นมผึ้งรวมทั้งคุณประโยชน์ที่น่าสนใจแล้วก็จำต้องลองหามาทานซักครั้ง

[Jeatnarong9898]

Advertisement

นมผึ้ง สำเร็จผลิตที่หลั่งออกมาจากต่อมไฮโปฟาริงจ์ (Hypopharyngeal Gland) ของผึ้งงาน นมผึ้งมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาวเหมือนนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวน้อย เป็นอาหารหลักของผึ้งราชินีและตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นสำหรับการเติบโต หลายประเทศใช้นมผึ้งในฐานะยารักษาโรค อาหารเสริม หรือแม้กระทั่งเป็นส่วนประกอบของครีมบำรุงและก็เครื่องแต่งตัว
นมผึ้ง
นมผึ้งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักราวๆ 60-70% และอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆตัวอย่างเช่น โปรตีน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ รวมทั้งกรดอะมิโน นอกจากนี้ ยังพบสารอื่นในนมผึ้ง เป็นต้นว่า กรดไขมันเอชดีเอ (10-Hydroxy-Trans-2-Decenoic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีหน้าที่สำหรับในการเติบโตของผึ้ง สารแอสิติเตียนลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ปฏิบัติภารกิจเกี่ยวข้องกับความรู้ความเข้าใจสึกแล้วก็กลไกการทำงานของร่างกาย รวมถึงฮอร์โมนเพศ ตัวอย่างเช่น เทสโทสเตอโรน โปรเจสเตอโรน ฯลฯ ทั้งนี้สถานที่ ภูมิศาสตร์ และก็สภาพภูมิอากาศเป็นตัวแปรที่ทำให้องค์ประกอบของนมผึ้งแตกต่างออกไป หลายๆคนเชื่อว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการวัยทอง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย รักษาเบาหวาน รวมทั้งแผลเบาหวาน ฯลฯ ทั้งยังยังเชื่อกันอีกว่าถ้าเกิดนำนมผึ้งทาที่หนังศีรษะบางทีอาจช่วยกระตุ้นการก้าวหน้าเติบของเส้นผมอีกด้วย ซึ่งคำกล่าวอ้างกลุ่มนี้จะเป็นจริงไหม แล้วก็มีหลักฐานด้านการแพทย์มาดน้อยเพียงใดที่จะช่วยยืนยันคุณประโยชน์ คุณประโยชน์ รวมทั้งความปลอดภัยของนมผึ้งที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยในการรักษาโรคกลุ่มนี้
คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากนมผึ้งที่อาจมีต่อร่างกาย
ทุเลาอาการวัยทอง อาการวัยทองคือปัญหาทางสุขภาพที่เกิดสังกัดเพศหญิงกลางคน เป็นเหตุให้เกิดอาการหลายชนิด อาทิเช่น ช่องคลอดแห้ง แสบร้อนหรือคันในช่องคลอด เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ฯลฯ อาการดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการใช้สารหล่อลื่น แต่สารหล่อลื่นส่วนมากจะออกฤทธิ์ได้เพียงแต่ชั่วครั้งคราว ซึ่งนมผึ้งมีคุณสมบัติต้านจุลินทรีย์ (Antimicrobial Activity) แล้วก็มีคุณลักษณะเหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน จากการศึกษาโดยให้สตรีวัยทองที่สมรสแล้วอายุ 50-65 ปี ปริมาณ 90 คน กรุ๊ปหนึ่งใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้ง 15% กลุ่มหนึ่งใช้ฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนประเภทครีมยี่ห้อหนึ่ง รวมทั้งอีกกลุ่มใช้สารหล่อลื่นทาบริเวณช่องคลอดตรงเวลา 3 เดือน พบว่าครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งมีประสิทธิภาพในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของหญิงวัยทองได้มากกว่าอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับฮอร์โมนตอบแทนเอสโตรเจนจำพวกครีมรวมทั้งสารหล่อลื่น ซึ่งจากผลการทดลองอาจจะบอกได้ว่าการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตแล้วก็ทุเลาอาการวัยทองที่เกี่ยวโยงกับช่องคลอดของเพศหญิงวัยทอง และก็ทางผู้ทำการวิจัยยังได้เจาะจงอีกว่าถ้าหากเพิ่มความเข้มข้นของนมผึ้งก็อาจจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เยอะขึ้นได้
