wartscaring ชี้แนะรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ การรักษา ยารักษาหายได้ ลดโอกาสเป็นซ้ำ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: wartscaring ชี้แนะรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ การรักษา ยารักษาหายได้ ลดโอกาสเป็นซ้ำ  (อ่าน 186 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Saichonka
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21399


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 19, 2017, 11:46:37 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

wartscaring เสนอแนะรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ วิธีป้องกันวิธีรักษา ยารักษาหายได้ เชื่อคำแนะนำแพทย์
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดหูด โรคหูดหงอนไกยารักษาหูดหงอนไก่ โรคนี้ส่วนใหญ่มาจากเพศสัมพันธ์
หูดหงอนไก่แบ่งประเภทและชนิดเป็นระยะ 4 ระยะดังต่อไปนี้
1.ระยะฟักเชื้อ(HPV) ตอนนี้จะเป็นตอนๆที่ได้รับเชื้อมาใหม่ๆแต่ว่ายังไม่ออกอาการเป็นติ่งให้เห็น จะไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าจะเป็นหูดหงอนไก่รึเปล่า หูดหงอนไก่สามารถฟักเชื้อได้นานถึง 6 เดือน จึงเสนอแนะถ้าหากผู้ใดสงสัยว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงควรจะไปตรวจที่ รพ.
2.ระยะเริ่มต้นเริ่ม จะเริ่มมีตุ่มเล็กๆผุดขึ้นมาบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ทั้งยัง โคน ปลาย และก็รอบรูทวาร เม็ดหูดระยะต้นจะเล็กมากมายเหมือนผื่นแต่ว่าจะไม่มีหนอง หรือคัน หรือแสบอะไรก็ตาม ช่วงอาทิตย์แรกถ้าเกิดผู้ใดกันสังเกตุว่าเป็น จะสามารถรักษาโดยใช้ครีมกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านทานเชื้อชื่อ aldara cream (จะลงข้อมูลตัวยาข้างล่างขอรับ)
3.ระยะขยายตัว เวลานี้จะอยู่ที่ 3 สัปดาห์ ขึ้นไปจนถึงขั้นเป็นมาแล้วหลายเดือน เม็ดหูดจะเริ่มขึ้นเป็นติ่งชัดเจนจนถึงขนาดเท่าหรือใหญ่มากยิ่งกว่าอันธพาลขีดไฟ หรือหัวเข็มหมุด การรักษาต้องใช้ยาที่มีฤทธิ์ผลัดผิวหูดให้เปื่อยยุ่ยและเบาๆหลุดออก และเมื่อหูดเริ่มลอกก็ควรจะป้ายยาฆ่าเชื้อโรคควบคู่ไปด้วยเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ อาจจะไม่ 100% แต่ว่าลดความเสี่ยงในการกลับมาเป็นซ้ำได้มากขอรับ (ยารักษาก็จะเป็น wart control )
4.ระยะขยาย ระยะนี้เป็นหูดจะขยายตัวสุดกำลังเนื่องจากปลดปล่อยไว้เป็นเวลานานมากรวมทั้งปลายหูดจะแตกเป็นราวกับดอกกระหล่ำ แลละกินรอบๆรอบอีกทั้งของลับ ในเพศชายอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความเสี่ยงสำหรับในการที่หูดไปขัดปลายท่อฉี่นะครับ การรักษาจะเป็นการจักจี้ไฟฟ้า หรือผ่าตัดเล็กนั่นเองขอรับ
