Advertisement
การออกแบบและตกแต่งภายใน คือการออกแบบสภาพแวดล้อมด้านในอาคารหรือสถานที่ต่างๆเพื่อให้กำเนิดความสวยพร้อมกันไปกับคุณประโยชน์ใช้สอยที่สมควร งานออกแบบและตกแต่งภายในจึงถือเป็นงานสำคัญในเมื่อใดก็ตามมีการก่อสร้างอาคารแล้วก็สถานที่ต่างๆด้วยความสำคัญในด้านการก่อสร้างและก็สถาปัตยกรรมนี่เอง ทำให้คนอีกหลายๆคนหันมาสนใจอาชีพนักออกแบบแล้วก็ตกแต่งภายในมากเพิ่มขึ้น
การออกแบบและตกแต่งภายใน คือการออกแบบสภาพแวดล้อมภายในอาคารหรือสถานที่ต่างๆ เพื่อให้เกิดความสวยงามควบคู่ไปกับประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะสม งานออกแบบและตกแต่งภายในจึงถือเป็นงานสำคัญในทุกครั้งที่มีการก่อสร้างอาคารและสถานที่ต่างๆ ด้วยความสำคัญในด้านการก่อสร้างและสถาปัตยกรรมนี่เอง ทำให้ใครหลายคนหันมาให้ความสนใจอาชีพนักออกแบบและตกแต่งภายในมากขึ้น
แต่สำหรับใครที่ยังเป็นนักออกแบบภายในมือใหม่ วันนี้เราลองมาทบทวน 6 ขั้นตอนการออกแบบและตกแต่งภายในที่ควรรู้ เพื่อให้เราสามารถนำหลักเหล่านี้ไปใช้จริงในการทำงานกันดีกว่าค่ะ
- เริ่มด้วยการพูดคุยสรุปรายละเอียดสไตล์งานที่ต้องการร่วมกับลูกค้าและทีมงาน
สำหรับขั้นตอนแรกของการออกแบบและตกแต่งภายในก็คือการพูดคุยเพื่อสรุปรายละเอียดความต้องการของลูกค้า หรือที่เราเรียกกันว่าการ “บรีฟงาน” นั่นเองค่ะ ในขั้นตอนนี้เป็นการพูดคุยเพื่อให้เรารู้ความต้องการของลูกค้าว่าอยากได้งานออกแบบสไตล์ไหน ต้องการการตกแต่งโทนใดเป็นพิเศษ เพื่อให้ความต้องการและความเข้าใจตรงกันทั้งฝ่ายทีมงานนักออกแบบและฝ่ายลูกค้า ซึ่งการประเมินราคาของการออกแบบและตกแต่งภายในก็จะรวมอยู่ในขั้นตอนนี้ด้วย
- นำเสนอไอเดียการออกแบบในขั้นต้น
เป็นขั้นตอนสำหรับนำเสนอแนวคิด การวางผังพื้นที่ใช้สอยอย่างง่ายหรือ Lay-out Plan รวมถึงการพูดคุยเรื่องสไตล์ของงานออกแบบและการแบ่งพื้นที่ใช้สอยส่วนต่างๆ ในขั้นตอนนี้นักออกแบบและตกแต่งภายในมักจะหาแรงบันดาลใจจากนิตยสารหรือเว็บไซต์ต่างๆ มาเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า - พัฒนาแบบร่างขั้นต้นเพื่อนำเสนอลูกค้า
ทำแบบร่างขั้นต้นเพื่อให้ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพรวมของงานออกแบบและตกแต่งภายในได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ในขั้นตอนนี้เราอาจนำเสนอแบบร่างเป็นโมเดล ภาพสเก็ตช์ หรืองาน Perspective ร่วมด้วยก็ได้ ที่สำคัญอย่าลืมกำหนดขอบเขตของการปรับแก้ด้วยว่า สามารถแก้ไขได้ไม่เกินกี่ครั้ง และไม่ควรแก้งานให้ต่างจากการออกแบบที่เรานำเสนอมากเกินไป - นำเสนอแบบร่างขั้นสุดท้ายก่อนนำไปออกแบบงานจริง
