โรคหัวใจขาดเลือด - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคหัวใจขาดเลือด - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 5 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 19, 2018, 05:11:31 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


โรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic heart disease.IHD)

  • โรคหัวใจขาดเลือดเป็นอย่างไร
โรคหัวใจขาดเลือ[/b] ( Ischemic Heart Disease) เป็นโรคที่อาจพูดได้ว่าพบบ่อยในประเทศไทยและก็มีทิศทางสูงมากขึ้นเรื่อยแล้วก็เป็นโรคที่เป็นสาเหตุของการถึงแก่กรรมชั้นต้นในประเทศที่ปรับปรุงแล้ว
หัวใจปฏิบัติภารกิจเหมือนเครื่องสูบน้ำ รอสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะรวมทั้งระบบต่างๆทั่วร่างกาย หัวใจมีกล้ามและก็เยื่อที่อยากเลือดไปเลี้ยงเหมือนกับอวัยวะส่วนอื่นๆหลอดเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ภาษาแพทย์เรียกว่า เส้นเลือดหัวใจ หรือ หลอดเลือดโคโรนารี (coronary artery) ซึ่งมีอยู่หลายแขนง แต่ละแขนงจะแยกกันไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจส่วนต่างๆ
แต่ว่าถ้าหลอดเลือดหัวใจกิ่งก้านสาขาใดกิ่งก้านสาขาหนึ่งมีการตีบ ก็จะก็ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจเล็กน้อยขาดเลือดไปเลี้ยง เกิดอาการเจ็บจุกทรวงอกและอ่อนแรง พวกเราเรียกว่า โรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic heart disease เรียกชื่อย่อว่า IHD) บ้างก็เรียกว่า โรคเส้นโลหิตหัวใจลีบ หรืออุดกัน บ้างก็เรียกว่า โรคหัวใจวัวโรนารี (coronary heart disease เรียกชื่อย่อว่า CHD)
เพราะฉะนั้นโรคหัวใจขาดเลือด(Ischemicheart disease, IHD) หรือโรคเส้นโลหิตแดงโคโรนารี(Coronary artery disease, CAD) ก็เลยหมายความว่า โรคที่เกิดขึ้นจากเส้นเลือดแดงที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตีบหรือตัน ซึ่งส่วนมากเป็นผลมาจากไขมันรวมทั้งเยื่อสะสมอยู่ในผนังของเส้นโลหิต ส่งผลให้เยื่อบุฝาผนังเส้นเลือดชั้นในตำแหน่งนั้นหนาตัวขึ้น คนป่วยจะมีอาการและก็อาการแสดงเมื่อเส้นเลือดแดงนี้ตีบจำนวนร้อยละ50 หรือมากยิ่งกว่าอาการสำคัญที่พบบ่อยเป็นต้นว่า อาการเจ็บเค้นอก ใจสั่น เหงื่อออก เมื่อยล้าขณะออกแรง เป็นลมสลบหรือร้ายแรงถึงขึ้นเสียชีวิตเฉียบพลันได้
[url=http://www.disthai.com/16816959/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94-]โรคหัวใจขาดเลือด
เป็นโรคของคนแก่ตั้งแต่วัยหนุ่มสาวไปจนกระทั่งในผู้สูงวัย โดยเจอได้สูงตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไปในตอนวัยเจริญพันธุ์ พบโรคเส้นเลือดหัวใจในผู้ชายได้สูงยิ่งกว่าในหญิง แต่ภายหลังจากวัยหมดประจำเดือนถาวรแล้ว อีกทั้งเพศหญิงและก็เพศชายมีโอกาสกำเนิดโรคเส้นโลหิตหัวใจได้ใกล้เคียงกัน

  • สาเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด โรคหัวใจขาดเลือดเป็นโรคที่เกิดจากเส้นเลือดแดงที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจตีบหรือตันซึ่งเกิดจากผนังหลอดเลือดแดงแข็ง ( Atherosclerosis ) และก็เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการอักเสบ ( inflammation )  ของฝาผนังเส้นโลหิตที่มีสาเหตุมาจากครามพลาด (Plaque) ที่เกิดขึ้นมาจากไขมันดังที่กล่าวมาซึ่งข้อมูลในปัจจุบันพบว่า เป็นขบวน การสำคัญที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดเส้นเลือดแดงแข็งตัว ต้นสายปลายเหตุเหล่านี้จะมีผลกระตุ้นให้มีการสะสมของไขมัน ที่ฝาผนังหลอดเลือดนำไปสู่การตีบของเส้นโลหิตท้ายที่สุด แล้วก็เมื่อมีการตีบแคบตั้งแต่ร้อยละ70 ของความกว้างของหลอดเลือดขึ้นไปก็จะทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจไม่พอเกิดอาการแน่นหน้าอกขึ้นมาและซึ่งกำเนิดเนื่องจากการมีไขมันไปเกาะอยู่ภายในฝาผนังหลอดเลือด เรียกว่า “ตะกรันท่อเส้นเลือด” (Artherosclerotic plaque) ซึ่งจะค่อยๆพอกดกตัวขึ้นทีละเล็กละน้อยกระทั่งช่องทางเดินของเลือดตีบแคบลง เลือดก็เลยไปเลี้ยงหัวใจได้ลดน้อยลง

ถ้าปล่อยไว้นานๆขี้ตะกรันท่อเส้นโลหิตที่เกาะอยู่ด้านในผนังเส้นเลือดหัวใจจะเกิดการฉีกขาดหรือแตกออก เกล็ดเลือดก็จะจับกุมกันจนกระทั่งกลายเป็นลิ่มเลือดรวมทั้งอุดกั้นช่องทางสำหรับเดินของเลือด ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอยู่เป็นระยะเวลานานจนเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจตาย คนไข้จึงเกิดลักษณะของการเจ็บแน่นหน้าอกอย่างหนัก ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินและก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตอย่างกระทันหันได้ เรียกว่า “สภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายฉับพลัน” (Acute myocardial information)

  • ลักษณะของโรคหัวใจขาดเลือด ในระยะต้นเมื่อเริ่มเป็นหรืหลอดเลือดยังตีบไม่มากมายคนเจ็บจะยังไม่ออกอาการแต่หากหลอดเลือดมีการตีบมากขึ้นเรื่อยๆ

คนเจ็บมักจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเป็นอาการนำซึ่งได้ผลสำเร็จจากการที่เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจน้อยเกินไปซึ่งอาการนี้เรียกว่า angina pectoris ลักษณะของ angina pectoris อาจแยกเป็นชนิดและประเภทส่วนประกอบได้เป็น 4 ลักษณะอันประกอบไปด้วย

  • ตำแหน่ง บริเวณที่เจ็บแน่นชอบอยู่กึ่งกลางๆหรือหน้าอกด้านซ้าย มักบอกตำแหน่งที่แน่ชัดมิได้ บางรายอาจมีความรู้สึกเจ็บร้าวไปที่บริเวณลิ้นปี่ ใต้คาง ฟัน ไหล่ หรือแขนได้โดยยิ่งไปกว่านั้นภายในของแขน
  • ลักษณะของการเจ็บ ลักษณะมักจะรู้สึกหนักๆแน่นๆบีบๆหรืออาจราวกับมีอะไรมากมายดทับหน้าอก โดยธรรมดาจะค่อยๆเพิ่มความร้ายแรงขึ้นจากนั้นจะค่อยๆต่ำลงในบางครั้งอาจมีอาการอื่นๆร่วมด้วย ได้แก่ รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เหงื่อออก อ้วก มือเท้าเย็นคล้ายจะเป็น ลม
  • ระยะเวลาที่เจ็บ อาการมักเป็นช่วงๆสั้นๆมักไม่เกิน 10 นาที ส่วนใหญ่จะเป็นนานโดยประมาณ 2 – 5 นาที
  • เหตุกระตุ้นรวมถึงต้นสายปลายเหตุที่ทำให้อาการดียิ่งขึ้น อาการมักจะกระตุ้นด้วยการออกแรง อารมณ์เครียด โกรธ อากาศเย็น หลังรับประทานอาหารมื้อหนัก และ อาการมักทุเลาลงเมื่อได้พัก หรือ ได้ยาขยายเส้นเลือดหัวใจ ( nitrates )