เบื่องต้นเลยถ้าหากคนไหนอยากรักษาโดยการจี้ไฟฟ้า จักจี้ไนโตรเจนเหลว หรือการผ่าตัดในกรณีที่เป็นมากแล้วลุกลามไปทั่วแม้กระนั้นไม่ทราบเกี่ยวกับสถานที่การดูแลรักษา การเข้าไปติดต่อที่ รพ.ต่างๆรวมทั้งการเบิกค่ารักษาพยาบาลจากสวัสดิการต่างๆที่ท่านมีอยู่ ทดลองโทรมาหารือผมได้นะครับ ยินดีให้คำแนะนำ โรงพยาบาลใกล้บ้านท่านโดยเฉพาะ กทม เพื่อการเข้ารับการรักษาที่สะดวกที่สุดครับ
ถุงยางอนามัย ช่วยได้แน่ ถ้าใช้ถูกทาง
อย่างไรก็แล้วแต่ ถุงยางอนามัยยังช่วยคุ้มครองโรคติดต่อทางเพศชมรมโดยมากได้อย่างดีเยี่ยม แค่เพียงจะต้องใช้ให้ถูกแนวทาง
ควรเลือกขนาดของถุงยางให้เหมาะกับขนาดของอวัยวะเพศของคุณผู้ชาย ถ้าหากยังคลุมเคลือว่าจะต้องใช้ขนาดไหน ให้ทดลองซื้อมาให้หลายๆขนาด แล้วสังเกตความแน่นในการสวม
ไม่สมควรสวมถุงยางเกิน 2 ชิ้นต่อการใช้ 1 ครั้ง เพราะเหตุว่าอาจส่งผลให้ถุงยางอนามัยเสียดสีกันจนกระทั่งขาดได้ง่าย
ควรใช้ถุงยางอนามัย 1 ครั้งต่อ 1 ชิ้น ให้เสร็จให้ทิ้งเลย ห้ามเก็บมาใช้ต่อ
สามารถใช้สารหล่อลื่นทาฉาบข้างนอกถุงยางอนามัย เพื่อการสอดใส่เป็นไปได้โดยง่ายมากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระนั้นควรที่จะทำการเลือกใช้จำพวกเจล ไม่สมควรเลือกใช้แบบเป็นน้ำมัน เพราะว่าอาจททำให้ถุงยางอนามัยชำรุดทรุดโทรม หรือฉีกจนขาดได้
ควรจะรูดอากาศออกจากกระเปาะของถุงยางให้หมดก่อนสวม เพราะอากาศด้านในถุงยางอนามัยอาจจะทำให้ถุงยางแตก หรือขาดได้ง่ายเพิ่มขึ้น
หลังทำกิจกรรมเสร็จเป็นระเบียบ ฝ่ายชายควรถอนอวัยวะสืบพันธุ์ออกมาก่อนที่จะของลับจะอ่อนตัว ปกป้องถุงยางอนามัยหลุดเข้าไปในช่องคลอดของฝ่ายหญิง
กามโรค หรือโรคติดต่อทางเพศสัมประเภท ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
อาการทางผิวหนังอะไรบ้างที่เข้าข่ายต้องสงสัย ว่าเกิดขึ้นจากโรคติดต่อทางเพศสัมจำพวก หาคำตอบถึงที่เหมาะนี่จ้ะ
1.หูดหงอนไก่
ติ่งเนื้องอกของผิวหนัง ที่เกิดขึ้นจาก Human PApilloma Virus ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์
ไม่เพียงแค่กำเนิดได้ที่อวัยวะสืบพันธุ์ ยังกำเนิดพอดีบริเวณลิ้น ในลำคอ
2. โรคหนองใน
โรคหนองในมีสาเหตุจากการตำหนิดเชื้อแบคทีเรีย โกโนเรีย
อาการในเพศชายคือมีหนองออกมาจากปลายอวัยวะเพศ
ส่วนในเพศหญิงจะมีตกขาวขุ่น ปากมดลูกอักเสบ
3. เริมที่อวัยวะสืบพันธุ์
อาการจะเป็นกรุ๊ปของตุ่มน้ำ แตกออกเป็นแผลแสบ
4. แผลที่อวัยวะสืบพันธุ์จาก ซิฟิลิส
แผลที่อวัยวะสืบพันธุ์จะเกิดขึ้นในสามสัปดาห์ข้างหลังติดเชื้อโรค
5. ผมหล่นจากโรคซิฟิลิส
มีสาเหตุมาจากโรคซิฟิลิสระยะลำดับที่สองเป็นภายในสองเดือนแรกหลังติดเชื้อโรค
ลักษณะผมตกเป็นหย่อมราวกับมอดแทะ
6. ผื่นที่มือจากซิฟิลิส
พบในโรคซิฟิลิส ระยะที่สองเช่นเดียวกัน
โดยจะเป็นผื่นสีทองแดงมีสะเก็ด ที่มือเท้า
7.หูดข้าวสุก
เป็นตุ่มขาวขุ่นมีรอยบุ๋มตรงกลางเหมือนสะดือ
8.กามโรค
