สัตวว์ตถุ เต่าในประเทศไทย

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัตวว์ตถุ เต่าในประเทศไทย  (อ่าน 9 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หนุ่มน้อยคอยรัก007
Jr. Member
**

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 76


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 20, 2017, 10:05:10 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3.jpg" alt="" border="0" />
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/]เต่าในประเทศไท[/b]
เต่าที่เจอในประเทศไทย (ไม่รวมตะพาบ) มีขั้นต่ำ ๒๒ ประเภท จัดอยู่ใน ๕ วงศ์ เป็น
๑.สกุลเต่าสมุทร(Cheloniidea) เจอ ๔ ชนิดเป็น เต่าตนุ(เต่าแสงแดด) เต่าหญ้า เต่ากระ และเต่าหัวโต เป็นเต่ากระดองแข็ง มีแผ่นเกล็ดปกคลุม อาจเรียงต่อกัน(อาทิเช่น เต่าตนุ) หรือซ้อนกันบางส่วน (ตัวอย่างเช่น เต่ากระ) ขาหน้าแผ่เป็นครีบสำหรับว่ายน้ำ ขาข้างหลังเป็นครีบกว้างสำหรับใช้เป็นหางเสือ
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพ[/b]
๒.สกุลเต่าเฟื่อง(dermochelyidae) เจอเพียงแค่ประเภทเดียว คือ เต่าเฟือง (มักเรียกกันผิดเป็น “เต่ามะเฟือง”) เป็นเต่ากระดองอ่อน มีสันยาวตามตัวบนหลังจากคอลงไปถึงตูด ๕ สัน ข้างตัวอีกข้างละสัน รวมเป็น ๗ สัน ใต้ท้องมีอีก ๕ สัน สันที่ใต้ท้องจะเลือนหายไปเมื่อแก่ขึ้น ส่วนสันบนหลังหายไปบ้างเมื่อเทียบกับอายุยังน้อย บนหัวตัวอ่อนมีเกล็ด แต่ว่าจะหายไปเมื่อโตขึ้น มีหนังปกคลุมแทน ขาหน้าแผ่เป็นครีบสำหรับว่าย ยาวกว่าขาของเต่าสมุทรอื่นๆขาหลังเป็นครีบกว้างๆสำหรับใช้เป็นหางเสือ แล้วก็ใช้ขุดหลุมเมื่อจะตกไข่
๓.สกุล[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%94/]เต่าน้ำจื[/b](Emydidae) พบอย่างน้อย ๑๓ ชนิด ตัวอย่างเช่น เต่ากระอาน เต่าลายตีนเป็ด เต่าหับ เต่าแดง (เต่าใบไม้) เต่าหวาย เต่าบัว เต่าจักร [url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2/]เต่าที่น[/b] เต่าจัน เต่าปากเหลือง เต่าดำ เต่าทับทิม แล้วก็เต่าแก้มแดง เต่าในวงศ์นี้สามารถหดหัวเข้าไปไว้ในกระดองได้หมด ขาแบน นิ้วรวมทั้งเล็บยาวกว่าเต่าบก ระหว่างนิ้วมีแผ่นพังผืดขึงไม่มากมายก็น้อย บนหัวคลุมด้วยหนัง ไม่เป็นเกล็ดเสมือนหัวเต่าบก แต่บริเวณกำดันนั้น หลังบางทีอาจลายทำให้ดูเหมือนเกล็ด

๔.ตระกูลเต่าปูลู(Platysternidae) เจอในประเทศไทยเพียงแค่ชนิดเดียว เป็นเต่าปูลู มีลักษณะสำคัญคือกระดองบนกับกระดองด้านล่างเป็นคนละชั้น ยึดติดกันด้วยพังผืด กระดองทั้งสองแบนเข้าพบกันมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่หน้าอก หัวโต หดหัวเข้าไปในกระดองมิได้ หัวหุ้มด้วยแผ่นซึ่งไม่แบ่งได้ชิ้นเกล็ดเสมือนเต่าอื่น ระหว่างนิ้วมีพังผืดบ้าง แต่ไม่เต็มนิ้ว นิ้วมีเล็บแหลมทุกนิ้ว เว้นนิ้วก้อย หางยาวมากมาย มีเกล็ดรูปสี่เหลี่ยมปกคลุมบนหาง
๕.ตระกูล[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%81/]เต่าบ[/b](Testudinidae) พบ ๓ จำพวกหมายถึงเต่าหก เต่าเดือย และ เต่าเหลือง เต่าในวงศ์นี้แตกต่างจากเต่าน้ำในตระกูลอื่นๆตรงที่ขา ๔ กลม ไม่มีพังผืดยึดระหว่างนิ้ว เนื่องจากว่าไม่จำเป็นต้องใช้ขาว่ายน้ำ มีเกล็ดบนหัวรวมทั้งที่ขา



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