สำหรับขั้นตอนนี้คือการนำเสนอแบบร่างงานออกแบบและตกแต่งภายในขั้นสุดท้ายในรูปแบบ Perspective และโมเดล เพื่อให้ลูกค้าสามารถจินตนาการภาพรวมได้ใกล้เคียงของจริงมากที่สุด ซึ่งแบบร่างสุดท้ายนี้คืองานที่ผ่านการอนุมัติจากลูกค้าในขั้นตอนแบบร่างขั้นต้นเรียบร้อยแล้ว - กำหนดวัสดุสำหรับการออกแบบและตกแต่งภายใน
ส่วนใหญ่นักออกแบบและตกแต่งภายในจะใช้วิธีการทำ Material Board หรือแผ่นกำหนดวัสดุ โดยนำตัวอย่างชิ้นวัสดุหลายๆ แบบมาจัดเรียงเพื่อให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างของวัสดุแต่ละชิ้นได้ เมื่อลูกค้าเลือกวัสดุที่ต้องการได้แล้ว เราจึงนำข้อมูลที่ได้ทั้งหมด คือ แบบร่างขั้นสุดท้ายและวัสดุที่จะใช้ในงานออกแบบ ไปเขียนแบบในขั้นต่อไป - เขียนแบบรายละเอียดสำหรับนำไปออกแบบและตกแต่งภายใน
สำหรับขั้นตอนสุดท้ายนี้ เป็นขั้นตอนที่นัออกแบบและตกแต่งภายใน[/url]จะเขียนแบบรายละเอียดขึ้นเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นเนื้องานและทำการปรับแก้เป็นครั้งสุดท้าย โดยในขั้นตอนนี้อย่าลืมใส่รายละเอียดวัสดุตามที่ลูกค้าได้เลือกไว้ใน Material Board ให้ถูกต้องและตรงตามความต้องการด้วย เมื่อปรับแก้เรียบร้อยแบบรายละเอียดนี้จะนำไปใช้สำหรับการพิมพ์แบบฉบับจริงเพื่อนำไปสู่งานตกแต่งอาคารและสถานที่ต่อไปค่ะ
และนี่ก็เป็น 6 ขั้นตอนหลักที่นักออกแบบและตกแต่งภายในมือใหม่ต้องรู้ เพื่อให้งานของเราออกมามีคุณภาพ ถูกใจลูกค้า และเมื่อนำไปทำการตกแต่งภายในจริงๆ ก็สามารถสร้างสถานที่ต่างๆ ออกมาได้ตรงตามแบบที่ต้องการมากที่สุด
นอกจากนี้นักออกแบบและตกแต่งภายในฟรีแลนซ์คนไหนที่กำลังมองหางานและช่องทางสร้างรายได้ Fastwork.co พร้อมเปิดรับผลงานและประวัติของคุณ เพื่อให้นักออกแบบและตกแต่งภายในทุกคนสามาถเข้ามาสมัครสมาชิกพร้อมฝากประวัติ เพื่อรับงานออกแบบจากลูกค้าได้อย่างอิสระ ส่วนใครที่กำลังอยากรีโนเวทบ้าน อยากตกแต่งห้องใหม่และต้องการใช้บริการออกแบบและตกแต่งภายในจากนักออกแบบมืออาชีพ Fastwork.co ก็พร้อมให้บริการด้วยฟรีแลนซ์ผู้มีประสบการณ์และฝีมือการออกแบบขั้นเทพ รับรองว่าได้งานออกแบบและตกแต่งภายในที่สวยถูกใจในสไตล์ที่คุณชอบแน่นอนค่ะ
Tags : การออกแบบและตกแต่งภายใน,การออกแบบและตกแต่งภายใน