โรคมะเร็ง-อาการ-สาเหตุ-การรักษา-การรักษา-วิธีการป้องกัน-เเละ สมุนไพร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคมะเร็ง-อาการ-สาเหตุ-การรักษา-การรักษา-วิธีการป้องกัน-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 27 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 20, 2018, 03:09:10 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


โรคมะเร็ง (Canaer)[/size]

  • โรคมะเร็งเป็นอย่างไร โรคมะเร็งเป็นโรคที่มีความผิดธรรมดาของเซลล์ในอวัยวะต่างๆของร่างกาย โดยเกิดการเปลี่ยนทางพันธุกรรมของเซลล์ ก่อกำเนิดเป็นเซลล์ของโรคมะเร็งที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วโดยไม่อยู่ภายใต้อำนาจบังคับที่เหมาะสม ผลลัพธ์เป็น การเกิดเป็นก้อนเนื้อโรคมะเร็งที่เติบโตก่อกวนหลักการทำงานของเซลล์ปกติในอวัยวะ นอกเหนือจากนั้นยังสามารถแพร่กระจายแพร่ไปยังอวัยวะอื่นได้โดยผ่านระบบกระแสโลหิตหรือน้ำเหลืองของเราเป็นตัวน้ำกาม โรคมะเร็งอาจมีไม่เหมือนกันได้มากมาย ตามตำแหน่งของอวัยวะที่เป็นจุดกำเนิดของโรคมะเร็ง รวมทั้งชนิดของเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างในอวัยวะนั้นๆโดยอวัยวะที่มีการตรวจเจอเซลล์ของโรคมะเร็ง ดังเช่นว่า มะเร็งตับ โรคมะเร็งปอด มะเร็งเม็ดเลือดขาวโรคมะเร็งสมอง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งไส้ มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งผิวหนัง โรคมะเร็งรังไข่ โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งกระเพาะ มะเร็งกระดูก โรคมะเร็งหลอดอาหาร โรคมะเร็งลิ้น มะเร็งโพรงปากและคอ มะเร็งท่อน้ำดีและถุงน้ำดี มะเร็งหลอดลม โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ โรคมะเร็งตับอ่อน มะเร็งไต มะเร็งไทรอยด์ โรคมะเร็งโพรงมดลูก และโรคมะเร็งพบได้บ่อยในเด็กไทย เรียงจากลำดับแรก 4 ลำดับ ได้แก่ โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคมะเร็งสมอง และโรคมะเร็งนิวโรบลาสโตมา
  • สิ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง เกิดจากสิ่งแวดล้อมหรือ ภายนอกร่างกาย ซึ่งเดี๋ยวนี้เชื่อกันว่ามะเร็ง จำนวนมาก มีต้นเหตุจากปัจจัยอาทิเช่น
  • สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนในอาหารและก็เครื่องดื่ม ดังเช่นว่า สารพิษจาก เชื้อราที่มีชื่อ อัลฟาทอกซิน (Alfatoxin) สารก่อมะเร็งที่เกิดขึ้นมาจากการปิ้ง ปิ้ง พวกไฮโดคาร์บอน (Hydrocarbon) สารเคมีที่ใช้ในขั้นตอนรักษาอาหาร ชื่อไนโตรซามิน (Nitosamine) สีผสมอาหารที่มาจากสีย้อมผ้า
  • บุหรี่ เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง การสูบยาสูบหรือการอยู่ในบริเวณที่มีควันบุหรี่ นำมาซึ่งการทำให้เป็นโรคมะเร็ง แล้วก็โรคระบบฟุตบาทหายใจต่างๆและถึงแก่ชีวิตได้
  • แอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ได้โอกาสเป็นมะเร็งในโพรงปาก คอ หลอดของกิน และก็กล่องเสียงได้ นอกนั้นแอลกอฮอล์ยังไปทำลายตับ และมีโอกาสเป็นมะเร็งตับได้
  • ฮอร์โมน เพศหญิงที่ใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนควบคุมอาการร้อนวูบวาบ หรืออาการเสื่อมของกระดูก ซึ่งมักจะเกิดในวัยหมดประจำเดือน จากการเรียนพบว่า การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้ได้โอกาสเป็นมะเร็งมดลูก รวมทั้งโรคมะเร็งเต้านมมากขึ้น
  • รังสี รังสีเอกซเรย์ที่ใช้ในการวินิจฉัยโรค เพิ่มอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้ แม้จะมีจำนวนเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ แม้กระนั้นถ้าหากได้รับรังสีบ่อยๆกันหลายๆครั้ง อาจส่งผลให้ก่อให้เกิดอันตรายได้
  • แสงสว่างอุลตร้าไวโอเล็ต แสงสว่างจากพระอาทิตย์ หรือจากแหล่งอื่นๆบางทีอาจทำลายผิวหนังแล้วก็นำมาซึ่งโรคมะเร็งผิวหนังได้ ด้วยเหตุนั้นจึงควรหลบหลีกการเช็ดกแสงแดดในระยะเวลา 11.00-15.00 น. เนื่องจากเป็นตอนที่แสงอาทิตย์แรงจัด
  • มีต้นเหตุที่เกิดจากความเปลี่ยนไปจากปกติในร่างกาย ซึ่งมีเป็นส่วนน้อย ดังเช่น เด็กที่มีความพิการ มาแต่ เกิดได้โอกาสเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ฯลฯ การมีภูมิต้านทานที่บกพร่องและก็สภาวะ ทุพโภชนาการ เป็นต้นว่า การขาดไวตามินบางชนิด เช่น ไวตามินเอ ซี