ข้างหลังมีการเสี่ยง ไม่เกินสองอาทิตย์
จะกำเนิดตุ่ม แตกเป็นแผลตูดแผลเลอะเทอะ
9.โรคฝีมะม่วง
มีต้นเหตุมาจากการต่อว่าดเชื้อแบคทีเรียที่ติดต่อทางเพศสมาคม
เกิดเป็นฝีที่ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ
10 หูดที่ลิ้น
โรคติดต่อทางเพศชมรมสามารถกำเนิดอาการที่ช่องปากได้ในกรณีติดต่อจากกระบวนการทำ oral sex
โรคอะไรบ้างสามารถติดต่อได้ทางเพศ
-โรคเอดส์ ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่องติดเชื้อโรคฉวยโอกาส
-โรคหนองใน ผลกระทบดังเช่นว่าติดเชื้อโรคในอุ้งเชิงกราน ต่อมลูกหมากอักเสบ ติดเชื้อกระจายทั่วร่างกายเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อหุ้มห่อหัวใจอักเสบได้
-โรคหนองในเทียม มีการติดเชื้อที่อุ้งเชิงกราน ต่อมลูกหมากอักเสบ ตามมาได้
-โรคซิฟิลิส กำเนิดแผลที่อวัยวะสืบพันธุ์ ถ้าเกิดมิได้รับการรักษาระยะสุดท้ายทำให้มีการเกิดโรคที่ศีรษะดวงใจ ระบบประสาทได้
-กามโรค กำเนิดเป็นแผล ก้อนหนอง แผลเป็น ท่อฉี่ตีบตันได้ เพื่อมองรูป
-โรคฝีมะม่วง กำเนิดเป็นแผลติดเชื้อ แพร่กระจายมีหนองหนองอาจแตกออกเป็นท่อ ระบายหนองออกสู่ด้านนอก
-เริม เป็นแผลที่อวัยวะเพศเป็นๆหายๆไม่มีการดูแลและรักษาที่หายขาด
-พยาธิช่องคลอด มีตกขาวผิดปกติ ท่อปัสสาวะอักเสบ ต่อมลูกหมากอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ
-ติดเชื้อโรคแบคทีเรียในช่องคลอด ตกขาวมีสีและกลิ่นไม่ดีเหมือนปกติ
-โลน เป็นตุ่มคันจากตัวโลนรอบๆของลับ
-หูดหงอนไก่ เกิดเป็นก้อนหูดซึ่งหลังการดูแลและรักษายังสามารถกลายเป็นได้หลายครั้ง เพิ่มโอกาสการเกิดโรคมะเร็งทวารหนัก มะเร็งปากมดลูก
-หูดข้าวสุก เกิดเม็ดก้อนหูดข้าวสุกรอบๆผิวหนังที่ติดโรค สามารถแพร่กระจายในตนเองได้โดยการเกา
 
 วิธีเบื้องต้น สำหรับการรักษาหูดด้วยตัวเอง สามารถทำได้เองที่บ้าน (เป็นวิธีการที่ยังไม่ได้รับการรับรอง)

  • การกระตุ้นแอนติบอดี ด้วยการใช้ก้อนน้ำแข็งเช็ดบริเวณที่เป็นหูดกระทั่งรู้สึกชา ต่อจากนั้นให้ใช้เข็มฆ่าเชื้อจิ้มลงไปในหูดลึกๆหลายๆครั้ง ซึ่งแนวทางลักษณะนี้จะเป็นการนำเชื้อไวรัสไปสู่กระแสเลือดเพื่อร่างกายมานะต่อสู้กับมัน ทำให้หูดหายไปได้สุดท้าย วิธีการแบบนี้การนี้อาจได้ผลดีมากมายสำหรับบางบุคคล โดยยิ่งไปกว่านั้นคนที่มีหูดจำนวนมาก เนื่องจากว่าการจิ้มหูดเพียง 1 ตุ่มบนร่างกายจะช่วยให้ร่างกายพบหูดตุ่มอื่นๆแล้วก็ตรงเข้าไปทำลายได้ในทันที
  • ทาวิตามินซี ให้ใช้วิตามินซี 1 เม็ดนำมาบดแล้วหยดน้ำลงไปเพื่อได้เป็นยาป้ายข้นๆจากนั้นให้ทายาลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ทิ้งเอาไว้ภายในตอนกลางวัน รวมทั้งเมื่อถึงในตอนกลางคืนให้แกะออกเพื่อผิวได้หายใจ
  • แอสไพริน ให้ใช้ยาแอสไพริน 2-3 เม็ดเอามาบดให้รอบคอบ หยดน้ำลงไปเล็กน้อย แล้วนำยาที่ได้มาป้ายลงบนหูด จากนั้นให้นำปลาสเตอร์จำพวกติดแน่นมาปิดทับทิ้งเอาไว้ 1 คืน (ในยาแอสไพรินจะมีกรดซาลิไซลิกที่ช่วยกัดหูดได้)
