สัตววัตถุ ตะพาบน้ำ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ ตะพาบน้ำ  (อ่าน 22 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ittipan1989
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25925


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: ธันวาคม 14, 2017, 03:46:36 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%9A.jpg" alt="" border="0" />
ตะพา[/b]
ตะพาบ (mud turtle หรือ soft-shelled turtle) เป็นสัตว์คลานจำพวกหนึ่งจัดอยู่ในวงศ์ Trionychidae มีลักษณะคล้ายคล้ายเต่าน้ำจืด แตกต่างกันตรงที่กระดองบน (carapace) แล้วก็กระดองด้านล่าง (pastron) ไม่มีกระดูกเป็นแผ่นใหญ่ๆแต่ว่ามีหนังหุ้มแทน มีนิ้วยาว ตีนข้างหน้ามีแผ่นพังผืดกว้าง ใช้สำหรับพุ้ยน้ำ มีเล็บเพียง ๒-๓เล็บ คอหดในกระดองได้มิด แต่สามารถยืดคอออกได้ยาวมากมายเมื่อจะงับเหยื่อหรือกัดศัตรู ตะพาบทุกชนิดเป็นสัตว์น้ำจืด พบได้ทั่วไปอยู่ตามห้วย บ่อน้ำ หนอง และตาม แม่น้ำลำคลอง ตะพาบน้ำสามารถขุดรูเป็นโพรงสำหรับอาศัย และก็ยืดคอขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ หรือยืดคอออกไปฮุบกุ้งปลาที่ว่ายน้ำผ่าน โดยที่ตัวไม่ต้องออกมาจากโพรงเมื่อน้ำในสระหนองแห้งลงในฤดูแล้ง ตะพาบจะทำโพรงอยู่ใต้ดินได้นาน จนกระทั่งฝนตกจึงออกมาจากโพรงและเริ่มหาสัตว์น้ำต่างๆกินเป็นอาหาร ตะพาบน้ำกินกุ้งและก็ปลาใหม่ๆรวมทั้งเนื้อสัตว์ที่เน่าเปื่อย สามารถว่ายน้ำไปพบกินไกลๆในการใช้มือจับตะพาบน้ำนั้นจับได้เฉพาะตรงที่ขอบกระดองข้างหน้าของโคนขาหลัง ถ้าจับผิดตำแหน่งตะพาบน้ำซึ่งมีคอยาวจะยืดคอออกมาเหลียวกัดมือได้
ตะพาบน้ำในประเทศไทย
ตะพาบน้ำที่พบในประเทศไทยมีอย่างน้อง ๖ ประเภท เป็น
๑.ตะพาบน้ำธรรมดา
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Amyda cartilaginea (Boddart)
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
จำพวกนี้กระดองบนค่อนข้างจะแบน ขอบกระดองอ่อนนิ่ม เมื่อโตเต็มกำลังกระดองบนบางทีอาจยาวได้ถึง ๘๓ ซม. ขอบด้านหน้าของกระดองบนเป็นปุ่มตะปุ่มตะป่ำ ขอบกระดองล่างไม่มีสีเด่น ปากออกจะแหลม ที่หนังบนหลังเป็นริ้วเล็กๆนูนขึ้นมาทั่วข้างหลัง ตัวอ่อนมีสีเขียวขี้ม้าปนเทา บางตัวมีจุดเหลืองๆหรือจุดดำๆขอบเหลือง หัวมีจุดเหลืองๆเป็นจุดใหญ่ทางข้างๆ พอตัวแก่ จุดเหลืองบนข้างหลังมักหายไป จุดที่ศีรษะก็เลือนไป ที่ใต้ท้องของตัวผู้มีสีขาว แต่ที่ใต้ท้องของตัวเมียเป็นสีเทา ตะพาบชนิดนี้มีมากมาย เจอทั่วไปในแม่น้ำลำคลอง หนอง สระ ในภาคกึ่งกลางของประเทศไทย อาจเจอตามลำธารและห้วยที่ตีนเขา นอกจากนั้นยังเจอในภาคใต้ของประเทศพม่า ลาว เวียดนาม เขมร มาเลเซีย แล้วก็ตามหมู่เกาะมลายู