รวมถึงสาเหตุด้านกรรมพันธุ์ โรคมะเร็งบางชนิด ตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และก็มะเร็งลำไส้ มีแนวโน้มเกิดขึ้นได้กับบุคคลภายในครอบครัวที่มีประวัติเป็นมะเร็งดังกล่าวมาแล้วข้างต้นสาเหตุของมะเร็งที่สำคัญๆในปัจจุบัน อย่างเช่น

  • โรคมะเร็งที่ผิวหนัง มูลเหตุเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากถูกแดดหรือแสงสว่างอุลตราไวโอเลตและก็มีสาเหตุมาจากพวกสารหนู หรือการรักษาโดยใช้ยาที่เข้าน้ำมันดิน ทั้งยาไทย-จีน ซึ่งน้ำมันดินเป็นองค์ประกอบ สำหรับเล็บรวมทั้งขน ไม่เป็นโรคมะเร็ง
  • โรคมะเร็งที่ปอด มูลเหตุเป็นผลมาจากหายใจในอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ มีฝุ่นที่มีสารพวกไฮโดรคาร์บอน ตัวอย่างเช่น ควันดำจากท่อไอเสียรถยนต์ หรือเขม่าจากโรงงาน สำหรับยาสูบ มีผลกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดมะเร็งปอดได้
  • โรคมะเร็งที่โพรงปาก ชอบมีสาเหตุมาจากการระคายเคืองเรื้อรัง ตัวอย่างเช่น ดื่มเหล้าเพียวๆกินหมาก แล้วรักษาสุขภาพไม่สะอาดด้วย และก็ที่สำคัญเป็นยาฉุน การเคี้ยวอาหารแล้วมีการระคาย ได้แก่ ฟันเก หรือใส่ฟันปลอมไม่กระชับ ทำให้เป็นแผลเล็กๆตราบจนกระทั่งเป็นโรคมะเร็งได้
  • มะเร็งที่หลอดของกิน โดยมากเกิดขึ้นจากการระคายเคืองเรื้อรัง การกินของร้อน ดังเช่นว่า จิบชา กาแฟร้อนๆ
  • มะเร็งที่กระเพาะอาหาร ส่วนมากมีเหตุมาจากสารไนโตรซามีนส์ เป็นต้นว่า รับประทานอาหารพวกโปรตีนหมัก สารที่เข้าดินประสิวที่ใช้สำหรับเพื่อการทำให้เนื้อมีสีแดง เนื้อเปื่อย รวมทั้ง ดี.ดี.ครั้ง.ซึ่งเมื่อเข้าไปภายในร่างกายแล้ว มันจะเปลี่ยนเป็นไดเมธิลไนโตรซามีนส์ พวกที่กินผักที่มี ดี.ดี.ที. นอกเหนือจากที่จะตายจาก ดี.ดี.ที. แล้ว ยังบางทีอาจตายจากโรคมะเร็งได้อีกด้วย
  • มะเร็งที่ลำไส้เล็ก-ใหญ่ ปัจจัยคล้ายคลึงกันกับโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร
  • มะเร็งที่เต้านม ปัจจัยมีเหตุมาจากเชื้อไวรัส เมื่อก่อนมั่นใจว่าเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากด้านเชื้อชาติและการกระทบกระแทกที่เต้านม
  • โรคมะเร็งที่ตับ ต้นสายปลายเหตุมีต้นเหตุที่เกิดจากไนโตรซามีนต์ อะฟล่าท็อกสิน รวมทั้งจากพยาธิใบไม้ในตับ รวมทั้งจากโรคตับแข็ง
  • มะเร็งปากมดลูก มีต้นเหตุที่เกิดจากไวรัส และจากการระคายเคืองเรื้อรัง ดังเช่นว่า คนที่ออกลูกเสมอๆมีเซ็กส์บ่อยๆหรือผู้ที่เป็นหญิงงามเมือง และก็คนที่ไม่รักษาความสะอาดรอบๆของลับ
