พัฒนาการอันน่าทึ่งสิ่งหลอดไฟ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พัฒนาการอันน่าทึ่งสิ่งหลอดไฟ  (อ่าน 28 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nitigorn20
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20426


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 14, 2017, 04:56:30 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


 
ตั้งแต่สมัยเก่าจนถึงประจุบันเจ้าหลอดใสๆ ก็ให้เปลวไฟแก่มนุษย์ในยามราตรีได้ทั้งปวง เริ่มทิ้งเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วที่หลอดไฟเริ่มมีบทบาทในการดำรงชีวิตของเรา กับใช้ต่อเนื่องมาถึงล่าสุด มีการวิวัฒน์ต่อยอดกันมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงหลอดไฟ LED ในปัจจุบัน พร้อมทั้งมีแนวโน้มในการพัฒนาไปอีกในภายภาคหน้า วันนี้เราจึงมีมรรคการพันาของเจ้าหลอดไฟนี้มาเล่าสู่กันฟังค่ะ มาเริ่มกักคุมในยุคปฐมเลยค่ะ หมายความว่า
 
 ยุคหลอดไส้ หรือไม่ก็ชื่ออย่างเป็นทางการว่า หลอด Incandescent
ร้อยกว่าปีมาแล้ว ที่จำพวกนักวิทยาศาสตร์พบหลอดไส้ แต่น่าเสียดายว่ามันเป็นเพียงแค่แนวคิดทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ยังไม่ทำได้ทำได้จริง จนกว่า โทมัส เอวา เอดิสัน ก็ได้นำแนวความคิดที่ว่านี้ มาขยายต่อจนประสบผลที่เกิดขึ้น และในภายต่อมา เขาก็เป็นได้ค้นพบวิธีการสร้าง หลอดไฟ หลอดแรก ของโลก โดยเป็นหลอดไส้ ที่ทำจากคาร์บอน ซึ่งต่อมาก็ได้รับความชื่นชมไปทั่วโลก แต่ก็ยังมีจุดบกพร่องตรงที่ว่า หลอดไส้ของโทมัสสามารใช้งานได้นานที่สุดแค่ 13 ชม. เท่านั้น นักวิทยาศาสตร์รุ่นต่อมาจึงคิดค้นวิธีที่จะเป็นเหตุให้มีระยะการใช้งานที่นมนานกาเลขึ้น พร้อมทั้งในที่สุดก็ได้พัฒนาเป็นหลอดไส้แบบทังสเตนที่เก่งทนความร้อนได้สูงถึง 3,000 องศาเซลเซียส เป็นเหตุให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นจาก 13 ชม. เป็น 1,000 - 3,000 ชม.

ยุคหลอดก๊าซปรอท หลอดไฟยุคปานกลาง (ประมาณ 80 ปี โดยประมาณ)
 หลอดก๊าซปรอทหรือเรียกง่าย ๆ ว่า หลอดนีออน ไม่ใช่หรือหลอด ฟลูออเรสเซนต์ และที่เรียกว่าหลอดก๊าซก็เพราะว่าบรรจุก๊าซไว้ข้างใน แนวคิดง่าย ๆ ของหลอดเหล่านี้คือ การใช้กระแสไฟไหลผ่าน บัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์ (คุ้น ๆ ใช่มั้ยหล่ะ) เพื่อกระตุ้นให้ก๊าซในปรอท เกิดการเขยื้อนและอนุญาตพลังงานออกมา 2 อย่าง ด้วยกัน นั่นคือ ความร้อนพร้อมทั้งแสงสว่าง แต่เพราะว่าแสงที่ได้ยังเป็นปากเหยี่ยวปากกาต่อการสังเกตเห็นของคน จึงจำเป็นต้องมาสารเคลือบฟอสฟอรัส ที่มาเคลือบที่ผิวหลอดข้างใน ด้วยให้เกิดเป็นปรากฎการณ์เรืองแสง และหลอดฟลูออเรสเซนต์ ก็เป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลกจนถึงสมัยนี้ จะมีครามครันขนาด ตั้งแต่รุ่น T10 จนพัฒนามาเป็น T8 และปัจจุบันก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้ T5 กันบ้างแล้ว
** คำว่า T10 คือว่าขนาด 10 หุ้น หมายเหตุ 1 นิ้ว มี 8 หุ้น T8 คือขนาด 8 หุ้น หรือคือขนาด 1 นิ้วพอดี T5 หรือขนาด 5 หุ้น ประมาณ 1/2 นิ้วกว่าๆ หลอดฟลูออเรสเซนต์ได้เริ่มใช้กัน ปี 1940 จนมาถึงปัจจุบัน ประสิทธิภาพการให้แสงสว่างอยู่ในระดับปานกลาง รกินไฟ ปานกลาง แต่ติดตรงที่ ต้องใช้ปัลลาสต์ พร้อมด้วยบัลลาสต์ ใช้ไฟสูงถึง 10-12 W

ยุคสมัยนี้ ยุค LED ชื่อเต็มคือ Light Emitting Diode
หลอดไฟ LED ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ สิ่งกบิลแสงสว่าง ที่ตอนนี้กำลังเข้ามาปฏิวัติระบบแสงสว่างใหม่ ของคนทั้งโลก เป็นการความเจริญรุ่งเรืองจากข้อคิดเห็นของสารกึ่งตัวนำ ไดโอด พร้อมทั้งหลอดไฟ LED มีการความเจริญอย่างต่อเนื่อง จนประจุบันกลับเป็นหลอดไฟที่ออมอดไฟ และอัจฉริยะ เป็นได้ทำงานได้นานัปการฟังก์ชั่น ที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหลอดไฟอย่างเดียว แต่ยังสามารถเข้าไปอยู่ในหน้าจอทีวี ป้ายไฟต่าง ๆ และอีกมายมาย และยังหนักแน่น ขัดสนการปล่อยความร้อน พร้อมทั้งแสง UV ให้กำเนิดมาอีกด้วย
 
ในปัจจุบันนี้หลอดไฟก็ได้ถูกจัดเป็น 1 ภายใน 5 เทคโนโลยีที่ประธานตกขอบของโลก ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และกำลังจะก้าวมาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมากบิลไฟฟ้าของมนุษยโลก ข้างในไม่กี่ปีที่จะถึงนี้และสามารถทำให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่ๆ รอจับตาดูกันนะคะ ว่าจะงอกงามไปได้ไกลแค่ไหน ^^
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : หลอดไฟภาษาอังกฤษ

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : [url]http://www.psv9.net/board/index.php?topic=281578.new#new[/url]

Tags : ไฟ led,หลอดไฟภาษาอังกฤษ



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