  • เบตาดีน ให้ทาเบตาดีนลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ทิ้งเอาไว้ตรงเวลา 1-2 วัน หลังจากนั้นแล้วก็ค่อยเปลี่ยนปลาสเตอร์ยา
  • ยาสีฟัน ให้ทายาสีฟันลงบนหูดแล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ยาชนิดติดแน่น ทิ้งไว้ราวๆ 1 คืน โดยให้ทำซ้ำไปเรื่อยตราบจนกระทั่งหูดหายไป
  • น้ำมันวิตามินอี ให้ฉีกแคปซูลวิตามินอีแล้วถูน้ำมันลงบนหูดเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ แล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ในช่วงเวลาเช้า รวมทั้งแกะออกในช่วงเวลากลางคืนเพื่อให้ผิวได้หายใจ
  • น้ำมันละหุ่ง ให้ทาน้ำมันละหุ่งลงบนหูดโดยใช้สำลีก้านวันละ 2 ครั้ง ซึ่งกรดในน้ำมันละหุ่งจะสามารถกัดเซาะหูดได้ และใช้ได้ผลในด้านที่ดีกับหูดที่มีขนาดเล็กแบนบนบริเวณใบหน้าหรือหลังมือ
    ครั้งทรีออยล์ ให้ทาทีทรีออยล์ลงบนหูดในปริมาณบางส่วน แล้วปิดทับด้วยปลาสเตอร์ โดยให้ทำอย่างน้อยเป็นเวลา 3 อาทิตย์
  • น้ำมะนาว ให้บีบน้ำมะนาวลงบนหูด แล้วนำหอมใหญ่สดสับมาวางทับไว้ ให้ทำเช่นนี้ราวๆ 30 นาที วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 2-3 อาทิตย์
  • เปลือกของพืชเชื้อสายส้ม ให้ปอกมะนาวหรือเลมอนบางๆจนได้ขนาดใหญ่กว่าหูดบางส่วน แล้วปิดทับลงบนหูดโดยใช้ปลาสเตอร์ชนิดติดแน่นหรือเทปกาวติดไว้อีกครั้ง แล้วให้เปลี่ยนเปลือกใหม่ทุกวัน หลังจากนั้นราวๆ 1 สัปดาห์ หูดก็จะหลุดออกมา
    ห่วงใยรอต ให้นำแคร์รอตมาหั่นเป็นชิ้นๆขูดแคร์รอตจนได้เนื้อละเอียด แล้วเติมน้ำมันมะกอกลงไปพอให้เป็นยาป้าย ต่อจากนั้นนำมาทาลงบนหูด 2 ครั้งต่อวัน ตรงเวลา 30 นาที โดยให้ทำแบบนี้ต่อเนื่องกันตรงเวลา 2-3 สัปดาห์
  • มะเดื่อ ให้นำมะเดื่อมาบดแล้วป้ายลงบนหูดทิ้งไว้ราวๆ 30 นาที โดยให้ทำเช่นนี้ทุกวี่วัน ตรงเวลา 2-3 สัปดาห์
  • ใบโหระพา ให้ใช้ใบโหระพาสดนำมาบดแล้วปิดทับลงบนหูด โดยใช้เทปปิดแผลชนิดกันน้ำพันเอาไว้ ให้ทำเช่นนี้ทุกๆวันตรงเวลา 1 อาทิตย์ แล้วสารทำลายเชื้อไวรัสในใบโหระพาจะช่วยฆ่าหูดให้ท่านเอง
  • เปลือกกล้วย ให้ใช้ข้างในของเปลือกกล้วยเช็ดรอบๆที่เป็นหูดเสมอๆ เนื่องจากว่าโพแทสเซียมในกล้วยอาจช่วยทำให้หูดหายได้เร็วเพิ่มขึ้น หรืออีกแนวทางหนึ่งบางทีอาจนำเปลือกกล้วยมาตัดให้มีขนาดเล็กกว่าเทป เอาด้านในของเปลือกกล้วยปิดทับลงบนหูด แล้วจึงนำเทปผ้ามาปิด ปล่อยทิ้งเอาไว้ตรงเวลา 24 ชั่วโมง โดยให้ทำแบบนี้วันแล้ววันเล่าจวบจนกระทั่งหูดจะหายไป
  • เบกกิ้งโซดา ให้ผสมผงฟูหรือเบกกิ้งโซดาแล้วก็น้ำมันละหุ่งเข้าด้วยกันกระทั่งเป็นเนื้อครีม แล้วหลังจากนั้นให้เอามาทาลงบนหูดในเวลากลางคืนโดยใช้ปลาสเตอร์ยาปิดเอาไว้ แล้วจึงแกะปลาสเตอร์ออกในตอนเช้าวันต่อไป วิธีนี้สามารถทำอีกครั้งได้เรื่อยๆตามความเหมาะสม