  • โรคมะเร็งของกระเพาะปัสสาวะ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากบุหรี่ สีย้อมผ้าที่ใช้ผสมของกิน ยิ่งไปกว่านี้พวกมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลิวคีภรรยา), มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (ลิมโฟม่า) ก็มีต้นเหตุมาจากเชื้อไวรัสด้วยเหมือนกัน
  • ลักษณะโรคโรคมะเร็ง สำหรับในระยะแรกของการเกิดโรคมะเร็งขึ้นในร่างกายนั้นกล่าวได้ว่าแทบไม่มีอาการอะไรส่อแวว หรือบอกให้ผู้เจ็บป่วยทราบได้เลยว่ากำลังเผชิญกับโรคมะเร็งนี้อยู่ ทำให้กว่าที่จะรู้สึกตัวก็สายเกินแก้ เมื่อเป็นประสักระยะหนึ่ง คนที่มีอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งจำนวนมากมักจะเริ่มรู้สึกอ่อนแรงง่าย เบื่ออาหาร รับประทานอาหารได้ลดลง อิ่มเร็ว ผอมซูบ น้ำหนักลด ร่างกายเริ่มมองเสื่อมโทรมลง ไม่สดชื่นคล่องแคล่วเหมือนเดิม และก็เมื่ออยู่ในระยะที่มะเร็งเริ่มแพร่กระจายเยอะขึ้นก็จะเริ่มปรากฏอาการอย่างเห็นได้ชัดในตอนนี้ จะรู้สึกเจ็บปวดรวมทั้งทรมาทรกรรมเป็นอย่างยิ่งตามจุดต่างๆที่เกิดโรคมะเร็งขึ้น ดังนี้จะมีลักษณะอาการมากน้อยเช่นไรก็ขึ้นกับโรคมะเร็งที่เป็นว่าเป็นโรคมะเร็งจำพวกใด จำพวกไหน และก็การกระจายของเซลล์ของมะเร็งข้างในนั้นไปเบียดบังอวัยวะส่วนใดบ้าง


  • ไอมีเสลดคละเคล้าเลือด เป็นลักษณะโรคโรคมะเร็งปอด
  • ไอเรื้อรังแล้วก็มีเสียงแหบ เป็นอาการของโรคมะเร็งกล่องเสียงหรือมะเร็งปอดโดยไม่มีอาการของหวัดหมายถึงจับไข้ มีน้ำมูก และก็มีเสลดมาก่อนหน้า
  • ลูบคลำก้อนถึงที่เหมาะเต้านมหรือที่อื่นของร่างกายที่ไม่เคยลูบคลำได้มาก่อนเป็นลักษณะของโรคมะเร็งเต้านมและเร็งอื่น
  • อึลำบาก ท้องผูกสลับกับท้องร่วง เป็นลักษณะของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีลักษณะสม่ำเสมอมากยิ่งกว่า 2 อาทิตย์ ร่วมกับน้ำหนักลด
  • มูกหรือเลือดออกทางทวารหนักหรือช่องคลอด เป็นอาการของโรคมะเร็งทางนรีเวช อย่างเช่น โรคมะเร็งปากมดลูก หรือ มะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนไส้ตรง
  • ฉี่มีเลือดปน อาจเป็นอาการของโรคโรคมะเร็งทางเดินปัสสาวะ ดังเช่นว่า กระเพาะปัสสาวะต่อมลูกหมาก
  • น้ำหนักลดน้อยลงโดยไม่มีต้นเหตุ
  • ไข้เรื้อรัง ไข้ที่เป็นมานานกว่า 1 สัปดาห์ เป็นอาการของโรคมะเร็งเม็ดโลหิตหรือต่อมน้ำเหลือง
  • ปวดตามตัวหรือที่กระดูก โดยเฉพาะลักษณะของการปวดที่ตลอด และก็มีอาการปวดตอนกลางคืนเป็นอาการของโรคมะเร็งแพร่ระบาดเข้ากระดูกได้
  • อ่อนล้า เบื่อข้าว เป็นลักษณะของโรคมะเร็งระบบทางเดินอาหาร อย่างเช่น กระเพาะลำไส้ใหญ่ ตับอ่อน หรือเป็นแค่อาการที่เกิดจากมะเร็งจำพวกอื่นๆ

