สัตววัตถุ อีเเร้ง

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ อีเเร้ง  (อ่าน 19 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2017, 02:50:11 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87.jpg" alt="" border="0" />
อีแร้[/b]
อีแร้งเป็นนกที่จัดอยู่ในสกุล Gyps มีชื่อสามัญว่า vulture ที่พบได้ในประเทศไทยมี ๓ จำพวก ทุกชนิดจัดอยู่ในตระกูล Accipitridae  อีแร้งไทยอีก ๓ ชนิดนั้น ปัจจุบันนี้หายากแล้วก็มีจำนวนน้อย ลางชนิดอาจสูญพันธ์ไปแล้ว
๑. อีแร้งเทาข้างหลังขาว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gyps  bengalensis (Gmelin) มีชื่อสามัญว่า white – rumped  vulture เป็นนกทุ่งนาดใหญ่ ความยาวของสัตว์วัดจากปลายปากถึงปลายหางราว ๙0 ซม. ลำตัวสีดำแกมน้ำตาล หัวและก็ลำคอไม่มีขนปกคลุม เป็นเพียงแผ่นหนังสีคล้ำ ตอนล่างของคอมีขนเป็นวงรอบข้างหลัง สีขาว ตอนล่างและก็โคนหางสีขาวเด่นชัด ภายในต้นขามีทาสีขาว เห็นได้ชัดขณะเกาะยืน   เมื่ออายุน้อยลำตัวมีสีน้ำตาลออกแดงหรือน้ำตาลเข้ม ไม่มีแถบขาวเลย กินซากสัตว์เป็นของกิน   ทำรังบนยอดไม้สูง ในพฤศจิกายนแล้วก็เดือนธันวาคมจนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ ออกไข่ทีละ ๑ ฟอง ทั้ง ๒ เพศช่วยเหลือกันสร้างรังรวมทั้งกกไข่ ชนิดนี้มีเขตการกระจายประเภทกว้าง ตั้งแต่อินเดีย ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน และทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ในประเทศไทยเคยพบมากบริเวณที่ราบ แต่ว่าเดี๋ยวนี้หาดูได้ยากมากมาย   เข้าใจว่าแทบจะสิ้นพันธุ์ไปแล้ว

๒.อีแร้งปากเรียว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Gyps  indicus  (Scopoli)   มีชื่อสามัญว่า   long – billed  vulture   อีแร้งสีน้ำตาลประเทศอินเดีย  ก็เรียก  เป็นอีแร้งขนาดใหญ่  ขนาดวัดจากปลายปากถึงปลายหางยาวราว  ๙0  ซม. ตัวสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลแก่ขนทุกเส้นมีขอบสีจางกว่าสีพื้น   หัวรวมทั้งลำคอมีขนอุยสีน้ำตาลออกขาวปกคลุม   ท้องสีน้ำตาลอ่อน มีจะงอยปากที่เรียวกว่าแร้งประเภทอื่นๆตัวที่อายังน้อยมีสีเข้มกว่าตัวโตเต็มวัย และพบได้บ่อยที่ขนอุยคงเหลืออยู่บนขนหัว เหมือนเคยอยู่เป็นฝูงเล็กๆ ร่วมกับอีแร้งจำพวกอื่นๆและก็ร่วมลงรับประทานซากสัตว์ด้วยกัน   พบได้บ่อยจิกและก็แย่งซากสัตว์กันตลอดระยะเวลา  วิธีการทำรังแล้วก็วางไข่คล้ายกับอีแร้งประเภทอื่นๆสร้างรังตอนเดือนพฤศจิกาถึงเดือนกุมภาพันธ์   ชอบอยู่ตามที่โล่ง ปริมณฑล หาเลี้ยงชีพตามลำห้วยใหญ่ๆ ในป่าเต็งรังรวมทั้งขว้างเบญจพรรณ มีเขตผู้กระทำระจายชนิดจากประเทศอินเดียถึงภูมิภาคอินโดจีน   ในประเทศไทยเคยพบบ่อย แต่ว่าปัจจุบันมั่นใจว่าสิ้นซากไปจากบ้านพวกเราแล้ว [url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
[/b]
๓.อีแร้งเทาหิมาลัย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Gyps   himalaiensis  Hume   มีชื่อสามัญว่า Himalayan  griffon  vulture อีแร้งสีน้ำตาลหิมาลัย  ก็เรียก เป็นอีแร้งขนาดใหญ่มาก ขนาดวัดจากปลายปากถึงปลายหางราว ๑๒๒ ซม. มีลักษณะคล้ายอีแร้งปากเรียว แต่ตัวใหญ่กว่ามากมาย ตัวผู้รวมทั้งตัวเมียมีสีเช่นกัน ลำตัวด้านบนมีสีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลแกมขาว ด้านล่างสีเนื้อปนสีน้ำตาลอ่อน มีลายขีดขนาดใหญ่สีขาว ขนรอบคอยาว  สีน้ำตาล มีลายขีดสีขาว พบได้มากอยู่กระโดดๆหรืออยู่เป็นคู่ หรือ  ๒-๓  ตัว   ตามทุ่งโล่งหรือป่าบนเทือกเขา มักร่อนเป็นวงกลมตามช่องเขาหรอภูเขาเพื่อหาอาหาร  เป็นนกที่หลงเข้ามา หรืออพยพมาในประเทศไทยช่วงนอกฤดูสืบพันธุ์   หายากแล้วก็จำนวนน้อย เคยมีรายงานว่าเจอในจ.กรุงเทพฯ รวมทั้งที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคิรีหมวด



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