ลดระดับไขมันในเลือด นมผึ้งมีส่วนประกอบของสารอาหารหลากหลายประเภท หนึ่งในนั้นเป็นกรดไขมันทางสายกลาง (Medium Chain Fatty Acid) รวมทั้งสารประกอบที่มีคุณลักษณะช่วยลดไขมันในเลือด ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาวิจัยที่ให้สตรีวัยทองสุขภาพแข็งแรงจำนวน 36 คนรับประทานนมผึ้งขนาด 150 มก. เป็นเวลา 3 เดือน โดยตรวจสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้กำเนิดโรคเส้นโลหิตรวมทั้งหัวใจ รวมทั้งระดับไขมันในเลือดอีกทั้งก่อนและก็ข้างหลังการทดสอบ พบว่ามีการเปลี่ยนของระดับไขมันในเลือดอย่างเป็นจริงเป็นจัง โดยที่ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ไม่ดี (LDL) ลดน้อยลง 4.1% ระดับคอเลสเตอรอลรวม (TC) น้อยลง 3.09% และระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ดี (HDL) มากขึ้น 7.7% จากผลของการทดลองอาจจะกล่าวว่าการกินนมผึ้งอาจมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดรวมทั้งบางทีอาจเป็นโอกาสหนึ่งสำหรับการควบคุมอาการวัยทองที่เกี่ยวเนื่องกับสภาวะไขมันในเลือดสูง
นอกจากนั้น ยังมีอีกการเรียนรู้หนึ่งที่ให้อาสาสมัครซึ่งมีสภาวะไขมันในเลือดสูงประเภทไม่ร้ายแรงจำนวน 40 คน กินนมผึ้งขนาด 350 มก.วันละ 9 แคปซูล ตรงเวลา 3 เดือนก็แสดงให้เห็นถึงระดับไขมันในเลือดที่ต่ำลงสิ่งเดียวกัน ทั้งยังยังช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศ (Dehydroepiandrosterone Sulphate: DHEA-S) รวมทั้งลดการเสี่ยงของการเกิดโรคเส้นเลือดรวมทั้งหัวใจได้อีกด้วย
บรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน อาการก่อนมีระดูมักส่งผลในทางลบกับสุขภาพของผู้หญิง บางโอกาสการดูแลและรักษาโดยไม่ใช้ยาก็อาจช่วยทุเลาให้อาการต่างๆได้ ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้นักศึกษาหมอจำนวน 110 คน กินนมผึ้งขนาด 1,000 มิลลิกรัมวันละ 1 ครั้ง โดยเริ่มในวันแรกที่มีประจำเดือน แล้วก็รับประทานสม่ำเสมอจนกระทั่งหมดระดูในรอบต่อไป พบว่าอาการก่อนมีประจำเดือนลดลง จากผลการทดสอบอาจจะบอกได้ว่าการรับประทานนมผึ้งติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือน อาจช่วยบรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือนได้
รักษาแผลโรคเบาหวาน แผลโรคเบาหวานเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในคนเจ็บเบาหวานที่ควบคุมอาการได้ไม่ดี ส่วนใหญ่จะพบแผลโรคเบาหวานที่รอบๆเท้า โดยยิ่งไปกว่านั้นนิ้วโป้งเท้าและปลายฝ่าเท้า ซึ่งนมผึ้งประกอบไปด้วยสารประกอบฟีนอลิคปฏิบัติหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ โปรตีนที่มีคุณสมบัติต้านทานเชื้อแบคทีเรีย แล้วก็กรดไขมันเอชดีเอ ที่ช่วยต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ ก็เลยคาดว่าบางทีอาจจะช่วยรักษาแผลเบาหวานได้ จากการศึกษาเล่าเรียนชิ้นหนึ่งให้คนป่วยที่มีแผลโรคเบาหวานที่ได้รับการดูแลและรักษาหลักตามเดิม ทายาที่มีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในรอบๆที่เป็นแผลแล้วก็ปิดแผลด้วยแผ่นปิดแผลชนิดไม่มีเชื้อเป็นเวลา 3 เดือนหรือกระทั่งแผลจะหาย รวมทั้งมีการประมวลผลสัปดาห์ละ 3 ครั้ง พบว่าใช้เวลาเฉลี่ย 41 วันจึงทำให้แผลหายดี และก็ค่าถัวเฉลี่ยของความยาว ความกว้าง และก็ความลึกของแผลต่ำลงวันละ 0.35 มิลลิเมตร 0.28 มิลลิเมตร และ 0.11 มม.ตามลำดับ จากผลวิจัยอาจจะกล่าวว่านมผึ้งอาจมีคุณภาพเป็นหนทางหนึ่งสำหรับการรักษาแผลเบาหวานควบคุ่ไปกับการรักษาหลัก อย่างไรก็ตามผลการศึกษาเรียนรู้ข้างต้นมีผู้เข้าร่วมการทดสอบเพียงแต่ 8 คนซึ่งบางทีก็อาจจะเล็กเหลือเกินที่จะสรุปสมรรถนะของนมผึ้งในการรักษาแผลเบาหวาน