โดยธรรมดาโรคมะเร็งมี 4 ระยะ ตัวอย่างเช่น ระยะที่ 1-4 ซึ่งทั้งยัง 4 ระยะ ส่วนโรคมะเร็งระยะศูนย์ (0) ยังไม่จัดเป็นโรคโรคมะเร็งอย่างแท้จริง เนื่องจากเซลล์เพียงมีลักษณะเป็นมะเร็ง แม้กระนั้นยังไม่มีการรุกราน (Invasive) ขาดทุนเยื่อข้างๆ

  • ระยะที่ 1: ก้อนเนื้อหรือแผลมะเร็งมีขนาดเล็ก ยังไม่ลุกลาม
  • ระยะที่ 2: ก้อนหรือแผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มแพร่กระจายด้านในเยื่อหรืออวัยวะ
  • ระยะที่ 3: ก้อนหรือแผลโรคมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มขยายขาดทุนเยื่อหรืออวัยวะข้างๆ รวมทั้งขยายเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่เป็นโรคมะเร็ง
  • ระยะที่ 4: ก้อนหรือแผลโรคมะเร็งขนาดโตมาก ซึ่งขยายเข้าเนื้อเยื่อหรืออวัยวะใกล้กัน จนกระทั่งทะ ลุ รวมทั้งเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้ก้อนโรคมะเร็ง โดยเจอต่อมน้ำเหลืองโตลูบคลำได้ และ/หรือ แพร่ไปเข้ากระแสโลหิต หรือสายน้ำเหลือง ไปยังเยื่อ/อวัยวะที่อยู่ไกลออกไป ได้แก่ ปอด ตับ สมอง กระดูก ไขกระดูก ต่อมหมวกไต ต่อมน้ำเหลืองในท้อง ในช่องอก ต่อมน้ำเหลืองเหนือกระดูกไหปลาร้า
  • ปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่โรคมะเร็ง ที่ สำคัญ มี 2 ข้อ

ข้อ แรก คือ ต้นสายปลายเหตุจากสภาพแวดล้อมภายนอกร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อน ในของกิน อากาศ เครื่องดื่ม ยารักษาโรค เป็นต้น และก็การได้รับรังสี เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย แล้วก็พยาธิบางชนิด
ข้อลำดับที่สอง คือ อาทิเช่นปัจจัยภายในร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น ความไม่ดีเหมือนปกติทางพันธุกรรม ความบกพร่องของระบบภูมิต้านทาน และภาวะทุพโภชนา ฯลฯ   
 
