สัตววัตถุ เเมงมุม

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ เเมงมุม  (อ่าน 22 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
teareborn
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 743


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 07, 2017, 12:27:29 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


แมงมุ[/size][/b]
แมงมุมเป็นชื่อเรียกสัตว์พวกแมงหลายประเภทในวงศ์ ทุกประเภทจัดอยู่ในอันดับ  Araneae  มีชื่อสามัญว่า spider รับประทานสัตว์เป็นอาหาร มีขนาดนาๆประการตามแต่จำพวก  พวกที่ทีขนาดเล็กอาจมีลำตัวยาวเพียงแค่ ๐.๗  เซนติเมตร ส่วนพวกที่มีขนาดใหญ่อาจมีลำตัวยาวถึง ๙ เซนติเมตร พวกที่พบตามบ้านเรือนรวมทั้งก่อความเปรอะเปื้อนรุงรังมักเป็นแมงมุมที่อยู่สกุล Pholcus หลายประเภท (สกุล  pholcidae )
แมงกับแมลง
ในทางกีฏวิทยา คำ “แมง” กับ “แมลง” สื่อความหมายแตกต่าง และก็มักเรียกงงงวยกัน คำ “แมง”ใช้เรียกชื่อสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังหลายประเภท ซึ่งเมื่อเติบโตสุดกำลังแล้ว  ลำตัวแบ่งออกได้เป็น ๒ ส่วน คือ ท่อนหัวกับอกรวมเป็นส่วนเดียวกันส่วนหนึ่ง กับส่วนท้องอีกส่วนใดส่วนหนึ่ง มีขา ๘  หรือ ๑๐ ขา ไม่มีหนวด ไม่มีปีก อาทิเช่น แมงมุม  แมงป่อง แมงดาทะเล ส่วนคำ “แมลง” ใช้เรียกชื่อสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังหลายอย่าง ซึ่งเมื่อเจริญเติบโตสุดกำลังแล้ว  ลำตัวแบ่งออกได้เป็น ๓ ส่วนอย่างเห็นได้ชัดหมายถึงส่วนหัว ส่วนอก แล้วก็ส่วนท้อง  มีขา ๖ ขา เป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังเพียงแต่พวกเดียวที่มีปีก อาจมีปีก ๑ หรือ ๒ คู่  หรือเปล่ามีปีกเลยก็ได้ เป็นสัตว์ที่มีมากจำพวกที่สุดในโลก ดังเช่นว่า แมลงสาบ แมลงวัน
ชีววิทยาของแมงมุม
แมงมุมมีลำตัวแบ่งได้เป็น  ๒  ส่วน  ส่วนหัวกับส่วนอกชิดกันเป็นส่วนเดียวปกคลุมด้วยแผ่นแข็งอีกทั้งข้างหลังและด้านล่าง มีตาเล็กๆข้างละหลายตา ลางประเภทอาจมีได้ถึง  ๘  ตา อยู่ใกล้ๆกัน  (ยกเว้นแมงมุมลางชนิดที่ไม่มีตา ซึ่งมักเป็นแมงมุมที่อาศัยอยู่ในที่มืด อาทิเช่นในถ้ำ)  ที่ปากมีเขี้ยวเป็นอวัยวะคู่  มีรูปร่างเหมือนปากคีบหรือคีมหนีบใช้หนีบ  จับ  หรือยึดเหยื่อเป็นอาหารได้  มีปล้องฐานปล้องเดียว ส่วนปลายอาจมีรูปล่อยพิษซึ่งเชื่อมต่อถึงต่อมพิษที่ฐานปาก  นอกเหนือจากนั้นที่ปากยังมีอวัยวะคู่ทรงเหมือนขา แต่ว่าสั้นกว่าและมักแบนกว่า (มักรุ่งโรจน์ดีรวมทั้งเห็นได้ชัดในตัวผู้ที่ยังไม่โตสุดกำลังแล้วก็ในตัวเมีย) แมงมุมไม่มีหนวด  มีขา ๔ คู่  ที่ขามักมีโครงสร้างพิเศษให้ใช้ถักใยได้ ดังเช่น มีแผ่นแบนอยู่ระหว่างง่ามเล็บ ส่วนท้องอาจกลมหรือยาวสุดแต่จำพวกของแมงมุมที่ปลายมีท่อเป็นรูเปิดสำหรับปล่อยใยได้  บริเวณข้างล่างของส่วนท้องข้อที่  ๒  แล้วก็ ๓ มีอวัยวะทำหน้าที่เป็นจมูกสำหรับหายใจ ซึ่งมักเป็นช่อง ภายในมีแผ่นบางๆเรียงทับกันเหมือนกระดาษหนังสือ แมงมุมส่วนมากที่ชาวไทยเห็นนั้น  มักเป็นจำพวกถักใยกีดขวางผ่านของสัตว์เพื่อจับกินเป็นอาหาร เมื่อมีสัตว์มาติดใยและก็ดิ้นรน  แรงสั่นสะเทือนจะไปถึงตัวแมงมุมเจ้าของรัง แมงมุมซึ่งมีสายตาไม่ดีก็จะติดตามทิศทางของแรงกระเทือนนั้นเข้าพบเหยื่อ กัดเหยื่อ และก็ปล่อยน้ำพิษทำให้เหยื่อสลบ  ก่อนที่จะกินเป็นอาหาร
แมงมุมในประเทศไทย
แมงมุมที่พบในประเทศไทยมีมากมาย  จัดอยู่ในหลายตระกูล  แต่ว่าทุกสกุลจัดอยู่ในอันดับเดียวกัน เป็น Araneae  จำพวกที่เจอในประเทศไทยนั้น  จำนวนมากไม่มีพิษแรงถึงกับกัดคนให้เจ็บหรือตายได้  ดังเช่นว่า
๑.แมงใย หรือ ตัวใยแมงมุม  เป็นแมงมุมที่พบตามอาคารบ้านเรือนรวมทั้งถักใยจนกระทั่งดูไม่สะอาดรวมทั้งรุงรัง  มักเป็นพวกที่จัดอยู่ในสกุล  Pholcus หลายอย่าง (สกุล Pholcidae )  แมงมุมพวกนี้มักมีลำตัวสีน้ำตาลหรือสีเทาทึบ ข้างหลังท้องสีมักเข้ม ลางประเภทมีลาย ส่วนมากมีลำตัวยาว ๔-๕  มม. ขายาวกว่าลำตัวมากมาย เป็นยาวราว ๕-๖ ซม.  ทำให้ดูเกะกะรวมทั้งบอบบาง  ก็เลยมีชื่อสามัญว่า  daddy  long-leg  spider  คนไทยลางถิ่น เรียก แมงมุมเถ้าถ่าน เนื่องจากถักใยทำให้รุงรังแล้วก็มีฝุ่นหรือเถ้าถ่านมาติด หยากไย่ที่แมงมุมกลุ่มนี้ถักทอไว้ภายในบ้าน  โดยยิ่งไปกว่านั้นในห้องครัว  หรือที่อยู่ใกล้เตาไฟ ซึ่งมีเขม่าไฟหรือขี้เถ้าติดอยู่ด้วยกัน หมอโบราณใช้เป็นเครื่องยา เรียก หญ้ายองไฟ
๒.แมงมุมทำหลาว เป็นแมงมุม พวกที่ถักใยนอกบ้าน  มักพบตามแปลงพืชหรือตามเรือกสวนไร่นา  เป็นแมงมุมที่จัดอยู่ในสกุล  Tetragnatha  หลายชนิด  (ตระกูล Tetragnathidae ) ซึ่งราษฎรเรียก แมงมุมทำหลาว  เพราะเมื่อตกใจ  แมงมุมเหล่านี้จะวิ่งไปหลบอยู่หลังใบไม้  ยื่นขา ๒ คู่แรกไปด้านหน้า ขาคู่ที่ ๔ ยื่นไปข้างหลังอยู่ในระดับเดียวกับลำตัว ขาคู่ที่ ๓ ใช้ยึดเกาะยืนตั้งฉากกับลำตัว ดูเหมือนคนที่จัดแจงพุ่งหลาวลงน้ำ แมงมุมเหล่านี้ดักจับเพลี้ยจักจั่นกินเป็นอาหาร จัดเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อเกษตรกร