  • แอปเปิ้ลไซเดอร์วีนีการ์ (Apple Cider Vinegar – ACV) ให้ใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล แล้วนำสำลีก้อนขนาดพอให้ปิดหูดได้จุ่มลงน้ำส้มสายยก จากนั้นให้ปิดด้วยปลาสเตอร์ยาทิ้งไว้ 1 คืน โปรดจดจำไว้ว่า วิธีนี้อาจก่อให้รู้สึกแสบได้ จะต้องแปลงสำลีวันแล้ววันเล่า แล้วก็ติดไว้ทุกคืน หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์เม็ดหูดจะเริ่มหลุดลอกออก
  • จุ่มหูดลงไปในน้ำสับปะรด ด้วยเหตุว่าในน้ำสับปะรดจะมีเอนไซม์ที่ช่วยละลายหูดได้
  • น้ำเลี้ยงจากต้นแดนดิไลออน (Dandelion) ให้เลือกต้นแดนดิไลออนสดๆมาหนึ่งต้น หักก้านออกเป็น 2 ท่อนแล้วก็ใช้น้ำเลี้ยงสีขาวขุ่นที่ไหลซึมออกมาจากก้านทาลงบนหูด โดยให้ทำแบบนี้วันละ 3-4 ครั้ง แล้วหลังจากนั้นให้ใช้หินภูเขาไฟมาขูดเพื่อเอาชั้นผิวที่ตายแล้วออก โดยให้ทำอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งหูดหายไป
  • น้ำร้อน เป็นวิธีฐานรากโดยการจุ่มรอบๆที่เป็นหูดลงในน้ำที่ร้อนจัดๆซึ่งความร้อนจะมีผลให้หูดนุ่มขึ้นและอาจช่วยฆ่าเชื้อโรคไวรัสได้ แม้กระนั้นต้องระวังอย่าให้น้ำร้อนเกินจนถึงลวกเท้า (ชี้แนะว่าอุณหภูมิของน้ำควรต่ำลงยิ่งกว่า 60 องศาเซลเซียส)
  • น้ำร้อนแล้วก็หินภูเขาไฟ ให้แช่หูดลงในน้ำร้อนจนกระทั่งหูดเริ่มนุ่ม แล้วใช้หินภูเขาไฟหยาบสำหรับผลัดเซลล์ผิวขัดรอบๆหูดจนตราบเท่าพบชั้นผิวจริง จุ่มสำลีก้านลงในน้ำยาฟอกแล้วเอามาแตะต้องบนหัวหูดประมาณ 15 นาที (บางทีอาจแสบบ้างนิดหน่อย) เสร็จแล้วให้ล้างออกโดยการใช้นำที่สะอาด
  • น้ำร้อนและก็เกลือทะเล ให้แช่รอบๆที่เป็นหูดลงในน้ำเกลืออุ่นๆเป็นเวลา 10-15 นาที เพื่อหูดนุ่มขึ้น แล้วให้ขูดเอาชั้นผิวที่ตายแล้วบนหูดออกไปโดยใช้ตะไบเล็บหรือหินภูเขาไฟ จึงนำเกลือทะเลเม็ดใหญ่มาถู ติดปลาสเตอร์ยาหรือเทปทับลงไปเพื่อให้เม็ดเกลือยังอยู่กับที่ แล้วก็คอยแปลงปลาสเตอร์ยาใหม่ภายหลังจากอาบน้ำ เสร็จแล้วให้ล้างมือให้สะอาดเพื่อคุ้มครองป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อหูด
  • ทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน เป็นต้นว่า กระเทียม มันเทศ เมล็ดทานตะวัน ขนมปังโฮลเกรน ข้าว อื่นๆอีกมากมาย
  • รับประทานกระเทียมชนิดแคปซูล โดยให้รับประทานวันละ 2 ครั้ง ติดต่อกันหลายสัปดาห์ แล้วหูดจะเริ่มหลุดออกในตอน 1-2 อาทิตย์แรก แต่ให้ทานถัดไปอย่างต่อเนื่องจนกว่าหูดจะหายหมด รวมทั้งให้นำน้ำมันกระเทียมมาทาทับบริเวณที่เป็นหูดโดยประมาณ 1-2 ครั้งต่อวัน ตรงเวลา 1 เดือน

 