โดยเหตุนี้คนที่มีความเสี่ยงต่อการ เป็นโรคโรคมะเร็งเป็นคนที่มีการกระทำดังนี้
ผู้ที่ดูดบุหรี่  ทั้งยังยาสูบมวนเอง ยาสูบ กล้องยาสูบ หรือการเคี้ยวยาสูบ จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นโรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งในโพรงปาก กล่องเสียง โรคมะเร็ง หลอดของกิน มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ รวมทั้งมะเร็งของตับอ่อน
คนที่ดื่มสุราเสมอๆ สามารถส่งผลให้เกิดตับอักเสบและตับแข็ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับตามมา นอกนั้น สุรายังเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งในช่องปากรวมทั้งคอ
คนที่ติดเชื้อโรค เชื้อไวรัสบางชนิด ยกตัวอย่างเช่น   เชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคตับแข็งและมะเร็งตับ เชื้อไวรัสเอปสไตน์บารร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งข้างหลังโพรงจมูกหรือโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Burkitt เชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus) เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูกในสตรี หรือ โรคมะเร็งช่องปากและคอ  หรือคนที่ถูกใจรับประทานอาหารที่มี พิษ ชื่อ อัลฟาทอกซิล ที่เจอจากเชื้อราที่ปนเปื้อนในอาหารเช่น ถั่วลิสงป่น ฯลฯ ถ้ากินประจำจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งตับ และก็แม้ได้รับทั้งยัง 2 อย่าง ช่องทาง จะเป็นมะเร็งตับมากขึ้นเรื่อยๆ
คนที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเสมอๆ จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง เต้านม ลำไส้ใหญ่ เยื่อบุมดลูก รวมทั้งต่อมลูกหมาก
ผู้ที่ติดโรคพยาธิใบไม้ตับ และกินอาหารที่ใส่ดิน ประสิวเสมอๆ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันขาดตกบกพร่องอันเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากความไม่ดีเหมือนปกติจากกรรมพันธุ์หรือติดเชื้อโรคไวรัส โรคภูมิคุมกันบกพร่อง จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งของเส้นโลหิต ฯลฯ
คนที่กินอาหารเค็ม จัด ของกินที่มีส่วนผสมโปตัสเซี่ยมไนเตรดแล้วก็ส่วนไหม้เกรียม ของของกินเสมอๆจะเสี่ยง ต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะ ของกินแล้วก็ลำไส้ใหญ่
ผู้ที่มีประวัติโรคมะเร็งในครอบครัว อาทิเช่น โรคมะเร็งของจอตา มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ประเภทที่ เป็นติ่งเนื้อ เป็นต้น
คนที่ตากแดดจัดเป็นประจำจะ เกิดอันตรายจากแสงอาทิตย์ที่ มีจำนวนของแสงอุลยี่ห้อ ไวโอเลต มากไม่น้อยเลยทีเดียว ส่งผลทำให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้
สัญญาณเตือน 7 ประการ ที่อาจมีความหมายว่าเป็นลักษณะโรคมะเร็ง มีดังนี้

  • มีการเปลี่ยนสำหรับในการอึ ปัสสาวะ ที่ผิดปกติ อาทิเช่น มีเลือดออก ท้องเดินหรือท้องผูกไม่ดีเหมือนปกติ
  • มีแผลเรื้อรังที่ไม่หาย โดยเป็นเป็นเวลานานมากกว่า 3 สัปดาห์
  • มีเลือดออก หรือมีสารคัดหลั่งออกมาจากบริเวณช่องต่างๆของร่างกายแตกต่างจากปกติ ยกตัวอย่างเช่น หัวนม, จมูก, ช่องคลอด ทวารหนัก เป็นต้น
  • ลูบคลำพบก้อนที่เต้านม หรือที่อื่นๆของร่างกาย
  • ท้องขึ้น ของกินไม่ย่อย มีอาการปวดท้อง กลืนอาหารทุกข์ยากลำบาก เป็นต้น
  • ไฝหรือจุดเล็กๆตามร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ดังเช่นว่า โตขึ้น มีสีไม่ดีเหมือนปกติหรือมีเลือดออก
  • มีลักษณะอาการไอที่ผิดปกติ ตัวอย่างเช่น ไอปนเลือด ไอเรื้อรัง หรือเสียงแหบ
  • ขั้นตอนการรักษาโรคโรคมะเร็ง หมอวินิจฉัยโรคมะเร็งได้จาก เรื่องราวอาการต่างๆของคนเจ็บ การตรวจร่างกาย การตรวจภาพเนื้อเยื่อและอวัยวะที่มีลักษณะอาการด้วยเอกซเรย์ หรือ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ เอมอาร์ไอ แต่ที่ได้ผลแน่ๆเป็นการตรวจเซลล์จากก้อนเนื้อเพื่อ การตรวจทางเซลล์วิทยา หรือ ตัดชิ้นเนื้อจากก้อนเนื้อเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา

