Advertisement
บิดามารดาอ่อนหัดหลายคนคงเป็นกังวลใจ ครั้งที่จะพาเจ้าตัวน้อยขึ้นรถใช่มั้ยหล่ะ หลายคราวคุณแม่อาจกังวลว่าเข็มขัดนิรภัยจะแน่นเกินไป ทำให้ลูกน้อยไม่สบายตัวไม่ก็เป็นวิกฤติ ใช่ไหมกังวลไปต่างๆ นานาว่า คาร์ซีท ไม่ใช่หรือ เบาะนั่งเด็กในรถ จะดีกับลูกน้อยไหม จะดูแลอุบัติเหตุได้จริงไม่ใช่หรือ ซึ่งการทุกข์ใจนั้นเป็นเรื่องปกติครับ เพราะหากคุณแม่คาดเข็มขัดให้ลูกผิดตำแหน่ง อาจหาญส่งผลต่อเส้นโลหิตของลูกจนเป็นพิษภัยได้ ฉะนั้น การที่คุณสำรวจสถานะเข็มขัด สถานภาพที่นั่งของลูกทุกครั้งเป็นการดีครับ นอกจากข้อเป็นทุกข์เป็นร้อนด้านบนแล้ว มาดูกันครับว่ามีแบบการใช้ คาร์ซีท ข้อไหนบ้างที่อุปการะพึงสังเกต
1. จัดตั้งคาร์ซีท ไม่ถูกต้อง ข้อแรกที่จำเป็นรู้ก่อนเลยรวมความว่า ปริมาตรของคาร์ซีทที่เราควักกระเป๋ามานั้น กะทัดรัดกับเบาะรถรึเปล่า พร้อมทั้งต้องทำการวางจ่ายตรงด้วย ก็เพราะว่าคาร์ซีทมีทั้งแบบหันหน้าและหันหลัง หากคาร์ซีทเป็นฝ่ายไหน ควรติดตั้งทิศทางให้ถูกต้อง นอกจากนี้ ควรเลือกคัดดูสายคาดให้อยู่ในตำแหน่งที่พอควร สามารถล็อคได้แข็งแรง ถ้าหากคุณแม่เห็นว่าคาร์ซีทมีความปกติหรือไม่ก็ได้ยินเสียงแปลกๆ พอที่นำคาร์ซีทไปซ่อมไม่ก็เปลี่ยนใหม่ ไม่ควรให้เด็กใช้ต่อไปครับ หากอยู่ในประกัน ช่างจะซ่อมอำนวยให้เปล่าครับผม
2. กินสายคาดผิดอย่าง สปายคาดไม่ต้องเทิบทาบไม่ก็รัดตึงเกินดี ป๋าคุณแม่เป็นได้ต่อสู้สายคาดเพราะจับสายคาดให้ตึง แล้วใช้นิ้วจิ้มดู หากสายบุ๋มลงมาก บอกว่าหลวมเกินเลย เหตุด้วยคาร์ซีทตัวอย่างหันหลัง ล่าช้าควรอยู่ที่ชั้นไม่ใช่หรืออยู่ใต้อังสาของลูกเล็กน้อย ผิเป็นคาร์ซีทแบบผินหน้า สายคาดควรอยู่สถานะเดียวกับหรือเหนือชั้นกว่าไหล่ของลูกฮะ
3. มอบลูกดำรงตำแหน่งหันหน้าทันทีเกินเลย เตี่ยคุณแม่หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่า ช่วงขวบปีแรกควรให้ลูกนั่งหันหลัง ตราบเท่าที่ลูกจะความหนักเบา 9-10 กก. ถึงจะให้นั่งเบือนหน้า ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ผิด โดยคบหาสมาคมกุมารแพทย์แห่งสหรัฐฯแนะแนวว่า ควรให้ลูกหันหลังจนกว่าจะ 2 ขวบ พร้อมทั้งถ้าหากเป็นไปได้การนั่งลงแบบหันหลังนั้นมั่นคง และควรจะให้ลูกนั่งหันหลังให้เป็นเวลายาวนานสุดขอบเท่าที่จะประกอบได้ มาตุเรศหลายคนอาจเคร่งเครียดว่าแม้ลูกตัวใหญ่ขึ้น อาจหาญนั่งหันหลังแล้วรู้สึกว่าขาติดกับพนักเบาะรถหรือว่าต้องงอขา แต่จริงๆ แล้วสกนธ์ของเด็กอาจยืดงอได้ดีกว่าผู้ใหญ่ พ่อคุณแม่ไม่ควรร้อนใจในข้อนี้ พอลูกโตเกินกว่าสัดส่วนคาร์ซีท แล้วค่อยให้ลูกนั่งหันหน้ากับเบาะปกติธรรมดาก็ไม่ถนนเกินไปขอรับกระผม
4. ประทานลูกนั่งบูสเตอร์ซีทกะทันหันเกินพอดี บูสเตอร์ซีท ตกว่าเบาะรองนั่งของเด็กเหตุด้วยกินแห่งรถ ใช้เพราะว่าเด็กขณะชันษา 3-12 ขวบ (น้ำหนักเด็กประมาณ 15 – 36 กิโลกรัม) มีเจ้าของของซื้อของขายบางเจ้า ชี้แนะว่าเหมาะให้ลูกนั่งบูสเตอร์ซีทตั้งแต่ลูกปูน 3 ขวบ แต่จริงๆ แล้วควรรอให้ลูกน้ำหนักคาดคะเน 18 กิโลหรืออายุ 4-5 ขวบ กับลูกอาจนั่งโดยมีเลยเวลาคาดพาดผ่านหน้าอกได้ทั้งมวลการสัญจร และแพทย์ยังแนะแนวว่าสายรัดตัววิธ 5 จุดหนักแน่นกว่าบูสเตอร์ และพ่อแม่ควรใช้สายรัดตัวจะดีกว่า ก็เพราะว่าศักยป้องกันตัวเด็กได้ดีกว่าปั้นเหน่งนิรภัยข้าวของบูสเตอร์ซีท เนื่องจากสายรัดตัวเป็นได้คุ้มครองลำตัวข้างบน ลดการเคลื่อนไหวและการกระทุ้งบนหัวและคอลงได้ ครู่ที่ปั้นเหน่งนิรภัยป้องกัน อาณาเขตทรวงกับก้นเฉพาะ
เป็นแน่แท้อยู่ว่าบุรพาจารย์คงไว้มิอาจจะป้องกันตัววิกฤติทุกอย่างที่พร้อมทำลายลูกได้ ถ้าว่าการที่ป๊ะป๋ามาตาทำได้เลือกใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวแถวมีความสามารถได้อย่างถูกวิธีการ ก็ยอมรับว่าคือการพอกพูนการคุ้มกันภัยให้สายเลือดได้อีกทางหนึ่งฮะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
คาร์ซีทมือสองเครดิตบทความจาก :
[url]http://mukdahanlive.com/forum/index.php?topic=11168.0[/url]
Tags : คาร์ซีทมือสอง,เป้อุ้ม,เปลเด็ก