แต่คนไข้บางรายอาจมิได้มีลักษณะของ angina pectoris ได้แต่ว่าก็ยังนับว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นมาจากการขาดเลือด ( ischemic equivalents ) ได้แก่ เหนื่อยหรือปวดแขนเวลาออกแรง
นอกนั้นยังมีลักษณะอื่นๆอีกดังเช่นว่าลักษณะของโรคหัวใจล้มเหลว (หัวใจวาย) อาทิเช่น เหน็ดเหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว บวมตามหน้าแขน/ขา  ความดันโลหิตสูง  ไขมันในเลือดสูง  บางรายอาจมีอาการใจสั่นหวิว ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็วหรือช้ากว่าธรรมดา บางรายมีลักษณะอาการเหงื่อซึม เป็นลม ตัวเย็น อาเจียน คลื่นไส้ ในผู้สูงวัยนั้น บางทีก็อาจจะไม่เอ่ยถึงลักษณะการเจ็บอกเลย แต่ว่ามีลักษณะอาการเมื่อยล้า เมื่อยล้าง่าย เหนื่อยหอบ และก็หายใจติดขัดร่วมกับอาการแน่นๆในทรวงอกเพียงแค่นั้น หรือรู้สึกหมดแรงหมดแรง จนกระทั่งสลบ อาการอีกอย่างหนึ่งคือ การเสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วน ซึ่งชอบเกิดใน 2-3 ชั่วโมง หลังจากเริ่มมีอาการ

  • ปัจจัยเสี่ยงที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด

เพศ เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่าผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าผู้หญิงซึ่งอยู่ในระยะยังไม่หมดประจำเดือน แต่หลังจากที่หมดรอบเดือนแล้ว จังหวะเป็นจะเสมอกันในทั้งคู่เพศ
อายุุ แผ่นไขมันจะเกิดมากขี้นตามอายุ เพราะฉะนั้นอุบัติการของการเกิดโรคนี้ก็เลยมากเพิ่มขึ้นตามอายุ การเจอโรคนี้ในผู้ที่อายุน้อยกว่า 35 ปีมีได้บ้างแม้กระนั้นใม่บ่อยมาก
ไขมันในเลือดสูง พบว่าผลรวมของโคเลสเตอรอลทั้งหมด มีความเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับโรคหัวใจขาดเลือดทั้งในเพศชายและเพศหญิง โดยเรียนรู้ราษฎรอเมริกัน ตรงเวลา 24 ปี และพบว่าพวกที่มีโคเลสเตอรอล ในเลือดสูงจะได้โอกาสเป็นโรคนี้มากยิ่งกว่าพวกที่มีไขมันต่ำถึง 5 เท่า โดยสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงดังกล่าวข้างต้นพบได้บ่อยในคนที่หรูหรา วัวเลสเตอรอคอยล l ในเลือดสูงขึ้นมากยิ่งกว่า 200 มิลลิกรัม/ดล. หรือคนที่มี ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้นมากยิ่งกว่า 150 มก./ดล
ความดันเลือดสูง ทั้งความดันซิสโตลิคและก็ไดแอสโตลิคมีความข้องเกี่ยวกับการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดในภายหลังทั้งนั้น รวมทั้งยิ่งความดันสูงมากมาย โอกาสที่จะเกิดโรคนี้ยิ่งมีมากมาย โดยเฉพาะผู้ที่มีความดันโลหิตสูงกว่า 160/95 มม.ปรอท
การสูบบุหรี่ ต้นสายปลายเหตุนี้มีความเกี่ยวพันกับการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดมากและก็ยังขึ้นอยู่กับช่วงเวลาครั้งดูดรวมทั้ง จำนวนบุหรี่ที่ดูดด้วย โดยพบว่าคนที่ติดการสูบบุหรี่จะมีโอกาส เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ได้มากกว่า ผู้ที่ไม่ดูดถึง 3 เท่า แล้วก็ถ้าหากมีสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงอื่นๆร่วมด้วยอีก ช่องทางเป็นโรคหัวใจขาดเลือดยิ่งเพิ่มมากขึ้น
บุคคลที่ทำงานมีความตึงเครียดสูง ผู้มีประวัติโรคหัวใจในครอบครัว คนสูงอายุ (เพศชายมากกว่า 55 ปี หญิงมากยิ่งกว่า 65 ปี) โรคอ้วน (Body mass index หรือ BMI/ดัชนีมวลกายมากกว่า30) โรคไตเรื้อรัง บุคคลที่ขาดการบริหารร่างกาย มีโรคเครียด