ส่วนคนที่ต้องการจะสั่งยาไปใช้พื้นฐานผมจะเสนอแนะและชี้แจงรายละเอียดตัวยาที่สมควรครับ ด้วยเหตุว่าลักษณะของหูดแต่ละคนเป็นแตกต่าง บางบุคคลเป็นแบบแบนราบ แบบเส้นแหลมๆยื่นออกมา แล้วก็เป็นแบบติ่งเนื้อกระจ่างแจ้ง และยังมีกรณีหญิง เพศชาย ข้างนอกแล้วก็ข้างใน ตรงนี้เองที่เป็นปัจจัยต่างๆที่จำต้องเลือกใช้ยาให้ถูกต้องแหละสมควรเพื่อการดูแลและรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและได้ผลครับ มาเริ่มกันทีละตัวครับ
1. ยา aldara ยาชนิดนี้เป็นยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นให้ผิวหนังรอบๆที่ดูดซับยาสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อหูดเหมาะสมกับคนที่เป็นระยะแรกๆรวมทั้งสังเกตุเห็นไว หูดยังเป็นเพียงเม็ดคล้ายๆผื่นช่วงเวลาโดยประมาณ 1-2 อาทิตย์ สามารถใช้ยา aldara เพียงตัวเดียวแต้มวันเว้นวันได้เลยขอรับ ยังเพียงพอทำให้หูดแห้งลงได้ด้วยเหตุว่ามีขนาดเล็ก โดยธรรมดาจะใช้ประมาณ3-4 ซองนะครับ ทาต่อเนื่องวันเว้นวัน
 (ยาตัวนี้หาคนใดกันเป็นอยู่ตอนนี้และก็หาซื้อมิได้สามารถติดต่อสั่งมาได้ครับผม ยินดีจัดส่งให้โดยไม่คิดค่าจัดส่งนะครับ คิดเฉพาะค่ายา ซองละ 220 บาทเท่านั้นนะครับ )
2 ยา Podo ยาตัวนี้เป็นยามาตรฐานที่ใช้รักษาหูดหงอนไก่กันแพร่หลาย ทั้งยังคลีนิค รวมทั้ง รพ.ต่างๆเหมาะกับหูดที่เริ่มจะขยายตัวเป็นติ่งชัดแจ้ง ระยะมากยิ่งกว่า 1 เดือนขึ้นไป ควรใช้ podo แต้มเพื่อหูดเปื่อยและก็หลุดออกอย่างเร็ว รวมทั้งทันทีทันควันก่อนที่จะลุกลามเพิ่มเกินกว่าจะรักษาด้วยการใช้ยาแต้มหูได้ ส่วนใหญ่จะยุ่ยและหลุดภายใน 3 ครั้งและเมื่อหลุดหมดก็จะสามารถทา aldara ต่อได้เพื่อกันไม่ให้กลับมาเกิดซ้ำ แม้กระนั้นหากเวลานี้จะใช้ aldara รักษาบางคนจำเป็นต้องใช้กันเป็นกล่อง มากยิ่งกว่า 10 ซองกว่าหูดจะเริ่มเปื่อยยุ่ย แล้วก็ยา aldara ไม่สมควรใช้สม่ำเสมอนานกว่า 16 อาทิตย์อ้างอิงตามวิธีการใช้ เนื่องด้วยมีสารดูดซึมควรใช้แต่พอควรตามความเหมาะสม
 (ธรรมดาผมจะคนที่เป็นระยะนี้จะมีเยอะมากๆผมจะแนะนำให้ใช้อย่างละ 1 ตัว คู่กัน โดยใช้ podo 1 ขวด และ aldara เพียงแต่ 1 ซองเท่านั้น ต้องการจะให้สั่งไปเท่าที่มีความจำเป็นจริงๆถ้าหากยาหมดค่อยติดต่อสั่งมาเพิ่มเป็นครั้งๆไปครับผม เนื่องจากผมไร้คุณค่าจัดส่งจึงไม่จำเป็นที่จะต้องสั่งไปกักตุนไว้นะครับ)

3. Wart no more ตอนนี้เป็น wart control ยาชนิดนี้้นับว่าเป็นยารักษาหูดหงอนไก่ที่เยี่ยมที่สุดในตอนนี้ ครับผม
ยาตัวนี้เป็นยารักษาหูดที่ได้ผลแล้วก็ควบคุมผู้กระทำระจายเชื้อได้ดิบได้ดีมากเหตุเพราะเป็นยาที่รวมข้อดีของทั้ง 2 ตัวแรกไว้ด้วยกัน รวมทั้งเป็นยาตัวเดียวที่มีตัวยาควบคุมเชื้อไวรัส HPV ได้ทำให้โอกาสกลับมาเป็นซ้ำแทบไม่มีเลยนอกจะเมื่อหายแล้วไปติดเชื้อมาโดยตรงจากคนที่มีเชื้อขอรับเป็นยาที่ได้รับการยินยอมรับรวมทั้งแพร่หลายในอเมริกา และกำลังเริ่มจะมีแพร่หลายใน โรงพยาบาลเอกชน แต่โดยรวมทุกจังหวัดยังจัดว่าน้อยเพราะว่าตัวยาที่แพงสูง ไม่สามารถที่จะเข้าถึงคนที่มีงบจำกัด ( ยาผมจะสั่งไว้จำนวนนึงสำหรับเพียงพอที่จะจัดส่งได้ในแต่ละเดือนครับผม ยาขวดละ 1600.- แม้คนไหนกันสนใจสั่งก็ลองติดต่อมาและสอบถามผมก่อนขอรับเพราะเหตุว่าผมนำเข้ามาทีละไม่มากมายช่วงสิ้นเดือนบางครั้งอาจจะไม่มีของโดยทั่วไปผมจะจัดส่งหมดตั้งแต่ช่วงเวลากลางเดือนแรกครับผม แม้กระนั้นแม้ผู้ใดมีบัตรเครดิต สามารถสั่งซื้อได้จาก amazon จะมีจัดจำหน่ายปลีกเป็นขวดๆครับผม ผมจะแนบลิงค์ตัวอย่างไว้ให้ขอรับ
 