วิธีรักษาโรคโรคมะเร็ง สำหรับการรักษาโรคโรคมะเร็งนี้ภายหลังแพทย์วิเคราะห์ลักษณะโรคเสร็จแล้ว จะมีการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเซลล์ของมะเร็งร้ายกระจัดกระจายไปอยู่ในรอบๆใดของร่างกายบ้าง เมื่อเข้าใจแล้วก็จะรักษาไปตามอาการ โดยมะเร็งแต่ละประเภทการดูแลและรักษาก็บางครั้งอาจจะไม่เหมือนกันออกไปบ้าง แม้กระนั้นทั้งนี้ก็มีแนวทางที่หมอนิยมรักษากันอยู่ เป็น
การผ่าตัด โรคมะเร็งระยะเริ่มต้นส่วนมากมักจะใช้การผ่าตัดเป็นส่วนมาก อาทิเช่น โรคมะเร็งหัวและก็คอ มะเร็งเต้านม โรคมะเร็งปอด โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยหมอจะทำผ่าตัดก่อนเป็นขั้นแรก เพื่อกำจัดก้อนเนื้อร้ายที่อยู่ภายในร่างกายพวกเราออกไป แม้กระนั้นวิธีแบบนี้ไม่ได้สามารถทำรักษาได้กับมะเร็งทุกชนิด และก็การผ่าตัดก็ยังไม่แน่ว่าจะหายสนิท หรือไม่ ด้วยเหตุว่าเซลล์ของมะเร็งอาจยังหลงเหลือหรือซ่อนตัวอยู่ในร่างกาย โดยอาจเป็นเซลล์ของมะเร็งที่กำลังเริ่มจะเกิด ทำให้แพทย์ไม่อาจจะรู้หรือมองเห็น เมื่อปล่อยไปสักระยะก็จะกลับเข้าสู่วังวนเดิม คือเริ่มก่อตัวขยายใหญ่ขึ้น ก็ต้องมาผ่าตัดกันใหม่อีกครั้ง แต่โดยมากกับกรรมวิธีการผ่าตัดนี้หมอมักแนะนำให้ทำคีโมหรือเคมีบรรเทาร่วมด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะช่วยให้หายขาดจากโรคมะเร็งนี้ได้
การใช้รังสีรักษา เป็นการฉายแสงไปยังเซลล์ของมะเร็งในร่างกาย เพื่อทำลายกลุ่มก้อนเซลล์มะเร็งนั้น ในการส่องแสงนี้เป็นการรักษาแบบเฉพาะที่ โดยอาศัยต้นสายปลายเหตุจากจำพวกของมะเร็งที่เป็น ระยะเวลาที่เกิดมะเร็ง ตลอดจนสุขภาพของคนไข้เหตุว่าแข็งแรงพอไหม ซึ่งถ้าหากผู้เจ็บป่วยพร้อมก็จะทำเปล่งแสงราวๆ 2 – 10 นาที โดยจำต้องทำการฉายแสงสัปดาห์ละ 5 วัน รวมประมาณ 5 – 8 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของหมอ แต่ว่าการรักษาด้วยรังสีรักษานี้จะทำให้เป็นผลข้างๆขึ้น ได้
เคมีบรรเทา (คีโม) สำหรับวิธีนี้ถือเป็นการรักษาอย่างถูกจุด แก้ที่ต้นเหตุโดยตรงของปัญหา เพราะเหตุว่าเป็นการให้ยาเข้าไปทำลายเซลล์ของมะเร็งทั้งหมดทั้งปวงที่อยู่ภายในร่างกาย และที่กระจายเข้าไปตามต่อมน้ำเหลืองหรือกระแสเลือดด้วย โดยแพทย์จะนัดหมายมาทำตรวจร่างกายวัดความดันและก็ทำเจาะเลือด ซึ่งหากผลของการตรวจร่างกายผ่าน แพทย์ก็จะให้ไปทำการให้คีโมซึ่งก็ราวกับการให้น้ำเกลือทั่วๆไป เพียงแต่จำเป็นต้องนอนรอหลายชั่วโมงจนกว่าตัวยาจะหมด แล้วก็ในระหว่างการให้คีโมนี้คนป่วยบางคนอาจกำเนิดอาการแพ้ได้ ซึ่งบางทีอาจรู้สึกเวียนศีรษะ อาเจียน หรืออ้วก และก็ผลกระทบที่ตามมาหลังจากการให้คีโมประมาณ 1 – 2 อาทิตย์ ผมจะเริ่มตก รู้สึกอ้วก คลื่นไส้ เป็นแผลในปาก รวมทั้งจำนวนเม็ดเลือดลดน้อยลงทำให้เกิดความรู้สึกอ่อนเพลีย ตลอดจนอาจรู้สึกหายใจไม่สะดวก มีผื่นขึ้น ท้องผูกถ่ายไม่ออก หรือเป็นไข้ เป็นต้น แต่ว่าการดูแลและรักษาด้วยวิธีนี้ก็มีค่ารักษาที่ค่อนข้างแพงเลยแล้วก็ยังต้องทำหลายที ขึ้นอยู่กับหมอเป็นผู้วินิจฉัยว่าจำต้องทำทั้งผองกี่ครั้งจึงจะหายเป็นปกติ

