Advertisement
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81.png" alt="" border="0" />สมุนไพรแมงลักค[/size][/b]
แมงลักค้าง Hyptis suaveolens (L.) Poit.บางถิ่นเรียก แมงลักคา (จังหวัดชุมพร) การา (สุราษฎร์)ไม้ล้มลุก สูง 0.5-1.5 มัธยม แตกกิ่งก้านสาขามากมาย ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม มีขน มีกลิ่นหอมยวนใจแรง ใบ ออกตรงข้าม รูปไข่ถึงรูปไข่กลับค่อนข้างกว้าง กว้าง 2-4 ซม. ยาว 3-5 ซม. ปลายมน หรือ ออกจะแหลม โคนใบกลม หรือ ตัด ชอบเบี้ยวบางส่วน ขอบจักเป็นฟันเลื่อยเล็กๆไม่เรียบร้อย ด้านบนมีขนห่างๆด้านล่างมีขนหนาแน่น ก้านใบ ยาว 0.5-3 ซม. มีขน
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร ดอก ออกเป็นช่อตามงามใบ ช่อหนึ่งมี 2-5 ดอก ก้านช่อดอก ยาว 0.5-1 เซนติเมตร มีขน ริ้วตกแต่งเล็กมีขนแข็งๆกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ยาว 5-5.5 ซม. ปากหลอดมีขนนุ่มยาว และมีหนามยาวแหลม 5 อัน ยาวเกือบเท่ากัน มีสันตามทางยาว 10 สัน กลีบดอกเชื่อมชิดกันเป็นหลอดเล็กๆปลายแยกเป็นปาก ปากบนมี 2 หยัก ปากด้านล่างมี 3 หยัก เกสรเพศผู้มี 4 อัน ก้านเกสรไม่ชิดกัน ผล รูปขอบขนานแคบ ยาว 1.2-1.5 มม. ปลายผลชอบเว้า ผิวมีรอยย่นเด่นอยู่ภายในหลอดกลีบเลี้ยงจะมีขนาดใหญ่ขึ้น ยาว 8-10 มิลลิเมตร
นิเวศน์วิทยา : เป็นวัชพืชขึ้นดังที่รกร้าง แล้วก็พบตามป่าดิบ ที่ความสูงไม่มากสักเท่าไรนัก
คุณประโยชน์ : ราก น้ำสุกรับประทานเป็นยาเจริญอาหาร และขับรอบเดือนต้น ตำเป็นยาพอก แก้โรคผิวหนังบางประเภท ยาชงจากต้นใช้เป็นยาขับเหงื่อ ตัวอย่างเช่นในผู้ที่เป็นหวัด ใบ ชงเป็นยาลดไข้ น้ำยางจากใบ รับประทานแก้ปวดท้อง ยอดอ่อนใช้แต่งรสอาหาร กระตุ้นแนวทางการทำงานของร่างกาย ขับเหงื่อ ขับนม และแก้หวัด