๒.ตะพาบน้ำหัวทู่ หรือ ตะพาบหัวกบ
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pelochelys bibroni Owen
ประเภทนี้กระดองบนออกจะแบน ขอบกระดองอ่อนนิ่ม ขอบข้างหน้าของกระดองบนเรียบ เมื่อโตเต็มกำลังมีขนาดใหญ่ กระดองบนอาจยาวได้ถึง ๑๒๐ ซม. จมูกสั้น หัวค่อนข้างจะแบนและก็เล็กเมื่อเทียบกับลำตัว ความยาวของกะโหลกหัวใกล้เคียงกับความกว้าง ปากไม่แหลม ขาหน้าสั้น ตีนกว้าง กระดองหลังมีสีเขียวขี้ม้าอมเทามีรูบุ๋มเล็กๆทั่วๆไป มีจุดเหลืองๆกระจายอยู่ทั่วๆไป กระดองด้านล่างสีขาว ในประเทศไทยเจออยู่ทางด้านใตน ยิ่งไปกว่านี้ยังพบที่ประเทศ ลาว เวียดนาม เขมร มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และภาคใต้ของจีน
๓.ตะพาบน้ำข้างหลังลายกะรัง หรือ ตะพาบน้ำม่านลาย
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Chitra chitra Gray
ประเภทนี้กระดองบนค่อนข้างแบน ขอบกระดองอ่อนนิ่ม ขอบข้างหน้าของกระดองบนเรียบ เมื่อโตเต็มที่มีขนาดใหญ่ กระดองบนอาจยาวได้ถึง ๑๒๒ เซนติเมตร เป็นจำพวกที่มีตัวโตที่สุดของเมืองไทยแล้วก็ของโลก จมูกสั้น หัวค่อนข้างแบนและเล็ก ความยาวของกะโหลกหัวเป็น ๒ เท่าของความกว้าง มีลวดลายบนหนังด้านบน เมื่อยังอายุน้อย กระดองบนมีสีเขียวอมเทา มีจุดลายดำเลอะเทอะๆพอเพียงแก่เยอะขึ้นเรื่อยๆ รอบๆคอและก็กระดองบนจะมีลวดลายสีเหลืองหรือสีน้ำตาลราวกับหินกะรังแต่พอสมควรแก่มาก ลายสีนี้กลับจางลงไปอีก พบบริเวณที่ลุ่มแม่น้ำแม่กลองในประเทศไทยที่ลุ่มอิระวดีในประเทศเมียนมาร์ ลุ่มแม่น้ำคงคาแล้วก็แม่น้ำสินธุในประเทศอินเดีย
๔.ตะพาบน้ำขี้เกียจมาก หรือ ตะพาบน้ำแก้มแดง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dogania subplana Geoffrey
ประเภทนี้กระดองบนออกจะแบน ยาว ขอบสองข้างออกจะขนานกัน สีเขียวหมองแกมน้ำตาล ไม่กลมอย่างตะพาบชนิดอื่นๆขอบกระดองอ่อนนิ่ม ขอบด้านหน้าของกระดองบนเรียบเมื่อโตเต็มที่กระดองบนยาวได้ถึง ๒๖ เซนติเมตร หัวออกจะใหญ่เมื่อเทียบกับลำตัว ปากแหลม กระดองข้างล่างไม่มีจุดสีดำแจ่มชัด ที่ข้างคอและก็แก้มมีสีแดงอ่อนๆเจอได้ตามแหล่งน้ำลำน้ำบนที่สูงทางภาคตะวันตกและภาคใต้ของเมืองไทยนอกจากนั้นยังบางทีอาจพบในประเทศพม่ามาเลเซีย รวมทั้งประเทศฟิลิปปินส์
๕.ตะพาบไต้หวัน
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pelodiscus sinensis sinensis Wiegmann