  • การติดต่อของโรคมะเร็ง โรคมะเร็งเป็นโรคที่ไม่ติดต่อจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งหรือติดต่อจากสัตว์สู่คน แต่โรคมะเร็งบางประเภทอาจมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ได้แก่ มะเร็งเต้านม ถ้าหากมีประวัติบุคคลในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้ สมาชิกด้านในครอบครัวนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีโอกาสเป็นโรคนี้สูงขึ้นยิ่งกว่าคนทั่วไปน้อย
  • การกระทำตนเมื่อเป็นโรคมะเร็ง

การดูแลตัวเองในเรื่องทั่วไป รักษาสุขลักษณะอย่างเคร่งครัด เพราะเหตุว่าเป็นตอนๆติดเชื้อโรคได้ง่าย พักให้สุดกำลัง หากหมดแรง ควรจะลาหยุดงาน แต่หากไม่อ่อนล้า ก็สามารถปฏิบัติงานได้ แต่ว่าควรเป็นงานเบาๆไม่ใช้แรงงาน และก็สมองมากมาย ทำงานบ้านได้ตามกำลัง งดเว้น/เลิก ยาสูบ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
จำกัดเครื่องดื่มคาเฟอีนดังได้กล่าวแล้ว หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัดเพราะจะติดเชื้อโรคได้ง่าย ยังคงจำต้อง ดูแล รักษา ควบคุมโรคร่วมอื่นๆอย่างต่อเนื่องร่วมไปด้วยเสมอกับการดูแลและรักษาโรคมะเร็ง
รักษาสุขภาพจิต ให้กำลังใจตนเอง และคนรอบข้าง มองโลกในด้านบวกเสมอ เจอหมอตามนัดเสมอ เจอแพทย์ก่อนนัดหมาย เมื่ออาการต่างๆต่ำทรามลง หรือกำเนิดความไม่ปกติไม่ถูกไปจากเดิม หรือเมื่อตื่นตระหนกในอาการ
การดูแลตนเองในเรื่องของกิน เมื่อรับประทานอาหารได้น้อย ให้พากเพียรกินในปริมาณมื้อที่บ่อยครั้งขึ้น รับประทานครั้งน้อยๆแต่เสมอๆแต่ว่ายังต้องจำกัดอาหารว่าง และก็อาหารเค็ม เนื่องจากส่งผลต่อน้ำตาลในเลือด แล้วก็ลักษณะการทำงานของไต ให้กำลังใจตัวเอง เข้าใจว่า ของกินเป็นตัวยาสำคัญยิ่งตัวยาหนึ่ง ของการดูแลรักษาโรคมะเร็ง ทดลองปรับเปลี่ยน ชนิดของกินให้กินได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น อาหารอ่อน อาหารเหลว แต่ว่าควรจะหลีกเลี่ยงอาหารทอด หรือผัด หรือมีกลิ่นรุนแรง เพราะมักทำให้เกิดอาการอ้วก อ้วก เตรียมอาหารทีละน้อยๆอย่าให้รับประทานเหลือ เนื่องจากว่าจะได้กำเนิดกำลังใจว่ากินหมดทุกมื้อ ควรแจ้งแพทย์ พยาบาลเมื่อกินมิได้ หรือกินได้น้อย และควรจะเห็นด้วย เมื่อหมอแนะนำการให้อาหารทางสายให้อาหาร การกินอาหารที่มีสาระครบ 5 กลุ่มเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารโปรตีน (ดังเช่น เนื้อ นม ไข่ ปลา ตับ) เพราะว่าในการรักษาโรคโรคมะเร็ง ความแข็งแรงของไขกระดูก (เม็ดเลือดต่างๆ) เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นตัวช่วยให้ร่างกายสนองตอบที่ดีต่อรังสีรักษา รวมทั้งยาเคมีบำบัด รวมทั้งช่วยลดช่องทางติดโรค ซึ่งการต่อว่าดเชื้อในขณะกำลังรักษาโรคโรคมะเร็งมักเป็นการติดเชื้อโรคที่ร้ายแรง

