป็นดีของหมีควาย จัดเป็นดีหมีที่มีคุณภาพดีที่สุด ในทางการค้า เรียก อวิ๋นต่าน  (ดีจากยูนนาน) แต่ดีหมีที่มีขายในตลาดมักมากจากหมีที่เจอทางภาคอีสานของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมณฑลเฮย์หลงเจียงแล้วก็บริเวณจี๋หลิน จำนวนมากได้จากหมีสีน้ำตาล ในทางการค้าขายเรียก ตงต่าน  (ดีจากภาคตะวันออก) ซึ่งมีปริมาณมากกว่า
รูปแบบของดีหมี
ดีหมีแห้งมีรูปร่างกลม ยาวรูปไข่  ส่วนบนเรียวรวมทั้งกลวง ข้างล่างเป็นถุงใหญ่  ยาว ๑๐-๒๐ เซนติเมตร  กว้าง ๕-๑๐ ซม. (ข้างล่าง) ผิวนอกสีน้ำตาลอมเทา สีน้ำตาลอมดำ หรือสีเหลืองอมสีน้ำตาล เป็นมันบางส่วน ส่วนบนใส มองดูได้แทบทะลุผิวบางรวมทั้งร่น เมื่อฉีกขาดจะเห็นเป็นเส้นใย ในถุงน้ำดีมีน้ำดีที่แห้งแล้วเป็นก้อนหรือเป็นเม็ด บางทีก็เป็นผุยผงหรือก้อนเหนียวๆสีเหลืองทองคำ เป็นเงาเงา เปราะ ดีหมีที่มีสีเหลืองทองคำเหมือนสีอำพัน เนื้อบาง เปราะ วาวเงา มักเรียก ดีหมีสีทอง หรือ ดีหมีสีทองแดง จำพวกทีมีสีดำหรือสีเขียวอมดำ แข็ง มีลักษณะเป็นแผ่น มักเรียก ดีหมีสีดำ  หรือ ดีหมีสีเหล็ก ส่วนจำพวกที่มีสีเขียวอมเหลืองเนื้อเปราะ มักเรียก ดีหมีสีกะหล่ำดอกเมื่อเรียกชิม  ดีหมีมีรสขมก่อน ถัดมาจะรู้สึกหวาน กลิ่นหอมสดชื่นเย็นๆหรือ คาวนิดหน่อย อมในปากจะละลายจนกระทั่งหมด ดีหมีที่มีคุณภาพดีจะต้องมีรสขม  เย็น ไม่ติดฟัน  ก้อนน้ำดีสีเหลืองทองคำเป็นมันเงา รสขมทีแรกๆ  แล้วหวานตามหลัง
ของจริงหรือของที่ไม่ใช่ของแท้
เนื่องจากว่าดีหมีเป็นเครื่องยาที่หายาก ก็เลยมีของที่ไม่ใช่ของจริงขายมากในหลายแบบอย่าง เป็นต้นว่า ปลอมด้วยดีหมู ดีวัว หรือดีแกะ แต่อาจวิเคราะห์ดีหมีแท้ได้ด้วยแนวทางดังต่อไปนี้
๑. กรรมวิธีตรวจทางด้านกายภาพ บางทีอาจทำได้ด้วยการดูลักษณะทั่วไปภายนอก แล้วก็ผิวแล้วก็รูปร่าง ตรวจสอบรูเปิดของถุงน้ำดีแล้วก็รอบๆที่มัด ดูปริมาณของน้ำดีแห้ง (ถ้ามีมากแล้วก็เต็มบางทีอาจเป็นของเลียนแบบ) ตรวจดูน้ำหนักของดี (หากมีน้ำหนักมากเกินไป อาจเป็นของผสมเลียนแบบด้วยโลหะลางได้แก่ตะกั่ว หรือเหล็กผสมทราย) ตรวจด้วยการเอาผงดีหมีนิดหน่อยวางบนนิ้วชี้ หยดน้ำลงไป ๑ หยด แล้วขยี้ด้วยนิ้วหัวแม่มือ (ถ้าเป็นของแท้จะมีกลิ่นหอมสดชื่นเย็น) น้ำดีที่เป็นของแท้จะเปราะ แตกง่าย ได้ผลึกรูปหลายเหลี่ยม   (แม้เป็นของปลอมจะเหนียวแล้วก็แข็ง ไม่เป็นเงา) อย่างไรก็แล้วแต่ กรรมวิธีนี้จำเป็นจะต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญมาก
๒. แนวทางเผาไฟ เอาเข็มเขี่ยๆผงดีหมีเล็กน้อย   เผาไฟ ถ้าเกิดเป็นของแท้จะปุดเป็นฟอง  แต่ว่าถ้าหากเป็นของเลียนแบบจะติดไฟหรือเยิ้มเหลว หรืออาจมีปุดเป็นฟองแต่ว่ามีกลิ่นไม่ประสงค์
๓. วิธีตรวจด้วยน้ำ เพิ่มน้ำลงในถ้วยน้ำ ความจุราว ๓ ใน ๔ แก้ว เอาเกล็ดดีหมีน้อยใส่ลงเบาๆบนผิวน้ำ เกล็ดดีหมีนั้นจะหมุนอย่างเร็วชั่วครู่ ขณะหมุนอยู่ก็จะละลายไปเรื่อยๆแล้วจมลงในน้ำ ทำให้เห็นเป็น “เส้นเหลือง” ลงสู่ตูดแก้ว เส้นเหลืองนี้ดำรงอยู่นานกว่าจะหายไป ถ้าที่ผิวน้ำมีฝุ่นบางส่วนเมื่อใส่เกล็ดดีหมีลงบนผิวน้ำ   ผงดีหมีจะหมุนอย่างเร็วแล้วก็ผลักฝุ่นผงที่ผิวน้ำให้กระจายออก นอกนั้น วิธีการแบบนี้ยังคงบางทีอาจใช้เหล้าขาวแทนน้ำ จะเกิดเส้นเหลืองให้เห็นด้วยเหมือนกัน
๔. แนวทางตรวจทางเคมี ทำเป็นโดยตรวจสาระสำคัญในดีหมีซึ่งไม่เจอในดีของสัตว์อื่นหมายถึงกรดเอ้อร์โซเดสออกศสิโคลิก (ursodesoxycholic acid)  ดังเช่นว่า ด้วยวิธีรงคเลขผิวบาง  (thin-layered  chromatography) หรือด้วยวิธีรงคเลขของเหลวความสามารถสูง  (high  performance  liquid  chromatography  หรือ  HPLC)

[url=http://www.disthai.com/]คุณประโยชน์รวมทั้งขนาดที่ใช[/size][/b]
ตำราจีนว่า ดีหมีมีรสขม ฤทธิ์เย็น ใช้เป็นยาลดไข้ แก้อาการชัก บำรุงสายตา ใช้เป็นยาเจริญอาหารและก็ยาชดเชยน้ำดี เป็นยาช่วยชีวิตคนเจ็บที่หมดสติด้วยเหตุว่าไข้สูง ใช้หยอดตา ทาหัวริดสีดวงทวารหนักที่ทำให้เกิดอาการปวดบวม ใช้กินเป็นยาแก้โรคตับอักเสบ โรคความดันเลือดสูง โรคบิดเรื้อรัง ใช้ทีละ ๐.๖-๑.๕ กรัม   โดยชงน้ำกิน   หรือทำเป็นยาลูกกลอนก็ได้ หรือใช้ละลายน้ำเล็กน้อยเป็นยาทา หรือใช้ทำเป็นยาตาก็ได้
คุณประโยชน์ทางยา
หมอแผนไทยใช้ดีหมีเป็นทั้งเครื่องยาแล้วก็กระสายยา หนังสือเรียนสรรพคุณ [url=http://www.disthai.com/]สมุนไพ[/b] ยาโบราณว่าดีหมีมีรสขม หวาน มีคุณประโยชน์ดับพิษร้อนข้างใน แก้พิษเพ้อคลั่ง สติลอย เหม่อลอย บำรุงน้ำดี ขับรถยาให้แล่นทั่วตัว ใช้ดีหมีเป็นยากระจายเลือดลิ่มสำหรับบุคคลที่ซ้ำซอกเพราะเหตุว่าตกต้นไม้หรือตกจากที่สูง หรือถูกของแข็งกระแทก ทำให้ฟกช้ำดำเขียว เว้นแต่ดีหมีแล้ว หมอแผนไทยยังรู้จักใช้ “เขี้ยวหมี” เป็นเครื่องยาในตำรับยาหลายขนาน ยกตัวอย่างเช่น ยาปรับปรุงขนานหนึ่งใน พระคัมภีร์มหาโชตรัต ดังนี้ สิทธิการิยะ ถ้าเกิดคนไหนกันเปนไข้แลให้ร้อนด้านในให้อยากน้ำนัก แลตัวผู้ป่วยนั้นให้กระด้างเหมือนหนึ่งขอนไม้แลท่อนฟืน ให้ตัวนั้นเปนเหน็บชาไปทั่วทั้งยังกายหยิกไม่เจ็บ ท่านว่าเกิดกาฬข้างในแลให้ปากแห้งคอแห้งฟันแห้งนมเศร้าให้เปนต่างๆนั้น   ท่านว่ารอยดำผุดออกยังไม่สิ้นยังอยู่ในหัวใจนั้น   ถ้าจะแก้ให้เอารากกะตังบาย ๑   จันทน์ทั้ง ๒   สนเทศ ๑   ท้อถอยม ๑   เพ่งพิศท้องนาศ ๑   รากแตงรุนแรง ๑   รากหมูปล่อย ๑   หัวมหากาฬ ๑   หัวกะเช้าตรู่ผีมด ๑   รากไคร้เครือ ๑   ใบหยุด ๑   ใบภิมเสน ๑   ใบเฉียงพร้าหอม ๑   ใบทองพันชั่ง ๑   [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99/]เขากวา[/color] ๑   งา ๑   เขี้ยวเสือ ๑   เขี้ยวหมี ๑   เขี้ยวจระเข้ ๑   เขี้ยวหมูป่า ๑   เขี้ยวแรด ๑   กรามพญางู ๑   เขี้ยวปลาพยูน ๑   เกสรดอกบัวน้ำทั้ง ๗   [url=http://www.disthai.com/16484914/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%81]ผลสมอพิเภ[/color] ๑   เทียนดำ ๑   ใบสทายใจ ๑   เปลือกไข่เป็ดสด ๑   [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C/]ผลจันทน[/b] ๑   [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C/]ดอกจันทน[/color] ๑   [url=http://www.disthai.com/16488236/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2]สมอไท[/b] ๑   รากมะรุมบ้าน ๑   รวมยาทั้งนี้เอาเท่าเทียมกัน   ทำผง   แล้วจึงบดปั้นแท่งไว้   ฝนด้วยน้ำดอกไม้   ทั้งกินอีกทั้งพ่น   แก้สรรพไข้ทุกอันดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นมานั้น   หายแล อนึ่ง “เขี้ยวหมี”   เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่งในพิกัดยาไทยที่เรียก “นวเขี้ยว”   หรือ “[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/06/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%A7/]เนาวเขี้ย[/b]”   เช่น   เขี้ยวหมูป่า   เขี้ยวหมี   เขี้ยวเสือ   เขี้ยวแรด   เขี้ยวหมาป่า   เขี้ยวปลาพะยูน   เขี้ยวตะไข้  เขี้ยวเลียงเขาหิน   แล้วก็งา



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