  • กรรมวิธีการรักษาโรคหัวใจขาดเลือด หมอสามารถวินิจฉัยโรคเส้นโลหิตหัวใจในพื้นฐานได้จากวิธีซักเรื่องราว (ตัวอย่างเช่น ประวัติการดูดบุหรี่ การบริหารร่างกาย โรคประจำตัว ประวัติการป่วยหนักในครอบครัว) และก็อาการที่แสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการปวดเค้นหรือจุกแน่นรอบๆลิ้นปี่แล้วปวดร้าวไปที่คอ ไหล่ ขากรรไกร โดยมีสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงร่วมด้วย (อย่างเช่น มีอายุมากมาย ดูดบุหรี่ เครียด อ้วน มีประวัติเป็นโรคโรคเบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง) รวมทั้งเมื่อสงสัยว่าเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจ แพทย์จะกระทำตรวจพิเศษอื่นๆเพิ่มอีกดังนี้
  • คลื่นกระแสไฟฟ้าหัวใจ ( Electrocardiogram: ECG ) นอกจากช่วยวิเคราะห์แล้วครั้งคราวบางทีอาจเจอความผิดแปลกอื่นๆอย่างเช่น ผนังหัวใจหนาหรือหัวใจ เต้นผิดจังหวะ ซึ่งลักษณะต่างๆนี้บางครั้งจะบ่งชี้ถึงกลไกของการแน่นหน้าอกแล้วก็ช่วยสำหรับเพื่อการเลือกกรรมวิธีการตรวจอื่นๆและก็บางครั้งยังช่วยประเมินการเสี่ยงด้วย
  • การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ( echocardiography )คลื่นเสียงความถี่สูงจะให้ข้อมูลในด้านต่างๆของหัวใจ เป็นต้นว่า การบีบตัวของหัวใจห้องซ้ายความเปลี่ยนไปจากปกติสำหรับเพื่อการบีบตัวของหัวใจเล็กน้อย ( regional wall motion abnormalities: RWMA )ซึ่งพบได้ทั่วไปในผู้เจ็บป่วยโรคหัวใจขาดเลือด นอกเหนือจากนั้นการเจอความแตกต่างจากปกติบางสิ่งบางอย่าง บางทีอาจเป็นต้นเหตุของอาการแน่นหน้าอกที่ไม่ใช่จากโรคหัวใจขาดเลือดได้ ค่าการบีบตัวของหัวใจห้องด้านล่างซ้ายยังเป็นสาระสำคัญที่ใช้ช่วยบอกถึงการเสี่ยงแล้วก็การคาดการณ์โรคได้อีกด้วย และก็สามารถใช้ประเมินความกว้างของบริเวณที่ขาดเลือดได้
  • Coronary computed tomography angiography (CTA) และ coronary calcium CTA แล้วก็ coronary calcium เป็นการตรวจที่ผลของการตรวจทั้งสองมีค่า negative predictive value สูงมากโดยเฉพาะในผู้เจ็บป่วยที่ได้โอกาสจะเป็นโรคหัวใจขาดเลือดในระดับต่ำถึงปานกลาง ก็เลยมีคุณประโยชน์สำหรับการตัดปัจจัยการแน่นหน้าอกจากเส้นเลือดหัวใจตีบได้ถ้าเกิดผลอ่านไม่เจอมีการตีบของ หลอดเลือด หลอดเลือดที่มีการแข็งบางครั้งก็อาจจะเจอมีการเกาะของแคลเซียมที่เส้นโลหิตได้ ด้วยเหตุนั้น ถ้าเกิดผลของ coronary calcium ต่ำจังหวะที่อาการแน่นหน้าอกจากเส้นเลือดหัวใจตีบก็จะน้อย ในทางตรงกันข้าม ถ้าเกิดค่าของ coronary calcium สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมากกว่า 400 ( Agatston score> 400 ) จะมีโอกาสเกิด อุบัติการณ์ต่างๆทางหัวจิตใจและก็เส้นเลือดมากขึ้น
  • Cardiac magnetic resonance ( CMR )CMR บางทีอาจช่วยประเมินความแตกต่างจากปกติของโครงสร้างหัวใจในด้านต่างๆเป็นต้นว่า ลิ้นหัวใจ ผนังกันห้องหัวใจ และก็กล้ามเนื้อหัวใจห้องต่างๆเป็นต้น รวมทั้ง ยังช่วยบอกการท างานของห้องหัวใจ ล่างซ้าย ( LVEF ) ได้สิ่งเดียวกัน
  • Electrocardiogram exercise testing หรือ exercise stress test ( EST )เป็นการกระตุ้นด้วยการออกก าลังกายแล้วก็ใช้ ECG ประเมินลักษณะขาดเลือด ซึ่งเป็น การตรวจที่สบายมีใช้กันโดยทั่วไป การออกกำลังอาจใช้วิธีวิ่งบนสายพาน (treadmill) หรือ ปั่นจักรยานไฟฟ้า ( Electrically braked cycles ) แล้วมองการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ความแปลกที่แสดงว่าน่าจะมีหลอดเลือดหัวใจตีบ อาทิเช่น มีอาการเจ็บแน่นหน้าอก หน้าซีด ตัวเย็น ความดันเลือดต่ำขณะที่กำลังทำการทดลอง เหล่านี้เป็นต้น