  • การป้องกันตนเองจากโรคมะเร็ง วิธีคุ้มครองป้องกันโรคมะเร็งที่ดีที่สุดหมายถึงหลบหลีกสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง ที่หลีกเลี่ยงได้ ดังเช่น รับประทานอาหารเป็นประโยชน์ครบ 5 หมู่ทุกวี่วัน ในปริมาณที่เหมาะสมเป็นไม่ให้อ้วนหรือ ผอม เกินไป โดยจำกัดเนื้อแดง แป้ง น้ำตาล ไขมัน เกลือ แม้กระนั้นเพิ่มผัก ผลไม้ให้มากๆรวมทั้งหลบหลีกอาหารประเภทปิ้งปิ้งที่มีลักษณะไหม้เกรียม ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสุขภาพ เป็นประจำ รับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเป็นปัจจุบันนี้
  • สมุนไพรที่ช่วยคุ้มครองปกป้องโรคมะเร็ง สมุนไพรตั้งแต่นี้ต่อไปล้วนมีผลการทดลองที่มีประโยชน์ต่อการดูแลและรักษาโรคมะเร็ง

ฟ้าทะลายโจร(Andrographis paniculata) ในประเทศอินเดียใช้กันมานานรักษาไข้รากสาดน้อย แก้อักเสบ แก้มาเลเรีย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน สารสำคัญเป็น andrographolide สามารถยั้งเซลล์ของมะเร็งได้หลายประเภท
บัวบก (Centella asiatica) มีสาร asiaticoside ที่ช่วยให้แผลเรื้อรังหายได้เร็วขึ้น เพิ่มภูมิต้านทาน และก็ในบราซิลมีการใช้เพื่อรักษามะเร็งมดลูก
ขมิ้น (Curcuma longa) สารสำคัญเป็น curcumin มีฤทธิ์ต้านการอ็อกซิไดส์แล้วก็ต่อต้านการอักเสบที่แรง สามารถนำมาซึ่งการตายของเซลมะเร็งหลายประเภทเช่น โรคมะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะ โรคมะเร็งลำไส้เล็ก มะเร็งรังไข่ รวมทั้งยังมีฤทธิ์ต้านทานไวรัส แบคทีเรียแล้วก็ราอีกด้วย
ว่านหางจรเข้ (Aloe vera) มีสาร aloe-emodin ที่กระตุ้น macrophage ให้กำจัดเซล์ลมะเร็ง แล้วก็ยังมี acemannan ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ว่านหางจรเข้ช่วยกระตุ้นการเจริญก้าวหน้าของเซลล์ธรรมดาแล้วก็ยั้งการเจริญของเซลล์ของมะเร็ง
ทุเรียนเทศ (Anona muricata) สาร acetogenin จากผลทำให้เซลล์มะเร็งตายได้
ดีปล[/b] (Piper longum) มี piperine ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอ็อกสิไดส์ทั้งยัง in vitro แล้วก็ in vivo จึงเป็นองค์ประกอบของตำรับยารักษาโรคมะเร็งของอายุรเวท
บอระเพ็ด (Tinospora cordifolia) สารสำคัญจากบอระเพ็ดกระตุ้นภูมิต้านทานโดยการเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาว และสามารถลดขนาดเนื้องอกได้ 58.8% เสมอกัน cyclophosphamide
เอกสารอ้างอิง




GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