๓.แมงมุมก๋า หรือ ตัวก๋า มีชื่อวิทยาศาสตร์  Heteropodae  venatoria  (Linnaeus ) จัดอยู่ในตระกูล Sparassidae  มีชื่อสามัญว่า  banana  spider ( เพราะพบได้ทั่วไปแมงมุมก๋านี้ในคลังสินค้าเก็บกล้วย ) เป็นแมงมุมขาดกึ่งกลาง เพศผู้ลำตัวยาว ๑.๕-๒  ซม.  ตัวเมียมีลำตัวยาว  ๒.๕-๓ ซม. ขายาว ๕-๖ เซนติเมตร หัวกระทรวงอุตสาหกรรมขา แล้วก็ท้องสีน้ำตาล  ตาสีคล้ำ  ที่ข้างหลังอกมีแถบสีดำหนาพาดตามขวางข้างหน้า และแถบเป็นง่ามเหมือนรูปตัววี (V) ด้านปลายอีก ๑ แถบที่สันหลังท้องมีเส้นสีน้ำตาลแก่พาดมาถึงกลาง  บางทีอาจพบจุดสีน้ำตาลแก่เป็นลายด้านข้าง ข้างละ ๔-๕ จุด  มีขนสีน้ำตาลอ่อนบริเวณหน้าและก็ขา  ทำให้ดูน่าสะพรึงกลัว แมงมุมจำพวกนี้ไม่ถักใย  ออกหากินโดยการจับเหยื่อโดยตรง  พบอาศัยอยู่ตามบ้านช่องหรือตามโรงเก็บของ เป็นแมงมุมที่เป็นประโยชน์  ด้วยเหตุว่าชอบรับประทานแมลงสาบ
๔.แมงมุมมดแดง  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Myrmarachne  formicaria  Linnaeus  จัดอยู่ในตระกูล  Salticidae เป็นแมงมุมจำพวกที่มีรูปร่างเลียนแบบสัตว์อื่น  พบได้บ่อยแล้วก็มีชุกตามจังหวัดชายหาด  ยกตัวอย่างเช่น  จังหวัดชลบุรีหรือระยอง มีรูปร่าง   ขนาด  และสีสันใกล้เคียงกับมดแดง  และก็ชอบอาศัยปะปนอยู่กับมดแดง แต่ว่าแตกต่างตรงที่เมื่อแมงมุมพวกนี้กระโจน  จะถักใยทิ้งตัวเพื่อเคลื่อนย้ายได้  เมื่อพิจารณาอย่างพิถีพิถันจริงจัง จะพบว่าจำนวนขาแล้วก็ลักษณะอื่นๆต่างจากมดแดง

คุณประโยชน์ทางยา
หมอแผนไทยรู้จักใช้ “หญ้ายองไฟ”แล้วก็ “แมงมุมตายซาก” เป็นเครื่องยาด้วย  ดังนี้
๑.หญ้ายองไฟ  หมอแผนไทยรู้จักใช้หยากไย่แมงมุมเหนือเตาไฟในห้องครัวของบ้านไทยในบ้านนอกอดีต (เตาไฟใช้ฟืนใช้ถ่าน)  ใยแมงมุมแมงมุมที่มีเขม่า ขี้เถ้า  และฝุ่นเกาะอยู่ด้วยนี้ หมอโบราณเรียก  หญ้ายองไฟ  ลางแบบเรียนเรียกเป็น  ใยแมงมุมไฟ  หรือ  หยากไย่ไฟ  ก็มี  ใช้เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่ง
[url=http://www.disthai.com/][url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
[/url][/color] ตำราสรรพคุณยาโบราณว่า  หญ้ายองไฟมีรสเค็ม  เฝื่อน  มีคุณประโยชน์แก้โลหิต  ฟอกโลหิต  กระจัดกระจายเลือดอันเป็นลิ่มเป็นก้อน  ขับโลหิตประจำเดือน