ประเภทนี้กระดองบนค่อนข้างจะแบนขอบกระดองอ่อนนิ่ม ขอบด้านหน้าของกระดองบนเรียบ เมื่อโตสุดกำลังกระดองบนยาวได้ถึง ๒๕ ซม. กระดองบนมีสีเขียวขี้ม้าหรือสีน้ำตาล กระดองล่างมีจุดสีดำแจ่มกระจ่าง แล้วก็มีสีส้มในระยะก่อนวัยเจริญพันธุ์ ที่รอบตามีเส้นเล็กๆเป็นรัศมีเป็นตะพาบชนิดพื้นเมืองของจีน นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์อาสิน บางส่วนหลุดมาขยายพันธุ์ในแหล่งน้ำธรรมชาติ
๖.ตะพาบน้ำหับ
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lissemys punctate scutata (Peters)
เป็นตะพาบที่พบใหม่แล้วก็มีขนาดเล็กที่สุดของประเทศไทย เมื่อโตเต็มที่กระดองข้างหลังบางทีอาจยาวได้ถึง  ๑๖  เซนติเมตร  กระดองข้างหลังโค้ง นูน สีเขียวหม่นหรือสีน้ำตาล  สามารถหับหรือปิดกระดองได้ทั้งหมดทั้งปวง พบทีแรกรอบๆชายแดนไทยเมียนมาร์ แถบจังหวัดตาก  เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง มีปริมาณน้อยและก็หายาก
คุณประโยชน์ทางยา
ตะพาบที่เจอในยาไทยมักหมายถึงตะพาบน้ำธรรมดา หมอแผนไทยใช้ดีตะพาบน้ำ เป็นเครื่องยา หนังสือเรียนยาคุณประโยชน์โบราณว่า ดีตะพาบมีรสขม  คาวมีสรรพคุณแก้ไข้สันนิบาต แก้พิษกาฬ แก้โรคตา  รวมทั้งแก้ลมกองละเอียด  (ลมวิงเวียน   หน้ามืดลายตา) ในตำราเรียนพระโอสถพระนารายณ์มียาขนานหนึ่งเข้า “ดีตะพาบน้ำ” เป็นเครื่องยาด้วยดังต่อไปนี้น้ำมันภาลาธิไตล ให้เอารากต้นหญ้าขัดหมอน รากขี้เหล็ก รากปะคำไก่ รากปะคำควาย รากเลี่ยน รากรักขาว รากลำโพงอีกทั้ง ๒ รากชุมเห็ด รากฝักส้มป่อย ขมิ้นอ้อย ขิง ข่า ยาดังนี้ควรจะต้มให้ต้ม ควรจะตำให้ตำ เอาน้ำสิ่งละทนาน   น้ำมันพรรณผักกาด  น้ำมันพิมเสน น้ำมันละหุ่ง น้ำมันงา สิ่งละทนาน หุงให้คงแต่ว่าน้ำมัน แล้วจึงเอา ดีตะพาบน้ำ  ดีงูงูเหลือม พริกหอม พริกหาง พริกล่อน  ฝิ่น  สิ่งละสลึง เทียนอีกทั้ง ๕  สิ่งละบาท ๑ บดปรุงลงในน้ำมันไว้ ๓ วัน ก็เลยทาแลนวดแก้พระเส้นอันทพฤกให้หย่อนยาน  แลฟกบวม เป็นขั้วเป็นหน่วยแข็งอยู่นั้นให้ละลายออกสม่ำเสมอแลฯ
พระตำราปฐมจินดาร์ให้ยาแก้ซางเด็กขนานหนึ่งที่เขา  “ดีตะพาบน้ำ” เป็นเครื่องยาด้วยดังนี้
ขนานหนึ่ง ท่านให้เอาฟันกรามแรด ๑  กรามช้าง ๑  งาช้าง  นอแร[/b] ๑  เขี้ยวเสือ ๑  เขี้ยวตะไข้  ๑  เขี้ยวหมู  ๑  กระดูกงูทับทาง ๑ โกฏอีกทั้ง  ๕  ขมิ้นอ้อย  ๑ [url=http://www.disthai.com/16488307/%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A5]ไพ[/b] ๑ [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3/]ดีตะพาบน้ำ ๑  ดีงูเหลือม ๑ [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99/]พิมเส[/b] ๑  รวมยา  ๑๘  สิ่งนี้เอาส่วนเสมอกัน ตำเป็นผุยผงบดปั้นแท่งไว้  ละลายน้ำสุรา กินแก้ทรางทั้งสิ้น  หาย

Tags : สมุนไพร



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