แม้กระนั้นการเล่าเรียนชิ้นหนึ่งได้บอกให้เห็นผลของนมผึ้งที่แตกต่างกันออกไป โดยให้ผู้ที่มีแผลเบาหวานป้ายยาซึ่งมีความเข้มข้นของนมผึ้ง 5% ในรอบๆที่เป็นแผลเป็นเวลา 3 เดือนหรือจะกว่าแผลจะหายอย่างเดียวกัน แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่านมผึ้งมีคุณภาพสำหรับในการรักษาแผลเบาหวานได้มากกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก
เนื่องจากว่าการเล่าเรียนทั้ง 2 ชิ้นข้างต้นแสดงให้เห็นผลของนมผึ้งที่ตรงกันข้ามกัน จึงอาจยังไม่อาจจะสรุปสมรรถนะของนมผึ้งสำหรับเพื่อการรักษาแผลเบาหวานได้อย่างเห็นได้ชัด ก็เลยจำเป็นจะต้องเรียนรู้เพิ่มเติม
ทุเลาอาการเมื่อยล้าจากโรคมะเร็ง
อาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงที่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากโรคมะเร็งเกิดขึ้นจากการดูแลรักษาทั้งการฉายรังสีหรือแนวทางการทำเคมีบำบัด มักส่งผลต่ออารมณ์ จิตใจ ร่างกาย รวมทั้งคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งการกินยา การบำบัด หรือการบริหารร่างกายบางทีอาจช่วยทุเลาอาการลงได้ รวมถึงการทานอาหารเสริม ยกตัวอย่างเช่น นมผึ้งก็อาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการเหมือนกัน ก็เลยสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนหนึ่งที่ให้คนป่วยโรคมะเร็งอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ปริมาณ 52 คน พบว่ากรุ๊ปที่รับประทานน้ำผึ้งดัดแปลงและนมผึ้งขนาด 5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ มีลักษณะอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากโรคมะเร็งดียิ่งขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังทางสถิติเมื่อเทียบกับอีกกลุ่มที่ัรับประทานน้ำผึ้งบริสุทธิ์ อย่างไรก็แล้วแต่ยังจึงควรศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมถึงหน้าที่ที่แท้จริงของนมผึ้งสำหรับการบรรเทาอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากโรคมะเร็ง
รักษาไข้ละอองฟาง
โรคภูมิแพ้ที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองอย่างหนักกับละอองเกสรดอกไม้หรือสารอื่นๆทำให้ผู้ป่วยมีลักษณะคัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา หูอื้อ ฯลฯ ซึ่งจากการศึกษาเล่าเรียนทดสอบโดยให้เด็กอายุ 5-16 ปี ที่จับไข้ละอองฟาง จำนวน 80 คน กรุ๊ปหนึ่งรักษาด้วยการใช้การรับประทานสินค้าที่มีส่วนผสมของนมผึ้งและอีกกรุ๊ปรับประทานยาหลอกตรงเวลา 3-6 เดือน รวมทั้งตราบจนกระทั่งจะจบฤดูของเกสรดอกไม้ พบว่าทั้ง 2 กลุ่มยังคงพบอาการของไข้ละอองฟาง รวมทั้งหรูหราความรุนแรงของอาการที่ไม่ต่างกันเท่าไรนัก จากผลการศึกษาอาจกล่าวได้ว่านมผึ้งอาจไม่มีคุณภาพต่อการรักษาไข้ละอองฟางและไม่สามารถทุเลาอาการต่างๆให้ดียิ่งขึ้นได้ จึงยังจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเกี่ยวกับความสามารถของนมผึ้งในการรักษาไข้ละอองฟางที่แน่ชัดยิ่งขึ้น
ความปลอดภัยสำหรับการรับประทานนมผึ้ง
การกินนมผึ้งค่อนข้างจะไม่เป็นอันตรายถ้ารับประทานในปริมาณที่สมควร แต่ก็มีโอกาสที่จะเป็นผลใกล้กันได้ อย่างเช่น เลือดออกในลำไส้ ปวดท้อง หรือถ่ายเป็นเลือด เป็นต้น บางรายถ้าเกิดมีลักษณะแพ้อย่างรุนแรงอาจจะส่งผลให้มีอาการโรคหอบหืด คอบวม หรือถึงกับตาย อีกทั้งการใช้นมผึ้งทาที่บริเวณผิวหนังค่อนข้างจะปลอดภัย แม้กระนั้นไม่ควรทาบริเวณหนังศีรษะเพราะว่าอาจส่งผลให้กำเนิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือมีลักษณะอาการอักเสบ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : royal jelly

Tags : นมผึ้ง,royal jelly,นมผึ้งสรรพคุณ