ผลข้างเคียงของโรคหูดหงอนไก่

  • นอกจากลักษณะของรอยโรคที่ไม่น่ามองแล้ว สำหรับเพื่อการติดเชื้อโรคไวรัสสายพันธุ์ร้ายแรง ยกตัวอย่างเช่น สายพันธุ์ 16, 18 ยังอาจทำให้กำเนิดโรคมะเร็งในระบบสืบพันธุ์รวมทั้งมะเร็งทวารหนักได้ด้วย ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของรอยโรค ตัวอย่างเช่น อาจมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีต้นเหตุจากการมีหูดข้างในปากมดลูก
  • ในหญิงท้อง หูดหงอนไก่อาจโตขึ้นกระทั่งกีดขวางคลอดจนถึงทำให้เด็กคลอดออกมาตรากตรำ หรือเชื้ออาจเข้าไปในปากหรือคอของเด็กในขณะคลอด ส่งผลให้เกิดหูดในกล่องเสียงซึ่งมีลักษณะอาการต่างๆนาๆ ตั้งแต่เสียงแหบไปจนถึงมีการอุดกันของกล่องเสียง ทำให้เด็กออกเสียงหรือหายใจไม่ได้
  • ในกรุ๊ปชายรักชายจะเจอหูดหงอนไก่รอบทวารหนักหรือในทวารหนักได้มากกว่าคนทั่วๆไป ซึ่งการดูแลรักษาในตำแหน่งดังกล่าวมาแล้วข้างต้นจะทำได้ยากมากมาย ด้วยเหตุว่าไม่ว่าจะใช้ยาหรือใช้แนวทางการผ่าตัด หูดหงอนไก่ก็มักจะเกิดซ้ำได้บ่อยครั้ง การได้รับการดูแลรักษาหลายหนจึงอาจทำให้กำเนิดทวารหนักตีบรวมทั้งมีปัญหาสำหรับการขับถ่ายตามมาได้ ส่วนก้อนที่อยู่ลึกเข้าไปในทวารหนักอาจโตมากมายกระทั่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการท้องผูก ในบางครั้งอาจมีเลือดออกหรือบิดขั้วจนจำต้องผ่าตัดฉุกเฉินหรือจำเป็นต้องสูดดมยาสลบ นอกเหนือจากนั้นยังพบได้ทั่วไปการตำหนิดเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ 16 ร่วมด้วยอยู่เสมอๆซึ่งจะสโมสรกับการเกิดโรคมะเร็งทวารหนักได้
  • กำเนิดหูดหงอนไก่ที่ทางเดินหายใจ (Recurrent Respiratory Papillomatosis – RRP)เป็นตั้งแต่โพรงจมูกลงไปจนกระทั่งถุงลมในปอด พบได้ทั่วไปได้มากที่สุดที่กล่องเสียง ทำให้ผู้ป่วยมีลักษณะอาการเสียงแหบหรือเกิดการอุดกันทางเท้าหายใจจนกระทั่งเสียชีวิตได้ ในเด็กมักเป็นผลมาจากการตำหนิดเชื้อจากแม่ในระหว่างการคลอดตามที่กล่าวมา ส่วนในผู้ใหญ่มักพบว่าเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการร่วมเพศทางช่องปาก หากแม้ภาวการณ์นี้จะเป็นสภาวะที่พบได้นานๆครั้ง (พบได้ราวๆ 1-4 ต่อประชากร 100,000 คน) แต่ว่าถ้ากำเนิดแล้วจะสร้างความทุกข์ทรมานต่อผู้ป่วยอย่างมาก