หนังสือเรียนยาไทยหลายขนานเข้า “หญ้ายองไฟ”  เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่ง  ในที่นี้ขอยกตัวอย่างยา  ๒  ขนาน ขนานแรกเป็นยาแก้กษัยอันเกิดเพื่อโชธาตุชื่อ “สันตัปปัคคี” ซึ่งบันทึกไว้ภายในพระหนังสือไกษย  ดังต่อไปนี้ ขนานหนึ่งเล่า  หากมันให้จุกเสียดปวดขบเปนกำลัง  ให้เอาพริกเทศ  ๑๐๘  เม็ด  พริกล่อน  ๑๐๘  เม็ด  ผักกะซึมซับเอาทั้งต้นรากใบลูกเอาสิ่งละ ๑ บาท  หญ้าไซย้อย  ๑  ต้นหญ้าไซแห้ง ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท  ต้นหญ้ายองไฟ  ๑  บาท  ไพลแห้[/b]  ๑  บาท  ตำเปนผง  ละลายน้ำเหล้าน้ำส้มซ่าน้ำขิงน้ำมะนาวน้ำกระเทียมก็ได้  ยักน้ำกระสายให้ชอบโรคนั้นเถิด อีกขนานหนึ่งเป็นยาขับโลหิตของสตรีซึ่งมีบันทึกเอาไว้ใน  พระตำรามหาโชตรัต ดังต่อไปนี้ อนึ่งเอาสหัศคุณเทศ ๑   แก่นแสมทเล  ๑  ต้นหญ้ายองไฟ  ๑  [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2/]ขมิ้นอ้อ[/b]  ๑  บดละลายเหล้ารับประทาน  ใหขับโลหิตดีนักแล ตำรับยาลางขนาน  เจ้าของตำรับบางทีอาจเขียนตัวยาไว้เป็นปริศนาให้แปลความหมายกันเอาเอง  ยกตัวอย่างเช่น  ยาแก้บิดขนานหนึ่ง  ผู้ครอบครองยาให้ตำรับยาไว้ว่า “ลุกใต้ดิน  กินตีนท่า  อยู่หลังคา  ขี้คารู  คู่อ้ายบ้า”  ซึ่งหมายถึง “[url=http://www.disthai.com/16488300/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%95%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87]รากเจตมูลเพลิงเเด[/color]  ๑  [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%94/]ผักเป็[/b] ๑  หญ้ายองไฟ ๑  คนติดยา[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%9D%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99/]ฝิ่น  ๑  สุราเป็นน้ำกระสาย”
๒. แมงมุมตายซาก  หมอแผนไทยใช้แมงมุมที่ตายแล้วซากแห้งสนิท  ไม่เน่าและไม่ขึ้นรา  เป็นเครื่องยาในยาไทยโบราณหลายขนาน  อย่างเช่น  “ยานากพด”  ซึ่งมีบันทึกเอาไว้ภายในพระหนังสือปฐมจินดาร์  ดังนี้ ยาชื่อนากพด  ท่านให้เอาใบหนาด  ๑  พริกไ[/color]  ๑  เบี้ยจั่นเผา  ๑  [url=http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87]ขิง ๑  รังหมาร่าเผา  ๑  แมงมุ[/b]ตายซาก  ๑  [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%A5%E0%B8%B3%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87/]ลำพัน  ๑  รวมยา  ๗  สิ่งนี้เอาเท่าเทียมกัน  บดทำแท่งไว้  แก้ทรางทั้งสิ้น  แก้ละอองพระบาท  แก้สะพั้น  ทั้งยังรับประทานทั้งยังชะโลมดีนัก



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