สำหรับเพื่อการเริ่มรักษานั้นนอกเหนือจากที่จะรักษาอาการแล้วคนไข้ทุกรายควรจะได้รับการชี้แนะให้ปรับลดปัจจัยเสี่ยงรวมทั้งควบคุมโรคที่จะทำให้โรคหัวใจขาดเลือดเป็นมากขึ้น อาทิเช่น การสูบบุหรี่เบาหวาน โรคความดันเลือดสูง รับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม โรคอ้วน ขาดการออก พลังกาย รวมทั้งไขมันในเลือดสูงและก็สำหรับวิธีการรักษาโรคหัวใจขาดเลือดนั้นมี 2 แนวทาง คือ การรักษาด้วยยา ตัวอย่างเช่น ยาขยายเส้นโลหิตหัวใจ ยาลดรูปแบบการทำงานของหัวใจ เพื่อหัวใจใช้ออกสิเจนลดน้อยลง ยายับยั้งเกร็ดเลือดเกาะตัว กรณีเป็นความดันเลือดสูงแตกต่างจากปกติ หรือโรคเบาหวานจำต้องรักษาร่วมไปด้วย ผู้ที่ระดับไขมันในเลือดสูงเปลี่ยนไปจากปกติก็จะได้รับยาเพื่อลดไขมัน ยาขยายเส้นโลหิต บางทีอาจทำในรูปยาอมใต้ลิ้น ยาพ่นเข้าในปาก และยาปิดหน้าอก ยาอมใต้ลิ้น และยาพ่นในโพรงปาก สามารถออกฤทธิ์ได้ภายใน 2-3 นาที ก็เลยเหมาะสมที่จะพกไว้ภายในช่องทางเร่งด่วน ยาเป็นแผ่นปิดหน้าอก ใช้ปิดหน้าอกและที่อื่นๆตามร่างกาย จะออกฤทธิ์โดยประมาณ 30-45 นาที ข้างหลังปิดบนผิวหนัง จะไม่ออกฤทธิ์ทันทีเช่นยาอมใต้ลิ้น การรักษาด้วยการผ่าตัด ดังเช่น การผ่าตัดทำทางเบี่ยงของเส้นโลหิต ( Coronary Artery Bypass Graft, CABG) มักจะใช้กรรมวิธีผ่าตัดนำเส้นเลือดดำที่ขามาตัดต่อกับเส้นโลหิตที่อุดตัน ทำฟุตบาทของเลือดใหม่ การดูแลและรักษาด้วยการถ่างขยายหลอดเลือดด้วยแนวทางต่างๆดังเช่นว่า ถ่างขยายด้วยบอลลูน หัวกรอ และก็อาจจะจำเป็นที่จะต้องใส่ขดลวดค้ำไว้ เพื่อไม่ให้หลอดเลือดตีบซ้ำ




GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