  • ประเด็นการรักษาที่เรื้อรังแล้วก็ค่าใช้สอยที่เกิดขึ้นอย่างมหาศาล เพราะว่าในผู้ใหญ่มักจะจบด้วยการผ่าตัดเพื่อลดขนาดของก้อนหูดเพื่อช่วยเรื่องทางเดินหายใจ ซึ่งการผ่าตัดอย่างงี้จะทำเป็นยากมากมายตั้งแต่ขั้นตอนการสูดดมยาสลบ ที่คนไข้อาจขาดอากาศหายใจได้เป็นบางช่วง นอกเหนือจากนั้นตามธรรมชาติแล้วรอยโรคก็มักจะกระจัดกระจายไปทั่ว ก็เลยทำให้ไม่สามารถที่จะกำจัดออกหมดได้ด้านในครั้งเดียว และอาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดมากยิ่งกว่า 5 ครั้งในชีวิต ส่วนในเด็กมักจำเป็นที่จะต้องได้รับการผ่าตัดโดยเฉลี่ย 4.4 ครั้งต่อปี รวมแล้วราวๆ 19.7 ครั้งในช่วงชีวิต จึงนำไปสู่ผลข้างเคียงตามมาคือแผลเป็น ได้ผลทำให้หลอดลมตีบรวมทั้งหายใจได้ตรากตรำในระยะยาว
ต้องการสั่งซื้อยา ปรึกษาแนะนำบอกต่อ เบอร์ 092-9899456 คุณนิธิพล
#หูดหงอนไก่ #ขายยารักษาหูด #หมอแนะนำ #หมอช่วยได้ #ส่วนตัว

Tags : ยารักษาหูดหงอนไก่



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
Petchchacha
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25869


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2017, 04:03:48 pm »

ไม่สนับสนุนการ [url=http://www.degreethai.com/]ซื้อวุฒ

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Related Topics
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
wartscaring ยารักษาวิธีป้องกันวิธีรักษาโรคหูดหงอนไก่ ตุ่มที่อวัยวะเพศ
สินค้าอื่นๆ
Petchchacha 0 1952 กระทู้ล่าสุด พฤศจิกายน 08, 2015, 12:44:10 am
โดย Petchchacha
wartscaring การรักษาป้องกันโรคหูดหงอนไก่ และยารักษา
สินค้าอื่นๆ
Navaphon11991 0 197 กระทู้ล่าสุด ธันวาคม 08, 2015, 12:07:15 pm
โดย Navaphon11991
wartscaring โรคหูดหงอนไก่ การรักษา รักษาหายได้ ลดโอกาสเป็นซ้ำ
สินค้าอื่นๆ
Saichonka 1 184 กระทู้ล่าสุด พฤศจิกายน 17, 2016, 11:09:55 am
โดย Navaphon11991
wartscaring รักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ วิธีดูแลรักษา ยารักษาหายได้ ไม่ตาย
สินค้าอื่นๆ
Saiswatka 0 151 กระทู้ล่าสุด สิงหาคม 08, 2017, 01:35:50 pm
โดย Saiswatka
wartscaring รักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ วิธีป้องกันวิธีรักษา ยารักษาหายได้ ลดโอกาสเป็น
สินค้าอื่นๆ
Petchchacha 0 142 กระทู้ล่าสุด สิงหาคม 27, 2017, 09:57:50 am
โดย Petchchacha
wartscaring แนะนำรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ ป้องกัน ยารักษาหายได้ ลดโอกาสเป็นซ้ำ
สินค้าอื่นๆ
itopinter_111 0 139 กระทู้ล่าสุด พฤศจิกายน 29, 2017, 11:22:16 am
โดย itopinter_111
wartscaring เสนอแนะรักษาตุ่ม/หูด/หงอนไก่ วิธีป้องกันวิธีรักษา ยารักษาหายได้ ใช้ย
สินค้าอื่นๆ
Treekaesorn 0 107 กระทู้ล่าสุด มกราคม 20, 2018, 07:48:45 pm
โดย Treekaesorn
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